10 ปีพังจากเรื่องสินสอดลามไปถึงมีคนอื่น

คบกับแฟนมาสิบปีรักมาพังด้วยเรื่องเงินสินสอดที่แก้ไม่ได้ 
เลิกด้วยคำว่า ถ้าหาเงินไม่ได้จะดูแลลูกสาวเขาได้ยังไง 

10 ปีที่ผ่านมา ลงทุนทำร้านก๋วยเตี่ยวให้ขายหน้าบ้าน สอนสูตรให้ จนบ้านเขาดีขึ้น 
ช่วยคุมคุณภาพจนเขาสามารถขายของได้ มีรายได้มั่นคงขึ้น  3-4 ปี จนเขาเอาเงินมาคืนได้ครบ
ลูกค้าติดแล้ว บ้านเขาก็ดีขึ้น ชีวิตรักเราก็คิดว่าจะดีขึ้นเพราะว่าเขาไม่ลำบากแล้ว 
เมื่อก่อนแฟนค่อนข้างลำบากแต่ผมก็ชอบที่เขาขยันไม่ย่อท้ออะไร   
ถึงแม้จะทำขนมขายด้วย ผมก็ช่วยเรื่องทำแพ้ค ออกแบบ การเก็บรักษา จนขนมเขาได้ไปขายในโรงแรมเพื่อนผม
ผมช่วยเขาเรื่องงานจนบ้านเขาดีขึ้น  ผมซื้อประกันสุขภาพให้แม่กับแฟนตลอด เรียกว่าเขาแทบจะพลิกชีวิตเมื่อเจอผม
ผมไม่ได้เปย์แต่ผมเน้นช่วยตามที่เขาทำได้ 

10 ปีไม่เคยเจ้าชู้ ไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า ไม่เคยทำให้เขากังวล เพราะผมเป็นผู้จัดการโรงงาน เจอคนเยอะ 
ที่ผมเองก็ยอมรับว่ามีคนเข้าหาอยู่บ้างแต่ผมก็รักแต่แฟนผมคนเดียวตลอด 

ผมคิดจะแต่งงานจริงจัง ผมก็เลยมองหาบ้านก็เลยมาดูว่าเงินเก็บมีเท่าไร เลยได้เริ่มสร้างบ้านในที่ดินของครอบครัว
ที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ พ่อแม่เสียหมดไปหลายปีแล้ว เมื่อก่อนทำร้านก๋วยเตี๋ยวแต่พอพ่อเสีย แม่ก็มาป่วยตามเลยไม่ได้ทำต่อ
ผมเลยเก็บแต่สูตรไว้ผมก็เลยสอนแฟนต่อจนหมด ผมก็อยู่คอนโดที่ผ่อนหมดละ

พอคิดจะแต่งงานผมเลยคิดว่าคอนโดอาจจะไม่โอเค ผมเลยคิดจะสร้างบ้าน ผมก็คุยกับแฟนว่าเดี่ยวสร้างบ้านเสร็จแล้วเราแต่งงานกันนะ 
คือขอหมั้นไปละเขาก็รับแหวนหมั้นไป พอเขารับ ผมก็เลยคุยๆกับเพื่อนที่รับสร้างบ้าน 
ก็เลยได้แบบบ้านและกำหนดสร้างคร่าวๆแต่บางอย่างที่อยากได้เงินยังไม่พอเลยให้เพื่อนออกแบบเผื่อไว้ต่อเติมตามที่อยากได้
ซึ่งแค่สร้างบ้านก็ราวๆ 4 ล้าน เงินจะเหลือไม่กี่หมื่นถ้าสร้างเสร็จ แต่ผมก็คิดว่า
เดี่ยวสร้างบ้านเสร็จปล่อยคอนโดออกไปค่อยมาตกแต่งเพิ่มก็ได้  ซึ่งแน่นอนแบบบ้านส่วนนึงให้แฟนดู แฟนเห็นด้วยและ
ขอให้ทำห้องอาบน้ำที่วางอ่างน้ำได้ ผมก็จัดให้หมด ผมเลยบอกว่างั้นผมเริ่มสร้างต้นปีนี้เลยนะแล้วเดี่ยวแวะมาดูกันบ่อยๆเพราะมันคือเรือนหอ

