ใครเคยโดนข่มขืนจากคนไม่รู้จัก แล้วท้อง คุณใช้ชีวิตยากไหม

กระทู้คำถาม
มีเรื่องอยากระบาย สับสน กับชีวิตมาก ใช้ชีวิตยากมาก
    ใครจะอ่านไว้เป็นบทเรียนก็ดี จะได้ไม่พลาด แล้วสำนึกผิด หรือเสียใจในภายหลัง
     เรื่องของเราคือ เราเป็นเด็กบ้านนอก ครอบครัวยากจน จบ ม.6เราก็เข้ามากรุงเทพ ใช้ชีวิตอยู่กับญาติ เราทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ส่งเงินเลี้ยงพ่อแม่ด้วย  เราเรียนมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เราเป็นคนประหยัด ไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวผับ ไม่คบเพื่อนฝูง 
วันๆใช้ชีวิตแค่ทำงาน เลิกงานกลับบ้าน อ่านหนังสือ
นอนตีสองทุกวัน บางวันเข้ากะเช้า ตื่นหกโมงเช้า ไปทำงาน ใช้ชีวิตแบบนี้อยู่สามปี ปีแรกทำงานเก็บเงิน หาเงินเรียน อยากมีชีวิตที่สบาย ต้นทุนชีวิตมีครบ32ประการ ก็ดีใจแล้ว ปีที่สอง และสามเรียนด้วย ทำงานด้วย
      วันหนึ่ง เพื่อนสนิทจากต่างจังหวัด เข้าจะเข้ามาเรียนในกรุงเทพ เขาไม่เคยเข้ากรุงเทพ ไม่มีคนรู้จัก ไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติพี่น้องในกรุงเทพ แต่เขามีลูกมีสามีแล้ว แต่มาเรียนต่อ ป.ตรี เขาเอาเบอร์เรามาจากไหนไม่รู้  ตอนนั้นยังไม่รู้จักเฟชบุ๊คเลยคะ มีแค่โทรศัพท์ โทรเข้า โทรออก เขาโทรมาจะมาหา ให้พาไปรายงานตัวที่ มหาลัย ....นี้หน่อย แล้วเขาก็เขามาหาที่ กทม. ไม่มีอะไรติดตัวมาเลย เราหาผ้าปูให้ หาหมอนให้ ซื้อพัดลมให้ แล้วพาไปรายงานตัวที่มหาลัย  ค่ารถค่ากินเราก็เป็นคนจ่ายให้ทุกอย่าง เพราะเรามีงานทำ แล้วเราเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ ป.1 ถึง ม3. ม.4 เราเรียนสายสามัญ เขาเรียนสายอาชีพ แล้วเขาท้อง จึงออกกลางทาง แต่เราก็สนิทกันคุยกันทุกเรื่อง  เราพาเขาไปรายงานตัว พาเขาไปดูหอพักในมหาลัย แล้วเขาก็ไปอยู่ใน มหาลัย ไปเรียน
สองอาทิตย์เขาจะมาเล่นกับเราครั้งนึง
เราก็ติดต่อกับเพื่อน มาเรื่อยๆ เพื่อนคนนี้สอนให้เล่นเฟช แล้วเขาก็แนะนำให้รู้จักกับเพื่อนมหาลัยของเขา
เป็นผู้หญิง ชื่อสมมุติ นาง(ก)แล้วเราก็สนิทกับเพื่อนของเพื่อนในเฟช  สังคมกว้างขึ้นมาก 
            วันหนึ่งเพื่อนคนนี้ชวนเราไปเที่ยว เพื่อนบอกว่า ทำงานมาตั้งสามปี ทำแต่งาน ไม่เบื่อเหรอ ไปเที่ยวทะเลกัน ออกมาแล้วไปนั่งรถตู้ไปเลย เราตกลง สามวันถัดมา เราก็แพ็คกระเป๋านั่งรถแท็กซี่ไปหาเพื่อน เพื่อนสนิทบอกว่าให้เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ห้อง นาง (ก) ก่อนเขาทำกิจกรรมมหาลัยอยู่ แล้วให้เรานั่งแท็กซี่ไปหาเพื่อนสนิทที่มหาลัย เพื่อนบอกว่าหอในของกูห้ามคนนอกเข้า เพื่อนสนิทขอคุยกับแท็กซี่ จะบอกทาง ด้วยความโง่ ของเราเอง เห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทคบกันมาตั้งแต่ ป.1 ก็ไม่ได้เอ๊าะใจอะไร ก็ไม่คิดอะไร
