เห็นเราเป็นลูกใช่ไหม

คือตอนนี้เราอายุ14ปีเเล้วสำหรับทุกๆคนที่ยังเรียนอยุ่ก้คิดว่าอายุยังเด็กเเต่สำหรับพ่อเเม่ของเราไม่ใช่เขาเห็นว่าเราโตเเล้วจึงคิดว่าคำพูดที่เราพูดไปคือการเถียงเพราะวัยรุ่นเริ่มมีโลกเป็นของตัวเองเที่ยวเยอะใช้เงินเยอะมีเเต่คำหยาบคายเเล้วพ่อเเม่ก้คิดว่าเราเอาคำพูดที่พูดกับเพื่อน(*สนิทไรงี้*)มาพูดกับพ่อเเม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรา เรื่องที่-1.การบ้าน ทุกคนต้องเป็นเเบบนี้เเน่นอนไม่ส่วนมากก้ส่วนน้อย การบ้านคือการมาทำที่บ้านเเต่เราทำที่รร. อาจจะมีบ้างวันที่ ทำที่รร.ไม่ทันก็กล้ายมาเป็นทำที่บ้าน ็จะคอยย้ำเราทุกวันว่ามีการบ้านไหม(*เราเป็นคนขี้เกียจมากก!!*)ด้วยความที่ไม่อยากโดนด่า ว่า ตี ก้จะใช้คำโกหกไปว่าทำเเล้ว เเต่เหมือนพ่อเเม่จะไม่เชื่อเขาเลยบอกว่าไปเอามาให้ดู (*ในหัวคือยิ้มยิ้มละทำไงดี ก้ต้องรับกรรมอะ*) เราก้เลยบอกว่ายังไม่เสดเหลืออีกนิดนึง เราคิกว่ามันคือการเอาตัวรอดเเต่สำหรับคนเเก่ก้คือโกหก เขาเลยว่าเราเเบบนี้(อี ยิ้มยิ้มเก่งเนอะน่ะ,เป็นผญ.นะทำเเบบนี้ใครเขาจะเอาไปทำเมีย,น่าตาก้ไม่ได้ดีเเถมโง่ก้โง่)สำหรับเราคือเจ็บมากเราก้โดนเเบบนี้มาทั้งชีวิตด้วยคำหยาบคายจากปากพ่อเเม่โดนตบปาก,ตบหน้าเกือบทุกวันเราเคยเอ่ยปากบอกกับเเม่ไปเลยว่านี้ยังเห็นเป็นเเม่! คือตอนนั้นเราโกธรมากๆจงพูดไม่ทันคิดเเต่กับพ่อเราจะไม่เหมือนเเม่เราจะเหล่าให้ฟัง(2. พ่อเราเป็นคนที่เเบบไม่ชอบฟัง ถึงเราจะเเก้ตัวไปยังไงเขาก้ไม่ฟังเพราะสำหรับเขาคือการเถียง การที่เราเถียงเขาจะทำร้ายเราด้วยการ ใบหน้า ตบปาก ตึงหู ตึงจมูก ตีด้วยเข็มขัด สาดน้ำใส่หน้า โยนของใส่ตัวเรา ทุกคนคงคิดว่าไม่เจ็บหรอ มันเจ็บค่ะเเต่ก้ไม่เท่าใจที่เจ็บกว่า เราคือคนที่โดนตี ด่า ว่า ทำร้ายร่างกายเยอะที่สุดในบ้าน เราเคยอยากถามเขาทั้งพ่อเเละเเม่ว่าเรารักไหม เรายังใช่ลูกไหม  เราเป็นลูกของพ่อกับเเม่หรือเปล่าหรือว่าไปเก็บเรามาจากถังขยะ บ้างครั้งก้อยากจะด่าพ่อกับเเม่บ้างเหมือนที่ท่านด่าเรามาเกือบตลอดชีวิต เเม่ชอบเอาเราไปเทียบกับเพื่อนที่เรียนกันมาตั้งเเต่เด็ก (เห็นไหมลูก ลูกบ้านนั้นได้ไปรร.ที่ดีของประเทศ ยามว่างก้อ่านหนังสือ สอบที่ดีๆให้พ่อเเม่ภูมิใจ เเต่ดุลูกเราดิโอ้ยย อ่านหนังสือก้ไม่อ่าน ติดร. ไม่ทำไรเลย เรียนก้ไม่เรียน  ส่วนพ่อก้พุดอยู่เสมอว่า ป๋าไม่ได้อยากให้ลูกได้ที่1หรือที่2-3-4เเต่ขอเเค่หนูเป็นคนดี พอผลสอบออกมาก้มาว่าเราว่าก้เพราะเธอไม่อ่านหนังสือ เเค่นี้เเละคะที่จะมาเเบ่งบันความรู้สึกของเราค่ะ 
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ตอนสมัย พี่เรียน พี่ก็ชอบทำการบ้าน ที่ รร. ค่ะ
เพราะกลับบ้านมาจะได้ดูทีวี ความห่วงใย ความรัก
ของพ่อเเม่แต่ละคนมันต่างกัน  ในความคิดเห็นของพี่
ที่บ้านน้องอาจจะพูดจาเเรงๆ กันใช่ไหมคะ
อ่า ทีนี้ พ่อกับเเม่เค้า อยากให้ น้องตั้งใจเรียน จะได้
เรียนจบมีความรู้ติดตัวไปใช้สมัครงานในอนาคต
สำหรับพ่อเเม่เค้าจะมองว่า การที่น้องโกหก มันจะส่งผลต่อเรื่องอื่นๆ
คือประมาณว่า เรื่องเล็กน้อยยังโกหก เรื่องใหญ่กว่านี้ คงไม่เหลือ
ก็เลยทำรุนเเรง กับน้อง วิธีที่จะแก้ปัญหาก็ คือ ทำงการบ้าน ทำผลการเรียน
ให้อยู่ในระดับที่ผ่าน ไม่เถียง จริงๆเป็นผู้ ใหญ่มันมีความเครียดสูงค่ะ
ทั้งงาน ภาระ การเงิน มันเครียดจริงๆ พอเครียดมากๆ เค้าก็ไปลงความเครียดตรงนี้ที่
คนเป็นลูกไปด้วย ฮึบๆ อดทนเนอะ พี่ก็อาจจะเเนะนำได้ไม่ดีเท่าไหร่
เเต่พี่อยากเป็นกำลังใจให้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่