สวัสดีครับทุกคน และขอต้อนรับสู่กระทู้สร้างบ้านของผมนะครับ หลังจากที่ติดตามเพื่อน ๆ พี่ ๆ ในพันทิปรีวิวการสร้างบ้านมาหลายหลัง และหลายปี!! มาวันนี้ได้มีโอกาสสร้างของตัวเองสักที เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์ด้วยครับ
ทั้งหมดทั้งมวลมันเริ่มที่ผมหลงใหลในของเก่า ประวัติศาสตร์เเละศิลปะยุคกลางมากครับ (หรือยุค Medieval, Middle age หรือ Tudor หรืออะไรก็เเล้วเเต่ 555) จนกลายเป็นเเรงบันดาลใจว่าสักวันอยากจะลองสร้างบ้านแนวนี้ดู แล้วก็ยิ่งท้าทายมากไปอีกว่าถ้าสร้างในประเทศไทยด้วยงบที่เรามีจำกัด เราจะสามารถสร้างได้ออกมาดูเป็นยุกลางได้เเค่ไหน มันก็ตื่นเต้นตรงนี้แหล่ะครับ ว่าจะพังหรือจะรอด 555+
ผมไม่ได้เรียนด้านนี้มา ฉะนั้นความรู้ที่มีล้วนเเล้วมาจากข้อมูลในเน็ตทั้งนั้นครับ ทั้ง Google, Youtube, Pinterest หรือจากหนัง เคยลองหากระทู้สร้างบ้านแนวนี้ในพันทิปแต่ก็หาไม่เจอเลยครับส่วนใหญ่จะเป็นเเนวอังกฤษวินเทจหวานๆ หรือฝรั่งเศสหรูหราหมาเห่าไปเลย สุดท้ายพอรวบรวมข้อมูลได้มากพอเเละการเงินพร้อม จึงติดต่อสถาปนิกครับ...
และนี่คือรูปบ้านของผม ล้อเล่นครับ 555 จริงๆเป็นรูปที่ผมหามาให้น้องสถาปนิกดูครับ เป็นเเนวที่ผมชอบที่สุด วันที่นัดคุยงานกับสถาปนิก ผมให้โจทย์น้องไปว่าอยากได้บ้านเเนวยุคกลาง ที่มีกลิ่นอายความเป็นปราสาทเล็กๆ มีอิฐโชว์เก่าๆ มีงานไม้โชว์ปิดผนังด้านนอกและมีกำแพงปราสาทแบบในรูป และตบประโยคสุดท้ายด้วยว่า อยากให้สร้างเสร็จเเล้วดูไม่เหมือนบ้านใหม่ ให้เหมือนมันสร้างมาเเล้วร้อยปี น้องอาจจะคิดว่าผมแซว เเต่ผมพูดจริงครับ 555
แต่โชคดีที่สถาปนิกเป็นรุ่นน้องมหาลัยที่รู้จักกัน เลยคุยกันง่ายมากครับ
ในรายละเอียดของแปลนบ้านและการใช้สอย อันดับแรกต้องบอกก่อนว่าเดิม ผมอยู่บ้านยายครึ่งปูนครึ่งไม้ ชั้นล่างจะมีส่วนห้องเป็นของผมเลย สองห้องติดกัน ขนาด 6*3 กับ 3*3 เมตร และห้องน้ำ 2*3 ขนาดรวมก็พอๆกับคอนโดขนาดเล็กใช่ไหมหล่ะครับ เเต่พอวันนึงเมื่อของเก่าที่สะสมมันมากขึ้น(ตั้งแต่อายุ20 ปัจจุบัน 30) และด้วยปัจจัยหลายอย่าง เนื่องจากบ้านไม่ได้วางแผนการสร้างที่ถูกต้องมาตั้งเเต่เเรก ผมจึงได้คุยกับคุณป้าซึ่งแกมีกระท่อมหลังเล็กๆอยู่ติดกับบ้านยาย และสุดท้ายแกก็ยอมให้รื้อกระท่อมของแกออก เเล้วแกก็มาอยู่ห้องเก่าผมแทน
อันนี้เป็นห้องเก่าของผมครับ ห้องเเคบมาก และเต็มไปด้วยของไม่มีทางให้วิ่งเล่นเเล้ว(ขออภัยที่เตียงไม่เรียบร้อยครับ อิอิ)
แปลนบ้านหลังใหม่ผมมีในใจและวาดให้น้องบี(สถาปนิก) ดูแล้ว ลักษณะและเเนวคิดผมได้มาจากคอนโดเลยครับ คืออยู่ในห้องโถงยาวๆห้องเดียวที่มีทั้งส่วนรับแขกเเละส่วนเตียงนอนในห้องเลย เพราะผมใช้ชีวิตแบบนี้มานานเเล้วติดจากห้องเก่ามาครับ ส่วนห้องครัว ห้องน้ำ และห้องเเต่งตัวผมสร้างเป็นห้องเเยกออกมาครับ หลังจากที่คุยกับน้องบีนัดเจอกันแก้แบบไปสองสามครั้ง ซึ่งมีบางช่วงยอมรับว่าผมกลัวไม่กล้าสร้างเสียเอง เกือบจะให้น้องเปลี่ยนเป็นแบบไทยหลังคาเพิงแหงนเเล้ว แต่น้องบีก็เชียร์ผมจนยอมสร้างในที่สุด ไม่งั้นคงไม่ได้มาเเชร์ในพันทิปเป็นเเน่ครับ และนี่คือเเบบสรุปที่น้องทำมาให้ผมดูครับ...
