เป็นผู้หญิงตัวเล็ก หน้าอกจึงเล็กตามตัว โดนเพื่อนล้อหันหลังให้ทำไม/ขอยืมกระดานไปโต้คลื่นหน่อย ประโยคนี้เราฟังจนชิน ชินแต่ไม่ชา ยังมีความรู้สึก T_T (เศร้าใจจุง )
เราชื่อกุ๊กนะคะ เป็นสาวร่างเล็ก ที่พบเจอกับคำล้อของเพื่อนๆ และคนรอบข้าง
วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ อัพหน้าอกจากไซส์มินิ>>ให้ใหญ่ขึ้น จริงๆ คิดจะทำนานแล้ว แต่ใจนึงก็กลัว
ก็เค้าว่ากันว่า เสริมหน้าอก เจ็บเหมือนโดนสิบล้อทับ หืม++ แค่ได้ยินเราก็รู้สึกแน่นจนหายใจไม่ออก
แต่ที่ทำให้เราตัดสินใจเสริมหน้าอก เพราะงาน เรารับงาน MC-พริตตี้-ประกวดตามเวทีต่างๆ งานมอเตอร์โชว์ เวลาใส่ชุดที่เน้นรูปร่างเราไม่มั่นใจเลย ตัวเล็กแถมไม่มีหน้าอก ยิ่งชุดฟิตเข้ารูป ยิ่งรู้ว่าหน้าอกเล็ก ยัดซิลิโคน ฟองน้ำทิชชู่ สารพัดวิธีก็ไม่เนียน เทียบกับเพื่อนๆ ที่ทำงานและเข้าประกวดด้วยกันเรื่องหน้าอกเราสู้ไม่ได้เลย อกพอตัวเนินอกสวย เค้าเสริมหน้าอกมาหรือเปล่า เราแอบคิดในใจ อีกอย่างเวลาประกวด บางเวทีแนะนำรูปร่าง 31-24-34 เค้าก็รู้กันหมด หน้าอกเรา 31 ตอกย้ำไซส์มินิไปอิ้ก...(T_T)
ตัดสินใจแล้วก็เริ่มหาข้อมูล ขอแบบชัวร์ๆ หมอต้องเก่งและเชี่ยวชาญ ที่สำคัญต้องมีมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของเราค่ะ หาข้อมูลอยู่ประมาณ 3 วัน อ่านรีวิว ดูที่ที่จะไปทำ หาได้ละ รพ.ที่เติบโตมาจากการทำศัลยกรรมตกแต่งจากการเปิดคลินิกแล้วคนไข้ล้น ขยายจนมาเป็นรพ.ใหญ่ รพ.ยันฮีนั่นเอง ชื่อเสียงยาวนานได้มาตรฐานระดับโลก ที่เค้าเรียกว่ามาตรฐาน JCI
ถึงวันที่เดินเข้าไปหาคุณหมอที่รพ.ยันฮี หนูจะเสริมหน้าอกค่ะ
คุณหมอให้คำแนะนำเรื่องการผ่าตัด การวางซิลิโคนไว้ที่ชั้นไหนของหน้าอก ใช้ซิลิโคนชนิดผิวเรียบหรือผิวทรายแบบไหนที่คนนิยมและดี เปิดแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกมีบริเวณไหนบ้าง ข้อดี-ข้อเสียของแต่ละแบบ เพื่อให้เรามีข้อมูลในการเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของเราจริงๆ เพราะแต่ละคนมีข้อจำกัด และเป้าหมายต่างกัน เช่นคนชอบใส่เกาะอก ชอบยกแขน ควรผ่าเปิดแผลตรงไหนไม่ให้เห็นรอยแผล นี่เราได้รู้ลึก รู้จริง รู้ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อนก็วันนี้แหละค่ะ
เราเลือกเสริมหน้าอกขนาด 300 cc ไซส์นี้คุณหมอดูรูปร่างเนื้อเดิมของเต้านมเรา บอกว่าเหมาะสมกับขนาดตัว กำลังสวย ไม่ใหญ่เกินไปจนทำให้ผิวบางหรือเห็นขอบซิลิโคน เป็นชนิดผิวทราย ยี่ห้อ natrelle เลือกผิวทรายเพราะจะเกาะเนื้อเยื่อได้ดีกว่า ดูเป็นธรรมชาติ ลดการหดรัดตัวของพังผืดที่จะเกาะรัดเต้านม เราไม่ต้องนวดหน้าอกบ่อยๆ หลังเสริม อันนี้ดีเพิ่มความรู้ให้เรามากขึ้นไปอีกค่ะ
