วันนึงคุณเปิดใจคุยกับแฟนว่า คุณอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เราแยกไปซื้ออยู่กันไหม ใกล้ๆบ้านแม่ของเขาก็ได้ เวลาทำอะไร เก็บกวาด ซื้อของเข้า เอาของออก มันสะดวกเพราะเป็นบ้านเราเอง (ประเด็นคืออยากให้ชื่อบ้านเป็นของตัวเอง)
แล้วแฟนคุณตอบมาว่า "พี่จะทิ้งแม่ไปได้ยังไง พี่เป็นลูกคนเดียวของแม่ และแม่เหลือพี่แค่คนเดียว (พ่อไปทำงานต่างจังหวัด ปีนึงกลับมาสองสามครั้ง) แล้วอีกอย่าง บ้านแม่หลังนี้ ติดถนนใหญ่ เดินออกไปไม่ถึง 200 เมตร ก็ถึงป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้านแล้ว รถเมล์ต่อเดียวถึงที่ทำงาน ไปหาบ้านใหม่สมัยนี้ยิ่งลึก ยิ่งไกลเข้าไปอีก"
ถ้าคุณเป็นภรรยา คุณจะทำอย่างไร (สมมุติคุณมีเงินเก็บร่วมกันมา 1 ล้าน)
1.อธิบายความรู้สึกของคุณให้เขาฟัง แล้วจับมือเดินกันไปคุยกับพ่อและแม่ของเขา ว่าขายบ้านปัจจุบันทิ้ง แล้วไปซื่อบ้านหลังใหม่ ที่จะรองรับครอบครัวในอนาคตได้ แล้วให้แม่ไปอยู่ด้วยกัน เพราะอีกหน่อยลูกเราโตเป็นสาวคงต้องการความเป็นส่วนตัว (หมายถึงห้องนอนส่วนตัว)
2.อีกทางหนึ่งคือ รีโนเวทบ้านเดิม โดยปรับปรุงเกือบทั้งหมดและต่อเติมห้องนอนเพิ่มเป็นเทอร์เรซด้านหน้าบ้าน สบายใจทั้งคุณที่ห่วงอนาคต และสบายใจสามี ที่ได้อยู่ใกล้ชิดดูแลแม่ในบ้านหลังที่ท่านผูกพัน
3.แยกบ้าน หาบ้านใกล้ๆ และไปเยี่ยมแม่สามีสัปดาห์ละครั้ง อาจไปนอนค้างเสาร์-อาทิตย์ (อันนี้ก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกของแม่สามีจะเสียใจรึเปล่า อาจแค่แรกๆ ต่อไปก็คงชิน)
4.เอาเงิน 1 ล้าน หาทางต่อยอดลงทุน ให้เงินทวีเพิ่มมากหลายเท่า แล้วไปซื้อบ้านคุณกับบ้านพ่อแม่สามีให้ติดกัน ซึ่งอาจใช้เวลาหลายปี
5.เงิน 1 ล้านบาทนี่เอาไปหาคอนโดใกล้ที่ทำงานได้เลยนะเนี่ย แล้วบอกสามีว่า อยากมานอนวันไหนก็มา วันไหนอยากนอนกับแม่ก็ไปนอน สะดวกสบายด้วย ไม่ต้องตื่นเช้า และแม่จะได้อยู่บ้านหลังที่ท่านผูกพัน หรือใช้เคสกรณีที่ 3 คือไปนอนบ้านแม่สามีเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
***บ้านหลังปัจจุบัน 17 ตารางวา 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (ห้องน้ำชั้นล่างใช้อาบน้ำ ทำธุระหนักเบาได้หมด แต่ห้องน้ำชั้นบน เบาได้อย่างเดียว เพราะถ้าหนัก น้ำจะซึมหยดลงฝ้าชั้นล่าง อยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 150 เมตร นั่งรถเมล์ไปทำงานต่อเดียวก็ถึงที่ทำงานทั้งคุณและสามี แต่จริงๆมีรถส่วนตัว ซึ่งปัจจุบันขับไป-กลับที่ทำงานวันนึง ใช้เวลาบนถนนประมาณ 2-3 ชม. และแม่สามีก็อัธยาศัยดี เพื่อนบ้านหลายสิบหลังรักและชอบเดินมาคุย บางทีแม่ก็เดินไปคุยบ้านเขา***
ตลอดเวลาที่คุณอยู่บ้านแม่ของเขา รู้สึกว่าแม่รักคุณเหมือนลูกคนนึง แต่เข้าใจความรู้สึกผู้หญิงคนนึง ที่มีความคิด หารางวัลชีวิตให้ตัวเอง และมองการณ์ไกล
ถ้าคุณเป็นผู้หญิง แต่งงานมีลูก กับผู้ชายคนนึง แล้วไปอยู่บ้านผู้ชาย ซึ่งมีแม่เขาอยู่ด้วย แล้ววันนึง..
