สัมพุลาชาดก คำกลอน
ว่าด้วยความรักของพระนางสัมพุลา
โอ้โฉมตรู ผู้ผู้เดียวขาเรียวงาม
แม่นงรามชื่อไรคือใครหนอ
ยืนสั่นเทิ้มเสริมทรงองค์ละออ
ณ ห้องหอหุบเขาเพาพนา
โอ้อนงค์ องค์เอวดุจเปลวไฟ
ผุดผ่องใสยวนเย้าเล้าโลมหนา
ดูกลมกลึงรึงรัดถนัดตา
เธอชื่อว่าวงศ์วานว่านเครือใด
โอ้บังอร งอนงามลุกลามหล้า
ราวพนาเจิดจรดดูสดใส
เปล่งประกายพรายพัดสะบัดไกว
พราวไสวสะพัดจรัสตา
แม่ทรงงามขอถามไถ่ใครเจ้าของ
เรือนร่างน้องยวนยักข์อารักขา
อสูรร้ายพ่ายแพ้แน่แท้นา
เจ้าช่างน่ารักยิ่งเกินหญิงใด
ความนอบน้อมฤดีมีต่อเจ้า
รักรุมเร้างวยงงจนหลงใหล
พอเห็นร่างช่างงามเกินห้ามใจ
ข้าขอไหว้นอบน้อมยอมฤดี
โสตถิเสนโอรสยศกษัตริย์
พรหมทัตราชาพาราณสี
สัมพุลาคือบาทบริจารี
โสตถิเสนคือสามีที่โชคร้าย
ข้าแต่ท่าน อสูรปูนเทวา
สัมพุลาน้อมนพจบถวาย
สวัสดีจงมีแด่พี่ชาย
ผู้สหายจงรู้อยู่อย่างนี้
ข้าแต่ยักข์ ศักดิ์สิทธิฤทธา
กรุณาเผื่อแผ่สุขผู้ทุกขี
องค์โอรสรันทดรสโรคี
สวามีอันข้าพยาบาล
ท้าวเธอนั้นทุกวันฉันดูแล
ยังยักแย่ยักยันน่าสงสาร
คงเดือดร้อนนอนทุกข์ทรมาน
ขาดอาหารหิวโหยแรงโรยรา
สัมพุลา เธอจะได้อะไร
จะเยื่อใยยอมเขานักเล่าหนา
คนอมโรคโชคร้ายชายนั้นนา
เป็นภรรยาของพี่สิดีมาก
ข้าแต่ท่าน ขานไขกระไรหวา
ภัสดาน้องน้อยพลอยลำบาก
ไม่มีใครคอยดูคงอยู่ยาก
ไม่เหลือซากถ้าสิ้นไร้ใครคอยดู
ทั้งตัวข้าหามีความดีไม่
หากหนีไปคนเห็นเป็นอดสู
ตายเสียนี่ดีกว่ามารับรู้
หากเป็นอยู่คงเห็นเช่นคนตาย
ยักข์ผู้เจริญ เชิญมองปองหญิงอื่น
จะระรื่นเริงร่ากว่ามากหลาย
ทั้งงดงามน้ำใจดีมีมากมาย
จงขวนขวายน้อยลงจงปล่อยน้อง
มากับพี่ดีดีเถิดที่รัก
อย่าอีหลักอีเหลื่อเผื่อใจสอง
หวังสิ่งใดจะได้ดั่งใจปอง
อย่าร่ำร้องอย่าคิดมากลำบากใจ
โอ้น้องนาง พร่างพริบระยิบระยับ
เลื่อมสลับดั่งดาวพราวไสว
สัมพุลา ลีลาช้าอยู่ไย
เจ้าจะได้ดั่งแล้วแต่แก้วมณี
แน่ะน้องน้อย ชะรอยคอยหลีกเลี่ยง
ทั้งบ่ายเบี่ยงร่างน้อยคอยถอยหนี
แม่เนื้อเย็นยอมเป็นเมียเสียโดยดี
จงอย่ามีแม้แต่แค่ยอมพอ
ครั้นอสูรทูนทัดฉัตรชฎา
ผู้หยาบช้าคดเคี้ยวทั้งเขี้ยวขอ
ทั้งยื้อยุดฉุดรั้งทั้งป้อยอ
ไม่รั้งรอรุกล้ำก้ำเกินนาง
สัมพุลา อิดหนาระอาใจ
ตกอยู่ในอำนาจปิศาจสาง
ลำบากหนักยักข์มารมารานทาง
รำพึงพลางพร่ำร้องบ่สองใจ
ถึงยักข์จะเคี้ยวกระเดี้ยวกระดูก
โอ้องค์ลูกเจ้าฟ้าอย่าสงสัย
ชีวินจะสิ้นสลายจงตายไป
โอ้หทัยเจ้าอย่าแหนงระแวงวา
เห็นทีว่าเทวดาหามีไม่
