ทริปนี้เกิดจากไปคุยอวดแม่ตอนไปเที่ยวลุยเดี่ยวซาปา-ฮานอยมา ว่าตอนนั่งกระเช้าวิวสวยมาก แล้วแกก็บ่นเบาๆมาว่า"อยากนั่งกระเช้าเที่ยวจัง" บวกกับน้องที่ทำงานเปรยๆ อยากเที่ยวฮอยอันด้วย เลยนึกได้ว่ามีอีกที่ของเวียดนามมีกระเช้าที่ได้ชื่อว่ายาวที่สุดในโลกตั้งที่ "ดานัง" งั้นรอไรล่ะครับ....ตั้งทริปปป
รุ่งขึ้นอีกวันหาตั๋วเครื่องเลย มาลงตัวทั้งราคาและเวลาเดินทางที่ Airasia ราคาคนละ 3,009 บาท หลังจากนั้นจองที่พักบนบานาฮิลล์ซึ่งจะมีของ รร.เมอร์เคียวอยู่รายเดียวบนนั้นซึ่งเราจองแบบ Family Bunk 4 เตียงต่อห้อง เพราะไปกัน 8 คนตกคนละ 1200 นิดๆ โดยเคเบิลที่จะไปบานาฮิลล์จะมี 2 ส่วนเราจะต้องเอาใบจอง รร ไปซื้อที่ล้อบบี้ รร เท่านั้น ซึ่งเลยขึ้นไปตามป้าย รร เมอร์เคียวไปยังส่วนต้อนรับ ส่วนด้านล่างจะเป็นของลูกค้าทั่วไปราคาจะอยู่ที่ 728,000 ดอง แต่ราคาลูกค้า รร อยู่ที่ 450,000 ดอง โดยเพิ่งปรับขึ้นเมื่อเม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนที่พักฮอยอันเราเลือกพักติดกับ Night market กับเมืองเก่าเลย สะดวกออกเที่ยวดี และที่ดานังก่อนกลับเราพัก รร ติดกับแม่น้ำฮ่านใกล้สะพานมังกรเพื่อชมวิวเมืองก่อนกลับไทย ใกล้สนามบินด้วย
---แปลนทริป---
---แลกเงิน--- ผมแลกเงินดอลลาร์เฉพาะไปซื้อซิมกับติดตัวไว้เล็กน้อย หลักๆก็เงินดอง
และวันที่เราเดินทางมาถึง --- วันแรก --- สนามบินดอนเมือง - ดานัง
เมื่อเรามาถึงสนามบินดานัง สิ่งแรกที่หาคือ ซิมที่ใช้ในเวียดนามที่มีราคาเดียว 8 ดอลลาร์ ส่วนใครที่จะแลกเงินให้ออกมานอกสนามบินแล้วเลี้ยวซ้ายจะมีจุดแลกเงินหลายสถาบันอยู่
การเดินทางที่นี่เราใช้ Grab taxi เป็นหลักเพราะป้องกันการถูกโก่งราคาจากแท็กซี่ทั่วไป หลังจากนั้นบอกให้แท็กซี่พาไปส่งล้อบบี้เมอร์เคียว ย้ำ!! ว่าล้อบบี้ รร เมอร์เคียวนะครับ ไม่งั้นเขาจะมาส่งสถานีเคเบิลด้านล่างที่เป็นลูกค้าทั่วไป ทำไมถึงเตือน ติดตามครับ
ระหว่างนั่งแท็กซี่ชมวิวเนิบๆ ตามกฏหมายควบคุมความเร็ว สักพักแท็กซี่แวะให้เราลงไปซื้อตั๋วเคเบิลระหว่างทางที่เหมือนเขาจะดิวกับร้านไว้ อย่าไปเออออตามร้านเด็ดขาด เพราะเขาจะโน้มน้าวว่าต้องซื้อที่นี่เท่านั้น เถียงสักพักเขาคงรู้ว่าเราไม่เอาแน่ จึงปล่อยผมไป จากนั้นผมกำชับแท็กซี่ว่าให้ส่งถึงบันไดล้อบบี้ รร เลย
ผมกับครอบครัวมาถึงล้อบบี้สักพักก็สงสัยว่ารถอีกคันที่สมาชิกนั่งมาไม่ถึงสักที จึงโทรหาจึงรู้ว่าโดนส่งไว้ที่สถานีข้างล่างทั้งที่เพื่อนก็บอกว่าส่ง รร พอดี พง.รร สงสัยถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผมบอกว่าเพื่อนอีกกลุ่มอยู่ด้านล่างซึ่งก็ไกลอยู่ เขาจึงจัดรถไฟฟ้าของ รร พาผมไปรับเพื่อนกลุ่มนั้น เห็นหน้าป็บก็บ่นกันใหญ่ 55
จากนั้นเอาใบจอง รร ไปรับกุญแจห้องและซื้อตั๋วเคเบิลกัน เลทสะโก!!