แต่เมื่อปีนี้ผมเริ่มสร้าง อยู่ดีๆแฟนก็พูดเรื่องแต่งงาน ผมก็บอกว่าเดี่ยวผมไปคุยกับแม่เลย ผมแสดงความจริงจังมาหลายปีแล้ว 
พอไปคุยเท่านั้นละพัง 

แม่แฟนบอกว่าอยากให้แฟนได้แต่งงานก่อนอายุ 30 สินสอด 5 แสน กับค่าจัดงานแต่งที่โรงแรมใกล้ๆนี่ก็ได้เพราะญาติแม่บางคนแก่ 
ผมก็พูดตรงๆว่า ผมขอจดทะเบียนก่อนได้ใหม ผมไม่มีเงินพอต้องรอสร้างบ้านเสร็จและปล่อยคอนโดไปก่อน 
ผมไม่ปฏิเสษเรื่องสินสอด 5 แสนกับค่างานแต่งผมเห็นด้วย ผมจ่ายได้ เพราะผมเองก็ต้องเชิญพวก
เพื่อนนักธุรกิจมาด้วย  จะจัดที่อื่นเพื่อนคนแซว แต่ผมขอเวลาอีก1ปี ไม่เกิน1ปีครึ่ง แฟนก็ยังแค่30กลางๆเอง

แต่เขาก็ยื่นคำขาดมาว่าถ้าไม่แต่งก่อน30เขาจะไม่ให้แต่ง  ผมก็มานั้งคุยกันจริงจังว่าจะทำไงดี 

แฟนบอกว่าให้หยุดสร้างบ้านและแต่งงานก่อนไม่อยากทะเลาะกับแม่ ก็ให้เลิกระหว่างจะทิ้งเงินสามแสนกว่าค่าของสร้างบ้านที่ยกมาแล้ว
หรือจะแต่งงานกับเขาผมก็บอกว่าถ้าแต่งงานก่อนสร้างบ้าน กลัวมันจะงบไม่พอตามที่ตั้งไว้กลัวเงินไม่พอแล้วบ้านไม่เสร็จ ไม่อยากปรับแบบบ้านด้วย
ผมอยากแต่งงานแบบเต็มที่เพราะชีวิตกะแต่งครั้งเดียว ผมก็เลยยืนยันว่าผมหาทางเลือกที่ดีให้พวกเราอยู่แล้ว เขาก็ไม่ยอม จะแต่งก่อน 30 

เราก็ทะเลาะกันด้วยเรื่องแค่นี้ ผมก็พยายามหาทางแก้ ผมพยายามไปคุยกับแม่เขา เขาก็ยังยืนยันว่า ให้แต่งก่อน30 ถ้าไม่งั้นก็เลิกไป 
เขาก็ไม่คุยกับผมเลยหลังจากวันนั้น 

สุดท้ายก็เลิกเพราะเขาไม่ยอมอะไร ผมพูดแล้วเขาก็ไม่ฟังเขาจะเลิก
ที่เจ็บใจจริงๆก็คือเรื่องที่เราทะเลาะกันเพราะเขาอยากได้ผู้ชายคนอื่นไม่ใช่เพราะเขาอยากแต่งงานจริงๆ ผมคงดูน่าสมเพชแหละมั้ง
เพื่อนเขาแอบบอกว่า เขาเอาเรื่องที่ทะเลาะกับผมไปปรับทุกข์กับเพื่อนแล้วก็มีเพื่อนผู้ชายอีกคนมาใช้โอกาศนี้ตามจีบ 
จนเขาเผลอใจไป จนแอบไปกินข้าวด้วยกันหลายครั้งแล้ว 

ผมก็ไปถามแล้วว่าทำไมแค่สินสอดไม่ลงตัวถึงกับต้องเลิก เขากลับบอกว่าเขาเลิกเพราะคุยไม่รู้เรื่องแล้ว
บอกให้หยุดสร้างบ้านมาแต่งก่อนก็ไม่เอา ผมก็บอกผมกลับงบมันบานถ้าหยุด เขาก็บอกว่าจะให้เขาช่วยสร้างบ้านเลยใหม
ผมก็บอกงั้นโอเคถ้ามันไม่โอเคแล้ว ก็หยุดก็พอ ผมก็จะไม่ตามง้ออีก 