อันนี้เป็นเวอร์ชั่นแรกครับ ตอนที่ผมใจไม่ถึงพอเลยให้น้องออกแบบหลังคาlean to มาแทน แต่...ไม่เอาดีกว่า สวยเกิ๊นนน
และนี่คือเวอร์ชั่นสุดท้ายครับ ใช่ครับจริงๆผมสร้างโบสถ์ เย้ยย บ้านสิครับๆ 55 แต่เพื่องบางคนก็บอกเหมือนโบสถ์บางคนก็บอกเหมือนร้านขายดอกไม้ งงมากครับ แต่โดยรวมคือผมโอเครกับเเบบนี้เเล้ว ต้องบอกก่อนว่าแปลนที่ผมร่างให้น้องบีไปมันตายตัวไว้เเล้ว น้องต้องมาออกแบบด้านนอกให้ผมใหม่ตามจทย์ครับ สรุปบ้านมีพื้นที่ใช้สอย ประมาน 50 ตรม. ครับ ผมให้ยกพื้นสูง 1 เมตรเลย บ้านสูงจากพื้นถึงยอดจั่ว 7 เมตรครับ งบประมานการก่อสร้าง ตั้งไว้ไม่เกิน 7 เเสนครับ คุณคิดว่าทำได้ไหมครับ?? เดี๋ยวผมขอตัวไปทานข้าวก่อน ละจะมารีวิวต่อนะครับ
เมื่อผมตัดสินใจสร้างกระท่อมเก่าๆแบบยุคกลาง จะรอดไหม?!
ทั้งหมดทั้งมวลมันเริ่มที่ผมหลงใหลในของเก่า ประวัติศาสตร์เเละศิลปะยุคกลางมากครับ (หรือยุค Medieval, Middle age หรือ Tudor หรืออะไรก็เเล้วเเต่ 555) จนกลายเป็นเเรงบันดาลใจว่าสักวันอยากจะลองสร้างบ้านแนวนี้ดู แล้วก็ยิ่งท้าทายมากไปอีกว่าถ้าสร้างในประเทศไทยด้วยงบที่เรามีจำกัด เราจะสามารถสร้างได้ออกมาดูเป็นยุกลางได้เเค่ไหน มันก็ตื่นเต้นตรงนี้แหล่ะครับ ว่าจะพังหรือจะรอด 555+
ผมไม่ได้เรียนด้านนี้มา ฉะนั้นความรู้ที่มีล้วนเเล้วมาจากข้อมูลในเน็ตทั้งนั้นครับ ทั้ง Google, Youtube, Pinterest หรือจากหนัง เคยลองหากระทู้สร้างบ้านแนวนี้ในพันทิปแต่ก็หาไม่เจอเลยครับส่วนใหญ่จะเป็นเเนวอังกฤษวินเทจหวานๆ หรือฝรั่งเศสหรูหราหมาเห่าไปเลย สุดท้ายพอรวบรวมข้อมูลได้มากพอเเละการเงินพร้อม จึงติดต่อสถาปนิกครับ...