อ่อ ราคาเสริมหน้าอกที่ยันฮี เริ่มต้นที่ 55,000 บาทค่ะ แต่เราเลือกเสริมซิลิโคนราคา 95,000 บาท (คุณหมอให้เราลองจับซิลิโคนแต่ละแบบ ดูขนาด มีใบ ID การ์ดให้เราดู ว่าซิลิโคนที่ใช้เสริมได้มาตรฐาน ทำให้ความมั่นใจในฝีมือและคุณภาพมามากไปอีกค่ะ)
คุณหมอจะวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ วิธีนี้จะช่วยทำให้เนินหน้าอกลาดลงดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นขอบโค้งตามซิลิโคน เหมาะกับคนตัวเล็กผอมๆ เนื้อผิวหนังบางแบบเรา
เราเลือกเปิดแผลใต้ราวนม เพราะฟื้นตัวเร็ว (รีบหาย รีบไปรับงานชดเชยค่าเสริมหน้าอก555 ^^ ) อีกอย่างดูแลแผลง่าย เพราะเป็นส่วนที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวมาก แต่ข้อเสียก็มีนะคะ อาจจะเห็นรอยแผลง่าย ถ้าหมอกรีดไม่ตรงรอยราวนม เย็บแผลไม่ดี ไม่สวย อันนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือหมอล้วนๆ แต่เรามั่นใจฝีมือหมอ การันตีได้จากคนไข้ที่มากมายผ่านมือหมอยันฮีเป็นส่วนใหญ่ แต่จริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเปิดแผลผ่าตัดตรงไหน ถ้าฝีมือหมอไม่ดี แผลก็ไม่สวยทั้งนั้นค่ะ
ก่อนผ่าเรางดน้ำ งดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน กลืนแต่น้ำลายเลยเรา แต่ถ้าปากแห้งอมน้ำได้นะคะ
วันผ่าตรวจเลือด ตรวจร่างกาย ผลทุกอย่างปกติดี จากนั้นพยาบาลก็ให้น้ำเกลือ ช่วยให้เราหายหิวไปเลยค่ะ นอนให้น้ำเกลือแป๊ปนึง ถึงเวลาพาเราเข้าห้องผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ดมยาสลบและคอยดูแลตลอดระยะเวลาที่ผ่าตัดเพื่อให้เราปลอดภัย ไม่ให้เราตื่นก่อนหรือสลบนานเกินไปค่ะ
จากนั้นประมาณ 3 ชั่วโมงเราก็ฟื้นมาอยู่ห้องพักเรียบร้อย ความรู้สึกแรกคือแน่น ตึง หนักเหมือนมีของทับหน้าอก แต่เป็นความอึดอัด คัดตึงที่ทนได้แค่ไม่สบายตัว (น่าจะเป็นเพราะผ้ารัดหน้าอก และซิลิโคนที่ทำให้ขนาดเต้านมใหญ่ขึ้น^^ ยังไม่ชินกับคัพใหม่ที่ใหญ่ขึ้นค่ะ) เวลาขยับมีเจ็บปวดบ้าง เลยพยายามนอนนิ่งๆ อย่างเดียวในวันแรกที่ทำ555
พยาบาลจะเข้ามาวัดความดันและให้ยาแก้ปวดแก้อักเสบเป็นเวลา แล้วเราก็ทานข้าวได้หลังจากงดอาหารมาหลายชั่วโมง
นอนพักที่โรงพยาบาลแค่วันเดียว ถอดสายน้ำเกลือ พบคุณหมอ คุณหมอเอาผ้าพันหน้าอกออก ปิดแผลด้วย
พลาสเตอร์กันน้ำ แล้วให้เราใส่สปอร์ตบาร์ รับยา แล้วกลับบ้านได้ (ดีใจมาก นับถอยหลังให้เข้าที่เข้าทาง จะได้โชว์อกใหม่เร็วๆ)
