คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ฮื่มมมมม กำลังขึ้น ปี 1 จริงๆหรออออ ทำไมดูรู้เยอะจัง วิชานั้น วิชานี้ 5555+
เชียร์ให้เรียนเมเจอร์พืชสวนประดับครับ เพราะ วิชาเพาะเห็ด กับ ปลูกผักไฮโดรฯ น้องสามารถไปลงเรียนเพิ่ม เป็นวิชาเสรีได้นะครับ
เรียนเพาะเห็ดที่เมเจอร์พืชผัก และ เรียนผักไฮโดรฯ ที่สาขาดินและปุ๋ย หรือจะแวะไปช่วย ไปดูงานเพื่อนๆที่พืชผักได้เวลาเขาทำผักไฮโดรฯ
แต่เรื่องดอกไม้ กับ กล้วยไม้เนี้ย เป็นวิชาเอก ไม่เปิดรับคนนอกสาขาวิชา จึงไม่มีสอนที่ไหนอีกแล้วนะ 5555+
ยังไงก็ลง "วิชาเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช" เอาไว้ด้วยนะ สนุก และ จำเป็นสำหรับพื้นฐาน
พอลงเรียน วิชานอกสาขา กับต่างเมเจอร์แล้ว ก็ทำคะแนนวิชานั้นๆให้ดีๆ ตั้งใจฝึกภาคปฏิบัติเยอะๆให้มีประสบการณ์จริง ถ่ายรูป ถ่ายผลงาน เอาไปใช้โชว์ตอนสมัครงานได้ ว่าถึงจะเป็นเด็กสวนประดับ แต่เคยเรียนด้านอื่นๆมา เกรดดี มีผลงาน
นอกจากวิชาดอกไม้ กล้วยไม้ แล้วนั้น เมเจอร์พืชสวประดับยังมี วิชาจัดสวน เป็นหนึ่งในวิชาเอก สวยงามไปอีก ไม่รู้ว่าน้องจะชอบไหม ออกแบบสวน จัดสวน ดูแปลนแบบบ้าน สร้างสวนสวยงามให้เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยและตัวบ้าน อะไรทำนองนี้ ศิลปะไม่ต้องเป๊ะ แค่วาดวงกลมได้กับตีเส้นด้วยไม้บรรทัดได้ก็รอดแล้ว
แต่เอาจริง นอกจากเรื่องของความชอบ มันยังเกี่ยวข้องกับ เคมี ระหว่างเรากับอาจารย์อีกด้วย แต่เชื่อว่าถ้าเราคิดแง่บวกอยู่แล้ว ยังไงก็เข้ากับอาจารย์ทุกท่านได้ ใจดีทุกสาขา ... ส่วนเรื่องเพื่อน อย่าให้มีผลมากในการเลือกสาขาวิชา เพราะอนาคตเราไม่ได้อยู่ที่เพื่อน ทำตัวเป็นคนดี คบไว้หลากหลาย ปี 2 หาเพิ่มได้อยู่แล้ว ถ้าเพื่อนกลุ่มเดิมอยู่ต่างเมเจอร์ ตอนเย็นก็ยังนัดไปกินหมูทะได้ ดีไม่ดี เพื่อนสนิทไปอยู่ไม้ผล เรียกมาช่วยขึ้นแปลงได้ด้วยนะ ไม้ผลไม่มีแปลงให้ขึ้น มีแต่ปีนต้นไม้ แถมเราจะไปปีนต้นไม้ช่วยเพื่อนไม้ผลก็ไม่ได้ 55555+ อาจารย์เขาไม่ยอม กำไรเห็นๆ > <
แต่ทั้งนี้ก็ค่อยๆคิดได้นะ ไม่ต้องรีบ ปี 1 ลงฟาร์มเวียนไปครบสามเมเจอร์ จะได้เห็นของจริงบางส่วน เก็บไปตัดสินใจ
การลงเรียนแบบที่แนะนำไป หลายคนมองว่า จับฉ่าย บางคนจึงลงเรียนเฉพาะวิชาในเมเจอร์ตัวเอง ซึ่งมันไม่ผิดเพราะเขามีเป้าหมายแบบนั้น ถ้าเรามีเป้าหมายที่แตกต่าง มันก็เป็นแนวคิดของเราที่ไม่ผิดเลยเช่นกัน ... อีกทั้ง มันเรียกว่า วิชาเสรี แปลว่าลงได้เลยตามใจคุณ มาอยู่มหาวิทยาลัยทั้งที อย่าเอาความรู้ด้านเดียวกลับไป และ วิชาเสรี แปลว่า เสรีจร้า จะลงเท่าไรก็ได้ ถ้าตารางเรียนเราไม่เต็มไปซ่ะก่อน หรือ เงินค่าลงวิชาเรียนมันแพงเกิน จึงไม่ลง ก็ว่ากันอีกที
