ตอนแรกก็ลังเลอยู่นานว่าจะนั่งสายการบินไหนไปเกาหลีดีระหว่างเวียดนามแอร์ไลน์กับ แอร์มาเก๊า แต่ตัวเองก็เคยนั่งเวียดนามแอร์ไลน์แล้ว แล้วก็ทำรีวิวไปแล้วด้วยเหลือแอร์มาเก๊านี่แหละที่ยังไม่เคยนั่งแถมราคาก็ซุปเปอร์เซฟ แถมจะได้ทำรีวิวด้วยเพราะหาอ่านรีวิวสายการบินนี้รูทนี้ไม่ค่อยมี ก็เลยตัดสินใจจองของแอร์มาเก๊าไปถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยล้าเพราะเปลี่ยนเครื่องค่อนข้างนาน แต่ก็ยอมเพราะอยากทำรีวิว ลงทุนป่ะ 555 ตั๋วไป-กลับ เราซื้อในราคา 8,500 บาท

Youtube : https://youtu.be/e8PPNOgc2K4

เราเดินทางออกจากสุวรรณภูมิคืนวันที่ 16 พฤษภาคม เวลา 22.00 น. BKK - MFM (NX881)

มาถึงสนามบินก็สักทุ่มกว่า ๆ เคาท์เคอร์เช็คอินก็เปิดแล้ว เคาท์เตอร์ของแอร์มาเก๊าจะอยู่ที่แถว L


เช็คอินโหลดกระเป๋าแล้วก็จะได้ boarding pass 2 ใบ ส่วน กระเป๋าเราก็ check through ไปรับที่ปลายทางได้เลย


หลังจากผ่าน Immigration แล้วก็ไปที่เกทกันเลยวันนี้หวยออกที่เกท F4 ประมาณ3 ทุ่มครึ่งก็เรียก boarding แล้ววันนี้ตรงเวลานะครับไม่ดีเลย์


เราก็เดินขึ้นเครื่องกันเลย วันนี้ได้ที่นั่งเป็นแถว 8A เป็นแถวแรกเลย แน่นอนว่าแถวแรกต้องนั่งสบายอยู่แล้วเพราะมีพื้นที่กว้างกว่าแถวอื่น ๆ


ไฟลท์นี้ใช้เครื่องบินรุ่น A320 ที่นั่งก็จะเป็น 3-3 แล้วก็ไม่มีจอ แม้แต่จอ over head ก็ไม่มีครับ
ปล.สายการบินแอร์มาเก๊าใช้เครื่องบินลำเล็ก (3-3) หมดนะครับ ไม่มีลำใหญ่เลย


หลังจาก take off ก็ได้เวลาเสิร์ฟอาหารแล้ว คอนแรกก็ลุ้น ๆ อยู่ว่าจะได้เป็นมื้อหนักไหม แต่สรุปก็เสิร์ฟเป็นขนมปังแฮมชีสอุ่น ๆ ครับ แต่ก็เข้าใจได้ครับ เพราะไฟลท์ดึกแล้ว คงจะเสิร์ฟแค่เบา ๆ แต่ขนมปังอร่อยมากนะครับ ก็มาพร้อมกับผลไม้ แล้วก็มีน้ำเปล่ามาเสิร์ฟ


เราใช้เวลาบินทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงนิด ๆ สักประมาณ เกือบ ๆ ตี 2 ก็ลงจองที่สนามบินมาเก๊า เปลี่ยนเครื่องไม่ยากครับ เพราะสนามบินมาเก๊าเล็กมาก เดินตามป้าย transfer ไป ก็จะเจอ security check พอผ่านแล้วก็จะเข้าไปยังเกทเลย