ตอนนั้นอายุ20เอง  ก็ยื่นโทรให้แท็กซี่คุย แล้วแท็กซี่ก็ไปจอดยุหอพักนอกแห่งหนึ่ง จ่ายค่าแท็กซี่เสร็จ 
เพื่อนโทรมา บอกว่าเดี๋ยวมีคนมารับนะ หอต้องใช้คีย์การ์ด เข้าออก เราก็ถามว่าใคร นาง (ก)ไง
รูปนาง (ก) ในเฟช เป็นผู้หญิง 

แล้วก็มีผู้ชาย นิกโกออกมารับ เราก็งง ทำไมเป็นผู้ชาย  ผู้ชายคนนี้บอกว่า เพื่อนเธออยู่ข้างในหลายคน เขาให้ฉันมารับเธอ  ผู้ชายพูดภาษาอังกฤษ เราฟังอังกฤษรู้เรื่องนิดหน่อย 
        เราจึงโทรไปหาเพื่อนสนิท เพื่อนสนิทบอกว่า
ไม่ต้องกลัว เพื่อนๆมันอยู่ในห้องหลายคน
เราก็ถามกี่คน  
เพื่อนสนิท ตอบ อยู่ห้าคนจะไป กลัวอะไร ไม่มีใครทำอะไร หรอก คนอยู่เต็มห้อง
เราก็เชื่อเพื่อน เพื่อนวางสาย 
เราก็เดินเข้าไป พอเดินไปถึงห้อง 
ผู้ชายผิวดำ เปิดประตูห้อง เขายืนอยู่ข้างหลังเรา
เราก็ยืนอยู่หน้าประตู แต่ไม่เข้า มองหาเพื่อนในห้อง
ผู้ชายคนนั้นก็ดันตัวเราเข้าห้อง ปิดประตู ล็อกกลอน
เราก็ตกใจ ร้องให้คนช่วย ในห้องมีผู้ชายผิวดำ สองคน ตัวใหญ่ มันวิ่งมาปิดปากเรา ข่มขืนเรา เราก็ดิ้นสู้ แต่ทำอะไรไม่ได้  ร้องให้คนช่วยก็ไม่ได้ โดนปิดปาก
น่ากลัวมาก เราอยู่ในห้องนั้นตอนเที่ยง ตอนเย็น สี่โมงเย็น เพื่อนสนิทไปหาเราที่ห้อง ที่เราโดนขังอยู่
พาเราออกมา เราก็บอกว่าไม่ไปเที่ยวแล้ว จะกลับบ้าน
   หลังจากนั้นมา สองอาทิตย์ เม็นไม่มา เข้าอาทิตย์ ที่สาม เราก็ซื้อที่ตรวจมาตรวจ ปรากฎว่า ขึ้นสองขีด
เราเคลียดมาก กลุ้มมาก ไม่ออกจากห้องไปไหนเลย 
ไม่ไปทำงานด้วย ข้าวก็ไม่กินสี่วันติด กินแต่น้ำ
ไม่กล้าบอกใคร คิดอยากฆ่าตัวตายด้วย บล็อกเฟชเพื่อนทุกคนเลย ตัดขาดโลกไปเลย
 ญาติที่เราอยู่ด้วยก็สงสัย ทำไมเราไม่ไปกินข้าว เขาก็เอานมกล่องไปวางไว้ให้หน้าห้อง เราก็กินแค่นมนั้นแหละ เคลียดมาก ไม่รู้จะทำยังไง ไม่กล้าบอกพ่อ แม่
ไม่กล้าบอกญาติ กลัวทุกอย่าง ณ ตอนนั้น แฟนเราก็ไม่มีเพราะเราไม่ได้สนใจผู้ชายอยู่แล้ว บ้านยากจน จึงไม่อยากมีแฟน กลัวปัญหาหลายอย่างตามมา ญาติไปทำงานกันหมด ตั้งสติได้ เปิดโน๊ตบุ๊คญาติ 
ค้นหาที่ทำแท้ง เจอที่แห่งหนึ่ง เราก็โทรถามเส้นทาง
และนัดวัน เช้าวันถัดมา เราก็ไปคลีนิกแห่งนั้น 
คนเดียว เราทำวันนั้นเลย จะเป็นจะตายก็ไม่กลัวอะไรแล้ว มันเคลียดมาก ดีที่ก่อนหน้านั้นไม่ฆ่าตัวตาย โชคดีที่วันนี้ยังมีชีวิตอยู่.   ทำเสร็จ เราก็นั่งรถตู้กลับบ้าน ซึ่งไกลมากที่คลีนิคกับที่บ้าน นั่งรถ ไปสามชั่วโมง กลับสามชั่วโมง
          กลับมาบ้าน เราก็ป่วยอยู่สามวัน พี่ชายขับรถพาแม่มาหาที่กรุงเทพ ญาติบอกว่าเราป่วยหนัก 
เราไม่สามารถไปทำงานได้ เราออกจากงานกลางอากาศเลย แต่ก็รู้สึกดี และดีใจมากที่แม่มาอยู่ด้วย