คือประทับใจกับการบริการที่ยันฮีมาก ทุกขั้นตอนละเอียด กระจ่าง ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยสุดสุด พี่พยาบาลไปส่งยันขึ้นรถ ส่งยิ้มแล้วร่ำลากัน^^
กลับไปอยู่บ้าน วันที่สอง วันที่สาม ที่เค้าว่าเป็นวันที่จะเจ็บสุดๆ (เค้าไหนอีกไม่รู้) สำหรับเราก็เจ็บนะ แต่ไม่มาก ทนได้ ไม่ได้เจ็บมากมายอะไรค่ะ ถ้าเจ็บก็มียาให้กินแก้ปวด เจ็บก็กินยา นอนพัก เดี๋ยวก็ดีขึ้น เหมือนแผลปกติทั่วไป แค่เวลาจะลุกจะนอนต้องทำช้าๆ หรืออาจมีคนประคองหน่อย
หลังจากอาทิตย์หนึ่งผ่านไปเราก็ลุกนั่งเดินเหินได้สะดวกค่ะ ในระหว่างนี้ก็ใส่สปอร์ตบาร์ทุกวัน รวมถึงตอนนอนด้วย ที่สำคัญหมอบอกห้ามยกของหนักเกิน 2 กิโล เราปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่ยกอะไรเลย (เป็นข้ออ้างให้คนข้างๆ ช่วยถือให้555) เราอาบน้ำได้ตามปกติเพราะคุณหมอแปะสติ๊กเกอร์กันน้ำที่แผลให้ เรื่องอาหารทานได้ทุกอย่าง ที่ต้องยกเว้นไปก่อนก็ของหมักดอง และแอลกอฮอล์
ครบหนึ่งอาทิตย์คุณหมอนัดตรวจ (แอบลุ้นลึกๆ) ทุกอย่างปกติดี ลอกสติ๊กเกอร์ปิดแผลและตัดไหมออกแล้ว หลังจากนั้นคุณหมอจะสอนนวดหน้าอกค่ะ เพื่อให้หน้าอกเราเป็นธรรมชาติมากขึ้น เราเริ่มรู้สึกว่าร่างกายปรับตัวได้มากขึ้นกับหน้าอกใหม่ เริ่มยืดตัวได้ตรง อาการที่เคยรู้สึกเหมือนถูกรัดหรือหนัก คลายลงไปเรื่อยๆ จนเดินได้ตรงตามปกติ
เราหยิบรูปที่ถ่ายก่อนเสริมหน้าอกมาดู เปรียบเทียบกับตอนนี้ที่เสริมหน้าอกแล้ว รู้แบบนี้ทำมาตั้งนานแล้ว เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย สวย ไม่แข็ง ไม่เห็นขอบ ไม่มีรอยแตกลาย เนินอกสโลปลาดลงเป็นธรรมชาติมากๆ ตัดสินใจไม่ผิดที่คิดเสริมและเลือกทำที่ยันฮี นี่คือรูปก่อนเสริมหน้าอกค่ะTT
พอครบสองสัปดาห์เรารับงานเต็มที่ ทำงานยาวต่อกันหลายสิบวัน มีอาการตึงหน้าอกเล็กน้อย แต่รู้สึกดีขึ้นเร็วมาก ตอนแรกแอบกลัวตัวเองจะไม่ไหวแต่ก็ไหว ใส่สปอร์ตบาร์ทุกวัน จนตอนนี้ครบ 2 เดือนแล้วค่ะ รู้สึกสนุกสนานกับการแต่งตัวที่หลากหลาย มั่นใจในการใส่ชุด ไม่ต้องพกซิลิโคนฟองน้ำหรือกระดาษทิชชู่ไว้ที่หน้าอกแล้ว
กลับไปพบคุณหมอดวงกมลที่รพ.ยันฮี อีกครั้ง คุณหมอชมว่าเราดูแลแผลดีมาก ทุกอย่างเป็นปกติดี ไม่รู้สึกเจ็บแล้วตอนนี้ เลิกใส่สปอร์ตบาร์ได้ นวดหน้าอกต่อครบ 3 เดือนก็หยุดได้ เพราะด้วยที่เราเลือกทำซิลิโคนผิวทรายลดการเป็นพังผืดบวกกับที่เราวางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อ ** อันนี้คนที่จะเสริมหน้าอก จำเป็นต้องรู้นะคะ ตอนนี้เราทานของหมักดอง ดื่มแอลกอฮอล์ได้เต็มที่ หลังจากอดมานาน ^^