ระหว่างทางนั่งกระเช้าเราก็ชมวิวสวยๆ ยาวกันไปตลอด 5 กม. ซึ่งดูเหมือนคุณแม่จะถูกใจสุดๆ
เมื่อมาถึงยอดเขาบานาฮิลล์ก็มีหมอกเย็นๆมาตอนรับพวกเรา ไม่น่าเชื่อว่าหน้าร้อน(จัดๆๆ) จะมีหมอกฟุ้งๆให้หายร้อนได้
พอเราลงจากกระเช้าเราก็ตะลึงกับฝูงคลื่นมหาชนก่อนเพื่อนเลย เพราะเป็นช่วงเกือบเที่ยงจำนวนนักท่องเที่ยวกำลังพีค
แต่เราไม่สนใจ เพราะหลังห้าโมงเย็นผู้คนเหล่านี้จะบางตาลงเองและเหลือแต่ นทท ที่เป็นแขกของ รร อยู่บนนี้เท่านั้น เราค่อยออกมาหลั่นล้าให้สบายใจทีหลัง เลยไม่รอช้าที่จะเช็คอินห้องพักแต่ไม่สามรถเข้าพักได้เนื่องจากต้องเข้าหลังบ่ายสอง จึงฝากกระเป๋าเลาะแทรกฝูงชนหาอะไรลงกระเพาะไปพลางๆ และพวกเราก็ไปตกลงกินบุฟเฟ่ต์คนละ 250,000 ดอง ไลน์อาหารเขาก็มีให้เลือกมากมายจริงๆ แต่อย่าไปคาดหวังรสชาติอะไรมากนัก
พอถึงเวลาเข้าห้องพักก็แยกย้ายกันพักผ่อน แต่แม่ผมอยากออกเที่ยวมากกว่า ห้าโมงคนเริ่มซาจึงชวนผมกับน้องไปเดินเที่ยวและเล่นครื่องเล่นซึ่งมีหลากหลายให้เล่นฟรีเยอะมาก แบบเสียเงินก็มีนะ (พวกผมเมินครับ) พวกเราเล่นมันทุกอย่าง แม่นี่เล่นลืมอายุไปเลย อิอิ
เราเล่นกันจนถึงทุ่มนึงได้เวลาสวนสนุกปิด เราก็เดินชมวิวบานาฮิลล์ยามค่ำคืนที่น้อยผู้คนกัน
สักสองทุ่มกว่าๆ เราใช้พลังงานไปกับการเล่นสวนสนุกและเดินเล่นก็เริ่มหิว ที่นี่ร้านรวงปิดเร็วมากตอนแรกเล็ง Beer plaza ไว้ถ้ากินตอนนี้ก็คงไม่คุ้มกับค่าบุฟเฟ่ต์ 350,000 ดอง เลยเปลี่ยนทิศไปหากินอาหารแบบจานที่ราคาแพงพอประมาณแต่เขาให้เยอะมากกก รสชาติโอเคเลย กินเท่าไรก็ไม่ยักหมด แล้วพากันเดินอืดกลับห้องพักอาบน้ำนอนเก็บแรงไว้วันต่อไป
---วันสอง--- บานาฮิลล์ - ฮอยอัน
ผมตื่นแต่เช้ามืดเพื่อรีบออกมาเก็บวิวบานาฮิลล์โล่งๆ พร้อมอากาศแสนเย็นสบายกับหมอกแรกของวัน จากนั้นก็เก็บของเล่นที่เหลือที่ยังไม่ได้เล่นจนถึงเวลาเช็คเอาท์
และความตั้งใจที่พลาดไม่ได้กับวิวสะพาน Golden bridge ยามไม่มีผู้คนล้นหลาม
เมื่อถึงเวลากลับตอนแรกจะเรียกแกรบ 2 คัน พอดีพง.รร เสนอรถตู้แบบสิบที่นั่งให้ซึ่งถูกกว่าแกรบอีกแถมนั่งโล่งสบายเลยตัดสินใจตอนนั้นนั่งรถมาฮอยอัน นั่งหลับๆตื่นๆ พักใหญ่กับวิถีกฏจราจรต๊ะตอนยอนมาถึงพี่พักฮอยอันพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าของ รร ที่พักมาแต่ไกล เมื่อจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็ไม่รอช้าออกสำรวจเมืองฮอยอันช่วงบ่าย ขอบอกว่าอากาศเมืองไทยเมือง พ.ค. ที่ว่าร้อนมากแล้วที่นี่ร้อนกว่ามาก แต่เมื่อมาเที่ยวแล้วเราไม่ท้อครับ และผู้คนมากจริงๆ ซี่งไม่เหลือเค้าความสงบของเมืองเก่าแสนเรียบง่ายเลย ผมจึงเก็บความอยากมีภาพแสนสงบของเมืองเก่าตอนเดินเล่นเช้ามืดดีกว่า