ที่มันน่าเจ็บใจอีกพอเลิกก็เอาเรื่องผมไปพูดเสียๆหายๆ ผมก็ไม่อยากตอบโต้ให้มันยุ่งก็เลยเฉยๆ
ใครถามก็บอกมันเข้ากันไม่ได้แล้ว ที่มันน่าเศร้าคือพอมีคนมาจีบผู้ชายใหม่ไปฝากงานทำงานออฟฟิสเขา 
กลับเลิกทำร้านก๋วยเตี๋ยวที่เคยทำไว้ให้ แม่เขาก็เห็นดีด้วยว่าควรมีอาชีพให้สมกับผู้ชายใหม่  
ขนมก็ไม่ส่งเพื่อนก็บอกทำไมอยู่ดีๆก็ไม่ส่ง 

ชีวิตนี้มันตลกดีเหมือนกัน บางที่ซื่อสัตย์ก็ไม่ใช่คำตอบสินะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 140
จริงๆตอนแรกก็กะเข้ามาระบายความเครียดๆที่สะสม กลับมาคอนโดก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับใคร
มานั้งที่ส่วนกลางเลยเขียนมายาวมาก กลับมีคนมาช่วยรับฟังก็ขอขอบคุณตรงนี้

จริงๆคนถามว่าผมมีข้อเสียอะไร ข้อเสียผมก็คือผมไม่ค่อยตอบไลน์ช่วงเวลาทำงาน
เป็นเรื่องที่เขาบ่นอยู่บ้างแต่ผมก็บอกแล้วว่าถ้าไม่ใช่ช่วงพัก ผมอาจจะตอบไลน์คุณช้า
และอาจจะไม่ค่อยตามใจเขามากนัก คือบางครั้งเขาอยากจะไปเที่ยวหลายวัน บางทีผมติดงาน
ก็ต้องบอกว่าถ้าจะไปต้องเดือนนี้นะ เขาก็บอกถ้าเดือนนี้ดอกไม้มันไม่แดงแล้ว
ข้อนี้พึ่งทะเลาะกันหลังๆช่วงที่อะไรๆเขาดีขึ้น หลังจากผมพาไปเที่ยวเมืองนอกครั้งแรก
เขาก็อยากจะไปอีกปีละ1-2ครั้ง ซึ่งบางครั้งเขาอยากไปช่วงนี้ แต่ผมติดเช่น เดือนนี้
ช่วงหน้างบ ผมก็ต้องวุ่นเรื่องจัดการเตรียมเอกสาร คุยกับฝ่ายบัญชีให้เรียบร้อย
ผมก็จะเที่ยวได้ช่วงส่งงบแล้วแต่เขาดันชอบเที่ยวเดือนนี้กับมกราคม
เราคุยกันเรื่องนี้มาปีที่3แล้วว่ายังไงผมก็ไปเดือนนี้ไม่ได้ ประธานบริษัทสั่งให้ผมดูแลจนเสร็จ
เพราะมันต้องคุยกับคนที่มีอำนาจลงนามเรื่องทำงบด้วย คนทำงบคงพอเข้าใจใช่ใหมเรื่องนี้
ผมเป็นคนที่ต้องลงอำนาจลงนามในบริษัทลูก ก็ต้องอยู่รอจนเสร็จและเซ็นชื่อในงบ
ใหนจะต้องรอบัญชีบริษัทตรวจงบอีกรอบอีกมันก็เลยจะยุ่งๆทั้งเดือน

อีกเรื่องนึงที่เพื่อนบอกก็คือผมไม่ค่อยชอบด่า

ผมไม่ค่อยด่าใครลูกน้องตัวเองก็ไม่ด่า ผมเชื่อของผมเองว่า 20+ โตแล้ว
มันควรต้องคิดเองได้แต่หลายๆคนก็คิดไม่ได้กลับล้ำเส้นผมเข้ามาอีก
หลายคนเคยเตือนผมมาแล้วผมก็ยังชินกับการไม่ด่าอยู่ดี ทุกวันนี้ผมจัดการบริษัท
ด้วยการไม่ด่าแค่เตือนแล้วลงทัณฑ์บนไว้ ส่วนมากคนจะเกรงมากกว่ากลัว
ซึ่งงานมันโอเคกว่า บรรยากาศการทำงานก็ดี สมัยผมเด็กใหม่ผมก็ไม่ชอบลูกพี่ด่าเหมือนกัน
เลยพยายามจะไม่ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ

