ตามหัวเรืองเลยค่ะ เราเป็น ญ และชอบ ญ เหมือนกัน แต่ ผญ ในสเปกเราคือต้องเป็นผู้ใหญ่ มีอายุ แต่ยังดูดี
เรื่องมันเกิดเมื่อ 5 ปีก่อน เราทำงานบริษัททัวร์แห่งหนึ่งเป็นทัวร์รับลูกค้าเข้ามาจากต่างประเทศ และตำแหน่งเราคือหาข้อมูลให้ลูกค้าในบางโลเคชั่นที่ลูกค้าอยากไป ทีนี้ก็มีลูกค้ารายหนึ่งอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัด ราชบุรี เราก็ต้องหาข้อมูล แต่ตามประสาเราแหละ เราโพสเล่นๆในเฟสบุ้คว่า "ใครอยู่ราชบุรีช่วยชี้เป้าสถานที่เที่ยวแบบวิธีชีวิต วัฒนธรรม บ้านๆ " ทีนี้ก็มีพี่คนหนึ่งมาเม้นท์ ว่าเค้าคนพื้นที่นะ พอเราว่างก็เลยกดไปส่องโปรไฟล์คนเม้นท์ ...... ต้องบอกเลยว่าเราตกหลุมรักเค้าแค่เห็นรูปทั้งที่ตอนนั้นเรามีแฟนอยู่แล้ว (บ้าไปแล้ว แต่ก็บ้าจริงๆ) คือเค้าสวยมากในสายตาเรา อายุน่าจะสี่สิบกว่า ... เราจำไม่ได้ว่าแอดเพื่อนกันตอนไหนยังไงด้วยซ้ำยัง งงๆ
ตอนนั้นเราก็ทักแชทไปคุยกับพี่เค้า มันเหมือนยิ่งคุย ยิ่งใช่ มีอะไรหลายอย่างมากที่ชอบเหมือนกัน อย่างฟังเพลงแนวเดียวกัน รักแมว ชอบอาหารแบบเดียวกัน คุยกันรู้เรื่อง รู้ทัน จะหยอดมุขใหนมาคือทันกันหมด คุยกันหลายเรื่องทั้งเรื่องส่วนตัวเรื่องงาน พี่เค้าเคยแต่งงานมาแล้วมีลูกชาย 2 คนซึ่งก็เรียนจบละ อดีตสามีเสียชีวิต ทำงานเลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด แล้วมันก็กลายเป็นสนิทกันทั้งที่ไม่เคยเจอกัน หยอดแบบทีเล่นทีจริง ซึ่งดูเหมือนเค้าก็เข้าใจว่ามันไม่ใช่แค่พี่น้องละนะ มันมากกว่านั้น กลายเป็นเราติดแชทมากช่วงนั้น จนบางทีแฟนชวนไปทานข้าวเราไม่อยากไป จนกระทั่งมีช่วงหนึ่งที่พี่เค้าหายไป คือจู่ๆ ก็หายไปไม่ตอบแชท แม้บางทีจะออนไลน์ แต่ไม่อ่านแชทเรา ไม่ตอบเรา .... เรางงมาก สับสน ไม่เข้าใจ และคิดว่ามันน่าจะจบแล้ว และเป็นช่วงที่ทำให้เราหันมามองแฟน รู้สึกผิดต่อแฟน เราพยายามทำให้ความสัมพันธ์กับแฟนดีขึ้นโดยการพาไปเที่ยว ไปทานข้าว พยายามไม่เข้าเฟส ไม่มองแชท ไม่สนใจมือถือ ถามว่าได้ผลมั้ย คำตอบคือ แฟนเราดีใจที่เราทำดีด้วย แต่ในใจอยากเห็นข้อความของพี่คนนั้นมากกว่า (ชั่วชะมัด !!!)