ส่วนเรื่องรอยแผล หลงเหลือไว้เล็กน้อยมาก แทบมองไม่เห็นถ้าไม่ยกหน้าอกขึ้น แผลสวยเหมือนเป็นรอยมีดคมๆ บาด มองไม่เห็นรอยเย็บ แผลไม่นูน ไม่ช้ำ ไม่ต้องเสียเงินไปลบรอยแผลเป็นเลย (ตอนแรกคิดไว้ว่าถ้าเป็นรอยแผลจะไปทำเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น ประหยัดไปได้อีกค่ะ)
จบแล้วรีวิวเสริมหน้าอก จากคนตัวเล็กอกเล็ก จบด้วยความรู้สึกมีความสุข ที่ตัดสินใจเสริมและเลือกทำที่ยันฮี
ตอนนี้เวลาทำงานใส่ชุดฟิตแค่ไหน ก็มั่นใจในหน้าอกค่ะ แอบชำเลืองมองเพื่อนๆ MC พริตตี้ที่ออกงานด้วยกัน หน้าอกเราก็สวย/ไซส์ได้ ไม่แพ้ใครแล้วค่ะ งานต่อไปเราก็จะเดินสายประกวด จะประกาศสัดส่วนที่เวทีไหน ก็ไม่ช้ำใจแล้วค่ะ
เพื่อนๆ ที่กำลังคิดจะเสริมหน้าอก ต้องหาข้อมูลดีๆ ต้องรู้ว่าเราจะทำอะไร แบบไหน วิธีไหนที่ดีและเหมาะกับมากเราที่สุด เพราะอย่างที่เราบอกตั้งแต่ต้น แต่ละคนมีข้อจำกัด เป้าหมายและความต้องการที่ไม่เหมือนกัน รู้ข้อมูลให้ลึก และครบทุกด้านก็จะยิ่งเป็นประโยชน์กับตัวเราเองค่ะ อีกส่วนหนึ่งหมอที่จะทำให้เรา ก็ต้องให้ข้อมูลอธิบายแนะนำ บอกถึงข้อดี-ข้อเสียทั้งหมด เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ และเพื่อความปลอดภัยของเราด้วยนะคะ ^^
และนี่คือรูปหลังจากทำค่า บอกเลยว่า happy สุดๆ ❤️
[SR] รีวิวเสริมหน้าอกเพื่อคนหน้าอกเล็กโดยเฉพาะ สาวอกไข่ดาว ไม้กระดานเรียกพี่ ห้ามพลาด!!
เราชื่อกุ๊กนะคะ เป็นสาวร่างเล็ก ที่พบเจอกับคำล้อของเพื่อนๆ และคนรอบข้าง
วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ อัพหน้าอกจากไซส์มินิ>>ให้ใหญ่ขึ้น จริงๆ คิดจะทำนานแล้ว แต่ใจนึงก็กลัว
ก็เค้าว่ากันว่า เสริมหน้าอก เจ็บเหมือนโดนสิบล้อทับ หืม++ แค่ได้ยินเราก็รู้สึกแน่นจนหายใจไม่ออก
แต่ที่ทำให้เราตัดสินใจเสริมหน้าอก เพราะงาน เรารับงาน MC-พริตตี้-ประกวดตามเวทีต่างๆ งานมอเตอร์โชว์ เวลาใส่ชุดที่เน้นรูปร่างเราไม่มั่นใจเลย ตัวเล็กแถมไม่มีหน้าอก ยิ่งชุดฟิตเข้ารูป ยิ่งรู้ว่าหน้าอกเล็ก ยัดซิลิโคน ฟองน้ำทิชชู่ สารพัดวิธีก็ไม่เนียน เทียบกับเพื่อนๆ ที่ทำงานและเข้าประกวดด้วยกันเรื่องหน้าอกเราสู้ไม่ได้เลย อกพอตัวเนินอกสวย เค้าเสริมหน้าอกมาหรือเปล่า เราแอบคิดในใจ อีกอย่างเวลาประกวด บางเวทีแนะนำรูปร่าง 31-24-34 เค้าก็รู้กันหมด หน้าอกเรา 31 ตอกย้ำไซส์มินิไปอิ้ก...(T_T)