โลกนี้ไซร้บ่ปกปักษ์อารักขา
รากษสนี้กดขี่เบียนบีฑา
จะห่วงหาห้ามให้ไม่มีเลย
ด้วยเดชะบารมีนรีรัตน์
ผู้ศรีสัจวาจาอ้าเฉลย
แผลงอิทธิฤทธามาเยาะเย้ย
องค์อินทร์เอ๋ยออกหน้ามาสู้กัน
โอ้เดชะบุญสิทธิฤทธา
แม้ศิลายังย่นย่อหน่อสวรรค์
จนอินทรร้อนเนตรเหตุไหนนั้น
จึงรู้ทันอาเพศแห่งเหตุการณ์
ท้าวสักกะสลายกลายร่างทิพย์
หายตัววิบจิตตาธิษฐาน
มาปรากฎกายหยาบปราบยักข์มาร
ขู่ประหารหัวยักข์จักแตกตาย
สตรีนี้มียศปรากฏชัด
มีศีลสัจให้เห็นเป็นสหาย
สงบเสงี่ยมเจียมตนคนละอาย
มีฤทธิ์ร้ายดุจไฟร้อนขจรไกล
แน่ะรากษส ยศอสูรตระกูลเจ้า
ช่างมัวเมาขี้ตาจะหาไหน
จงปล่อยนางอย่าขวางทางจะไป
ช่างกระไรยักข์เจ้าชู้ประตูดิน
นางเป็นหญิงมิ่งมิตรสิทธิ์สามี
ถือศักดิ์ศรีในรักหนักดั่งหิน
หากว่าเจ้ายึดเยื้อจะเถือกิน
หัวจะบิ่นเจ็ดเสี่ยงเป็นเที่ยงทัณฑ์
อสูรนั้นครั้นฟังคำสั่งห้าม
ทั้งนึกคร้ามมิวายคลายกระสัน
จึงรีบปล่อยถอยห่างจากนางพลัน
องค์อินทร์จึงจำมั่นมันด้วยตรวน
ครั้นแล้วแคล้วจากยักข์องค์สักกะ
จึงธุระธิดาราเมศวร
ให้โอวาทราชธิดาอย่าเรรวน
แล้วโดยด่วนกลับวิมานย่านอัมพร
สัมพุลาร่าเริงบันเทิงใจ
พ้นยักข์ภัยโดยสักกะอดิศร
ค่ำมืดแล้วจึงแน่วหน้าจราจร
จันทร์สะท้อนให้หวนจวนวนา
ดุจแม่นก ระหกระเหินเทียว
รอดปากเหยี่ยวยังหวังกลับรังหนา
เหยื่อเต็มปากฝากลูกผูกติดมา
สัมพุลา ลำเค็ญเห็นคือกัน
ดุจแม่วัว ตัวออกจากคอกไป
ลูกหายไซร้อาเพศเหตุผกผัน
สัมพุลา กลับมาอาศรมนั้น
อาศรมอันว่างเปล่าเงาสามี
เมื่อไม่เห็นสามีที่พึ่งพา
สัมพุลาร้อนรนทนทุกขี
อั้นอุรัสอัสสุล้นชลธี
มลฤดีร้อนเร่าเศร้าโศกา
อัสสุชลเอ่อล้นพ้นจักษุ
ดั่งน้ำพุพรั่งพรูแต่คูหา
ฟุ้งฟูมฟายละม้ายสายน้ำตา
นัยนามืดมัวทรุดตัวลง
นางนั่งย่อยอกรอ้อนวอนไหว้
ท่านเหล่าใดพราหมณะคณะสงฆ์
ทั้งฤษีที่หยั่งรู้ผู้ซื่อตรง
เหล่านั้นจงรับรู้หนูพึ่งพา
สัมพุลาหน้าเศร้าเว้าวอนไหว้
สัตว์เหล่าใดมฤคเนื้อเสือสิงหา
สัตว์เหล่านั้นเห็นหนอขอวันทา
โปรดเถิดหนาบอกหนูให้รู้ที
ที่แท้จริงมิ่งสามีขี้ระแวง
ท้าวเธอแคลงว่า โลเลมเหสี
ท่าจะพาศัตรูหมู่ไพรี
มาย่ำยีเราแน่แท้นั่นนา
จึงหลบหน้ามาซุ่มหว่างพุ่มไม้
ด้วยสงสัยสังเกตเหตุนั่นหวา
น้องหญิงเราเยือนเหย้าเข้าชักช้า
ธรรมดาหญิงไซร้ใจโลเล
สัมพุลาหน้าเศร้าเว้าวอนไหว้
ด้วยหัวใจอ่อนล้าพาโผเผ
ดั่งยาจกงกเงิ่นเดินโซเซ
ร้องโยเยพึมพำคำเว้าวอน
ข้าแต่เทพยดาองค์อารักษ์
ผู้ทรงศักดิ์สิทธิอดิศร
มีวิมานบ้านหญ้าพนาดร