หลังจากนั้นพี่เค้าก็โพสรูปไปเที่ยวมาค่ะ แต่รูปที่โพสคือรูที่ถ่ายจากกล้องถ่ายรูปตัวใหญ่แน่ๆมือถือไม่มีทางจะถ่ายแบบนั้นได้ (เราเป็นคนเล่นกล้อง เป็นคนชอบถ่ายรูปก็เลยดูออก) เราเลยไปเม้นท์ที่รูปนั้นว่า ตากล้องเก่งจังถ่ายรูปสวยมาก ... พี่เค้าส่งเพลง ไม่เคย ของ 25hours มาให้ในแชท เราเลยถามว่าต้องการอะไร เค้าบอกอยากได้คนคุยเล่นด้วยคนเดิมกลับมา เราบอกเค้าตามตรงว่าถ้าคุยกันไปอย่างนี้ไม่ดีต่อเรากับแฟนแน่ๆ เพราะเค้าทำให้เราหวั่นไหว เค้าก็เลยบอกเราตามตรงเหมือนกันว่า เค้าก็มีแฟนแล้วและเค้ากับแฟนก็มีปัญหา (แฟนพี่เค้าเป็น ผช นะ) คือแฟนพี่ไม่ค่อยสนใจ เป็น ผช เฉื่อยๆ เรื่อยๆ ไม่ทำงานอะไรเพราะที่บ้านมีฐานะแต่ชอบถ่ายรูปเล่นกล้องเหมือนกันกับเรา ปัญหาที่เค้าทะเลาะกันคือ ผช แอบไปอ๊อฟสาวอาบอบนวด แต่ไม่สนใจคนที่บ้านทำให้พี่เค้าเหงา ที่หายไปก็คือแฟนง้อเลยพาไปเที่ยวต่างจังหวัด ...... กลับมาเค้าก็เหมือนเดิมคือเรื่อยๆเหมือนเดิม เราก็สงสารพี่เค้านะแต่ก็พยายามคุยด้วยและทำใจไปด้วยว่าเราเป็นพี่น้องกัน แต่เอาจริงๆเราไม่ได้คิดกับเค้าแค่พี่น้อง
เรามีช่วงพักร้อนซึ่งเราจะไปเที่ยวคนเดียวทุกปี อันนี้แฟนจะรู้ว่าเราจะไปคนเดียวพักผ่อน หาประสบการณ์ แบบนี้ตลอดเค้าก็จะไม่ตามไม่งอแง แต่ปีนั้นเราไปไม่ไกลไม่ไปต่างประเทศคือจงใจจะไปใกล้จังหวัดที่พี่คนนั้นอยู่ จะดูว่าพี่เค้าจะอยากเจอเราตัวจริงไหม แล้วก็ตามคาดพี่เค้ามาเจอเรา เราใจเต้นแรงมากตอนเจอกันครั้งแรกคือเค้าสวยกว่าในรูป ดูดีกว่าในรูป เราไปเที่ยวหลายที่ด้วยกัน ถ่ายรูป ไหว้พระ ทานข้าว และ เมาด้วยกัน เป็นพักร้อนที่เรามีความสุขมากและดูว่าพี่เค้าก็มีความสุขเหมือนกัน (แววตาไม่เคยโกหก) เค้าเล่าว่าความสัมพันธุ์ระหว่างเค้ากับแฟนก็เหมือนเดิมคือลุ่มๆ ดอนๆ แฟนก็ยังเหมือนเดิมคือไม่ใส่ใจอะไร เรื่อยเปื่อย หายใจไปวันๆ เหมือนเดิม และที่สำคัญแฟนไม่เคยเปิดตัวว่าคบกันกับพี่เค้าแบบจริงจังสักที !!
