ขอเกริ่นก่อนว่า พึ่งไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกามาวันนี้วันที่ 31/05/19 
ตี้นนี้ทำงานเกี่ยวกับบริษัทผลิตยา ทำได้ได้ประมาณ 8 เดือน คือเริ่มทำงานหลังจากจบ ป.ตรี เลย เลยมีแผนที่จะไปเรียนภาษา ที่อเมริกาประมาณ 6 เดือน เพื่อจะไปกลับมาสอบชิงทุนปริญญาโท ที่ไทยปีหน้า
โดยเอกสารที่เตรียมไป ได้แก่
1.รูปถ่าย 2*2
2.ใบรับรองสถานภาพการเป็นนักศึกษา
3.transcript
4.ใบรับรองการทำงาน
5.statementของพ่อแม่และเรา เงินรวมกันประมาน 1.2m
6.I20
7.sevis
8.ใบเสร็จค่าธรรมเนียมการจ่ายวีซ่า
9.ใบยืนยันการสัมภาษณ์
10.DS-160

ขั้นตอนตรวจเอกสารผ่านไปด้วยดี จึงผ่านไปสัมภาษณ์กับคนไทยก่อน
จนท : ไปทำอะไรที่อเมริกา
เรา : ไปเรียนภาษาอังกฤษครับ
จนท : เคยเปลี่ยนชื่อไหม
เรา : เคยเปลี่ยนครับ ตอนสมัย ป.1 (ซึ่งไม่ได้เอาเอกสารเปลี่ยนชื่อมา เพราะตั้งแต่ตอน ป.1 เลยคิดว่าไม่น่าจะต้องใช้ และไม่ได้กรอกเอกสารไหนเลยว่าเคยเปลี่ยนชื่อ)
จากนั้น จนท ก็ให้แสกนนิ้ว แล้วไปต่อแถวรอสัมภาษณ์กับกงสุล

สัมภาษณ์กับกงสุล
กงสุล : ไปทำอะไรที่อเมริกา
เรา : ไปเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อที่จะสอบทุน ป.โทในปีหน้า เพราะว่าในสายงาน ป.ตรีไม่เพียงพอต่อในสายงานที่ทำ(ยังพูดไม่ทันจบ เขาก็ถามคำถามใหม่แทรกขึ้นมาเลย ทำให้เราตอบไม่จบ แต่เราตอบแบบกระตุกกระตักด้วย)
กงสุล : ตอนนี้ทำอะไรอยู่ 
เรา : จะกลับมาไทยปีหน้า เพื่อสมัครทุน (ฟังไม่ได้ยินเลย เสียงเบาบวกเร็วด้วย เลยตีความผิด)
กงสุล : หมายถึงตอนนี้ทำอะไรอยู่
เรา : ทำงานอยู่บริษัทยาครับ (พูดติดอ่างมาก)
กงสุล : ใครเป็น sponser 
เรา : ถามใหม่อีกรอบครับ
กงสุล : ใครเป็น sponser
เรา : my parents
กงสุล : ยื่น passport พร้อมแนบใบขาว แล้วเหมือนจะบอกทิ้งท้ายว่ามันยากที่จะไป ทำนองนี้ 
ใบขาวเขียนมาว่า ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับวีซ่าชั่วคราวภายใต้มาตรา 214(b) หมายความว่า ท่านไม่สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าท่านมีคุณสมบัติตรงตามประเภทของวีซ่าชั่วคราวที่ท่านสมัคร 

เราสงสัยมากว่าเป็นเพราะอะไรอยากร็จริงๆเพราะอยากไปมาก
โดยเอกสารที่เตรียมมาไม่ขอเรียกดูอะไรเลยสักอย่าง  เลยสันนิฐานสองสามข้ออยากร็ว่าใช่ไหม
1.เกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนชื่อไหม ที่ไม่ได้เอาเอกสารมา แต่ จนท ไม่ได้เรียกด้วย อีกทั้ง ไม่มีเอกสารไหนพูดถึงการเปลี่ยนชื่อ
2.เกี่ยวกับการพูดไหมที่ตอบแบบตะกุกตะกักตอบผิดเพราะฟังไม่ได้ยิน ทำให้เขาไม่เชื่อว่าจะไปเรียนจริงๆ
3.เกี่ยวกับเรื่อง sponser เรายื่นขอตอน i20 กับทาง รร. เป็นแบบ sponser by my self ทำให้ใน i20 โชวว่าใช้แบบ my self แต่ที่อันที่จริงคือพ่อแม่เป็น sponser โอนตังมาในบัญชีเรา แล้วใช้บัญชีเราสมัครกับโรงเรียนที่อมเริกา ทางโรงเรียนจึงบอกให้ยื่นแบบ myself sponser  
แต่ใน ds-160 เราก็กรอกว่าพ่อแม่เป็น sponser ซึ่งเราก็ตอบตรงตามใน ds-160 ตอนสัมภาษณ์ด้วย

เลยอยากทราบว่าใช่ปัญหาเหล่านี้ไหม ที่พอจะคิดออก เพราะนอกจากนี้ก็คิดไม่ออกแล้วจริงๆ แล้วอยากทราบด้วยว่าถ้าหากเป็นปัญหาเหล่านี้จริงๆ จะแก้ไขยังไงดี เพราะต้องการไปเรียนจริงๆ   เลยว่าจะไปสัมภาษณ์อีกรอบหนึ่ง เดือนหน้า แต่ไม่รู้ต้องแก้ไขตรงไหน เพื่อให้ต่างจากการสัมภาษ์รอบแรก
ขอบคุณครับ