ตัดสินใจแล้วก็เริ่มหาข้อมูล ขอแบบชัวร์ๆ หมอต้องเก่งและเชี่ยวชาญ ที่สำคัญต้องมีมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของเราค่ะ หาข้อมูลอยู่ประมาณ 3 วัน อ่านรีวิว ดูที่ที่จะไปทำ หาได้ละ รพ.ที่เติบโตมาจากการทำศัลยกรรมตกแต่งจากการเปิดคลินิกแล้วคนไข้ล้น ขยายจนมาเป็นรพ.ใหญ่ รพ.ยันฮีนั่นเอง ชื่อเสียงยาวนานได้มาตรฐานระดับโลก ที่เค้าเรียกว่ามาตรฐาน JCI
ถึงวันที่เดินเข้าไปหาคุณหมอที่รพ.ยันฮี หนูจะเสริมหน้าอกค่ะ
คุณหมอให้คำแนะนำเรื่องการผ่าตัด การวางซิลิโคนไว้ที่ชั้นไหนของหน้าอก ใช้ซิลิโคนชนิดผิวเรียบหรือผิวทรายแบบไหนที่คนนิยมและดี เปิดแผลผ่าตัดเสริมหน้าอกมีบริเวณไหนบ้าง ข้อดี-ข้อเสียของแต่ละแบบ เพื่อให้เรามีข้อมูลในการเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของเราจริงๆ เพราะแต่ละคนมีข้อจำกัด และเป้าหมายต่างกัน เช่นคนชอบใส่เกาะอก ชอบยกแขน ควรผ่าเปิดแผลตรงไหนไม่ให้เห็นรอยแผล นี่เราได้รู้ลึก รู้จริง รู้ในสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อนก็วันนี้แหละค่ะ
เราเลือกเสริมหน้าอกขนาด 300 cc ไซส์นี้คุณหมอดูรูปร่างเนื้อเดิมของเต้านมเรา บอกว่าเหมาะสมกับขนาดตัว กำลังสวย ไม่ใหญ่เกินไปจนทำให้ผิวบางหรือเห็นขอบซิลิโคน เป็นชนิดผิวทราย ยี่ห้อ natrelle เลือกผิวทรายเพราะจะเกาะเนื้อเยื่อได้ดีกว่า ดูเป็นธรรมชาติ ลดการหดรัดตัวของพังผืดที่จะเกาะรัดเต้านม เราไม่ต้องนวดหน้าอกบ่อยๆ หลังเสริม อันนี้ดีเพิ่มความรู้ให้เรามากขึ้นไปอีกค่ะ
อ่อ ราคาเสริมหน้าอกที่ยันฮี เริ่มต้นที่ 55,000 บาทค่ะ แต่เราเลือกเสริมซิลิโคนราคา 95,000 บาท (คุณหมอให้เราลองจับซิลิโคนแต่ละแบบ ดูขนาด มีใบ ID การ์ดให้เราดู ว่าซิลิโคนที่ใช้เสริมได้มาตรฐาน ทำให้ความมั่นใจในฝีมือและคุณภาพมามากไปอีกค่ะ)
คุณหมอจะวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อ วิธีนี้จะช่วยทำให้เนินหน้าอกลาดลงดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นขอบโค้งตามซิลิโคน เหมาะกับคนตัวเล็กผอมๆ เนื้อผิวหนังบางแบบเรา
เราเลือกเปิดแผลใต้ราวนม เพราะฟื้นตัวเร็ว (รีบหาย รีบไปรับงานชดเชยค่าเสริมหน้าอก555 ^^ ) อีกอย่างดูแลแผลง่าย เพราะเป็นส่วนที่ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหวมาก แต่ข้อเสียก็มีนะคะ อาจจะเห็นรอยแผลง่าย ถ้าหมอกรีดไม่ตรงรอยราวนม เย็บแผลไม่ดี ไม่สวย อันนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือหมอล้วนๆ แต่เรามั่นใจฝีมือหมอ การันตีได้จากคนไข้ที่มากมายผ่านมือหมอยันฮีเป็นส่วนใหญ่ แต่จริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเปิดแผลผ่าตัดตรงไหน ถ้าฝีมือหมอไม่ดี แผลก็ไม่สวยทั้งนั้นค่ะ