อีกอัมพรวิมานบ้านดารา
โปรดรับรู้หนูพ้อขอพึ่งพิง
ที่รักยิ่งมลายหายนั่นหนา
โปรดรับรู้บอกหนูผู้พึ่งพา
ภัสดามลายไปในพงพี
สัมพุลาหน้าเศร้าเว้าวอนไหว้
เทพองค์ใดงามจรัสรัศมี
ทอแสงเหลืองดั่งดอกคูนพูนทวี
เทพราตรีดิฉันวันทนีย์
สัมพุลาหน้าเศร้าเว้าวอนไหว้
องค์เทพไท้คงคาภาคีรถี
องค์ประชุมลุ่มน้ำมหานที
เทพไท้นี้ดิฉันวันทนา
สัมพุลาหน้าเศร้าเว้าวอนไหว้
เทพองค์ใดผู้สถิตติดภูผา
หิมวันต์เทพนั้นฉันวันทา
สัมพุลาวอนว้อขอไหว้วาน
โสตถิเสนเห็นเช่นนั้นประหวั่นว่า
สัมพุลาพร่ำพ้อขอสงสาร
ใจจะขาดสลายจนวายปราณ
จะเจือจานใจเธออย่าเพ่อตาย
น้องหญิงเอย ขณะนี้ขณะไหน
พี่สงสัยเธอชักช้าถึงมาสาย
ค่ำคืนนี้ใจพี่นี้วุ่นวาย
เธอมีชายไหนรักพักไว้รือ
โอ้ยักข์ไซร้ไพรีที่จับน้อง
จะขอร้องวอนไหว้ไฉนหรือ
ยักข์จักกินจงกินไปไม่ยึดยื้อ
ไม่ยึดถือชีวิตจักปลิดปลง
ทุกข์เพราะยักข์มิพักจะหักเคี้ยว
จงกินเทียวไม่ทุกข์ท้นจนลืมหลง
ทุกข์ก็แต่พระที่รักจักพะวง
ก็พระองค์จะระแวงกินแหนงน้อง
สามีไซร้ไขสือบันลือศักดิ์
พระที่รักสงสัยหญิงใจสอง
จึงยกธรรมคำพระมาประลอง
จะกลั่นกรองคำเฉลยจะเผยใจ
ความสัตย์ซื่อถือเอายากจากหญิงร้าย
ร้อยเล่ห์หลายหลากรักมักไฉน
วิชาธรดาบสจรดพรานไพร
ท่องเที่ยวไปลดเลี้ยวจักเกี้ยวกานท์
หาสัจจะได้ยากจากปากหญิง
ถ้อยคำจริงมีน้อยร้อยคำหวาน
ดุจปลาไหลลื่นมากยากจะควาน
ยากจะพานพบคำจริงจากหญิงใด
โอ้พระนางสัมพุลาธิดาแก้ว
ผู้คลาดแคล้วจากยักข์ด้วยรักไฉน
สัจวาจาล้ำค่ากว่าสิ่งไร
จึงเหลือใจออกหน้าท้าประลอง
หากลูกเจ้า จะเบาใจในศรัทธา
สัมพุลา อาจอ้างพ่างผยอง
สัตยาธิษฐานพยานน้อง
จะปัดป้องสบประมาทวาทภัย
ครั้นแล้วธิดาแก้วผู้แกล้วกล้า
จึงทูลว่า เจ้าพี่ขี้สงสัย
น้องจักทำน้ำมนต์ปนน้ำใจ
ล้างพระทัยขี้ระแวงแคลงน้องนา
ความจริงว่า ข้ารักพระองค์เทียว
พระองค์เดียวเท่านั้นนั่นแหละหนา
เป็นความจริง สัจจะกิริยา
ดับโรคาพยาธิจงปราศไป
สัมพุลาร่ายร่ำคำคาถา
สัตยาธิษฐานปานไฉน
เป็นความจริงทั้งคำทั้งดับภัย
โรคกายใจดับครบจบวาจา
คชคชีดีเด็ดทั้งเจ็ดร้อย
ไพร่พลพลอยกุมธนูอยู่รักษา
ทั้งวันคืนยืนยามตามไฟฟ้า
แม่ภัททา ยังเห็นใครไหนไพรี
ข้าแต่พระบิดา สัมพุลา
นอบน้อมฝ่าพระบาทราชฤษี
ข้าพระองค์ไม่สงสัยภัยพาลี
ไม่เห็นมีใครไหนใช่ศัตรู
แต่ทว่า ริษยาข้าศึกลูก
จูงจมูกย่ำยีบีฑาหนู
ทั้งวันคืนยืนนั่งยังรับรู้
น่าอดสูอิดหนาระอาใจ
พระลูกเจ้าเพลารักชักชังลูก
ดั่งทรงถูกมนต์ขลังบังไฉน
