คนที่เตรียมตัวไปดูหนังก็อตซิลล่าภาคใหม่ Godzilla: King Of The Monsters แล้วเห็นคะแนนรวมชุดแรกของเว็บไซต์รวมรีวิวชื่อดังนี้คงออกอาการสะพรึง! หดหู่ สิ้นหวัง คิดว่าหนังคงพังแย่มากแน่ๆ (ทั้งๆ ที่สองภาคก่อนคะแนนรวมที่นี่อยู่ในเกณฑ์ดี) ผมก็คนนึงแหละแม้จะไม่ใช่แฟนก็อตซิลล่าจ๋า ดูมาประปรายบ้าง ก็ยังเผลอคิดว่าเอาแหละ ฝรั่งเอามาทำเสียของตกม้าตายอีกเรื่องแหงๆ เพราะมันเป็นการยากอยู่ที่จะเอางานสไตล์ญี่ปุ่นจ๋าขนาดนี้มาแปลงให้สมจริงในแบบฮอลลีวู๊ด ซึ่งภาคนี้ก็ไม่ใช่การที่ก็อตซิลล่าจะโผล่มาทำลายบ้านเมืองไปวันๆ แต่เป็นการจัดศึกรวมสัตว์ประหลาดยักษ์ตีกันบนสังเวียนโลก ที่คาดว่ามันต้องยิ่งใหญ่ที่สุดที่มีมาในโลกภาพยนต์เลยก็ว่าได้

ก่อนดูอ่านรีวิวมาก็เตรียมทำใจไว้แล้ว แต่ผิดคาดครับ หนังรักษาความมันส์แทบจะคงเส้นวงวาตลอด 2 ชั่วโมง แถมอัดแน่นด้วยจิตวิญญาณก็อตซิลล่าญี่ปุ่นแท้ๆ ลงไปในเรื่องทุกช่วง ผสมไปกับการครีเอทสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพิ่มมามากมาย อยากบอกว่าโหย…ใครดูแล้วไม่รู้สึกว่ามันส์บ้างเลยนี่คงต้องประมาณว่าอารมณ์ตายด้านเอามากๆ หนังมีมอนสเตอร์ตัวเทพ โรแดน มอธร่า คิงกิโดร่า แล้วผูกเรื่องราวหากันได้ดี มีที่มาที่ไปค่อนข้างลงตัว แม้เรื่องราวมันอาจจะเดิมๆ ก็เถอะ ที่ว่าก็อตซิลล่าตื่นมาเพื่อตบเหล่าไททั่น ชิงตำแหน่ง King of The Monstersในโลก นี่เป็นซื้อลิขสิทธิ์มอนสเตอร์มาใช้ได้อย่างคุ้มค่ามาก (งานนี้จะเอาตัวไหนมาได้ต้องจ่ายทางค่ายโตโฮของญี่ปุ่่นเป็นตัวๆ ไปนะครับ) หนังมีฉากปล่อยของมากมาย ทั้งท่าไม้ตายประจำตัวหรือเอกลักษณ์ที่มาที่ไป แทบจะตรงตามเรื่องทั้งหมด ซึ่งก็เป็นข้อดีเพราะที่มาที่ไปของมอนสเตอร์เหล่านี้คือ “ความขลัง” มีเสน่ห์ตามต้นฉบับที่มีมายาวนาน 60 กว่าปี แถมยังเพิ่มท่าสกิลใหม่ๆ เข้ามาแบบที่แฟนๆ ไม่เคยเห็นมาก่อนมากมาย แล้วฉากต่อสู้ก็สว่างไม่แอบมืดๆ ทึมๆ ให้เพ่งจนปวดตาแบบภาคแรกอีกด้วยครับ (แต่แอบใช้ฝนมาอำพรางอยู่บ้าง)