และนี่คือรูปบ้านของผม ล้อเล่นครับ 555 จริงๆเป็นรูปที่ผมหามาให้น้องสถาปนิกดูครับ เป็นเเนวที่ผมชอบที่สุด วันที่นัดคุยงานกับสถาปนิก ผมให้โจทย์น้องไปว่าอยากได้บ้านเเนวยุคกลาง ที่มีกลิ่นอายความเป็นปราสาทเล็กๆ มีอิฐโชว์เก่าๆ มีงานไม้โชว์ปิดผนังด้านนอกและมีกำแพงปราสาทแบบในรูป และตบประโยคสุดท้ายด้วยว่า อยากให้สร้างเสร็จเเล้วดูไม่เหมือนบ้านใหม่ ให้เหมือนมันสร้างมาเเล้วร้อยปี น้องอาจจะคิดว่าผมแซว เเต่ผมพูดจริงครับ 555
แต่โชคดีที่สถาปนิกเป็นรุ่นน้องมหาลัยที่รู้จักกัน เลยคุยกันง่ายมากครับ
ในรายละเอียดของแปลนบ้านและการใช้สอย อันดับแรกต้องบอกก่อนว่าเดิม ผมอยู่บ้านยายครึ่งปูนครึ่งไม้ ชั้นล่างจะมีส่วนห้องเป็นของผมเลย สองห้องติดกัน ขนาด 6*3 กับ 3*3 เมตร และห้องน้ำ 2*3 ขนาดรวมก็พอๆกับคอนโดขนาดเล็กใช่ไหมหล่ะครับ เเต่พอวันนึงเมื่อของเก่าที่สะสมมันมากขึ้น(ตั้งแต่อายุ20 ปัจจุบัน 30) และด้วยปัจจัยหลายอย่าง เนื่องจากบ้านไม่ได้วางแผนการสร้างที่ถูกต้องมาตั้งเเต่เเรก ผมจึงได้คุยกับคุณป้าซึ่งแกมีกระท่อมหลังเล็กๆอยู่ติดกับบ้านยาย และสุดท้ายแกก็ยอมให้รื้อกระท่อมของแกออก เเล้วแกก็มาอยู่ห้องเก่าผมแทน
อันนี้เป็นห้องเก่าของผมครับ ห้องเเคบมาก และเต็มไปด้วยของไม่มีทางให้วิ่งเล่นเเล้ว(ขออภัยที่เตียงไม่เรียบร้อยครับ อิอิ)
แปลนบ้านหลังใหม่ผมมีในใจและวาดให้น้องบี(สถาปนิก) ดูแล้ว ลักษณะและเเนวคิดผมได้มาจากคอนโดเลยครับ คืออยู่ในห้องโถงยาวๆห้องเดียวที่มีทั้งส่วนรับแขกเเละส่วนเตียงนอนในห้องเลย เพราะผมใช้ชีวิตแบบนี้มานานเเล้วติดจากห้องเก่ามาครับ ส่วนห้องครัว ห้องน้ำ และห้องเเต่งตัวผมสร้างเป็นห้องเเยกออกมาครับ หลังจากที่คุยกับน้องบีนัดเจอกันแก้แบบไปสองสามครั้ง ซึ่งมีบางช่วงยอมรับว่าผมกลัวไม่กล้าสร้างเสียเอง เกือบจะให้น้องเปลี่ยนเป็นแบบไทยหลังคาเพิงแหงนเเล้ว แต่น้องบีก็เชียร์ผมจนยอมสร้างในที่สุด ไม่งั้นคงไม่ได้มาเเชร์ในพันทิปเป็นเเน่ครับ และนี่คือเเบบสรุปที่น้องทำมาให้ผมดูครับ...
อันนี้เป็นเวอร์ชั่นแรกครับ ตอนที่ผมใจไม่ถึงพอเลยให้น้องออกแบบหลังคาlean to มาแทน แต่...ไม่เอาดีกว่า สวยเกิ๊นนน
และนี่คือเวอร์ชั่นสุดท้ายครับ ใช่ครับจริงๆผมสร้างโบสถ์ เย้ยย บ้านสิครับๆ 55 แต่เพื่องบางคนก็บอกเหมือนโบสถ์บางคนก็บอกเหมือนร้านขายดอกไม้ งงมากครับ แต่โดยรวมคือผมโอเครกับเเบบนี้เเล้ว ต้องบอกก่อนว่าแปลนที่ผมร่างให้น้องบีไปมันตายตัวไว้เเล้ว น้องต้องมาออกแบบด้านนอกให้ผมใหม่ตามจทย์ครับ สรุปบ้านมีพื้นที่ใช้สอย ประมาน 50 ตรม. ครับ ผมให้ยกพื้นสูง 1 เมตรเลย บ้านสูงจากพื้นถึงยอดจั่ว 7 เมตรครับ งบประมานการก่อสร้าง ตั้งไว้ไม่เกิน 7 เเสนครับ คุณคิดว่าทำได้ไหมครับ?? เดี๋ยวผมขอตัวไปทานข้าวก่อน ละจะมารีวิวต่อนะครับ