ทั้งก่อนนี้ยังยินดีมีอาลัย
บัดนี้ไยเย็นชาเหม็นหน้านัก
พระลูกเจ้าเหย้าเยือนเรือนสนม
ทรงชื่นชมนารีรุ่นล้วนบุญหนัก
มีเรือนร่างระหงทรงนงลักษณ์
สุ้มเสียงสักว่าหงส์จนงงงัน
ข้าแต่พระบิดา ข้าน้อยนี้
ตายเสียดีกว่าอยู่จะสู่ขวัญ
จะอดสูอยู่ไยไฉนนั้น
จะเย้ยหยันชีวีพิรี้พิไร
หญิงจะงามยามมีสามีรัก
จะสูงศักดิ์สง่างามนามไฉน
สามีคือศรีศักดิ์ที่พักใจ
เป็นหลักชัยชูรักภักดีเดียว
ภริยากรุณาต่อสามี
ถึงชีพพลีให้ได้ไม่หน่วงเหนี่ยว
หายากยิ่งหญิงหนักในรักเทียว
จงเฉลียวใจรักปกปักษ์นาง
ดูก่อนเจ้าโสตถิเสนชเนนทร
จงใจอ่อนเมตตาอย่าเมินหมาง
จงเกื้อกูลกรุณาอย่ามล้าง
จงเจือจางพิษรักปกปักษ์เธอ
สัมพุลาน้องเจ้าจงเบาใจ
ขออภัยพี่นี้ที่พลั้งเผลอ
จักขจัดพิษสงหลงละเมอ
ยอมเสนอสนองปัดผองภัย
มเหสีมีทรัพย์นับไม่ถ้วน
ยังคร่ำครวญริษยาน่าสงสัย
จนจะสิ้นชีวิตเป็นพิษไซร้
พี่ยอมใจแก่น้องอย่าต้องตาย
จบสัมพุลาชาดก คำกลอน
ว่าด้วยความรักของพระนางสัมพุลา
ขอได้รับความขอบคุณ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้๒๙๗.
กา เวธมานา คิริกนฺทรายํ, เอกา ตุวํ ติฏฺฐสิ สํหิตูรุ,
ปุฏฺฐาสิ เม ปาณิปเมยฺยมชฺเฌ, อกฺขาหิ เม นามญฺจ พนฺธเว จฯ
ดูกรนางผู้มีลำขาอันอวบอิ่ม เธอเป็นใครมายืนสั่นอยู่ผู้เดียวที่ลำธารเขา
ดูกรนางผู้มีกลางตัวอันน่าลูบคลำด้วยฝ่ามือ เราถามท่านแล้ว จงบอกชื่อ
และเผ่าพันธุ์แก่เรา.
๒๙๘.
โอภาสยํ วนํ รมฺมํ, สีหพฺยคฺฆนิเสวิตํ;
กา วา ตฺวมสิ กลฺยาณิ, กสฺส วา ตฺวํ สุมชฺฌิเม;
อภิวาเทมิ ตํ ภทฺเท, ทานวาหํ นมตฺถุ เตฯ
ดูกรนางผู้มีเอวอันกลมกลึง ท่านเป็นใคร
หรือว่าเป็นลูกเมียของใคร เป็นผู้งดงามทำให้ป่าน่ารื่นรมย์ เป็นที่อยู่อาศัย
แห่งสีหะและเสือโคร่ง สว่างไสวอยู่ ดูกรนางผู้เจริญ เราคืออสูรตนหนึ่ง
ขอไหว้ท่าน ขอความนอบน้อมจงมีแก่ท่าน.
๒๙๙.
โย ปุตฺโต กาสิราชสฺส, โสตฺถิเสโนติ ตํ วิทู;
ตสฺสาหํ สมฺพุลา ภริยา, เอวํ ชานาหิ ทานว;
อภิวาเทมิ ตํ ภนฺเต, สมฺพุลาหํ นมตฺถุ เตฯ
คนทั้งหลายรู้จักโอรสของพระเจ้ากาสีว่า มีนามโสตถิเสนกุมาร เราชื่อสัมพุลา
เป็นชายาของโสตถิเสนกุมารนั้น ข้าแต่อสูร ท่านจงรู้อย่างนี้
ดูกรท่านผู้เจริญ เราชื่อสัมพุลาขอไหว้ท่าน ขอความนอบน้อมจงมีแก่ท่าน.
๓๐๐.
เวเทหปุตฺโต ภทฺทนฺเต, วเน วสติ อาตุโร;
ตมหํ โรคสมฺมตฺตํ, เอกา เอกํ อุปฏฺฐหํฯ
ดูกรท่านผู้เจริญ พระโอรสของพระเจ้าวิเทหราชเดือดร้อนอยู่ในป่า เรามา
พยาบาลเธอผู้ถูกโรคเบียดเบียนอยู่ตัวต่อตัว.