--ป้าคนนี้เขาหัวการค้าดีครับ 50,000 ดองกับค่ารูปหาบผลไม้ของเขา
บริการสามล้อถีบชมเมืองก็ได้บรรยากาศอีกแบบ
---วันสาม--- ฮอยอัน - ดานัง
ผมตื่นเกือบหกโมงเช้าเพื่อออกมาเดินเล่นเก็บมุมสวยงามของเมืองฮอยอันจริงๆ และก็ไม่ผิดหวัง
รอยยิ้ม 1 ดอลล่าร์
อาหารทะเลที่นี่ดูสดและตัวใหญ่ๆทั้งนั้น
มาเวียดนามแล้วก็ต้องสัมผัสไฮไลต์อีกอย่าง คือ กาแฟเวียดนาม ก็เริ่มปฏิบัติการส่องร้านที่โอเคที่สุด
จนมาจบที่ร้านนี้ที่ได้ทั้งดื่มกาแฟเลิศรสและได้เก็บภาพเมืองเก่าไปในตัวด้วย
หลังจากเสพเมืองฮอยอันและช้อปปิ้งกันสาแก่ใจแล้วเราก็กลับ รร เพื่อเช็คเอ้าท์เดินทางไปดานังต่อ
--เดินเล่นชมเมืองดานังไปเจอโบสถ์สีชมพู
--วิวริมแม่น้ำฮ่าน ดานังยามเย็น
และมื้อเย็นสุดท้ายก่อนกลับ เราขอจัดหนักกับซีฟู้ดสดๆ ให้เต็มคราบ โดยงานนี้ผมขอให้แม่ช่วยทำน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆติดตัวมาด้วย และก็ไม่ผิดหวังเพราะน้ำจิ้มที่นี่ไม่ถึงใจเลยจริงๆ
เมื่ออิ่มหนำกับมื้อเย็นแล้วเราก็กลับที่พักเพื่อเตรียมตัวกันกลับสนามบินพรุ่งนี้แต่เช้า
--- วันสุดท้าย --- ดานัง - สนามบินดานัง
ก็ยังมีเรื่องตื่นเต้นส่งท้ายอีกเมื่อเราเรียกแกรบ ซึ่งเรียกไปนานมากดูที่แอพก็เห็นแล้วว่ารถอยู่ใกล้ๆ แต่ทำไมไม่จอดที่เราจะขึ้น ยกเลิกแล้วเรียกคันใหม่ก็เหมือนเดิม รอจนเกือบชม. แย่แล้ว ใกล้หมดเวลาเช็คอินสนามบิน สุดท้ายมีคนขับแกรบมาทักแล้วให้เราขึ้นรถเขาไปสนามบินทันแบบฉิวเฉียด
สรุปค่าใช้จ่ายต่อคนทริปนี้ ยกเว้นค่าใช้จ่ายส่วนตัว, ค่าของฝาก
1. ค่าเครืองบินไปกลับ 3,009 บาท
2. ค่าที่พักเมอร์เคียวบานาฮิลล์ 1,247 บาท
3. ค่าที่พักฮอยอัน 330 บาท
4.ค่าที่พักดานัง 402 บาท
5. ค่าแกรบ + รถตู้เหมา + ค่าธรรมเนียม Grab สนามบินไปกลับ 350 บาท
6.ค่าซิม 256 บาท
7. ค่าอาหาร,เครื่องดื่ม (เรากินแต่ร้านอาหารเลยสูงนิดหน่อย) 2,400 บาท
8. ค่าเคเบิ้ล 620 บาท แต่เราไปในช่วงโปรพอดี ไป 8 จ่าย 4 เหลือคนละ 310 บาท
รวมแล้วอยู่ที่ประมาณคนละ
8,300 กว่าบาท
--- ทริปสนอง need คุณแม่และน้องที่ทำงานจบลงโดยสวัสดิภาพแล้วคร้าบ ---
[CR] ผุดทริป ดานัง-ฮอยอัน เพราะแม่บ่น"อยากนั่งกระเช้าเที่ยวจัง"