ก่อนผ่าเรางดน้ำ งดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน กลืนแต่น้ำลายเลยเรา แต่ถ้าปากแห้งอมน้ำได้นะคะ
วันผ่าตรวจเลือด ตรวจร่างกาย ผลทุกอย่างปกติดี จากนั้นพยาบาลก็ให้น้ำเกลือ ช่วยให้เราหายหิวไปเลยค่ะ นอนให้น้ำเกลือแป๊ปนึง ถึงเวลาพาเราเข้าห้องผ่าตัด วิสัญญีแพทย์ดมยาสลบและคอยดูแลตลอดระยะเวลาที่ผ่าตัดเพื่อให้เราปลอดภัย ไม่ให้เราตื่นก่อนหรือสลบนานเกินไปค่ะ
จากนั้นประมาณ 3 ชั่วโมงเราก็ฟื้นมาอยู่ห้องพักเรียบร้อย ความรู้สึกแรกคือแน่น ตึง หนักเหมือนมีของทับหน้าอก แต่เป็นความอึดอัด คัดตึงที่ทนได้แค่ไม่สบายตัว (น่าจะเป็นเพราะผ้ารัดหน้าอก และซิลิโคนที่ทำให้ขนาดเต้านมใหญ่ขึ้น^^ ยังไม่ชินกับคัพใหม่ที่ใหญ่ขึ้นค่ะ) เวลาขยับมีเจ็บปวดบ้าง เลยพยายามนอนนิ่งๆ อย่างเดียวในวันแรกที่ทำ555
พยาบาลจะเข้ามาวัดความดันและให้ยาแก้ปวดแก้อักเสบเป็นเวลา แล้วเราก็ทานข้าวได้หลังจากงดอาหารมาหลายชั่วโมง
นอนพักที่โรงพยาบาลแค่วันเดียว ถอดสายน้ำเกลือ พบคุณหมอ คุณหมอเอาผ้าพันหน้าอกออก ปิดแผลด้วย
พลาสเตอร์กันน้ำ แล้วให้เราใส่สปอร์ตบาร์ รับยา แล้วกลับบ้านได้ (ดีใจมาก นับถอยหลังให้เข้าที่เข้าทาง จะได้โชว์อกใหม่เร็วๆ)
คือประทับใจกับการบริการที่ยันฮีมาก ทุกขั้นตอนละเอียด กระจ่าง ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยสุดสุด พี่พยาบาลไปส่งยันขึ้นรถ ส่งยิ้มแล้วร่ำลากัน^^
กลับไปอยู่บ้าน วันที่สอง วันที่สาม ที่เค้าว่าเป็นวันที่จะเจ็บสุดๆ (เค้าไหนอีกไม่รู้) สำหรับเราก็เจ็บนะ แต่ไม่มาก ทนได้ ไม่ได้เจ็บมากมายอะไรค่ะ ถ้าเจ็บก็มียาให้กินแก้ปวด เจ็บก็กินยา นอนพัก เดี๋ยวก็ดีขึ้น เหมือนแผลปกติทั่วไป แค่เวลาจะลุกจะนอนต้องทำช้าๆ หรืออาจมีคนประคองหน่อย
หลังจากอาทิตย์หนึ่งผ่านไปเราก็ลุกนั่งเดินเหินได้สะดวกค่ะ ในระหว่างนี้ก็ใส่สปอร์ตบาร์ทุกวัน รวมถึงตอนนอนด้วย ที่สำคัญหมอบอกห้ามยกของหนักเกิน 2 กิโล เราปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่ยกอะไรเลย (เป็นข้ออ้างให้คนข้างๆ ช่วยถือให้555) เราอาบน้ำได้ตามปกติเพราะคุณหมอแปะสติ๊กเกอร์กันน้ำที่แผลให้ เรื่องอาหารทานได้ทุกอย่าง ที่ต้องยกเว้นไปก่อนก็ของหมักดอง และแอลกอฮอล์
ครบหนึ่งอาทิตย์คุณหมอนัดตรวจ (แอบลุ้นลึกๆ) ทุกอย่างปกติดี ลอกสติ๊กเกอร์ปิดแผลและตัดไหมออกแล้ว หลังจากนั้นคุณหมอจะสอนนวดหน้าอกค่ะ เพื่อให้หน้าอกเราเป็นธรรมชาติมากขึ้น เราเริ่มรู้สึกว่าร่างกายปรับตัวได้มากขึ้นกับหน้าอกใหม่ เริ่มยืดตัวได้ตรง อาการที่เคยรู้สึกเหมือนถูกรัดหรือหนัก คลายลงไปเรื่อยๆ จนเดินได้ตรงตามปกติ
