เรื่องราวของคนแอบชอบ PR ร้านเหล้า

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ ตัวผมเองไม่เคยเขียนกระทู้ลงในพันทิพย์มาก่อน ปกติแล้วแค่พูดยังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง แต่วันนี้จะลองมาอธิบายความรู้สึกที่มีผ่านทางตัวหนังสือดูซักครั้ง ถ้าผมเรียบเรียงคำพูดไม่เข้าใจหรือว่ามีพิมผิดไปบ้างผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยนะครับ ผมขออนุญาตเข้าเรื่องเลยละกัน ปกติผมจะเป็นคนไม่ค่อยได้ไปนั่งดื่มในร้านที่มี PR ซักเท่าไหร่ ส่วนมากถ้าไม่ใช่เพื่อนๆชวนกันไปสังสรรหรือว่าที่ออฟฟิตพากันไปเมาหัวทิ่ม ผมก็มักจะไม่ได้เข้าร้านจำพวกนี้เลย แต่ถ้าพูดถึง PR ตามร้านเหล้าหรือผับ ผมก็พบเจอมาไม่น้อย น่ารักบ้าง สวยบ้าง แต่ไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับ PR เหล่านั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว ก็แค่พูดคุยกันตามปกติ พอร้านปิดก็แยกย้ายไปตามทางตัวเอง แต่เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับผม ผมดันไปรุ้สึกชอบ PR คนนึงโดยที่ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมอยู่ดีๆ ถึงรู้สึกชอบน้องเค้าได้ขนาดนี้ รู้ตัวอีกทีผมก็นั่งพิมให้เพื่อนๆได้รับฟังเรื่องราวของผมแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า วันนั้นเป็นวันเสาร์ ในเดือน พ.ค. นี่เหละครับ ผมกับพี่ๆที่ทำงานตกลงปลงใจกันว่า คืนนี้เราไปดื่มกันดีกว่า แล้วก็ได้เลือกร้านกันเรียบร้อย ณ เวลานัดหมายประมาณ สามทุ่มครึ่งผมกับน้องที่ทำงานรวม 2 คน มาถึงที่ร้านก่อน ซึ่งตัวร้านเองจะติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลย บรรยากาศดีมาก ในร้านจะแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าใครอยากจะนั่งชิวๆบรรยากาศสบายๆก็จะต้องโทรเข้ามาจองที่ร้านก่อน ส่วนที่สองจะเป็นส่วนของผับ แน่นอนละครับวัยรุ่นเต็ม เสียงเพลงดัง เต้นกันกระจาย ส่วนที่สามจะเป็นโต๊ะนั่งธรรมดาๆ ไม่ติดแม่น้ำ ไม่มีคนเต้นข้างๆ แต่ซึ่งเรื่องที่ผมพบเจอนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ พอผมเดินเข้าที่โต๊ะปุ๊ป ตูดยังไม่ทันสัมผัสกับเก้าอี้ ก็มีน้องผู้ชายรูปร่างเล็กแนะนำเมนูอาหารและเครื่องดื่ม ผมก็สั่งอาหารและเครื่องดื่มตามปกติ บอกก่อนว่าตั้งแต่เดินเข้าร้านมา PR 10 คน ในความคิดผม ผมว่าน่ารักเกินครึ่ง แต่เนื่องจากผมไม่ได้สนใจ PR