พอแฟนเก่า เรียกแบบนี้แล้วกัน  เขาทำอะไรไม่โอเคเช่น
นัด9 โมง มาบ่าย2 บอกว่าดูเครื่องปั่นจนลืมนัดบ้าง ดูลูกน้องทำงานอยู่บ้าง
บางครั้งก็ไปเที่ยวกับเพื่อนจนลืมนัด ผมก็ไม่ว่าอะไรผมเข้าใจ นัดเที่ยงไปทานข้าวกัน
ไม่ว่างผมก็ไปตอนเย็นได้ ผมก็บอกงั้นชวนแม่มาด้วยกันเลย  
ผมก็พยายามบอกเขา สุดท้ายก็ไม่เคยเปลี่ยนแต่ดีขึ้นตรงที่เขามาสาย
แต่เขาก็จะโทรบอกบ้างแต่ก็ยังสายอยู่ตลอด ผมก็ชินละเลยไม่สนใจเท่าไร
แต่สิ่งนึงที่ผมไม่โอเคที่สุดคือหลังๆเขาเริ่มไปดื่ม ผมไม่เคยว่าว่าเขาไปดื่ม
เขาหาเงินได้และเหลือจะไปก็ไม่เป็นไร แต่ผมขอร้องว่า อย่าเมาจนไม่รู้ตัว
เขาไม่เคยฟัง ผมยังเคยขับรถไปรับแถวร้านเหล้าเกษตรบ่อยๆ บางครั้งสภาพคือนั้งเมาอยู่ริมถนน
แถวร้าน มีเพื่อนเขาคอยดูอยู่  ผมก็รับไปส่งหมดนั้นละ บางครั้งก็เมาจนทำงานไม่ได้
แม่เขาก็ต้องทำงานคนเดียว แต่หลังๆพอมีรายได้พอจ้างลูกน้องแล้ว เขาสลับกันทำงานได้
ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนะตอนไปดื่มแต่ขอว่าอย่าเมาจนไม่มีสติ ผมเลิกดื่ม สูบ มา 5 ปีแล้ว เลยไม่อยากไปกับเขา
ให้เสียบรรยากาศ

แต่ผมเองก็เคยโกรธนะไม่ใช่ว่าด้านชา เขาทะเลาะกับแม่เรื่องมีผู้ชายมาส่งบ้านในสภาพเมาหลับ
แม่เขาบอกผมว่าไปบอกผมทำไม ผมก็กัดฟันที่จะทนรับเรื่องนี้และไม่คิดอะไร แต่จริงๆมันก็ไม่มีอะไรนั้นละ
มาส่งเฉยๆ ผู้ชายมาส่งเพื่อนแฟนเก่าก่อน บ้านใกล้ๆกันแล้วแวะมาส่งแฟนเก่า  

แต่ที่ผมโกรธคือทำไมถึงยังเมาเหล้าจนไม่รู้ตัวถ้าไม่มีเพื่อนละ ทำไมถึงไว้ใจผู้ชายคนอื่นขนาดนั้น
ผมก็พูดนะแต่ผมก็ไม่ได้ด่าเขาก็บอกว่าอย่าเป็นแบบนี้อีกผมเป็นห่วง เขาก็รับปากแต่ก็ยังเป็นอีก
แต่ก็เบาลง

เพื่อนก็บอกทำไมไม่ด่าบ้าง แบบนี้มันไม่ได้ดิ ผมก็บอกว่าก็โตๆแล้ว 25แล้วนะจะด่าทำไม ด่าแล้วจะทำตามเหรอไม่ใช่เด็กอะ
ผมเองก็คงไว้ใจมากไป แฟนใหม่ที่เขาได้ก็คือเพื่อนกลุ่มดื่มของเขานั้นละ พอเราทะเลาะกันก็ไปดื่มที่ร้านบ้านเพื่อนเขา
แถวนั้นก็รู้กันว่าหรู เจอผู้ชายคนนี้เขามาคุย เข้ามาปลอบ เขาคงรู้สึกเหมือนผมมั้ง
เจอคนที่เข้ามาในช่วงที่ทุกข์แล้วรู้สึกดีแถมยังทำงานต่ำแหน่งดีๆในบริษัทใหญ่เงินเดือนก็เยอะกว่า

