ในกรณีเราได้นำโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
ไปจดนำนองกับนายทุน 3 คน และ ขายให้นายทุนคนที่ 4
- เริ่มจากจำนอง กับนายทุน คนที่ 1
- เปลี่ยนมือมาจำนอง คนที่ 2 -3 - 4 ตามลำดับ ซึ่ง เปลี่ยนกันผลัดมือจำนองกัน เป็นพรรคพวกเดียวกัน
หลังจากนั้นจะขอวงเพิ่มกับนายทุนคนที่ 4 เพื่อมาใช้ในการทำธุรกิจ
แต่นายทุนคนที่ 4 ไม่รับจำนอง เพราะยอดที่จดจำนองสูง แต่ให้ทำการขายให้และตีราคามาให้ และ ได้ยื่นขอเสนอว่าให้ทำสัญญาจะซื้อขาย เพื่อนำเอกสารไปขอยื่นกู้ธนาคาร และมีค่ารอเวลาต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละ 100,000 บาท ราคาซื้อขาย ณ กรมที่ดิน 4,600,000 ทางเราก็ได้ไปโอนกรรมสิทธิ์ แต่ได้รับเงินเพียง 3,500,000 ถูกแบ่งออกเป็น 2 ใบที่นายทุนตีเช็ค สั่งจ่าย ปลดจำนอง นายทุนคนที่ 3 ยอด 2,318,750 และ ยอดจำนวนเงิน 1,181,250 สั่งจ่ายเป็นเช็คเงินสด ระบุชื่อ นายทุน คนที่ 4 แต่ได้รับเงินสด 700,000 บาท ซึ่งหัก
1. ค่าธรรมเนียมการโอน 181,250 บาท
2. ค่ารอทำธุรกรรม ขอสินเชื่อธนาคาร 3 เดือน ตั้งแต่เดือน เมษายน - มิถุนายน 2561
หลังจากที่โอนกรรมสิทธิ์ วันที่ 2 เมษายน 2561 ได้จัดทำสัญญาจะซื้อจะขาย ครั้งที่ 1 เพื่อจะนำไปขอสินเชื่อกับทางธนาคาร จำนวนเงิน 5,600,000 ภายใน วันที่ 2 ธันวาคม 2561 และสัญญาฉบับนี้ได้หมดอายุ จึงได้ต่อสัญญาใหม่
- ครั้งที่ 2 วันที่ 29 เมษายน 2562 ได้จัดทำสัญญาจะซื้อจะขาย ครั้งที่ 2 เพื่อจะนำไปขอสินเชื่อกับทางธนาคาร จำนวนเงิน 8,000,000 ภายใน วันที่ 1 กรกฎาคม 2562
และในเดือนกรกฎาคม 2561 = โอนเงินเข้าบัญชีนายทุน คนที่ 4 100,000 บาท
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ชำระค่าดอกเบี้ย (ค่ารอเวลาขอสินเชื่อกับธนาคาร )
จนกระทั่ง ประมาณธันวาคม 2561 นายทุนคนที่ 4 แจ้งว่า ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 100,000 แล้ว
ให้ทำสัญญาเช่าบ้าน เดือนละ 50,000 มีกำหนดการเช่า 6 เดือน ตั้งแต่ 2 ธันวาคม 2561 - 2 พฤษภาคม 2562 และในวันที่ 30 เมษายน 2562 ได้รับโนติส จากสำนักกฎหมาย ว่าให้ขนย้ายออก ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
จากรายละเอียดในข้างต้น
1. สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ไหม ดูเหมือนมีเจตนาจะนำสินทรัพย์ไปเป็นของตน หรือเจตนาอื่นแอบแฝง
2. นายทุนคนที่ 3-4 เป็นพรรคพวกกันเอง
3. จากยอดซื้อขายจริงกับกรมที่ดิน 4.6 ล้าน แต่ได้รับเงินจริงไม่ถึง สามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพราะมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินจริง สามารถฟ้องได้ไหม
4. จากเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ต้องกลายมาเป็นผู้เช่า
5. จากสัญญาซื้อขายจะซื้อขายกลับยอด 5,600,000 กับ 8,000,000 เป็นเพียงตัวเลขที่ทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อขอสินเชื่อกับทางธนาคาร แต่ราคาซื้อคืนจริงตกลงกันด้วยวาจา
