เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนไปค้ำประกันให้นาง กอ จำนวนเงิน 100,000 บาท ซึ่งนางกอกู้ยืมเงินธนาคารออมสิน จำนวน 200,000 บาท
ในสัญญาค้ำประกันที่เพื่อนดิฉันเซ็นนั้น ระบุว่าชดใช้เงินแค่ครึ่งหนึ่งจากวงเงินกู้ 200,000 บาท
เรื่องนี้ผ่านมา 7 ปีแล้ว และไม่มีวี่แววว่าจะได้เงินคืน เพราะนางกอเบี้ยว และไม่ชดใช้ ไม่มี ไม่หนี้ ไม่จ่าย
ทุกวันนี้นางกอขอข้าววัดกิน และอายุ 50 กว่าปีแล้ว อยู่คนเดียวลำพัง ในบ้านเก่าๆ บนที่ดิน สปก ของตัวเอง ซึ่งเดิมบ้านหลังนี้ก็เป็นที่ขายของใช้ทั่วไปให้กับชุมชนในละแวกนั้น และพอจะมีกำไรอยู่บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปร้านขายของๆนางกอ ก็เจ๊ง เพราะนางกอ แก่ขึ้นๆ และไม่ขยันหาเงินเหมือนแต่ก่อน และไม่มีญาติพี่น้องหรือลูกหลานมาช่วยดูแลเลย และปริญญาก็ไม่มี เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาๆ
ส่วนธนาคารออมสินก็มาทวงหนี้กับเพื่อนดิฉัน ถึงกับไปฟ้องศาลแพ่งเลยทีเดียว สุดท้ายเพื่อนก็ต้องยอมจ่าย 100000 บาท ให้กับธนาคารออมสิน
และปัจจุบันธนาคารออมสินก็ยังไม่ได้เงินอีก 100000 บาท จาก นางกอ เลย
สรุป ตอนนี้ ธนาคารออมสิน ขาดทุน 100000 บาท และเพื่อนขาดทุน 100000 บาท !!!!!!!!
ที่ดิน สปก น่าจะมีประมาณไม่ถึงครึ่งไร่ และอยู่ตรงปากซอย ทำเลดี เหมาะแก่การขายของแบบร้านโชว์ห่วย ซึ่งแต่เดิมนางกอก็ขายของแบบร้านโชว์ห่วย แต่ที่ดินตรงนี้อยู่บนเขาที่อำเภอนครไทย มีรถบัสประจำทางวิ่งผ่าน ที่ดินไม่ได้อยู่ในเมืองหรือชุมชุนที่คนพลุกพล่าน
คำถาม คือ
1. จะแก้ปัญหาอย่างไรดี เพื่อที่จะได้เงิน 100000 บาท คืน
2. เราจะทำอะไรให้เกิดกำไรจากที่ดิน สปก นี้ได้บ้าง เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ก็คงไม่มีเงินงอกเงย
** นางกอ คนนี้ตอนมายืมเงินทางโทรศัพท์ก็ร้องไห้ พอใช้เงินหมดก็ไม่มีปัญญาจะใช้คืน จะไปทวงหนี้โหด ก็คงไม่มีจ่าย เพราะทุกวันนี้เหลือแต่ตัว
ส่วนระยะทางจากบ้านเพื่อนไปถึงบ้านนางกอ ก็ประมาณ 50 กม. ไกลขนาดนี้จะไปทวงหนี้ยังไง ต้องขับรถขึ้นเขานครไทยอีก แค่ค่าน้ำมันก็หมดเยอะแล้ว เสียเวลา และเสียค่าเดินทางสูง ><"
**เอ็นดูเขา เอ็นเราขาดกระจุย T_T
เพื่อนกลุ้มใจมาก และอยากได้เงิน 100000 คืน
ใครมีคำแนะนำช่วยตอบด้วยจ้า
Thank you.