รุ่งขึ้นอีกวันหาตั๋วเครื่องเลย มาลงตัวทั้งราคาและเวลาเดินทางที่ Airasia ราคาคนละ 3,009 บาท หลังจากนั้นจองที่พักบนบานาฮิลล์ซึ่งจะมีของ รร.เมอร์เคียวอยู่รายเดียวบนนั้นซึ่งเราจองแบบ Family Bunk 4 เตียงต่อห้อง เพราะไปกัน 8 คนตกคนละ 1200 นิดๆ โดยเคเบิลที่จะไปบานาฮิลล์จะมี 2 ส่วนเราจะต้องเอาใบจอง รร ไปซื้อที่ล้อบบี้ รร เท่านั้น ซึ่งเลยขึ้นไปตามป้าย รร เมอร์เคียวไปยังส่วนต้อนรับ ส่วนด้านล่างจะเป็นของลูกค้าทั่วไปราคาจะอยู่ที่ 728,000 ดอง แต่ราคาลูกค้า รร อยู่ที่ 450,000 ดอง โดยเพิ่งปรับขึ้นเมื่อเม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนที่พักฮอยอันเราเลือกพักติดกับ Night market กับเมืองเก่าเลย สะดวกออกเที่ยวดี และที่ดานังก่อนกลับเราพัก รร ติดกับแม่น้ำฮ่านใกล้สะพานมังกรเพื่อชมวิวเมืองก่อนกลับไทย ใกล้สนามบินด้วย
---แปลนทริป---
---แลกเงิน--- ผมแลกเงินดอลลาร์เฉพาะไปซื้อซิมกับติดตัวไว้เล็กน้อย หลักๆก็เงินดอง
และวันที่เราเดินทางมาถึง --- วันแรก --- สนามบินดอนเมือง - ดานัง
เมื่อเรามาถึงสนามบินดานัง สิ่งแรกที่หาคือ ซิมที่ใช้ในเวียดนามที่มีราคาเดียว 8 ดอลลาร์ ส่วนใครที่จะแลกเงินให้ออกมานอกสนามบินแล้วเลี้ยวซ้ายจะมีจุดแลกเงินหลายสถาบันอยู่
การเดินทางที่นี่เราใช้ Grab taxi เป็นหลักเพราะป้องกันการถูกโก่งราคาจากแท็กซี่ทั่วไป หลังจากนั้นบอกให้แท็กซี่พาไปส่งล้อบบี้เมอร์เคียว ย้ำ!! ว่าล้อบบี้ รร เมอร์เคียวนะครับ ไม่งั้นเขาจะมาส่งสถานีเคเบิลด้านล่างที่เป็นลูกค้าทั่วไป ทำไมถึงเตือน ติดตามครับ
ระหว่างนั่งแท็กซี่ชมวิวเนิบๆ ตามกฏหมายควบคุมความเร็ว สักพักแท็กซี่แวะให้เราลงไปซื้อตั๋วเคเบิลระหว่างทางที่เหมือนเขาจะดิวกับร้านไว้ อย่าไปเออออตามร้านเด็ดขาด เพราะเขาจะโน้มน้าวว่าต้องซื้อที่นี่เท่านั้น เถียงสักพักเขาคงรู้ว่าเราไม่เอาแน่ จึงปล่อยผมไป จากนั้นผมกำชับแท็กซี่ว่าให้ส่งถึงบันไดล้อบบี้ รร เลย
ผมกับครอบครัวมาถึงล้อบบี้สักพักก็สงสัยว่ารถอีกคันที่สมาชิกนั่งมาไม่ถึงสักที จึงโทรหาจึงรู้ว่าโดนส่งไว้ที่สถานีข้างล่างทั้งที่เพื่อนก็บอกว่าส่ง รร พอดี พง.รร สงสัยถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผมบอกว่าเพื่อนอีกกลุ่มอยู่ด้านล่างซึ่งก็ไกลอยู่ เขาจึงจัดรถไฟฟ้าของ รร พาผมไปรับเพื่อนกลุ่มนั้น เห็นหน้าป็บก็บ่นกันใหญ่ 55
จากนั้นเอาใบจอง รร ไปรับกุญแจห้องและซื้อตั๋วเคเบิลกัน เลทสะโก!!
