ติดตามข่าวสารการเมืองไทยในช่วงนี้ต้องยกนิ้วให้พรรคประชาธิปัตย์
ความเขี้ยวของพรรคเก่าแก่ติดอันดับหนึ่ง แม้จะเป็นพรรคที่ได้เสียง ส.ส. 52 เสียง
แต่ก็ข่มพรรคที่ได้ ส.ส.มากกว่าไปหมด
ณ วันนี้
นายชวน หลีกภัย จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว
หลังจากนี้พรรคประชาธิปัตย์คงเข้าร่วมรัฐบาลภายใต้โควต้ากระทรวงที่ตัวเองพอใจ
ดังนั้น ในบรรดาพรรคการเมืองทั้งหมดที่ลงเลือกตั้ง ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์น่าจะมีความสุขที่สุด
แม้พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.มากที่สุด แต่คงมีความสุขไม่เท่าประชาธิปัตย์
แม้พรรคพลังประชารัฐจะได้คะแนนป๊อปปูลาร์โหวตมากที่สุด แต่ก็ไม่มีความสุขเท่าประชาธิปัตย์
การเมืองตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็เป็นเช่นนี้
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มีความสุขมากที่สุดในบรรดาพรรคการเมืองอื่นๆ
แต่คนที่มีความสุขมากกว่าพรรคคือ ส.ส.
เนื่องเพราะการจับขั้วของพรรคการเมืองที่ผ่านมาแบ่งเป็นขั้วสนับสนุน คสช.กับขั้วไม่สนับสนุน คสช.
จากการจับขั้วดังกล่าวได้พัฒนาเป็นขั้วพลังประชารัฐกับขั้วเพื่อไทย
และเมื่อผลการเลือกตั้ง ส.ส.ออกมาปรากฏว่า ไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ
และเมื่อจับขั้วกันแล้วก็ปรากฏว่าแต่ละข้างมีเสียงปริ่มน้ำ
ทำให้คุณค่าของ ส.ส.แต่ละคนเปล่งประกาย
“งูเห่า” ที่แวดวงการเมืองเล่าลือกันจึงมีโอกาสอุบัติขึ้น
เมื่อการประชุมสภาผู้แทนฯ ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา คนในแวดวงการเมืองก็ได้ยืนยันแล้วว่ามี
และยังมีคำคาดการณ์กันต่อไปว่าการโหวตของสภาผู้แทนฯ ต่อไปก็ต้องมี
สำรวจวาระการประชุมที่สำคัญๆ ต่อแต่นี้ไปก็มีการประชุมร่วมสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา
ที่ต้องโหวตเลือกนายกฯ
งานนี้
พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกฯคนปัจจุบันคงได้รับเสียงสนับสนุนจนได้เป็นนายกฯอีกรอบ
เพราะลำพัง ส.ว. 250 เสียงรวมกับเครือข่ายพลังประชารัฐที่มี 115 เสียงบวกกับ 11 พรรค ก็เพียงพอ
แต่หลังจากบริหารประเทศไปแล้ว ลำดับต่อไปคือการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ
ร่าง พ.ร.บ.นี้ถือว่าสำคัญ ถ้าไม่ผ่านจะมีปัญหาต่อเสถียรภาพของรัฐบาลทันที
ดังนั้น เมื่อต้องโหวตฝ่ายรัฐบาลก็ต้องควบคุมเสียงให้ดี เพราะทุกวินาทีพร้อมจะมี
“งูเห่า” เกิดขึ้น
แค่ ส.ส.รวมกลุ่มกันไม่กี่คนก็เกิดผลกระทบกับรัฐบาลได้แล้ว
การเกิด
“งูเห่า” จึงมีโอกาสเกิดขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนการเป็น "งูเห่า“ แล้วจะได้ประโยชน์เช่นไรก็สุดแล้วแต่จะคาดเดา
จะได้เงิน จะได้โควต้า หรือได้อะไรอื่นๆ หรือไม่นั้นยังไม่อาจบอกกล่าว
สิ่งที่บอกได้ชัดๆ ก็คือ ตลอดวาระการดำรงตำแหน่ง ส.ส.ในครั้งนี้ ส.ส.ทุกคนล้วนมีคุณค่า
โดยเฉพาะ
“งูเห่า” ช่วงสภาเปิดสมัยประชุม คือ ฤดูกาลที่สร้างความฉ่ำชื่น
เป็นช่วงเวลาที่ “งูเห่า” เบิกบาน มีความสุขมากกว่าใครๆ
นฤตย์ เสกธีระ
https://www.matichon.co.th/article/news_1511992
สถานีคิด : งูเห่าเบิกบาน : โดย นฤตย์ เสกธีระ ... มติชนออนไลน์ ../sao..เหลือ..noi
ความเขี้ยวของพรรคเก่าแก่ติดอันดับหนึ่ง แม้จะเป็นพรรคที่ได้เสียง ส.ส. 52 เสียง
แต่ก็ข่มพรรคที่ได้ ส.ส.มากกว่าไปหมด
ณ วันนี้ นายชวน หลีกภัย จากพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว
หลังจากนี้พรรคประชาธิปัตย์คงเข้าร่วมรัฐบาลภายใต้โควต้ากระทรวงที่ตัวเองพอใจ
ดังนั้น ในบรรดาพรรคการเมืองทั้งหมดที่ลงเลือกตั้ง ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์น่าจะมีความสุขที่สุด
แม้พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.มากที่สุด แต่คงมีความสุขไม่เท่าประชาธิปัตย์
แม้พรรคพลังประชารัฐจะได้คะแนนป๊อปปูลาร์โหวตมากที่สุด แต่ก็ไม่มีความสุขเท่าประชาธิปัตย์
การเมืองตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ก็เป็นเช่นนี้
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มีความสุขมากที่สุดในบรรดาพรรคการเมืองอื่นๆ
แต่คนที่มีความสุขมากกว่าพรรคคือ ส.ส.