เรากลับจากพักร้อนปีนั้นตั้งใจว่าคงต้องเลิกกับแฟนจริงๆละเพราะเราไม่ได้รักเค้า เราน่าจะปล่อยเค้าไป รั้งไว้ก็สงสารเค้า ประกอบกับเรารู้สึกผิดต่อเค้าที่เรานอกใจ ยังไม่ทันจะได้เลิกกัน พี่คนนั้นก็บอกจะมาหาเรา เราก็เอออ มาก็มา เค้ามาหาคราวนี้เราดูว่าเค้าไม่ค่อยมีความสุข อาจจะเหมือนเราทีรู้สึกผิด ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน สองวันเราดูออกว่าเค้ากังวล ไม่สบายใจ และก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย จนวันก่อนเค้ากลับเราบอกว่ารับสายเถอะบางทีมันอาจจะดีและเป็นทางออกให้เราทุกคนก็ได้ เค้ารับสายเราก็เลยเดินออกไปทางอื่นเพื่อให้เค้าคุยได้สะดวกใจ เราไม่รู้ว่าเค้าคุยอะไรรู้แต่คนโทรมาคือแฟนพี่เค้า และเราก็ไม่ถามตอนไปส่งเค้ากลับเราบอกแค่ว่าเลือกถูกแล้วด้วยปัจจัยหลายๆอย่างแต่ขอร้องอย่างหนึ่งได้มั้ย ช่วยบล๊อกเราทีในทุกช่องทางติดต่อเราไม่อยากเป็นแบบนี้อีก เราเจ็บ พอพี่เค้ากลับไปได้สองวัน ทุกช่องทางติดต่อของเราก็ถูกบล็อก จากใจตอนนั้นมันโล่งมากแม้มันจะเจ็บนะแต่มันโล่ง ต่อมาอีกอาทิตย์หนึ่งเราก็เลิกกับแฟน บางทีเราก็ถามตัวเองนะว่าทำไมไม่คบกันต่อ คำตอบคือเราไม่ได้รักเค้า จะรั้งเค้าให้เสียโอกาสทำไม
รวมเวลาที่เราเริ่มคุยกับพี่คนนั้นจนกระทั้งถูกบล๊อกนั้นก็ ปีกว่าๆ เลยทีเดียวคุยกันเยอะมาก จากนั้นเราก็อยู่เป็นโสดค่ะ มีคนคุยบ้าง แต่ก็ไม่โดนใจส่วนใหญ่ก็เล่นเฮฮาไปแต่ไม่เคยมีคนไหนที่จะลึกซึ้งเลย จนกระทั้งเมื่อปลายปี 60 เรารวมกลุ่มกับเพื่อนๆที่รู้จักกันดีไปทำกิจกรรมเพื่อสังคมบำเพ็ญประโยชน์ เราถึงมีโอกาสได้รู้ว่ามีเพื่อนเราคนหนึ่งในกลุ่มเธอแอบชอบเราอยู่มานานแล้วทำให้เราได้เริ่มคุยกัน ถึงพบว่าเธอน่ารักนะ มีมุมน่ารักๆ เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ เรารู้สึกชอบนิสัยของเธอคนนี้จนตกลงเป็นแฟนกันตอน มิย.61 เรามีความสุขดีเวลาที่อยู่ด้วยกัน ถามเราว่ามีคิดถึงพี่คนนั้นมั้ย ตอบเลยว่ามีบ่อยๆ แต่ไม่เคยพยายามไปสือเสาะหรือติดต่ออะไรอยากปล่อยให้มันผ่านๆไป
จนเมื่อต้นปี กุมภา 62 หลานสาว (ลูกของลูกพี่ลูกน้องเรา) จะแต่งงานพี่สาวเราเลยขอให้ไปช่วยถ่ายรูปให้หน่อยที่บ้านเค้าอีกจังหวัดหนึ่ง เป็นงานเล็กๆ ไม่จัดใหญ่โตอะไรมีแค่ญาติๆของบ่าวสาว เราก็โอเคไปกะค้างบ้านพี่สาว 2 คืน พอเช้าวันแต่งหลาน เรานี่ยืนช้อคนิ่งอึ้ง มึน แม่เจ้าบ่าวคือ พี่คนนั้น และพี่เค้าสวยมาก.... เรานิ่งไปเกือบนาทีจนญาติมาถามว่าเป็นอะไรมั้ย เราถึงดึงสติกลับมาตั้งใจถ่ายรูปในงานให้ได้ ดีที่เรามีหน้าที่ถ่ายรูปถ้าไม่อย่างนั้นเราก็ไม่รู้เราจะมีสติอยู่ตรงนั้นมั้ยหรือเราจะเดินหนีไป