ระหว่างทางนั่งกระเช้าเราก็ชมวิวสวยๆ ยาวกันไปตลอด 5 กม. ซึ่งดูเหมือนคุณแม่จะถูกใจสุดๆ
เมื่อมาถึงยอดเขาบานาฮิลล์ก็มีหมอกเย็นๆมาตอนรับพวกเรา ไม่น่าเชื่อว่าหน้าร้อน(จัดๆๆ) จะมีหมอกฟุ้งๆให้หายร้อนได้
พอเราลงจากกระเช้าเราก็ตะลึงกับฝูงคลื่นมหาชนก่อนเพื่อนเลย เพราะเป็นช่วงเกือบเที่ยงจำนวนนักท่องเที่ยวกำลังพีค
แต่เราไม่สนใจ เพราะหลังห้าโมงเย็นผู้คนเหล่านี้จะบางตาลงเองและเหลือแต่ นทท ที่เป็นแขกของ รร อยู่บนนี้เท่านั้น เราค่อยออกมาหลั่นล้าให้สบายใจทีหลัง เลยไม่รอช้าที่จะเช็คอินห้องพักแต่ไม่สามรถเข้าพักได้เนื่องจากต้องเข้าหลังบ่ายสอง จึงฝากกระเป๋าเลาะแทรกฝูงชนหาอะไรลงกระเพาะไปพลางๆ และพวกเราก็ไปตกลงกินบุฟเฟ่ต์คนละ 250,000 ดอง ไลน์อาหารเขาก็มีให้เลือกมากมายจริงๆ แต่อย่าไปคาดหวังรสชาติอะไรมากนัก
พอถึงเวลาเข้าห้องพักก็แยกย้ายกันพักผ่อน แต่แม่ผมอยากออกเที่ยวมากกว่า ห้าโมงคนเริ่มซาจึงชวนผมกับน้องไปเดินเที่ยวและเล่นครื่องเล่นซึ่งมีหลากหลายให้เล่นฟรีเยอะมาก แบบเสียเงินก็มีนะ (พวกผมเมินครับ) พวกเราเล่นมันทุกอย่าง แม่นี่เล่นลืมอายุไปเลย อิอิ
เราเล่นกันจนถึงทุ่มนึงได้เวลาสวนสนุกปิด เราก็เดินชมวิวบานาฮิลล์ยามค่ำคืนที่น้อยผู้คนกัน
สักสองทุ่มกว่าๆ เราใช้พลังงานไปกับการเล่นสวนสนุกและเดินเล่นก็เริ่มหิว ที่นี่ร้านรวงปิดเร็วมากตอนแรกเล็ง Beer plaza ไว้ถ้ากินตอนนี้ก็คงไม่คุ้มกับค่าบุฟเฟ่ต์ 350,000 ดอง เลยเปลี่ยนทิศไปหากินอาหารแบบจานที่ราคาแพงพอประมาณแต่เขาให้เยอะมากกก รสชาติโอเคเลย กินเท่าไรก็ไม่ยักหมด แล้วพากันเดินอืดกลับห้องพักอาบน้ำนอนเก็บแรงไว้วันต่อไป
---วันสอง--- บานาฮิลล์ - ฮอยอัน
ผมตื่นแต่เช้ามืดเพื่อรีบออกมาเก็บวิวบานาฮิลล์โล่งๆ พร้อมอากาศแสนเย็นสบายกับหมอกแรกของวัน จากนั้นก็เก็บของเล่นที่เหลือที่ยังไม่ได้เล่นจนถึงเวลาเช็คเอาท์
และความตั้งใจที่พลาดไม่ได้กับวิวสะพาน Golden bridge ยามไม่มีผู้คนล้นหลาม
เมื่อถึงเวลากลับตอนแรกจะเรียกแกรบ 2 คัน พอดีพง.รร เสนอรถตู้แบบสิบที่นั่งให้ซึ่งถูกกว่าแกรบอีกแถมนั่งโล่งสบายเลยตัดสินใจตอนนั้นนั่งรถมาฮอยอัน นั่งหลับๆตื่นๆ พักใหญ่กับวิถีกฏจราจรต๊ะตอนยอนมาถึงพี่พักฮอยอันพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าของ รร ที่พักมาแต่ไกล เมื่อจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็ไม่รอช้าออกสำรวจเมืองฮอยอันช่วงบ่าย ขอบอกว่าอากาศเมืองไทยเมือง พ.ค. ที่ว่าร้อนมากแล้วที่นี่ร้อนกว่ามาก แต่เมื่อมาเที่ยวแล้วเราไม่ท้อครับ และผู้คนมากจริงๆ ซี่งไม่เหลือเค้าความสงบของเมืองเก่าแสนเรียบง่ายเลย ผมจึงเก็บความอยากมีภาพแสนสงบของเมืองเก่าตอนเดินเล่นเช้ามืดดีกว่า