ดีใจที่เราไม่คิดสั้นในวันนั้น 
           เราก็ตัดสินใจบอกแม่ ว่าเราท้อง เราโดนข่มขืน เพื่อนหลอกหนูไปขาย 2500บาท
แม่หน้าซีดเหลือง เห็นได้ชัดเลย เราก็ปลอบใจแม่ว่าแม่ไม่ต้องกลัวนะ หนูไปเอาเขาออกแล้ว หนูก็เลยป่วยยุตอนนี้ หนูไปทำเอง ตังหนูทำเองทุกบาท กรรมนี้หนูก่อเอง แม่ก็นอนข้างๆเราทุกคืน ดูแล หาข้าวให้กิน แล้วเราก็หายดี เด็กอาฆาตรแรงมาก เราไม่สามารถนอนได้ เขามานั่งทับเรา อำเราทุกคืน แม่ก็โดนด้วย แต่ทุกวันนี้ หายแล้ว เราไปทำบุญ ทำสังฆทาน บวชชีให้น้องเรื่อยๆ 
              รู้สึกผิดกับทุกๆเรื่อง รู้สึกผิดกับน้องที่เราทำร้ายเขา กับแม่กับญาติพี่น้องทุกคนที่รู้เรื่อง
 เราไม่ได้อยากจะฆ่าใครเลย แต่เราไม่สามารถเลี้ยงดูเขาได้ เราจำเป็นในทุกๆเรื่อง เราใจร้ายมากจริงๆ
                เราตัดขาดจากเฟช จากเพื่อนทุกคน ไม่ติดต่อใครเลย เป็นเวลาหกปี วันๆคุยแต่โทรศัพท์กับครอบครัว เท่านั้น 
                 มาวันหนึ่งฉันมีแฟน เป็นแฟนคนแรกเมื่อหลายสิบปี บังเอิญมาเจอกัน เราจึงกลับมาคบกัน
ฉันเล่าเรื่องร้ายๆที่ฉันเจอมาให้เขาฟัง ฉันไม่อยากโกหก ฉันคิดว่าเขาจะเข้าใจ เขาจะรับได้ เขาทำเหมือนเขารับได้
อยู่มา ไม่นาน เขาก็ขอเลิก เขาบอกว่าเราเลวมาก ทำไมเราต้องทำร้ายเด็ก เด็กผิดอะไร คำนี้ทำให้เราเสียใจมาก เกิดมา ปลาตัวเดียว เรายังไม่กล้าฆ่าเลย 
แฟนเฝ้าแต่ถามว่าเด็กผิดอะไร แล้วเขาก็ขอเลิก เขาก็หายไปเลย ไม่ติดต่ออะไรกับเราอีก
                     ทุกวันนี้อยู่อย่างทรมานรู้สึกผิดกับการกระทำเรื่องเลวๆของตัวเอง เราคงเลวมากจริงๆแหละ ตอนนี้อายุ เลขสามต้นๆ ยังไม่แต่งงาน ใครเข้ามาก็ไม่กล้าคบด้วย รู้สึกกลัวว่าเขาคงไม่มีใครรับเราได้ แม้แต่คนที่บอกว่ารักเรา ให้เราได้ทั้งชีวิต ยังขอเลิกกับเราเพราะการกระทำครั้งนั้นของเรา
อยากแต่งงาน อยากมีลูก อายุ30แล้ว แต่กลัวไปหมด
เลยเลือกที่จะอยู่คนเดียว เลือกที่จะเรียนสูงๆ ทำแต่งาน หาเงินไว้เลี้ยงตัวเอง
                    เลิกเล่นเฟช มานานมาก วันหนึ่งก็กลับมาเล่นเฟชอีกครั้ง เจอเพื่อนมากมาย เจอเพื่อนที่ขายเราด้วย เขามาขอเป็นเพื่อน เราก็รับ
เพราะเราให้อภัยเขาทุกอย่าง เวรกรรมที่มีต่อกันเราอโหสิให้ จบกันแค่เพียงชาตินี้
พอเรารับเป็นเพื่อน  คนที่เคยข่มขืนเราสองคนมันก็ส่งเมสเซ็นเจอร์มาหาเรา เรากลัวมากเราก็บล็อกเฟชบุ๊ค มัน แล้ววันถัดมามีผู้หญิงทักเฟชมาบอกว่าเป็นเมียไอ้คนที่เราบล็อก แล้วเขามีรูปอนาจารของเรา เขาต้องการแบล็กเมเรา เราก็กลัวไม่รู้จะทำยังไง จะแจ้งความก็ไม่กล้า กลัวมันลงรูปประจานเรา
ความรู้สึกเราแย่มาก ในทุกๆเรื่อง เรากลัวเราจะรับเรื่องในวันข้างหน้าไม่ได้  
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่