คือหัวใจเราเต้นแรงมาก และเหมือนพี่เค้าจะอึ้งอยู่เหมือนกันแต่เค้าเก็บอาการได้เก่ง หลายรูปพี่เค้าตั้งใจมองกล้อง ตั้งใจยิ้มให้กล้อง บอกตามตรงเราสั่นไปหมด เสร็จงานพิธีการมาจนถึงช่วงเลี้ยง เราถึงได้พักไปแอบดื่มน้ำหลังครัว พี่เค้าเดินตามเข้ามาตอนไหนเราไม่รู้ มากระซิบเบาๆว่าคิดถึง ... มันเป็นคำเดียวที่ทำให้หัวใจเราแทบระเบิดออกมา ดีใจจนบอกไม่ถูก แต่ก็ได้แค่เดินเลี่ยงออกมา ในหัวเราสับสนไปหมด แฟนพี่เค้าไปไหน ทำไมมีแต่ญาติๆ จนกระทั่งงานเลี้ยงเลิกแขกกลับหมดเหลือกันแค่ไม่กี่คน พี่เค้าบอกพี่สาวเราว่าเหนื่อย ขอให้เราขับรถไปส่งที่ โรงแรมที่พัก เราก็เลยมีโอกาสได้คุยกัน
พี่เค้าเล่าว่าหลังจากที่บล็อกเราแล้ว แฟนพี่เค้าทำตัวดีขึ้น เปิดตัวให้ใครต่อใครรู้ว่านี่คือแฟน คือเอาใจใส่มากปรับปรุงตัว (อาจเพราะกลัวจะเสียพี่เค้าไป) แต่มันก็เป็นแค่ ปีเดียวหลังจากนั้นมาก็เหมือนเดิม แบบเดิม นิสัยเดิมๆ จนพี่เค้าบอกเลิกไป จบแยกย้ายกันไป ตอนนี้อยู่กับลูกๆ ก็สบายใจดี พี่เค้าบอกว่าปลดบล็กเราตั้งนานแล้วแต่ไม่ได้ขอเป็นเพื่อนใหม่ ไม่กล้าโทร แต่ก็แอบส่องเราเห็นเรามีแฟนใหม่ ใช่สติเราที่หลุดลอยไปกับพี่เค้ากลับเข้ามาหน้าแฟนคนปัจจุบันไหลเข้ามาในหัวทันที แล้วเราบอกตัวเองว่า เราจะไม่ทำผิดอีก ส่งพี่เค้าที่หน้าโรงแรมเสร็จ เราบอกพี่เค้าว่า เราจะขอเป็นคนบล๊อกนะ เราไม่อยากให้อะไรๆมันยุ่งยากอีก พี่เค้าแค่ยิ้มบางๆและพยักหน้า
มันคือความเข้าใจนะเราว่า ถ้าจะถามว่ายังรักเค้าอยู่ไหม ตอบเลยว่ารัก แต่ชีวิตไม่ได้มีแค่คนสองคน
กลับไปบ้านพี่สาว เราถอดเมมโมรี่จากกล้องให้หลานสาวไปเลยจ้าาา บอกหลานแค่ว่าไปหาทางแต่งรูปเอาเอง เราทำงานไม่มีเวลาทำ คือจริงๆกลัวตัวเองใจอ่อนถ้าต้องไปนั่งดูรูปอีก
ตอนนี้เราสบายใจนะคบกับแฟนคนปัจจุบัน เค้าอาจไม่ตรงสเปกเราทั้งหมดหรอกแต่อยู่ด้วยแล้วสบายใจแบบ ญ รัก ญ แบบนี้ก็ดีแล้ว
นี่เป็นกะทู้แรกของเราที่อยากแชร์ประสบการณ์หลังจากสิงอ่านของคนอื่นมาหลายปี และคงเป็นกะทู้เดียวด้วย เพราะปกติชอบอ่านมากกว่าเขียนอะไร
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะ
อยากเล่าประสบการณ์ความรักแบบ ญ กับ ญ ซึ่งบางทีมันก็เข้าใจยากที่ทำไมเราไม่ลืมใครบางคนสักที
เรื่องมันเกิดเมื่อ 5 ปีก่อน เราทำงานบริษัททัวร์แห่งหนึ่งเป็นทัวร์รับลูกค้าเข้ามาจากต่างประเทศ และตำแหน่งเราคือหาข้อมูลให้ลูกค้าในบางโลเคชั่นที่ลูกค้าอยากไป ทีนี้ก็มีลูกค้ารายหนึ่งอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัด ราชบุรี เราก็ต้องหาข้อมูล แต่ตามประสาเราแหละ เราโพสเล่นๆในเฟสบุ้คว่า "ใครอยู่ราชบุรีช่วยชี้เป้าสถานที่เที่ยวแบบวิธีชีวิต วัฒนธรรม บ้านๆ " ทีนี้ก็มีพี่คนหนึ่งมาเม้นท์ ว่าเค้าคนพื้นที่นะ พอเราว่างก็เลยกดไปส่องโปรไฟล์คนเม้นท์ ...... ต้องบอกเลยว่าเราตกหลุมรักเค้าแค่เห็นรูปทั้งที่ตอนนั้นเรามีแฟนอยู่แล้ว (บ้าไปแล้ว แต่ก็บ้าจริงๆ) คือเค้าสวยมากในสายตาเรา อายุน่าจะสี่สิบกว่า ... เราจำไม่ได้ว่าแอดเพื่อนกันตอนไหนยังไงด้วยซ้ำยัง งงๆ