ผมเคยคิดว่าสิ่งที่ผมเป็นมันก็ควรรจะเป็นคนปกติที่เขาทำกันนี่แต่หลังๆก็คิดว่าไม่ใช่
ต้องด่า ต้องตีกันบ้างเนี่ยเหรอคือคำตอบ ผมว่ามันก็ไม่น่าใช่อยู่ดีนั้นละ
ถ้าไม่ให้เกียรติมันก็ควรจบมากกว่า

จนตอนหลังที่ผมตัดสินใจว่าผมจะปล่อยเขาไปและไม่ตามง้อเพราะผมคิดว่า
เพราะผมรักเขามากไป เขาเข้ามาวันที่ผมเจ็บที่สุดคือเสียแม่ หลังจากเสียพ่อไปแค่2ปี
แม่ตรอมใจร้องไห้กับรูปพ่อ จิตใจผมก็ไม่ค่อยโอเคที่เห็นภาพนั้น แต่เขาเข้ามาช่วยเติมเต็มผม
ในจิตใจแบบนั้น ผมเข้าข้างเขามากไปจนเขาคงเห็นค่าผมน้อยลงเรื่อยๆ
เพราะผมก็แค่ของตายสำหรับเขาไปแล้วเมื่อคบกันมาปีที่10 จนทำผมรู้สึกว่า
เขาคงเห็นผมยืนอยู่ในวันที่เขามีปัญหาตลอดเขาเลยชินกับการมีผม
จริงๆเขาชอบมีปัญหาหลายครั้งผมก็ช่วยเขาตลอดจนเขาผ่านมาได้ตลอดแต่ถ้าเล่าก็คงเยอะไป

หลายคนสงสัยบอกปล่อยให้เขารอสิบปี ผมก็ย้ำอีกครั้งว่า ผมอยากจะแต่งงานตั้งแต่ปีที่ 6 แล้ว
ตอนที่ผมผ่อนคอนโดหมดแต่เขาบอกว่า ขอเวลาหน่อยร้านเขากำลังไปได้ด้วยดี  
ปีก่อนเลิกกิจการก็ดีมากจนเขาอยากซื้อห้องข้างๆขยายร้านเพราะโรงงานแถวบ้านเขาเปิดกิจการแล้ว
คนงานมากินที่ร้านเยอะจนแน่น ทุกวันนี้งานก็ไม่ได้หนักแล้วนะเพราะลูกน้อง4คน เหนื่อยเก็บเงินอย่างเดียวนั้นละ
บางครั้งเขาก็ให้แม่ทำคนเดียวได้เลยเพราะเหลืองานแค่ทำน้ำ กับหมักหมู เนื้อเท่านั้น
ผมย้ำเตือนไว้แค่นี้เพราะผมกลัวว่ารสชาติเปลี่ยนเมื่อไรมันจะพังไปหมด นอกนั้นเขาก็จะแค่รับออเดอร์และเก็บเงิน
ผมเองก็ไปช่วยเขาตลอดทุกวันหยุดเพราะว่าจะได้ใช้เวลาด้วยกันที่ร้านนั้นละแล้วเที่ยววันจันทร์แทนหรือวันที่เขา
อยากไปเพราะว่า4ปีหลังเฝ้าร้านคนเดียวก็ได้ไม่ต้องลำบากแล้ว เราถึงมีเวลาไปเที่ยวกันหลายวันถึงมีเรื่องทะเลาะกัน
เรื่องเดือนที่ว่าอยู่บ้าง ช่วงก่อนร้านไปได้สวยผมก็ช่วยเขาตลอด ผมใช้เวลาทุกเสาร์อยู่กับเขาที่ร้านตั้งแต่เช้ายันเย็น
แรกๆผมไปล้างจานให้ด้วยซ้ำแต่ผมก็คิดว่าเขาคงเหนื่อยในวันอื่นๆ ผมก็เลยจ่ายเงินจ้างลูกจ้างให้ โดยใช้เงินตัวเอง
เขาก็ไม่ยอมแหละแต่เขาก็บอกว่างั้นถ้ากำไรพอแล้วจะจ่ายเอง ผมก็จ่ายเงินจ้างให้ปีกว่าๆ จนเขาบอกว่าจ้างไหวละ
ก็เลยไม่ต้องจ่าย

แต่มันก็จริงที่หลายคนบอกว่าเขาไม่ได้แต่งตัวสวยๆ นั้นก็เป็นสิ่งนึงที่ผมไม่สามารถช่วยได้จริงๆ