เราจะต้องรอที่นี่ 7 ชั่วโมงกว่าจะได้ขึ้นเครื่องต่อไปที่อินชอน ไฟลท์จากกรุงเทพนี้น่าจะเป็นไฟลท์สุดท้ายแล้วที่บินมาที่มาเก๊า ดึกแบบนี้ร้านอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในเกทก็ปิดหมดแล้ว แต่ยังมี starbucks ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ใครคิดจะไปงีบที่ starbucks ก็เลิกคิดเลยครับเพราะเปิดในร้านเปิดเพลงดังมาก นอนไม่หลับแน่ ๆ 555

ตอนแรกเราก็หาข้อมูลเกี่ยวกับ lounge เพราะตั้ง 7 ชั่วโมงก็อยากเข้าไปพักผ่อน แต่ก็ได้ข้อมูลมาว่า lounge จะปิดบริการตั้งแต่ ตี 2 - ตี 5 ครับ ( lounge ที่เราพูดถึงนี้ ไม่ใช่ lounge ของ business class นะครับ เป็น lounge ทั่ว ๆ ไปที่เราจ่ายเงินเข้าไปใช้บริการได้ แต่จ่ายด้วยบัตรเครดิตเท่านั้นนะครับ ไม่รับเงินสด ทราบมาว่าราว ๆ 200 MOP นะครับ )

ทีนี้เราจะไปนอนที่ไหนดีล่ะ ? ก็มีที่เดียวแหละครับก็คือเก้าอี้นั่งที่หน้าเกทนั่นแหละครับ 555 มีคนนอนเยอะเหมือนกันนะครับ คนที่รอต่อเครื่อง นอนยาว ๆ ไปเลยครับ


สนามบินที่นี่หนาวมาก ใครคิดจะนอนสนามบินเตรียมเสื้อแขนยาวมาใส่ด้วยนะครับ ในเกทก็มีห้องน้ำ มีตู้กดน้ำร้อน/น้ำเย็น ให้ครับ ส่วนผมก็นอนต้องฝืนนอนครับไม่งั้นเป็นซอมบี้แน่ ๆ นอนไปยาว ๆ

พอเช้าก็เริ่มมีคนมาเยอขึ้นแล้ว ไฟลท์ต่อไปของเราคือ MFM – ICN (NX822) เวลาตามตารางคือประมาณ 9 โมงเช้า สัก 8 โมงครึ่งก็เรียก boarding แล้วครับ


ไฟลท์นี้ใช้เครื่องบินรุ่น A320 ที่นั่งของเราคือ 8A เป็น front seat อีกแล้ว แต่อันนี้นั่งไม่สบายเหมือนไฟลท์ก่อนหน้า เพราะไม่มีที่ให้ยืดขา แต่ยังไงพื้นที่ก็กว้างกว่าที่นั่งอื่น ๆ

 

เครื่องบินลำนี้มีจอ over head ให้ด้วย แต่เขาไม่แจกหูฟังให้นะครับ


ไฟลท์นี้ take off ตรงเวลาครับไม่ดีเลย์ หลังจากบินได้สักพักก็ถึงเวลาอาหารเช้า มีให้เลือก 2 เมนูคือ chicken with rice กับ pork with noodle เราเลือกเป็น chicken with rice เป็นเหมือนไก่ curry อ่ะครับ ก็พออกินได้ ก็เสิร์ฟมาพร้อมขนมปังอุ่น แล้วก็มีสลัดมันฝรั่งกับผลไม้ มีคุกกี้ให้ด้วย


ไฟลท์นี้มีเสิร์ฟชา กาแฟ น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ลด้วยครับ


หลังจากที่กินหมดอย่างรวดเร็วเพราะความหิว ตาก็มองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่าคนไม่เต็มไฟลท์ เลยลองขอ pork with noodle เพิ่มดูเผื่อได้ แล้วลูกเรือ ก็เอามาให้ครับ 555 อันนี้รสชาติจืดมาก อาหารจีนชัด ๆ


กินเสร็จก็งีบเลยครับ ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ลงจอดที่สนามบินอินชอนอย่างปลอดภัย