เรามีเพื่อนสนิทหนึ่งคนเป็นรุ่นพี่แหละอีกนึงคนเป็นรุ่นน้อง   เราทำงานเป็นเสมียนฝ่ายขายด้วยกันทั้งสามคน เพื่อนทั้งสองคนของเรานิสัยคล้ายกัน
         นิสัยคนที่1.  คนที่เป็นพี่เราจะนิสัยมั่นใจในตัวเองสูงมากเขาจะเป็นคนถูกที่สุดไม่ว่าจะเรืองอะไรก็ตามคอยค่อยจับผิดจ้องจะว่าตลอดเวลา ทำอะไรก็จะคอยจ้องที่จะว่าต้องแบบนี้แบบนี้ เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่. และถูกที่สุด อีกอย่างมีนิสัยชอบฟ้องนายมีเรื่องอะไรก็ตามที่ไม่ชอบใจผิดใจหรือเขามองเเล้วเขาไม่ชอบก็จะคอยฟ้องตลอด ถ้าเขาบอกไม่ใช่คือคนอื่นต้องผิด ต้องได้อย่างที่เขาคิด
         นิสัยคนที่2.  คนนี้จะเป็นคนพูดผิดให้เป็นถูก ถ้ามีเรื่องที่ไม่ชอบใจก็จะพาลหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว และอีกอย่างแฟนเขาก็ทำงานเป็นพนักงานจัดส่ง เวลางานที่แฟนรับผิดชอบมีปัญก็จะเคลียร์ให้ตลอด ถ้าเคลียร์ไม่ได้ก็จะพาลโมโหด่าไปทั่ว
        เข้าเรื่องทำงานร่วมกันระหว่างเรากับเพื่อนทั้งสองเวลาทำงานถ้างานผลาดมาเพื่อนคนพี่จะโยนมาที่เราก่อนทันที ต้องเป็นเราที่ผิดแน่ๆ จะใช่หรือไม่ใช่เราก็ตามเพราะไม่กล้าโยนให้อีกคนเพราะแรงพอกันคนนั้นเถียงแน่ บ้างทีตัวเองผิดก็ต้องว่าเราก่อนเป็นอันดับเเรก ก่อนที่จะหาสาเหตุ เราเคยออกจากงานมาแล้วรอบนึงเพราะโดนกดดันอย่างหนักจากเพื่อนคนนี้ จนเราคิดว่าเจ้านายใช้เขามากดดันเราแน่ๆ ส่วนเพื่อนคนน้องคือจะพูดไหลเป็นน้ำพูดเหมือนตาเห็นแต่เป็นแค่การสันนิธานก็เอียวเราเข้าไปเป็นคนผิดอีก. แต่ยังดีที่เจ้านายเรามีเหตุผล เขาจะคอยมาตัดสินยุตลอด คือตัวเราเป็นคนพูดน้อยเจ้านายจะรู้นิสัยเรา เวลาเพื่อนโยนอะไรมาเราก็จะนิ่งไว้ก่อน เราเป็นคนไม่ค่อยพูดเลยเสียเปรียบอยู่ตลอดเวลา. เพื่อนเราพูดเก่งทั้งสองคน ค่อยแต่จะโยนความผิดพลาดมาให้เรา อีกอย่างเราความจำไม่ค่อยดีเท่าเขาบางเรื่องนานมากเราก็จำไม่ได้ แต่เรื่องงานเราโอเคนะ เราเข้ามาทำขายหลังพวกเขาทั้งสองคนนายย้ายเรามาจากจัดซื้อเพราะเห็นว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกัน. น่าจะร่วมงานกันได้ดี นายเคยรับคนอื่นๆเข้ามาในแผนกแต่ไม่มีใครอยู่ได้เลยสักคน เพราะปากของทั้งสองคน จนเจ้านายเขารู้ว่ารับใครเข้ามาก็อยู่ไม่ได้ เราก็อยู่ไม่ได้ต้องออกจากงานไปรอบนึง เเล้วกลับก้าวหน้าไปใหนได้เพราะถูกควบคุมตลอดเวลาอยู่ยากเหมือนโดนสกัดดาวรุ่ง จะทำอะไรก็โดนสกัดตลอดเวลา เราจะรับมือยังไงกับการอยู่ร่วมกับคนประเภทนี้ดี