แต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วผมก้เลยมองแค่ผ่านๆเท่านั้น ทันใดนั้นเองก็มีน้อง PR คนนึงเข้ามาชงเหล้าให้โต๊ะผม น้องผู้ชายก็แนะนำว่า น้องเค้าชื่อ .... พึ่งจะมาทำงานวันแรก ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร แค่จำได้จากการมองผ่านแว๊ปๆ ได้ใจความว่า น้องเค้าใส่ชุดสีขาวผมสั้นแค่นั้นเอง  น้องเค้าก็ชงเหล้าให้โต๊ะผม พอน้องเค้าชงแก้วของผมเสร็จ น้องเค้าก็พูดกับผมว่า เบาๆนะค่ะไม่เข้มมาก แต่พอผมจิบอึกแรกเท่านั้นเหละ เชี่ยเอ้ย นี่แมร่งเหล้าเพรียวหรือว่าอะไร ทำไมแมร่งเข้มได้ขนาดนี้ ตัวผมเองเลยหยิบที่คีบน้ำแข็งมาคนอีกซักรอบ แล้วลองจิบอีกครั้ง ปรากฎว่าแมร่งเอ้ยเข้มจริง ผมเลยคิดในใจ ชงแบบนี้แมร่งกะฆ่ากะแกงกันเลยนิหว่า ผมเริ่มรู้สึกไม่ชอบกับวิธีการชงเหล้าแบบนี้ เนื่องจากเหมือนร้านจะให้เรารีบๆกิน รีบๆสั่งใหม่ ซึ่งอันนี้เป็นความคิดส่วนตัวของผมนะครับ ผมเลยเริ่มมองหาน้องเค้าว่าไอคนที่ชงแก้วแรกได้ใจร้ายขนาดนี้น่าตาจะเป็นยังไงกันนะ พอลองกวาดสายตาไปรอบๆร้านประมาณ 30-40 วินาที ผมก็พบเป้าหมาย แต่ปรากฎว่าน้องเค้าได้ไปนั่งกับลูกค้าโต๊ะอื่นเรียบร้อยแล้ว ผมก็คิดซะว่า เออ แมร่งช่างมันเถอะ ไหนๆมาก็เพื่อจะเมาอยุ่ละ -ๆไปอย่าเรื่องมาก หลังจากนั้นไม่นานพี่ที่ออฟฟิตก็เริ่มถยอยกันมา จาก 2 คนเป็น 3 คนจาก 3 คนเป็น 4 คน จนครบแก๊ง พวกผมก้นั่งดื่มกันไปเรื่อยๆ แต่ผมก็ยังแปลกใจตัวเอง เหมือนกับว่าผมรู้สึกถูกใจอะไรก็ไม่รู้ในตัวน้องเค้าทั้งๆที่เจอกันครั้งไม่ถึง 1 นาทีด้วยซ้ำ ผมเลยเริ่มมีความคิดว่าจะชวนน้องมานั่งด้วยกันที่โต๊ะของผม แต่ด้วยอะไรก็แล้วแต่ โตีะลูกค้าที่น้องเค้านั่งอยู่นั้นไม่ยอมปล่อยตัวน้องเค้าออกมาซักที ผมเกริ่นนิดนึงนะครับร้านที่ผมนั่งนั้นเราจะซื้อดริ้งให้ PR ดิ่มได้โดยระยะเวลาที่น้องเค้าจะนั่งอยุ่ที่โต๊ะเรานั้นก็ขึ้นกับว่าเราซื้อดริ้งให้น้องจำนวนเท่าไหร่ จนกระทั้งเวลาประมาณ ห้าทุ่มครึ่งโต๊ะนั่นที่น้องเค้านั่งอยุ่ก็เรียกเก้บเงิน ที่ผมรู้เพราะตลอดเวลาผมจะแอบมองน้องเค้าอยู่ตลอด อันนี้ไม่ได้โรคจิตนะครับ แต่ถ้าคุณแอบชอบใครซักคน ผมว่ามันก็อารมณ์นี้กันทั้งนั้น ผมก็เริ่มคิดในใจ น้องเค้าจะแวะมาทักทายโต๊ะกูไม๊วะ หรือว่าจะไปโต๊ะอื่นต่อ คิดยังไม่ทันไรน้องเค้าก้โผล่ที่โต๊ะผมแล้ว เป้นครั้งแรกที่ผมได้เห็นหน้าน้องเค้าชัดๆ แวีปแรกที่โผล่เข้ามาในความคิดเลยคือ เห้ย แมร่งน่ารักอะไรขนาดนี้วะ เอาจริงๆในสายตาคนอื่นน้องเค้าอาจจะไม่ได้น่ารักอะไร แต่ตอนนั้นผมตกหลุมรักน้องเค้าไปแล้ว