รับน้องโหดนะ รับพร้อมกันทั้งมหาวิทยาลัยอะ สู้ๆละกัน แม่โจ้เน้นนักปฏิบัติที่สู้งาน มันจึงเป็นคติและที่มาต่างๆนานาของการรับน้องสุดหฤหรรษ์ แล้วพอขึ้นปี 2 ก็จะพบว่า วิชาฟาร์ม และวิชาเอกอื่นๆ ล้วนใช้ความมานะ พลังงาน กลางแดด ฝน และมันต้อง สู้ ทน จริงๆ สิ่งที่ทำให้เราอยู่ตรงนั้นไหว ไม่ใช่แค่ร่างกายที่พร้อม แต่คือ ทัษนะคติ คือ แนวคิดที่ดีที่รู้ว่า เรากำลังเรียนเพื่อไปเป็นเกษตรกร ไปเป็นผู้ที่มีความรู้จริง และทำจริงๆได้
เรื่องการรับน้อง ถ้ามันไม่ใช่คำสั่งให้ทำอะไรน่าเกลียดหรือทุเรศ ก็ทำเถอะ พี่เขาสั่งให้เราไปเหนื่อย เกินขีดสุด นึกแล้วยังโมโหรุ่นพี่อยู่เลย แต่สรุปคือ เราก็ทำได้นี่หว่า ถ้ากลัวหรือท้อใจอะไร จับมือเพื่อนข้างๆไว้ เขาก็อาจจะรู้สึกเหมือนเราและกลายเป็นการให้กำลังใจกันไป
เชียร์ให้เรียนเมเจอร์พืชสวนประดับครับ เพราะ วิชาเพาะเห็ด กับ ปลูกผักไฮโดรฯ น้องสามารถไปลงเรียนเพิ่ม เป็นวิชาเสรีได้นะครับ
เรียนเพาะเห็ดที่เมเจอร์พืชผัก และ เรียนผักไฮโดรฯ ที่สาขาดินและปุ๋ย หรือจะแวะไปช่วย ไปดูงานเพื่อนๆที่พืชผักได้เวลาเขาทำผักไฮโดรฯ
แต่เรื่องดอกไม้ กับ กล้วยไม้เนี้ย เป็นวิชาเอก ไม่เปิดรับคนนอกสาขาวิชา จึงไม่มีสอนที่ไหนอีกแล้วนะ 5555+
ยังไงก็ลง "วิชาเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช" เอาไว้ด้วยนะ สนุก และ จำเป็นสำหรับพื้นฐาน
พอลงเรียน วิชานอกสาขา กับต่างเมเจอร์แล้ว ก็ทำคะแนนวิชานั้นๆให้ดีๆ ตั้งใจฝึกภาคปฏิบัติเยอะๆให้มีประสบการณ์จริง ถ่ายรูป ถ่ายผลงาน เอาไปใช้โชว์ตอนสมัครงานได้ ว่าถึงจะเป็นเด็กสวนประดับ แต่เคยเรียนด้านอื่นๆมา เกรดดี มีผลงาน
นอกจากวิชาดอกไม้ กล้วยไม้ แล้วนั้น เมเจอร์พืชสวประดับยังมี วิชาจัดสวน เป็นหนึ่งในวิชาเอก สวยงามไปอีก ไม่รู้ว่าน้องจะชอบไหม ออกแบบสวน จัดสวน ดูแปลนแบบบ้าน สร้างสวนสวยงามให้เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยและตัวบ้าน อะไรทำนองนี้ ศิลปะไม่ต้องเป๊ะ แค่วาดวงกลมได้กับตีเส้นด้วยไม้บรรทัดได้ก็รอดแล้ว