เรื่องเจ้าชู้ผมก็ไม่มี ย้ำไม่มีเลยสักครั้งที่แม้แต่จะคิด มีคนสวยกว่าแฟนเข้าหาอยู่บ้าง แต่ผมก็รักเขามากเกินกว่าที่จะคิด
ตอน 3-4 ปีแรกคนนึกว่ายังโสด จนสุดท้ายต้องพาแฟนไปเที่ยวกับบริษัทด้วยทำให้คนในออฟฟิสรู้ว่ามีแฟนแล้ว
เพื่อให้คนมาเลิกยุ่งแฟนจะได้สบายใจ

ผมก็ไม่รุ้จะเขียนอะไร นี่เขียนไปก็สิ่งที่อึดอัดอยู่ในใจ พูดไปก็โดนด่า ขนาดตอนนี้อยู่เฉยๆ ยังโดนแขวะอยู่เลย
ขนาดไม่โพสอะไร ไม่ว่าอะไร ยังโดนแขวะ ว่าสบายใจแฟนใหม่เลี้ยงดี กินบุฟเฟ่โรงแรมแพงๆบ้าง พาไปซื้อของแพงๆบ้าง
เพื่อนมาเม้นก็ ดีเนอะอิจฉาได้แฟนดี บางคนก็บอก ไปจมปลักอยู่กับคนเก่าอะไรตั้งนาน เขาก็มาตอบว่า นั้นดิ
ก็จริงนะตอนนี้นั้งทำงานสบายๆ ก็โชคดีมั้งที่ได้แฟนสายเปย์แบบนี้ ก็คงดีกว่าผมจริงๆแหละเขาอาจจะโชคดีแล้วก็ได้

ขนาดอยู่เฉยๆแล้วนะ สงสัยจะด้านจริงๆแล้วละตอนนี้

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เชื่อเหอะ พอคุณสร้างบ้านเสร็จเขาจะกลับมาหาคุณแน่นอน จำคำเราไว้นะคะ

พอถึงตอนนั้นคุณอย่าใจอ่อนก็แล้วกัน ผญ เขาแค่ใช้คุณเป็นทางผ่านให้ชีวิตเขาดีขึ้น พอวันนึงเขาลืมตาอ้าปากได้ เขาพร้อมจะไปจากคุณเสมอ
ความคิดเห็นที่ 2
ถือว่าโชคดีมากแล้วครับ ที่ไม่ต้องแต่งกับคนบ้านนี้ พอกันทั้งแม่และลูก แค่จะบีบคุณให้ไปให้พ้นทางแค่นั้นเอง พอเห็นอะไรดีกว่าก็ไปเลย ชาติที่แล้วคงทำบุญมาดีที่ไม่ต้องอยู่กับคนแบบนี้ไปตลอดชีวิต ไม่ต้องเสียค่าสินสอดค่างานแต่ง แค่พูดเรื่องนี้ก็เห็นสันดานกันเลย

รู้เห็นเป็นใจกันทั้งแม่และลูก ไปวัด ทำบุญล้างซวยครับ เดี๋ยวชีวิตก็ได้เจอคนดีๆเข้ามาครับ โปร์ไฟล์คุณไม่ได้แย่เลย
ความคิดเห็นที่ 1
จขกท.โชคดีแล้วค่ะ
ความคิดเห็นที่ 4
ตลกอีกอย่างคือบรรดาเพื่อนๆเขาบอกว่าดีแล้วจะเอาแฟนจนๆอยู่ทำไม แฟนใหม่เป็นลูกหลานคนรวย ทำงานออฟฟิสสบายๆไม่ต้องเหนื่อยทำก๋วยเตี๋ยวอีกแล้ว เพื่อนๆก็พากันอิจฉาที่ได้แฟนใหม่ ดีใจด้วยที่เอาผมออกจากชีวิตได้ แต่คงลืมไปว่า ตัวเองก่อนทำร้านก๋วยเตี๋ยว เคยมีเงินเหลือกินแค่เดือนละ 6000 ผมเองก็พาไปกิน พาไปหาที่ขายใหม่ พาไปหาเพื่อนสอนทำขนมให้ดีกว่าเดิมจนขายได้ดี ถ้าไม่มีผมตัวเองก็ทำได้แค่นั้นกลับลืมไปละว่าตัวเองเคยลำบากแบบใหน อะไรจะลืมง่ายจัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่