ผมเลยชวนน้องเค้านั่งด้วย ซึ่งทีมงานผมก็งงๆ ทำไมวันนี้ไอห่านี่มาแปลกๆเพราะปกติผมไม่เคยเลือก PR เองเลย บางทีเพื่อนเลือกให้บ้าง พี่เลือกให้บ้าง PR มาเกินบ้าง พวกมันก็จะให้มานั่งกับผม ผมก็คิดแค่ว่าเอาหน่ะ เราเฮฮากันได้ก็พอแล้ว ใครจะมานั่งก็นั่ง แต่ครั้งนี้ผมเอ่ยปากชวนน้องเค้าเอง น้องเค้าบอกว่าเค้ามา 2 คนถ้าจะให้นั่งด้วยก็ต้องซื้อดริ้งทั้งสองคนเลย ใจผมกำลังคิดอยู่ว่าแมร่งเอาไงดีวะ ไอเงินเราก็ไม่ได้มีมากมายอะไรขนาดนั้น แต่ปากพูดดันออกไปแล้วว่า โอเครครับ พี่ซื้อดริ้งทั้งสองคนเลย น้องเค้าก็มานั่งข้างๆผม ผมบอกได้เลยว่าผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับ PR คนไหนจริงๆ ผมอยากจะถามเค้าในหลายๆเรื่อง อยากรู้ว่าเค้ามาจากไหน เป้นคนที่ไหน ทำไมถึงมาทำงานที่นี่ได้ ในวันนั้นเราก้ได้แลกไลท์กันเอาไว้ ถึงเวลาร้านปิด เราต่างก็แยกย้ายกันที่ร้านทั้งหมด พอผมกลับมาถึงห้อง ผมเอาแต่คิดว่าถ้าผมมีแฟนเป็น PR จริงๆ ผมจะยอมรับให้น้องเค้าทำงานแบบนี้ต่อไปได้ไม๊ แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้น น้องเค้ารู้สึกยังไงกับผม ผมก็ยังไม่รู้เลย หลังจากวันนั้นผมต้องไปทำงาน ตจว ซึ่งตัวผมเองทำงานด้านวิศวกรรม เงินเดือนก็ไม่ได้มากอะไร น้องเค้าเองรายรับต่อเดือนอาจจะมากกว่าผมด้วยซ้ำ ถ้าเกิดชอบกันขึ้นมาจริงๆ เรื่องรายรับมันจะเป็นปัญหาไม๊ ผมก็มัวแต่คิดอะไรเพ้อเจอไปเรื่อยๆ เหมือนคนที่ตกหลุมรักใครซักคนนั้นเหละครับ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังทักไลท์ไปหาเค้าทุกวัน ก่อนน้องเค้าเข้างานที่ร้านเหล้าที่เราเจอกัน ผมก้จะให้กำลังใจน้องเค้าเสมอ เช่นว่า ถึงร้านรึยัง ไปสายไม๊ ตั้งใจทำงานนะ พอเค้าเลิกงาน ทุกๆเช้าผมจะถามน้องเค้าว่า เมื่อคืนเมามากไม๊ กลับถึงห้องกี่โมง ผมได้แต่ตั้งคำถามกับน้องเค้าแบบนี้ทุกๆวัน ซึ่งผมเองก็ยังไม่ทราบเลยว่าน้องเค้ามีแฟนรึยังหรือว่ารำคานผมรึป่าว ที่ทักไปหาน้องเค้าทุกวี่ทุกวันแบบนี้ หลังจากเหตุการณ์ที่ผมเจอผมเลยคิดเอาเองว่าการทำงานเป็น PR เนี่ย เค้าอาจจะมาตั้งใจทำงานจริงๆ มาเพื่อทำงาน ไม่ได้มาเพื่อที่จะมั่วซั่วกับใคร แต่แล้วมันก็มีเหตุการร์นึงที่ทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไป ทำไมจากที่ผมคิดว่าน้องเค้าคงเป็น PR เรียบร้อยๆที่ตั้งใจมาทำงานจริงๆ แต่สิ่งที่ผมเจอทำให้ความโลกสวยที่ผมมี หายไปทันที ไว้ผมจะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่