เนื่องเพราะการจับขั้วของพรรคการเมืองที่ผ่านมาแบ่งเป็นขั้วสนับสนุน คสช.กับขั้วไม่สนับสนุน คสช.
จากการจับขั้วดังกล่าวได้พัฒนาเป็นขั้วพลังประชารัฐกับขั้วเพื่อไทย
และเมื่อผลการเลือกตั้ง ส.ส.ออกมาปรากฏว่า ไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ
และเมื่อจับขั้วกันแล้วก็ปรากฏว่าแต่ละข้างมีเสียงปริ่มน้ำ
ทำให้คุณค่าของ ส.ส.แต่ละคนเปล่งประกาย
“งูเห่า” ที่แวดวงการเมืองเล่าลือกันจึงมีโอกาสอุบัติขึ้น
เมื่อการประชุมสภาผู้แทนฯ ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา คนในแวดวงการเมืองก็ได้ยืนยันแล้วว่ามี
และยังมีคำคาดการณ์กันต่อไปว่าการโหวตของสภาผู้แทนฯ ต่อไปก็ต้องมี
สำรวจวาระการประชุมที่สำคัญๆ ต่อแต่นี้ไปก็มีการประชุมร่วมสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา
ที่ต้องโหวตเลือกนายกฯ
งานนี้ พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา นายกฯคนปัจจุบันคงได้รับเสียงสนับสนุนจนได้เป็นนายกฯอีกรอบ
เพราะลำพัง ส.ว. 250 เสียงรวมกับเครือข่ายพลังประชารัฐที่มี 115 เสียงบวกกับ 11 พรรค ก็เพียงพอ
แต่หลังจากบริหารประเทศไปแล้ว ลำดับต่อไปคือการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ
ร่าง พ.ร.บ.นี้ถือว่าสำคัญ ถ้าไม่ผ่านจะมีปัญหาต่อเสถียรภาพของรัฐบาลทันที
ดังนั้น เมื่อต้องโหวตฝ่ายรัฐบาลก็ต้องควบคุมเสียงให้ดี เพราะทุกวินาทีพร้อมจะมี “งูเห่า” เกิดขึ้น
แค่ ส.ส.รวมกลุ่มกันไม่กี่คนก็เกิดผลกระทบกับรัฐบาลได้แล้ว
การเกิด “งูเห่า” จึงมีโอกาสเกิดขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนการเป็น "งูเห่า“ แล้วจะได้ประโยชน์เช่นไรก็สุดแล้วแต่จะคาดเดา
จะได้เงิน จะได้โควต้า หรือได้อะไรอื่นๆ หรือไม่นั้นยังไม่อาจบอกกล่าว
สิ่งที่บอกได้ชัดๆ ก็คือ ตลอดวาระการดำรงตำแหน่ง ส.ส.ในครั้งนี้ ส.ส.ทุกคนล้วนมีคุณค่า
โดยเฉพาะ “งูเห่า” ช่วงสภาเปิดสมัยประชุม คือ ฤดูกาลที่สร้างความฉ่ำชื่น
เป็นช่วงเวลาที่ “งูเห่า” เบิกบาน มีความสุขมากกว่าใครๆ
นฤตย์ เสกธีระ
https://www.matichon.co.th/article/news_1511992