แต่เอาจริง นอกจากเรื่องของความชอบ มันยังเกี่ยวข้องกับ เคมี ระหว่างเรากับอาจารย์อีกด้วย แต่เชื่อว่าถ้าเราคิดแง่บวกอยู่แล้ว ยังไงก็เข้ากับอาจารย์ทุกท่านได้ ใจดีทุกสาขา ... ส่วนเรื่องเพื่อน อย่าให้มีผลมากในการเลือกสาขาวิชา เพราะอนาคตเราไม่ได้อยู่ที่เพื่อน ทำตัวเป็นคนดี คบไว้หลากหลาย ปี 2 หาเพิ่มได้อยู่แล้ว ถ้าเพื่อนกลุ่มเดิมอยู่ต่างเมเจอร์ ตอนเย็นก็ยังนัดไปกินหมูทะได้ ดีไม่ดี เพื่อนสนิทไปอยู่ไม้ผล เรียกมาช่วยขึ้นแปลงได้ด้วยนะ ไม้ผลไม่มีแปลงให้ขึ้น มีแต่ปีนต้นไม้ แถมเราจะไปปีนต้นไม้ช่วยเพื่อนไม้ผลก็ไม่ได้ 55555+ อาจารย์เขาไม่ยอม กำไรเห็นๆ > <
แต่ทั้งนี้ก็ค่อยๆคิดได้นะ ไม่ต้องรีบ ปี 1 ลงฟาร์มเวียนไปครบสามเมเจอร์ จะได้เห็นของจริงบางส่วน เก็บไปตัดสินใจ
การลงเรียนแบบที่แนะนำไป หลายคนมองว่า จับฉ่าย บางคนจึงลงเรียนเฉพาะวิชาในเมเจอร์ตัวเอง ซึ่งมันไม่ผิดเพราะเขามีเป้าหมายแบบนั้น ถ้าเรามีเป้าหมายที่แตกต่าง มันก็เป็นแนวคิดของเราที่ไม่ผิดเลยเช่นกัน ... อีกทั้ง มันเรียกว่า วิชาเสรี แปลว่าลงได้เลยตามใจคุณ มาอยู่มหาวิทยาลัยทั้งที อย่าเอาความรู้ด้านเดียวกลับไป และ วิชาเสรี แปลว่า เสรีจร้า จะลงเท่าไรก็ได้ ถ้าตารางเรียนเราไม่เต็มไปซ่ะก่อน หรือ เงินค่าลงวิชาเรียนมันแพงเกิน จึงไม่ลง ก็ว่ากันอีกที
รับน้องโหดนะ รับพร้อมกันทั้งมหาวิทยาลัยอะ สู้ๆละกัน แม่โจ้เน้นนักปฏิบัติที่สู้งาน มันจึงเป็นคติและที่มาต่างๆนานาของการรับน้องสุดหฤหรรษ์ แล้วพอขึ้นปี 2 ก็จะพบว่า วิชาฟาร์ม และวิชาเอกอื่นๆ ล้วนใช้ความมานะ พลังงาน กลางแดด ฝน และมันต้อง สู้ ทน จริงๆ สิ่งที่ทำให้เราอยู่ตรงนั้นไหว ไม่ใช่แค่ร่างกายที่พร้อม แต่คือ ทัษนะคติ คือ แนวคิดที่ดีที่รู้ว่า เรากำลังเรียนเพื่อไปเป็นเกษตรกร ไปเป็นผู้ที่มีความรู้จริง และทำจริงๆได้
เรื่องการรับน้อง ถ้ามันไม่ใช่คำสั่งให้ทำอะไรน่าเกลียดหรือทุเรศ ก็ทำเถอะ พี่เขาสั่งให้เราไปเหนื่อย เกินขีดสุด นึกแล้วยังโมโหรุ่นพี่อยู่เลย แต่สรุปคือ เราก็ทำได้นี่หว่า ถ้ากลัวหรือท้อใจอะไร จับมือเพื่อนข้างๆไว้ เขาก็อาจจะรู้สึกเหมือนเราและกลายเป็นการให้กำลังใจกันไป
แสดงความคิดเห็น
พืชสวนแม่โจ้ ขึ้นปี2จะเลือกเรียนอะไรดี?
ขอเกริ่นก่อนนะคะ ว่ากำลังจะขึ้นปี1เลยตื่นเต้นนิดหน่อย555 ที่ จขกท.เลือกเรียนเกษตร พืนสวน เพราะว่าชอบทางด้านนี้มากค่ะ เอาจริงๆนี้อยากเรียนทั้งสามเมเจอร์นี้เลยนะคะ ตอนแรกๆคิดไว้ว่าอยากเรียนพืชสวนประดับเพราะว่าอยากทำงานในโครงการหลวง ชอบเกี่ยวกับดอกไม้ กล้วยไม้อะไรแบบนี้ค่ะ แต่คิดดูอีกทีก็อยากจะทำธุรกิจเกี่ยวกับผักไฮโดรโปนิกส์หรือเพาะเห็ดด้วยค่ะก็เลยอยากจะเรียนพืชผักอีกแล้ว555
.
.
#อยากทราบว่าอันไหนสายงานเยอะกว่ากันคะ แล้วแนวทางประกอบอาชีพของแต่ล้ะสาขามีอะไรบ้าง
รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ ><'