--ป้าคนนี้เขาหัวการค้าดีครับ 50,000 ดองกับค่ารูปหาบผลไม้ของเขา
บริการสามล้อถีบชมเมืองก็ได้บรรยากาศอีกแบบ
---วันสาม--- ฮอยอัน - ดานัง
ผมตื่นเกือบหกโมงเช้าเพื่อออกมาเดินเล่นเก็บมุมสวยงามของเมืองฮอยอันจริงๆ และก็ไม่ผิดหวัง
รอยยิ้ม 1 ดอลล่าร์
อาหารทะเลที่นี่ดูสดและตัวใหญ่ๆทั้งนั้น
มาเวียดนามแล้วก็ต้องสัมผัสไฮไลต์อีกอย่าง คือ กาแฟเวียดนาม ก็เริ่มปฏิบัติการส่องร้านที่โอเคที่สุด
จนมาจบที่ร้านนี้ที่ได้ทั้งดื่มกาแฟเลิศรสและได้เก็บภาพเมืองเก่าไปในตัวด้วย
หลังจากเสพเมืองฮอยอันและช้อปปิ้งกันสาแก่ใจแล้วเราก็กลับ รร เพื่อเช็คเอ้าท์เดินทางไปดานังต่อ
--เดินเล่นชมเมืองดานังไปเจอโบสถ์สีชมพู
--วิวริมแม่น้ำฮ่าน ดานังยามเย็น
และมื้อเย็นสุดท้ายก่อนกลับ เราขอจัดหนักกับซีฟู้ดสดๆ ให้เต็มคราบ โดยงานนี้ผมขอให้แม่ช่วยทำน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บๆติดตัวมาด้วย และก็ไม่ผิดหวังเพราะน้ำจิ้มที่นี่ไม่ถึงใจเลยจริงๆ
เมื่ออิ่มหนำกับมื้อเย็นแล้วเราก็กลับที่พักเพื่อเตรียมตัวกันกลับสนามบินพรุ่งนี้แต่เช้า
--- วันสุดท้าย --- ดานัง - สนามบินดานัง
ก็ยังมีเรื่องตื่นเต้นส่งท้ายอีกเมื่อเราเรียกแกรบ ซึ่งเรียกไปนานมากดูที่แอพก็เห็นแล้วว่ารถอยู่ใกล้ๆ แต่ทำไมไม่จอดที่เราจะขึ้น ยกเลิกแล้วเรียกคันใหม่ก็เหมือนเดิม รอจนเกือบชม. แย่แล้ว ใกล้หมดเวลาเช็คอินสนามบิน สุดท้ายมีคนขับแกรบมาทักแล้วให้เราขึ้นรถเขาไปสนามบินทันแบบฉิวเฉียด
สรุปค่าใช้จ่ายต่อคนทริปนี้ ยกเว้นค่าใช้จ่ายส่วนตัว, ค่าของฝาก
1. ค่าเครืองบินไปกลับ 3,009 บาท
2. ค่าที่พักเมอร์เคียวบานาฮิลล์ 1,247 บาท
3. ค่าที่พักฮอยอัน 330 บาท
4.ค่าที่พักดานัง 402 บาท
5. ค่าแกรบ + รถตู้เหมา + ค่าธรรมเนียม Grab สนามบินไปกลับ 350 บาท
6.ค่าซิม 256 บาท
7. ค่าอาหาร,เครื่องดื่ม (เรากินแต่ร้านอาหารเลยสูงนิดหน่อย) 2,400 บาท
8. ค่าเคเบิ้ล 620 บาท แต่เราไปในช่วงโปรพอดี ไป 8 จ่าย 4 เหลือคนละ 310 บาท
รวมแล้วอยู่ที่ประมาณคนละ 8,300 กว่าบาท
--- ทริปสนอง need คุณแม่และน้องที่ทำงานจบลงโดยสวัสดิภาพแล้วคร้าบ ---
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้