(ถ้าสมาชิกในพันทิพจะเข้ามาตอบว่า นึกซะว่าทำบุญ หรือ ไปให้เขายืมทำไมตั้งแต่แรก หรือ ทำใจ เสียแล้วเสียไป หรือ เข้าวัด บลา บลา บลา ๆๆๆๆๆๆๆ ได้โปรดกรุณาอย่ามาคอมเม้นเลย ขอคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และแนวทางที่แก้ไขได้จริง หรือ ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์จริงๆ)
หนี้ 200,000 บาท และ ที่ดิน สปก
ในสัญญาค้ำประกันที่เพื่อนดิฉันเซ็นนั้น ระบุว่าชดใช้เงินแค่ครึ่งหนึ่งจากวงเงินกู้ 200,000 บาท
เรื่องนี้ผ่านมา 7 ปีแล้ว และไม่มีวี่แววว่าจะได้เงินคืน เพราะนางกอเบี้ยว และไม่ชดใช้ ไม่มี ไม่หนี้ ไม่จ่าย
ทุกวันนี้นางกอขอข้าววัดกิน และอายุ 50 กว่าปีแล้ว อยู่คนเดียวลำพัง ในบ้านเก่าๆ บนที่ดิน สปก ของตัวเอง ซึ่งเดิมบ้านหลังนี้ก็เป็นที่ขายของใช้ทั่วไปให้กับชุมชนในละแวกนั้น และพอจะมีกำไรอยู่บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปร้านขายของๆนางกอ ก็เจ๊ง เพราะนางกอ แก่ขึ้นๆ และไม่ขยันหาเงินเหมือนแต่ก่อน และไม่มีญาติพี่น้องหรือลูกหลานมาช่วยดูแลเลย และปริญญาก็ไม่มี เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาๆ
ส่วนธนาคารออมสินก็มาทวงหนี้กับเพื่อนดิฉัน ถึงกับไปฟ้องศาลแพ่งเลยทีเดียว สุดท้ายเพื่อนก็ต้องยอมจ่าย 100000 บาท ให้กับธนาคารออมสิน
และปัจจุบันธนาคารออมสินก็ยังไม่ได้เงินอีก 100000 บาท จาก นางกอ เลย
สรุป ตอนนี้ ธนาคารออมสิน ขาดทุน 100000 บาท และเพื่อนขาดทุน 100000 บาท !!!!!!!!
ที่ดิน สปก น่าจะมีประมาณไม่ถึงครึ่งไร่ และอยู่ตรงปากซอย ทำเลดี เหมาะแก่การขายของแบบร้านโชว์ห่วย ซึ่งแต่เดิมนางกอก็ขายของแบบร้านโชว์ห่วย แต่ที่ดินตรงนี้อยู่บนเขาที่อำเภอนครไทย มีรถบัสประจำทางวิ่งผ่าน ที่ดินไม่ได้อยู่ในเมืองหรือชุมชุนที่คนพลุกพล่าน
คำถาม คือ
1. จะแก้ปัญหาอย่างไรดี เพื่อที่จะได้เงิน 100000 บาท คืน
2. เราจะทำอะไรให้เกิดกำไรจากที่ดิน สปก นี้ได้บ้าง เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ก็คงไม่มีเงินงอกเงย
** นางกอ คนนี้ตอนมายืมเงินทางโทรศัพท์ก็ร้องไห้ พอใช้เงินหมดก็ไม่มีปัญญาจะใช้คืน จะไปทวงหนี้โหด ก็คงไม่มีจ่าย เพราะทุกวันนี้เหลือแต่ตัว
ส่วนระยะทางจากบ้านเพื่อนไปถึงบ้านนางกอ ก็ประมาณ 50 กม. ไกลขนาดนี้จะไปทวงหนี้ยังไง ต้องขับรถขึ้นเขานครไทยอีก แค่ค่าน้ำมันก็หมดเยอะแล้ว เสียเวลา และเสียค่าเดินทางสูง ><"
**เอ็นดูเขา เอ็นเราขาดกระจุย T_T
เพื่อนกลุ้มใจมาก และอยากได้เงิน 100000 คืน
ใครมีคำแนะนำช่วยตอบด้วยจ้า
Thank you.
(ถ้าสมาชิกในพันทิพจะเข้ามาตอบว่า นึกซะว่าทำบุญ หรือ ไปให้เขายืมทำไมตั้งแต่แรก หรือ ทำใจ เสียแล้วเสียไป หรือ เข้าวัด บลา บลา บลา ๆๆๆๆๆๆๆ ได้โปรดกรุณาอย่ามาคอมเม้นเลย ขอคนที่มีความคิดสร้างสรรค์และแนวทางที่แก้ไขได้จริง หรือ ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์จริงๆ)