เราหยิบรูปที่ถ่ายก่อนเสริมหน้าอกมาดู เปรียบเทียบกับตอนนี้ที่เสริมหน้าอกแล้ว รู้แบบนี้ทำมาตั้งนานแล้ว เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย สวย ไม่แข็ง ไม่เห็นขอบ ไม่มีรอยแตกลาย เนินอกสโลปลาดลงเป็นธรรมชาติมากๆ ตัดสินใจไม่ผิดที่คิดเสริมและเลือกทำที่ยันฮี นี่คือรูปก่อนเสริมหน้าอกค่ะTT
พอครบสองสัปดาห์เรารับงานเต็มที่ ทำงานยาวต่อกันหลายสิบวัน มีอาการตึงหน้าอกเล็กน้อย แต่รู้สึกดีขึ้นเร็วมาก ตอนแรกแอบกลัวตัวเองจะไม่ไหวแต่ก็ไหว ใส่สปอร์ตบาร์ทุกวัน จนตอนนี้ครบ 2 เดือนแล้วค่ะ รู้สึกสนุกสนานกับการแต่งตัวที่หลากหลาย มั่นใจในการใส่ชุด ไม่ต้องพกซิลิโคนฟองน้ำหรือกระดาษทิชชู่ไว้ที่หน้าอกแล้ว
กลับไปพบคุณหมอดวงกมลที่รพ.ยันฮี อีกครั้ง คุณหมอชมว่าเราดูแลแผลดีมาก ทุกอย่างเป็นปกติดี ไม่รู้สึกเจ็บแล้วตอนนี้ เลิกใส่สปอร์ตบาร์ได้ นวดหน้าอกต่อครบ 3 เดือนก็หยุดได้ เพราะด้วยที่เราเลือกทำซิลิโคนผิวทรายลดการเป็นพังผืดบวกกับที่เราวางซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อ ** อันนี้คนที่จะเสริมหน้าอก จำเป็นต้องรู้นะคะ ตอนนี้เราทานของหมักดอง ดื่มแอลกอฮอล์ได้เต็มที่ หลังจากอดมานาน ^^
ส่วนเรื่องรอยแผล หลงเหลือไว้เล็กน้อยมาก แทบมองไม่เห็นถ้าไม่ยกหน้าอกขึ้น แผลสวยเหมือนเป็นรอยมีดคมๆ บาด มองไม่เห็นรอยเย็บ แผลไม่นูน ไม่ช้ำ ไม่ต้องเสียเงินไปลบรอยแผลเป็นเลย (ตอนแรกคิดไว้ว่าถ้าเป็นรอยแผลจะไปทำเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น ประหยัดไปได้อีกค่ะ)
จบแล้วรีวิวเสริมหน้าอก จากคนตัวเล็กอกเล็ก จบด้วยความรู้สึกมีความสุข ที่ตัดสินใจเสริมและเลือกทำที่ยันฮี
ตอนนี้เวลาทำงานใส่ชุดฟิตแค่ไหน ก็มั่นใจในหน้าอกค่ะ แอบชำเลืองมองเพื่อนๆ MC พริตตี้ที่ออกงานด้วยกัน หน้าอกเราก็สวย/ไซส์ได้ ไม่แพ้ใครแล้วค่ะ งานต่อไปเราก็จะเดินสายประกวด จะประกาศสัดส่วนที่เวทีไหน ก็ไม่ช้ำใจแล้วค่ะ
เพื่อนๆ ที่กำลังคิดจะเสริมหน้าอก ต้องหาข้อมูลดีๆ ต้องรู้ว่าเราจะทำอะไร แบบไหน วิธีไหนที่ดีและเหมาะกับมากเราที่สุด เพราะอย่างที่เราบอกตั้งแต่ต้น แต่ละคนมีข้อจำกัด เป้าหมายและความต้องการที่ไม่เหมือนกัน รู้ข้อมูลให้ลึก และครบทุกด้านก็จะยิ่งเป็นประโยชน์กับตัวเราเองค่ะ อีกส่วนหนึ่งหมอที่จะทำให้เรา ก็ต้องให้ข้อมูลอธิบายแนะนำ บอกถึงข้อดี-ข้อเสียทั้งหมด เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ และเพื่อความปลอดภัยของเราด้วยนะคะ ^^
และนี่คือรูปหลังจากทำค่า บอกเลยว่า happy สุดๆ ❤️
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้