6.มีสิทธิ์จะได้คืนไหม
ปรึกษากฎหมาย โอนโฉนดให้นายทุนหัวหมอ
ไปจดนำนองกับนายทุน 3 คน และ ขายให้นายทุนคนที่ 4
- เริ่มจากจำนอง กับนายทุน คนที่ 1
- เปลี่ยนมือมาจำนอง คนที่ 2 -3 - 4 ตามลำดับ ซึ่ง เปลี่ยนกันผลัดมือจำนองกัน เป็นพรรคพวกเดียวกัน
หลังจากนั้นจะขอวงเพิ่มกับนายทุนคนที่ 4 เพื่อมาใช้ในการทำธุรกิจ
แต่นายทุนคนที่ 4 ไม่รับจำนอง เพราะยอดที่จดจำนองสูง แต่ให้ทำการขายให้และตีราคามาให้ และ ได้ยื่นขอเสนอว่าให้ทำสัญญาจะซื้อขาย เพื่อนำเอกสารไปขอยื่นกู้ธนาคาร และมีค่ารอเวลาต้องเสียดอกเบี้ยเดือนละ 100,000 บาท ราคาซื้อขาย ณ กรมที่ดิน 4,600,000 ทางเราก็ได้ไปโอนกรรมสิทธิ์ แต่ได้รับเงินเพียง 3,500,000 ถูกแบ่งออกเป็น 2 ใบที่นายทุนตีเช็ค สั่งจ่าย ปลดจำนอง นายทุนคนที่ 3 ยอด 2,318,750 และ ยอดจำนวนเงิน 1,181,250 สั่งจ่ายเป็นเช็คเงินสด ระบุชื่อ นายทุน คนที่ 4 แต่ได้รับเงินสด 700,000 บาท ซึ่งหัก
1. ค่าธรรมเนียมการโอน 181,250 บาท
2. ค่ารอทำธุรกรรม ขอสินเชื่อธนาคาร 3 เดือน ตั้งแต่เดือน เมษายน - มิถุนายน 2561
หลังจากที่โอนกรรมสิทธิ์ วันที่ 2 เมษายน 2561 ได้จัดทำสัญญาจะซื้อจะขาย ครั้งที่ 1 เพื่อจะนำไปขอสินเชื่อกับทางธนาคาร จำนวนเงิน 5,600,000 ภายใน วันที่ 2 ธันวาคม 2561 และสัญญาฉบับนี้ได้หมดอายุ จึงได้ต่อสัญญาใหม่
- ครั้งที่ 2 วันที่ 29 เมษายน 2562 ได้จัดทำสัญญาจะซื้อจะขาย ครั้งที่ 2 เพื่อจะนำไปขอสินเชื่อกับทางธนาคาร จำนวนเงิน 8,000,000 ภายใน วันที่ 1 กรกฎาคม 2562
และในเดือนกรกฎาคม 2561 = โอนเงินเข้าบัญชีนายทุน คนที่ 4 100,000 บาท
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ชำระค่าดอกเบี้ย (ค่ารอเวลาขอสินเชื่อกับธนาคาร )
จนกระทั่ง ประมาณธันวาคม 2561 นายทุนคนที่ 4 แจ้งว่า ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 100,000 แล้ว
ให้ทำสัญญาเช่าบ้าน เดือนละ 50,000 มีกำหนดการเช่า 6 เดือน ตั้งแต่ 2 ธันวาคม 2561 - 2 พฤษภาคม 2562 และในวันที่ 30 เมษายน 2562 ได้รับโนติส จากสำนักกฎหมาย ว่าให้ขนย้ายออก ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
จากรายละเอียดในข้างต้น
1. สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้ไหม ดูเหมือนมีเจตนาจะนำสินทรัพย์ไปเป็นของตน หรือเจตนาอื่นแอบแฝง
2. นายทุนคนที่ 3-4 เป็นพรรคพวกกันเอง
3. จากยอดซื้อขายจริงกับกรมที่ดิน 4.6 ล้าน แต่ได้รับเงินจริงไม่ถึง สามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพราะมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินจริง สามารถฟ้องได้ไหม
4. จากเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ต้องกลายมาเป็นผู้เช่า
5. จากสัญญาซื้อขายจะซื้อขายกลับยอด 5,600,000 กับ 8,000,000 เป็นเพียงตัวเลขที่ทำเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อขอสินเชื่อกับทางธนาคาร แต่ราคาซื้อคืนจริงตกลงกันด้วยวาจา
6.มีสิทธิ์จะได้คืนไหม