๓๐๑.
อหญฺจ วนมุญฺฉาย, มธุมํสํ มิคาพิลํ;
ยทา หรามิ ตํ ภกฺโข, ตสฺส นูนชฺช นาธติฯ
เราเที่ยวแสวงหารวงผึ้งและเนื้อมฤค เราหาอาหารอย่างใดไป พระสวามีของเรา
ก็ได้เสวยอาหารอย่างนั้นวันนี้ เธอคงจะหิวเป็นแน่.
๓๐๒
กํ วเน ราชปุตฺเตน, อาตุเรน กริสฺสสิ;
สมฺพุเล ปริจิณฺเณน, อหํ ภตฺตา ภวามิ เตฯ
ดูกรนางสัมพุลา เธอจักทำประโยชน์อะไรด้วยราชบุตรผู้เดือดร้อนที่เธอ
บำเรออยู่ในป่า เราจะเป็นผัวของเธอ.
๓๐๓.
โสกฏฺฏาย ทุรตฺตาย, กํ รูปํ วิชฺชเต มม;
อญฺญํ ปริเยส ภทฺทนฺเต, อภิรูปตรํ มยาฯ
ดูกรท่านผู้เจริญ รูปของเราผู้อาดูรด้วยความโศก เป็นอัตภาพยากไร้
จะงดงามอะไร ขอท่านจงแสวงหาหญิงอื่นที่มีรูปร่างงามกว่าเราเถิด.
๓๐๔.
เอหิมํ คิริมารุยฺห, ภริยา เม จตุสฺสตา;
ตาสํ ตฺวํ ปวรา โหหิ, สพฺพกามสมิทฺธินีฯ
มาเถิดเธอ เชิญขึ้นยังภูเขานี้ เธอจงเป็นใหญ่กว่าภรรยา ๔๐๐ คนของเรา
จะสำเร็จความประสงค์ทุกอย่าง.
๓๐๕.
นูน ตารกวณฺณาเภ, ยํ กิญฺจิ มนสิจฺฉสิ;
สพฺพํ ตํ ปจุรํ มยฺหํ, รมสฺสฺวชฺช มยา สหฯ
ดูกรนางผู้มีผิวพรรณเปล่งปลั่งดังดวงดาวเธอปรารถนาสิ่งใดสิ่งหนึ่งในใจมิใช่หรือ
สิ่งนั้นของเรามีทุกอย่างมากมายเชิญมารื่นรมย์กับเราในวันนี้เถิด.
___________________________
อ่านต่อที่นี่ คลิก >>> ความรักของพระนางสัมพุลา<<<
สัมผัสเลือนเฉือนทิ้งชิงสัมผัส
มัธยัสถ์อดปากหลากหลายที่
แสนเสียดายหมายมั่นปันคดี
ขอสิรี แก่ข้าอย่าระอา ฯ
พระนางสัมพุลา (จบ)
ว่าด้วยความรักของพระนางสัมพุลา
โอ้โฉมตรู ผู้ผู้เดียวขาเรียวงาม
แม่นงรามชื่อไรคือใครหนอ
ยืนสั่นเทิ้มเสริมทรงองค์ละออ
ณ ห้องหอหุบเขาเพาพนา
โอ้อนงค์ องค์เอวดุจเปลวไฟ
ผุดผ่องใสยวนเย้าเล้าโลมหนา
ดูกลมกลึงรึงรัดถนัดตา
เธอชื่อว่าวงศ์วานว่านเครือใด
โอ้บังอร งอนงามลุกลามหล้า
ราวพนาเจิดจรดดูสดใส
เปล่งประกายพรายพัดสะบัดไกว
พราวไสวสะพัดจรัสตา
แม่ทรงงามขอถามไถ่ใครเจ้าของ
เรือนร่างน้องยวนยักข์อารักขา
อสูรร้ายพ่ายแพ้แน่แท้นา
เจ้าช่างน่ารักยิ่งเกินหญิงใด
ความนอบน้อมฤดีมีต่อเจ้า
รักรุมเร้างวยงงจนหลงใหล
พอเห็นร่างช่างงามเกินห้ามใจ
ข้าขอไหว้นอบน้อมยอมฤดี
โสตถิเสนโอรสยศกษัตริย์
พรหมทัตราชาพาราณสี
สัมพุลาคือบาทบริจารี
โสตถิเสนคือสามีที่โชคร้าย
ข้าแต่ท่าน อสูรปูนเทวา
สัมพุลาน้อมนพจบถวาย
สวัสดีจงมีแด่พี่ชาย
ผู้สหายจงรู้อยู่อย่างนี้
ข้าแต่ยักข์ ศักดิ์สิทธิฤทธา
กรุณาเผื่อแผ่สุขผู้ทุกขี
องค์โอรสรันทดรสโรคี
สวามีอันข้าพยาบาล
ท้าวเธอนั้นทุกวันฉันดูแล
