Re:อยู่ด้วยกันมาจนจะครบ 50 ปี แล้ว ทำไมถึงอยู่ด้วยกันได้ .../sao..เหลือ..noi
https://ppantip.com/topic/37582353
ครบรอบแต่งงาน 50 ปี เมื่อ 25 เมษายน ...ที่ผ่านมาคุณสามีนอนอยู่บนเตียง
เป็นคนไข้ติดเตียงแบบถาวร ... ก็ยังรู้เรื่องดี เพียงแต่วันนั้นไม่ยอมลุกขึ้นนั่ง หรือหัดยืน
อย่างเคย แล้ว เปลี่ยนจากการให้อาหารทางสายจมูกมาเป็นให้อาหารผ่านหน้าท้อง ...
คนป่วย ก็ดู ไม่เดือดร้อน นอนยิ้มสยาม ยามมีคนมาเยี่ยม ...
ร้องเรียก พี่สาว ... เพื่อบอกว่า "คิดถึง" แบบอ้อน ๆ แต่ครั้งสุดท้ายที่ admit เคยถามคุณหมอ
ว่าเขาจะไม่กลับมาเหมือนเดิมใช่ไหม ? คุณหมอพยักหน้ารับ .... เป็นอันรู้กัน ก็บอกท่านว่าไม่อยาก
ยื้อไว้นะคะ ... คุณหมอบอก ไว้ admit คราวหน้าค่อยคุยกัน
เมื่อมา admit อีกครั้งเมื่อวันที่ 12 ที่ผ่านมา ...วันนั้น พี่สาวแต่งตัวเตรียมไปงานเผาศพตอนเย็น
กำลังปิดคอม. ผช.พยาบาลเชิญไปดูคนป่วยหน่อย ทำไมแขนเขาเกร็งสั่น ไม่มีไข้ ความดันสูงนิดหน่อย
ลองวัดความดันตลอด พักเดียวความดัน ก็สูง มีไข้แบบเฉียบพลัน อาเจียรอาหารทีรับประทานเมื่อ 2 ชม.
ที่แล้วออกมาหมด .. พยาบาลบอก ไปรพ.เถอะค่ะ
เรียกแอมบูแลนซ์มาเลย ถึงห้องฉุกเฉิน หมอตรวจสักพัก ก็บอกน่าจะเข้าห้อง ICU แต่เราก็ปฎิเสธ
ไปแล้ว สรุปเซ็นยืนยันอีกครั้งต้องการรักษา แค่ไหน ....รักษาตามอาการเท่านั้น เป็นไข้ ก็ให้ยาแก้ไข้
เช็ดตัว อาหารไม่ย่อย ก็เปลี่ยนเป็นให้ทางเส้นเลือด ..ให้น้ำเกลือผสมสารอาหาร ในที่สุดคนป่วยก็เริ่ม
หายใจหอบ แล้วก็หมดแรง ชีพจรหยุดไปในที่สุด ....ก่อนหน้าคุณเธอจะหมดลมหายใจ คุณหมอบอก
"คุณลุงกำลังเดินลงบันได ... " คุณลุงเดินลงบันไดมา 2 ปี แล้วนะคะ ยังไม่ถึงพื้นสักที แต่คราวนี้ เดิน
ลงบันไดแค่ 2 คืนเองค่ะ ... เร็วมากเลย
พี่สาวมองว่า เธอจากไปเหมือนใบไม้ร่วง ป่วย stroke เมื่ออายุ 45 ปี มีวินัย มีกำลังใจในการดูแล
รักษาตัวตามคำสั่งคุณหมออย่างเคร่งครัด เขามีชีวิตเหมือนคนปกติทุกอย่าง เมื่อฟื้นตัว เขาขับรถได้ ทำงาน
ได้เหมือนคนปกติ เกือบทุกอย่าง แต่จะให้แข็งแรงเหมือนคนไม่เคยป่วยก็คงไม่ได้ ในที่สุดใบไม้ใบนี้ก็
เริ่มเหี่ยว และร่วงไปในที่สุด ในวัย 80 ปีค่ะ
เมื่อเราต้องพรากจากกัน ....sao..เหลือ..noi
Re:อยู่ด้วยกันมาจนจะครบ 50 ปี แล้ว ทำไมถึงอยู่ด้วยกันได้ .../sao..เหลือ..noi
https://ppantip.com/topic/37582353
ครบรอบแต่งงาน 50 ปี เมื่อ 25 เมษายน ...ที่ผ่านมาคุณสามีนอนอยู่บนเตียง
เป็นคนไข้ติดเตียงแบบถาวร ... ก็ยังรู้เรื่องดี เพียงแต่วันนั้นไม่ยอมลุกขึ้นนั่ง หรือหัดยืน
อย่างเคย แล้ว เปลี่ยนจากการให้อาหารทางสายจมูกมาเป็นให้อาหารผ่านหน้าท้อง ...