ในส่วนของมนุษย์ที่ปกติจะเป็นแค่ส่วนประกอบเติมเต็มของหนังแนวนี้มาตลอด มาคราวนี้ก็มีเหตุมีผลน่าติดตามมากกว่าเดิม กลายเป็นว่าตัวร้ายกลายเป็นตัวดีในอีกแง่มุมก็ว่าได้ ที่ไปปลุกเอาเหล่ามอนสเตอร์นี้ขึ้นมาชำระล้างโลกกลับสู่สมดุลย์ทางธรรมชาติ เพราะจากประวัติศาสตร์มนุษย์นั่นเองที่ชั่วช้าทำลายโลกมาตลอด ไม่จากสงคราม ก็จากการแก่งแย่งทรัพยากรสูบโลกจนเสียสมดุลย์ สัตว์สูญพันธ์ไปมากมายเพราะน้ำมือมนุษย์ แล้วทำไมมอนสเตอร์เหล่านี้จะเอาคืนมนุษย์บ้างไม่ได้ โอเคพล็อตแนวนี้อาจจะดูโหลสุดๆ แต่มันก็เป็นพล็อตเบสิคที่เนียนเข้ากับหนังรวมมิตรมอนสเตอร์แบบนี้มาก ในเมื่อหนังมันโม้โอเว่อร์ขนาดนี้ ไม่ว่าพล็อตแบบไหนมันก็ไม่สามารถจะดูเรียลสมจริงไปได้ขนาดนั้นหรอกครับ (ก็เหมือนหนังมนุษย์ต่างดาวบุกโลกนั่นแหละ มุกบุกโลกก็ซ้ำๆ กันไปหมด) อย่าลืมนะครับนี่เรามาดูสัตว์ประหลาดตีกัน ไม่ได้มาดูมนุษย์โชว์ออฟอะไรแบบหนังเดี่ยว “มนุษย์ vs มอนสเตอร์” สักหน่อย ถ้าผู้สร้างจัดบทมนุษย์มามากกว่า ผมนี่คงโกรธมากเหมือนโดนหลอก แต่อันนี้ฝั่งมนุษย์คือน้ำซุบข้าวมันไก่ ไว้ค่อยๆ ตักซดกินเสริมข้าวกับเนื้อๆ ที่เป็นเรื่องของก็อตซิลล่าและพวกพ้องตีกันนั่นแหละ ซึ่งหนังก็ทำบทมนุษย์ที่มีส่วนเกี่ยวของแต่ละคนออกมาได้ดีครับ (บางคนก็แอบมีโยงไปเกี่ยวกับฝาแฝดที่อยู่ในเรื่องมอธร่าได้เนียนๆ อีก) ยกเว้นคนเดียวคือน้อง มิลล์ บ็อบบี บราวน์ (MILLIE BOBBY BROWN) ที่คนดูเน็ตฟลิกคงคุ้นหน้าคุ้นจากซีรีส์ดัง สเตรนเจอร์ธิงส์ ในบทนำ อีเลฟเวน  อันนี้ไม่ใช่น้องเล่นไม่ดี แต่บทมันออกงี่เง่าดูไม่สมเหตุผลหลายๆ อย่างไปสักนิด หนังพยายามลากให้น้องมีบทบาทมากจนกลายเป็นจุดอ่อนของเรื่องแทน กลายเป็นต้องตามหาเด็กหลงคนหนึ่งท่ามกลางสมรภูมิสัตว์ประหลาดถล่มเมือง ที่ดูแล้วแอบคิดในใจ เฮ้ยมันคุ้มไหมพาคนไปตายขนาดนั้น!

ดนตรีประกอบภาคนี้ดีงาม มีความเป็นญี่ปุ่นสูงมาก (เบื้องหลังมีใช้พระมาสวดจริงด้วย) แนะนำให้ลองดูจะเห็นว่าจัดเต็มจริงๆ

จริงๆ ผมก็เป็นคนที่ไม่เชื่อรีวิวจากเว็บมะขือสักเท่าไหร่ โอเคมันมีน้ำหนักจากหลายๆ คนรีวิวมาหารเฉลี่ยรวมกัน แต่อย่าลืมนั่นคือ “รสนิยมฝรั่ง” ซะเป็นส่วนมาก หนังที่มีที่มาที่ไปจากเอเชียแบบนี้ ผมว่าคนรีวิวฝั่งเอเชียเห็นต่างแน่นอน รวมถึงคนดูที่เป็นแฟนก็อตซิลล่าทั่วโลกด้วย สำหรับ Godzilla: King Of The Monsters งานนี้ฮอลลีวู๊ดทำออกมา “เคารพ ตั้งใจ ใส่ใจ” ไม่ผิดหวังครับ แต่แค่ใครจะหวังมากน้อยต่างกันอันนั้นอีกเรื่อง แต่บอกได้เลยว่าหนังอัดแอ็กชั่นมาตลอดเรื่อง แบบลุกไปฉี่ทีเดียวมีพลาด แค่นี้ก็คุ้มสุดๆ แล้วครับผม!

ผมไม่ได้ลงลึกเนื้อเรื่อง ถ้าใครต้องการอ่านสปอยเนื้อเรื่องละเอียดตามลิ้งค์ด้านล่างครับ
https://www.playinone.com/folkplay/godzilla-king-of-the-monsters-2/