เป็นอีกหนึ่งไอเทมสำหรับคอกาแฟที่อยากจะทำกาแฟทานเองที่บ้านได้ง่ายๆ และรสชาติออกมาเหมือนกับเดินเข้าร้านกาแฟดีๆได้เลย
และที่สำคัญคือไม่ต้องเสียบปลั๊กใช้ไฟฟ้า นั่นหมายถึงว่า นอกจากบ้านตัวเองแล้ว เรายังสามารถเอาเจ้าเครื่องนี้ไปทำกาแฟที่อื่นได้อีกด้วย
วันนี้ผมเลยจะมารีวิววิธีการใช้งานของเจ้าเครื่องทำกาแฟ Flair Espresso รุ่น Signature PRO
เพจหลักของทางแบรนด์ Flair Espresso ส่วนตัวผมซื้อเครื่องนี้มาจากทางร้าน J’coffee mart roasting factory
เริ่มจากรูปร่างหน้าต่างแพคเกจจิ้งคับ
ภายนอกเป็นกล่องกระดาษสกรีนรายละเอียดคร่าวๆ
แกะมาภายในเป็นเคสแข็งกันกระแทก น้ำหนักโดยรวมประมาณ 3 กิโลกรัมคับ
รายละเอียดกล่องดูดีคับ
เปิดมาภายในมีอุปกรณ์ครบเซ็ท
ด้านบนมีแผ่นพับคู่มือ
ในคู่มือเป็นภาษาอังกฤษล้วนคับ พร้อมภาพประกอบ
บอกวิธีการใช้ และไกด์ไลน์ในการทำกาแฟแบบมาตราฐาน
กระจายอุปกรณ์ออกมาก็จะประมาณนี้คับ
เริ่มการใช้งานด้วยการประกอบส่วนฐานเข้ากับคันโยก
ใส่น็อตตามคู่มือ เพื่อความแข็งแรงในการโยกอัด
เช็คด้วยนะคับ ว่าของมาจากที่ไหน
ประกอบแล้วก็จะประมาณนี้คับ
สับโยกขึ้นลงได้
ต่อมาใส่ถาดรองสองแผ่น ไว้ที่ฐานล่าง
ตัวนี้คือถ้วยกรองกาแฟ (portafilter) เป็นส่วนที่จะใส่ผงกาแฟบด
วัสดุทำจากสแตนเลส ไม่ต้องกลัวเรื่องสนิมเลยคับ ด้านข้างมีซิลิโคนกันความร้อนและกันลื่น
ด้านในก็ประมาณนี้คับ
โปร่งแสงหน่อยๆ สำหรับกรองกาแฟ
ตัวนี้เป็นแผ่นปิดหน้าผงกาแฟที่เราใส่ในถ้วยกรอง
จะเป็นตัวช่วยในการกระจายแรงดันน้ำที่จะลงไปสกัดกาแฟในเสมอกัน
ตัวนี้คือกระบอกลูกสูบ(Plunger) ทำหน้าที่เป็นหม้อใส่น้ำร้อนและอัดน้ำลงไปสกัด
ด้านข้างมีซิลิโคนกันความร้อน
ภายในทุกจุดเชื่อมต่อมียางโอริง(O-ring) กันน้ำรั่ว
ตัวนี้คือซิลิโคนฝาปิดกระบอกลูกสูบสำหรับตอนใส่น้ำร้อนเพื่อวอร์มอัพกระบอกลูกสูบ
งานละเอียดดีคับ
แทมป์เปอร์ (Tamper) ก็มีมาให้ หนักใช้ได้เลย
เป็นแบบหน้าเรียบ
กรวยสำหรับเทผงกาแฟ(Dosing ring)
ถ้วยสำหรับช่างวัดขนาดกาแฟ (Dosing cup)
ตัววัดแรงดันตอนสกัดกาแฟ(Pressure gauge)
บอกช่วงที่ดีที่สุดในการสกัดกาแฟ และช่วงที่อันตรายหากแรงดันมากเกินไป
ที่ปลายคันโยกก็มีคำเตือนคับ
มียางโอริงในจุดเชื่อมต่อ
ประกอบรวมร่างแล้วหน้าตาก็จะประมาณนี้คับ ต่อไปเราจะมาดูขั้นตอนการประกอบแต่ละชิ้นส่วน รวมไปถึงวิธีการใช้งานกันคับ
เริ่มจากการช่างเมล็ดการกาแฟที่คั่วแล้วตามต้องการ โดยข้อดีของรุ่นนี้ Flair Signature PRO
จะสามารถใส่ผงกาแฟบดในแต่ละครั้งได้สูงสุดถึง 24g ถือว่ามากเลยที่เดียว สำหรับคนที่อยากได้รสชาติกาแฟที่เข้มข้น
ยิ่งถ้าเจอเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน ผมเคยลองได้มากถึง 26กรัม ต่อครั้งได้เลย
ได้แล้วก็เอาไปบด
บดมาแล้วหน้าตาก็ประมาณนี้คับ
เตรียมถ้วยกรองพร้อมกรวย
ใส่ผงกาแฟเข้าไป
แทมป์เปอร์เตรียมพร้อม
วางแทมป์เปอร์ลง
กดแทมป์เปอร์ลงให้แน่นพอควร หมุนซ้ายขวาเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ผงกาแฟติดตามมาตอนยกแทมป์เปอร์ออก
ช่วงเวลานี้จะรู้สึกเหมือนเป็นบาริสต้าหน่อยๆ
แทมป์เสร็จแล้วก็ประมาณนี้ (การบดอาจจะแย่หน่อยนะคับเมื่อดูจากภาพ ยังไม่ได้อัพเกรดเครื่องบดคับ)
วางฝาปิดถ้วยกรองไว้ด้านบน เอาส่วนที่รูใหญ่ไว้ด้านบน
นำถ้วยกรองใส่แท่น
วอร์มอัพกระบอกลูกสูบโดยการปิดฝาซิลิโคน
ใส่น้ำร้อนแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที
จากนั้นเทน้ำออก
ถอดฝาซิลิโคนออก
นำกระบอกลูกสูบประกอบเข้ากับถ้วยกรอง
ใส่น้ำร้อน
ประกอบตัววัดแรงดันด้านบนสุด
วางแก้วเตรียมพร้อม
เท่านี้ก็พร้อมสกัดกาแฟแล้วคับ
ค่อยๆสับคันโยกลงมา ให้แรงดันอยู่ในช่วงระหว่าง 6-9 bar ในเวลา 30-45 วินาที ตามที่คู่มือแนะนำ
แล้วกาแฟเข้มข้น(Espresso) ก็จะเริ่มไหลออกมา
[CR] รีวิว เครื่องทำกาแฟ "Flair Espresso" ไม่ใช้ไฟฟ้า (ภาพเยอะมาก)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้