คนป่วย ก็ดู ไม่เดือดร้อน นอนยิ้มสยาม ยามมีคนมาเยี่ยม ...
ร้องเรียก พี่สาว ... เพื่อบอกว่า "คิดถึง" แบบอ้อน ๆ แต่ครั้งสุดท้ายที่ admit เคยถามคุณหมอ
ว่าเขาจะไม่กลับมาเหมือนเดิมใช่ไหม ? คุณหมอพยักหน้ารับ .... เป็นอันรู้กัน ก็บอกท่านว่าไม่อยาก
ยื้อไว้นะคะ ... คุณหมอบอก ไว้ admit คราวหน้าค่อยคุยกัน
เมื่อมา admit อีกครั้งเมื่อวันที่ 12 ที่ผ่านมา ...วันนั้น พี่สาวแต่งตัวเตรียมไปงานเผาศพตอนเย็น
กำลังปิดคอม. ผช.พยาบาลเชิญไปดูคนป่วยหน่อย ทำไมแขนเขาเกร็งสั่น ไม่มีไข้ ความดันสูงนิดหน่อย
ลองวัดความดันตลอด พักเดียวความดัน ก็สูง มีไข้แบบเฉียบพลัน อาเจียรอาหารทีรับประทานเมื่อ 2 ชม.
ที่แล้วออกมาหมด .. พยาบาลบอก ไปรพ.เถอะค่ะ
เรียกแอมบูแลนซ์มาเลย ถึงห้องฉุกเฉิน หมอตรวจสักพัก ก็บอกน่าจะเข้าห้อง ICU แต่เราก็ปฎิเสธ
ไปแล้ว สรุปเซ็นยืนยันอีกครั้งต้องการรักษา แค่ไหน ....รักษาตามอาการเท่านั้น เป็นไข้ ก็ให้ยาแก้ไข้
เช็ดตัว อาหารไม่ย่อย ก็เปลี่ยนเป็นให้ทางเส้นเลือด ..ให้น้ำเกลือผสมสารอาหาร ในที่สุดคนป่วยก็เริ่ม
หายใจหอบ แล้วก็หมดแรง ชีพจรหยุดไปในที่สุด ....ก่อนหน้าคุณเธอจะหมดลมหายใจ คุณหมอบอก
"คุณลุงกำลังเดินลงบันได ... " คุณลุงเดินลงบันไดมา 2 ปี แล้วนะคะ ยังไม่ถึงพื้นสักที แต่คราวนี้ เดิน
ลงบันไดแค่ 2 คืนเองค่ะ ... เร็วมากเลย
พี่สาวมองว่า เธอจากไปเหมือนใบไม้ร่วง ป่วย stroke เมื่ออายุ 45 ปี มีวินัย มีกำลังใจในการดูแล
รักษาตัวตามคำสั่งคุณหมออย่างเคร่งครัด เขามีชีวิตเหมือนคนปกติทุกอย่าง เมื่อฟื้นตัว เขาขับรถได้ ทำงาน
ได้เหมือนคนปกติ เกือบทุกอย่าง แต่จะให้แข็งแรงเหมือนคนไม่เคยป่วยก็คงไม่ได้ ในที่สุดใบไม้ใบนี้ก็
เริ่มเหี่ยว และร่วงไปในที่สุด ในวัย 80 ปีค่ะ