แล้วแฟนคุณตอบมาว่า "พี่จะทิ้งแม่ไปได้ยังไง พี่เป็นลูกคนเดียวของแม่ และแม่เหลือพี่แค่คนเดียว (พ่อไปทำงานต่างจังหวัด ปีนึงกลับมาสองสามครั้ง) แล้วอีกอย่าง บ้านแม่หลังนี้ ติดถนนใหญ่ เดินออกไปไม่ถึง 200 เมตร ก็ถึงป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้านแล้ว รถเมล์ต่อเดียวถึงที่ทำงาน ไปหาบ้านใหม่สมัยนี้ยิ่งลึก ยิ่งไกลเข้าไปอีก"
ถ้าคุณเป็นภรรยา คุณจะทำอย่างไร (สมมุติคุณมีเงินเก็บร่วมกันมา 1 ล้าน)
1.อธิบายความรู้สึกของคุณให้เขาฟัง แล้วจับมือเดินกันไปคุยกับพ่อและแม่ของเขา ว่าขายบ้านปัจจุบันทิ้ง แล้วไปซื่อบ้านหลังใหม่ ที่จะรองรับครอบครัวในอนาคตได้ แล้วให้แม่ไปอยู่ด้วยกัน เพราะอีกหน่อยลูกเราโตเป็นสาวคงต้องการความเป็นส่วนตัว (หมายถึงห้องนอนส่วนตัว)
2.อีกทางหนึ่งคือ รีโนเวทบ้านเดิม โดยปรับปรุงเกือบทั้งหมดและต่อเติมห้องนอนเพิ่มเป็นเทอร์เรซด้านหน้าบ้าน สบายใจทั้งคุณที่ห่วงอนาคต และสบายใจสามี ที่ได้อยู่ใกล้ชิดดูแลแม่ในบ้านหลังที่ท่านผูกพัน
3.แยกบ้าน หาบ้านใกล้ๆ และไปเยี่ยมแม่สามีสัปดาห์ละครั้ง อาจไปนอนค้างเสาร์-อาทิตย์ (อันนี้ก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกของแม่สามีจะเสียใจรึเปล่า อาจแค่แรกๆ ต่อไปก็คงชิน)
4.เอาเงิน 1 ล้าน หาทางต่อยอดลงทุน ให้เงินทวีเพิ่มมากหลายเท่า แล้วไปซื้อบ้านคุณกับบ้านพ่อแม่สามีให้ติดกัน ซึ่งอาจใช้เวลาหลายปี
5.เงิน 1 ล้านบาทนี่เอาไปหาคอนโดใกล้ที่ทำงานได้เลยนะเนี่ย แล้วบอกสามีว่า อยากมานอนวันไหนก็มา วันไหนอยากนอนกับแม่ก็ไปนอน สะดวกสบายด้วย ไม่ต้องตื่นเช้า และแม่จะได้อยู่บ้านหลังที่ท่านผูกพัน หรือใช้เคสกรณีที่ 3 คือไปนอนบ้านแม่สามีเสาร์-อาทิตย์ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
***บ้านหลังปัจจุบัน 17 ตารางวา 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (ห้องน้ำชั้นล่างใช้อาบน้ำ ทำธุระหนักเบาได้หมด แต่ห้องน้ำชั้นบน เบาได้อย่างเดียว เพราะถ้าหนัก น้ำจะซึมหยดลงฝ้าชั้นล่าง อยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 150 เมตร นั่งรถเมล์ไปทำงานต่อเดียวก็ถึงที่ทำงานทั้งคุณและสามี แต่จริงๆมีรถส่วนตัว ซึ่งปัจจุบันขับไป-กลับที่ทำงานวันนึง ใช้เวลาบนถนนประมาณ 2-3 ชม. และแม่สามีก็อัธยาศัยดี เพื่อนบ้านหลายสิบหลังรักและชอบเดินมาคุย บางทีแม่ก็เดินไปคุยบ้านเขา***
ตลอดเวลาที่คุณอยู่บ้านแม่ของเขา รู้สึกว่าแม่รักคุณเหมือนลูกคนนึง แต่เข้าใจความรู้สึกผู้หญิงคนนึง ที่มีความคิด หารางวัลชีวิตให้ตัวเอง และมองการณ์ไกล