ยังยักแย่ยักยันน่าสงสาร
คงเดือดร้อนนอนทุกข์ทรมาน
ขาดอาหารหิวโหยแรงโรยรา
สัมพุลา เธอจะได้อะไร
จะเยื่อใยยอมเขานักเล่าหนา
คนอมโรคโชคร้ายชายนั้นนา
เป็นภรรยาของพี่สิดีมาก
ข้าแต่ท่าน ขานไขกระไรหวา
ภัสดาน้องน้อยพลอยลำบาก
ไม่มีใครคอยดูคงอยู่ยาก
ไม่เหลือซากถ้าสิ้นไร้ใครคอยดู
ทั้งตัวข้าหามีความดีไม่
หากหนีไปคนเห็นเป็นอดสู
ตายเสียนี่ดีกว่ามารับรู้
หากเป็นอยู่คงเห็นเช่นคนตาย
ยักข์ผู้เจริญ เชิญมองปองหญิงอื่น
จะระรื่นเริงร่ากว่ามากหลาย
ทั้งงดงามน้ำใจดีมีมากมาย
จงขวนขวายน้อยลงจงปล่อยน้อง
มากับพี่ดีดีเถิดที่รัก
อย่าอีหลักอีเหลื่อเผื่อใจสอง
หวังสิ่งใดจะได้ดั่งใจปอง
อย่าร่ำร้องอย่าคิดมากลำบากใจ
โอ้น้องนาง พร่างพริบระยิบระยับ
เลื่อมสลับดั่งดาวพราวไสว
สัมพุลา ลีลาช้าอยู่ไย
เจ้าจะได้ดั่งแล้วแต่แก้วมณี
แน่ะน้องน้อย ชะรอยคอยหลีกเลี่ยง
ทั้งบ่ายเบี่ยงร่างน้อยคอยถอยหนี
แม่เนื้อเย็นยอมเป็นเมียเสียโดยดี
จงอย่ามีแม้แต่แค่ยอมพอ
ครั้นอสูรทูนทัดฉัตรชฎา
ผู้หยาบช้าคดเคี้ยวทั้งเขี้ยวขอ
ทั้งยื้อยุดฉุดรั้งทั้งป้อยอ
ไม่รั้งรอรุกล้ำก้ำเกินนาง
สัมพุลา อิดหนาระอาใจ
ตกอยู่ในอำนาจปิศาจสาง
ลำบากหนักยักข์มารมารานทาง
รำพึงพลางพร่ำร้องบ่สองใจ
ถึงยักข์จะเคี้ยวกระเดี้ยวกระดูก
โอ้องค์ลูกเจ้าฟ้าอย่าสงสัย
ชีวินจะสิ้นสลายจงตายไป
โอ้หทัยเจ้าอย่าแหนงระแวงวา
เห็นทีว่าเทวดาหามีไม่
โลกนี้ไซร้บ่ปกปักษ์อารักขา
รากษสนี้กดขี่เบียนบีฑา
จะห่วงหาห้ามให้ไม่มีเลย
ด้วยเดชะบารมีนรีรัตน์
ผู้ศรีสัจวาจาอ้าเฉลย
แผลงอิทธิฤทธามาเยาะเย้ย
องค์อินทร์เอ๋ยออกหน้ามาสู้กัน
โอ้เดชะบุญสิทธิฤทธา
แม้ศิลายังย่นย่อหน่อสวรรค์
จนอินทรร้อนเนตรเหตุไหนนั้น
จึงรู้ทันอาเพศแห่งเหตุการณ์
ท้าวสักกะสลายกลายร่างทิพย์
หายตัววิบจิตตาธิษฐาน
มาปรากฎกายหยาบปราบยักข์มาร
ขู่ประหารหัวยักข์จักแตกตาย
สตรีนี้มียศปรากฏชัด
มีศีลสัจให้เห็นเป็นสหาย
สงบเสงี่ยมเจียมตนคนละอาย
มีฤทธิ์ร้ายดุจไฟร้อนขจรไกล
แน่ะรากษส ยศอสูรตระกูลเจ้า
ช่างมัวเมาขี้ตาจะหาไหน
จงปล่อยนางอย่าขวางทางจะไป
ช่างกระไรยักข์เจ้าชู้ประตูดิน
นางเป็นหญิงมิ่งมิตรสิทธิ์สามี
ถือศักดิ์ศรีในรักหนักดั่งหิน
หากว่าเจ้ายึดเยื้อจะเถือกิน
หัวจะบิ่นเจ็ดเสี่ยงเป็นเที่ยงทัณฑ์
อสูรนั้นครั้นฟังคำสั่งห้าม
ทั้งนึกคร้ามมิวายคลายกระสัน
จึงรีบปล่อยถอยห่างจากนางพลัน
องค์อินทร์จึงจำมั่นมันด้วยตรวน
ครั้นแล้วแคล้วจากยักข์องค์สักกะ
จึงธุระธิดาราเมศวร
ให้โอวาทราชธิดาอย่าเรรวน
แล้วโดยด่วนกลับวิมานย่านอัมพร
สัมพุลาร่าเริงบันเทิงใจ
พ้นยักข์ภัยโดยสักกะอดิศร
ค่ำมืดแล้วจึงแน่วหน้าจราจร
จันทร์สะท้อนให้หวนจวนวนา
ดุจแม่นก ระหกระเหินเทียว
รอดปากเหยี่ยวยังหวังกลับรังหนา
เหยื่อเต็มปากฝากลูกผูกติดมา
สัมพุลา ลำเค็ญเห็นคือกัน
ดุจแม่วัว ตัวออกจากคอกไป
ลูกหายไซร้อาเพศเหตุผกผัน
สัมพุลา กลับมาอาศรมนั้น
อาศรมอันว่างเปล่าเงาสามี
เมื่อไม่เห็นสามีที่พึ่งพา
สัมพุลาร้อนรนทนทุกขี
อั้นอุรัสอัสสุล้นชลธี
มลฤดีร้อนเร่าเศร้าโศกา
อัสสุชลเอ่อล้นพ้นจักษุ
ดั่งน้ำพุพรั่งพรูแต่คูหา
ฟุ้งฟูมฟายละม้ายสายน้ำตา
นัยนามืดมัวทรุดตัวลง
นางนั่งย่อยอกรอ้อนวอนไหว้
ท่านเหล่าใดพราหมณะคณะสงฆ์
ทั้งฤษีที่หยั่งรู้ผู้ซื่อตรง
เหล่านั้นจงรับรู้หนูพึ่งพา
สัมพุลาหน้าเศร้าเว้าวอนไหว้
สัตว์เหล่าใดมฤคเนื้อเสือสิงหา
สัตว์เหล่านั้นเห็นหนอขอวันทา
โปรดเถิดหนาบอกหนูให้รู้ที
ที่แท้จริงมิ่งสามีขี้ระแวง
ท้าวเธอแคลงว่า โลเลมเหสี
ท่าจะพาศัตรูหมู่ไพรี
มาย่ำยีเราแน่แท้นั่นนา
จึงหลบหน้ามาซุ่มหว่างพุ่มไม้
ด้วยสงสัยสังเกตเหตุนั่นหวา
น้องหญิงเราเยือนเหย้าเข้าชักช้า
ธรรมดาหญิงไซร้ใจโลเล
สัมพุลาหน้าเศร้าเว้าวอนไหว้
ด้วยหัวใจอ่อนล้าพาโผเผ
ดั่งยาจกงกเงิ่นเดินโซเซ
ร้องโยเยพึมพำคำเว้าวอน
ข้าแต่เทพยดาองค์อารักษ์
ผู้ทรงศักดิ์สิทธิอดิศร
มีวิมานบ้านหญ้าพนาดร
อีกอัมพรวิมานบ้านดารา
โปรดรับรู้หนูพ้อขอพึ่งพิง
ที่รักยิ่งมลายหายนั่นหนา
โปรดรับรู้บอกหนูผู้พึ่งพา
ภัสดามลายไปในพงพี
สัมพุลาหน้าเศร้าเว้าวอนไหว้
เทพองค์ใดงามจรัสรัศมี
ทอแสงเหลืองดั่งดอกคูนพูนทวี
เทพราตรีดิฉันวันทนีย์
สัมพุลาหน้าเศร้าเว้าวอนไหว้
องค์เทพไท้คงคาภาคีรถี
องค์ประชุมลุ่มน้ำมหานที
เทพไท้นี้ดิฉันวันทนา
สัมพุลาหน้าเศร้าเว้าวอนไหว้
เทพองค์ใดผู้สถิตติดภูผา
หิมวันต์เทพนั้นฉันวันทา
สัมพุลาวอนว้อขอไหว้วาน
โสตถิเสนเห็นเช่นนั้นประหวั่นว่า
สัมพุลาพร่ำพ้อขอสงสาร
ใจจะขาดสลายจนวายปราณ
จะเจือจานใจเธออย่าเพ่อตาย
น้องหญิงเอย ขณะนี้ขณะไหน
พี่สงสัยเธอชักช้าถึงมาสาย
ค่ำคืนนี้ใจพี่นี้วุ่นวาย
เธอมีชายไหนรักพักไว้รือ
โอ้ยักข์ไซร้ไพรีที่จับน้อง
จะขอร้องวอนไหว้ไฉนหรือ
ยักข์จักกินจงกินไปไม่ยึดยื้อ
ไม่ยึดถือชีวิตจักปลิดปลง
ทุกข์เพราะยักข์มิพักจะหักเคี้ยว
จงกินเทียวไม่ทุกข์ท้นจนลืมหลง
ทุกข์ก็แต่พระที่รักจักพะวง
ก็พระองค์จะระแวงกินแหนงน้อง
สามีไซร้ไขสือบันลือศักดิ์
พระที่รักสงสัยหญิงใจสอง
จึงยกธรรมคำพระมาประลอง
จะกลั่นกรองคำเฉลยจะเผยใจ
ความสัตย์ซื่อถือเอายากจากหญิงร้าย
ร้อยเล่ห์หลายหลากรักมักไฉน
วิชาธรดาบสจรดพรานไพร
ท่องเที่ยวไปลดเลี้ยวจักเกี้ยวกานท์
หาสัจจะได้ยากจากปากหญิง
ถ้อยคำจริงมีน้อยร้อยคำหวาน
ดุจปลาไหลลื่นมากยากจะควาน
ยากจะพานพบคำจริงจากหญิงใด
โอ้พระนางสัมพุลาธิดาแก้ว
ผู้คลาดแคล้วจากยักข์ด้วยรักไฉน
สัจวาจาล้ำค่ากว่าสิ่งไร
จึงเหลือใจออกหน้าท้าประลอง
หากลูกเจ้า จะเบาใจในศรัทธา
สัมพุลา อาจอ้างพ่างผยอง
สัตยาธิษฐานพยานน้อง
จะปัดป้องสบประมาทวาทภัย
ครั้นแล้วธิดาแก้วผู้แกล้วกล้า
จึงทูลว่า เจ้าพี่ขี้สงสัย
น้องจักทำน้ำมนต์ปนน้ำใจ
ล้างพระทัยขี้ระแวงแคลงน้องนา
ความจริงว่า ข้ารักพระองค์เทียว
พระองค์เดียวเท่านั้นนั่นแหละหนา
เป็นความจริง สัจจะกิริยา
ดับโรคาพยาธิจงปราศไป
สัมพุลาร่ายร่ำคำคาถา
สัตยาธิษฐานปานไฉน
เป็นความจริงทั้งคำทั้งดับภัย
โรคกายใจดับครบจบวาจา
คชคชีดีเด็ดทั้งเจ็ดร้อย
ไพร่พลพลอยกุมธนูอยู่รักษา
ทั้งวันคืนยืนยามตามไฟฟ้า
แม่ภัททา ยังเห็นใครไหนไพรี
ข้าแต่พระบิดา สัมพุลา
นอบน้อมฝ่าพระบาทราชฤษี
ข้าพระองค์ไม่สงสัยภัยพาลี
ไม่เห็นมีใครไหนใช่ศัตรู
แต่ทว่า ริษยาข้าศึกลูก
จูงจมูกย่ำยีบีฑาหนู
ทั้งวันคืนยืนนั่งยังรับรู้
น่าอดสูอิดหนาระอาใจ
พระลูกเจ้าเพลารักชักชังลูก
ดั่งทรงถูกมนต์ขลังบังไฉน
ทั้งก่อนนี้ยังยินดีมีอาลัย
บัดนี้ไยเย็นชาเหม็นหน้านัก
พระลูกเจ้าเหย้าเยือนเรือนสนม
ทรงชื่นชมนารีรุ่นล้วนบุญหนัก
มีเรือนร่างระหงทรงนงลักษณ์
สุ้มเสียงสักว่าหงส์จนงงงัน
ข้าแต่พระบิดา ข้าน้อยนี้
ตายเสียดีกว่าอยู่จะสู่ขวัญ
จะอดสูอยู่ไยไฉนนั้น
จะเย้ยหยันชีวีพิรี้พิไร
หญิงจะงามยามมีสามีรัก
จะสูงศักดิ์สง่างามนามไฉน
สามีคือศรีศักดิ์ที่พักใจ
เป็นหลักชัยชูรักภักดีเดียว
ภริยากรุณาต่อสามี
ถึงชีพพลีให้ได้ไม่หน่วงเหนี่ยว
หายากยิ่งหญิงหนักในรักเทียว
จงเฉลียวใจรักปกปักษ์นาง
ดูก่อนเจ้าโสตถิเสนชเนนทร
จงใจอ่อนเมตตาอย่าเมินหมาง
จงเกื้อกูลกรุณาอย่ามล้าง
จงเจือจางพิษรักปกปักษ์เธอ
สัมพุลาน้องเจ้าจงเบาใจ
ขออภัยพี่นี้ที่พลั้งเผลอ
จักขจัดพิษสงหลงละเมอ
ยอมเสนอสนองปัดผองภัย
มเหสีมีทรัพย์นับไม่ถ้วน
ยังคร่ำครวญริษยาน่าสงสัย
จนจะสิ้นชีวิตเป็นพิษไซร้
พี่ยอมใจแก่น้องอย่าต้องตาย
จบสัมพุลาชาดก คำกลอน
ว่าด้วยความรักของพระนางสัมพุลา
ขอได้รับความขอบคุณ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้