ตอนนั้นเราก็ทักแชทไปคุยกับพี่เค้า มันเหมือนยิ่งคุย ยิ่งใช่ มีอะไรหลายอย่างมากที่ชอบเหมือนกัน อย่างฟังเพลงแนวเดียวกัน รักแมว ชอบอาหารแบบเดียวกัน คุยกันรู้เรื่อง รู้ทัน จะหยอดมุขใหนมาคือทันกันหมด คุยกันหลายเรื่องทั้งเรื่องส่วนตัวเรื่องงาน พี่เค้าเคยแต่งงานมาแล้วมีลูกชาย 2 คนซึ่งก็เรียนจบละ อดีตสามีเสียชีวิต ทำงานเลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด แล้วมันก็กลายเป็นสนิทกันทั้งที่ไม่เคยเจอกัน หยอดแบบทีเล่นทีจริง ซึ่งดูเหมือนเค้าก็เข้าใจว่ามันไม่ใช่แค่พี่น้องละนะ มันมากกว่านั้น กลายเป็นเราติดแชทมากช่วงนั้น จนบางทีแฟนชวนไปทานข้าวเราไม่อยากไป จนกระทั่งมีช่วงหนึ่งที่พี่เค้าหายไป คือจู่ๆ ก็หายไปไม่ตอบแชท แม้บางทีจะออนไลน์ แต่ไม่อ่านแชทเรา ไม่ตอบเรา .... เรางงมาก สับสน ไม่เข้าใจ และคิดว่ามันน่าจะจบแล้ว และเป็นช่วงที่ทำให้เราหันมามองแฟน รู้สึกผิดต่อแฟน เราพยายามทำให้ความสัมพันธ์กับแฟนดีขึ้นโดยการพาไปเที่ยว ไปทานข้าว พยายามไม่เข้าเฟส ไม่มองแชท ไม่สนใจมือถือ ถามว่าได้ผลมั้ย คำตอบคือ แฟนเราดีใจที่เราทำดีด้วย แต่ในใจอยากเห็นข้อความของพี่คนนั้นมากกว่า (ชั่วชะมัด !!!)
หลังจากนั้นพี่เค้าก็โพสรูปไปเที่ยวมาค่ะ แต่รูปที่โพสคือรูที่ถ่ายจากกล้องถ่ายรูปตัวใหญ่แน่ๆมือถือไม่มีทางจะถ่ายแบบนั้นได้ (เราเป็นคนเล่นกล้อง เป็นคนชอบถ่ายรูปก็เลยดูออก) เราเลยไปเม้นท์ที่รูปนั้นว่า ตากล้องเก่งจังถ่ายรูปสวยมาก ... พี่เค้าส่งเพลง ไม่เคย ของ 25hours มาให้ในแชท เราเลยถามว่าต้องการอะไร เค้าบอกอยากได้คนคุยเล่นด้วยคนเดิมกลับมา เราบอกเค้าตามตรงว่าถ้าคุยกันไปอย่างนี้ไม่ดีต่อเรากับแฟนแน่ๆ เพราะเค้าทำให้เราหวั่นไหว เค้าก็เลยบอกเราตามตรงเหมือนกันว่า เค้าก็มีแฟนแล้วและเค้ากับแฟนก็มีปัญหา (แฟนพี่เค้าเป็น ผช นะ) คือแฟนพี่ไม่ค่อยสนใจ เป็น ผช เฉื่อยๆ เรื่อยๆ ไม่ทำงานอะไรเพราะที่บ้านมีฐานะแต่ชอบถ่ายรูปเล่นกล้องเหมือนกันกับเรา ปัญหาที่เค้าทะเลาะกันคือ ผช แอบไปอ๊อฟสาวอาบอบนวด แต่ไม่สนใจคนที่บ้านทำให้พี่เค้าเหงา ที่หายไปก็คือแฟนง้อเลยพาไปเที่ยวต่างจังหวัด ...... กลับมาเค้าก็เหมือนเดิมคือเรื่อยๆเหมือนเดิม เราก็สงสารพี่เค้านะแต่ก็พยายามคุยด้วยและทำใจไปด้วยว่าเราเป็นพี่น้องกัน แต่เอาจริงๆเราไม่ได้คิดกับเค้าแค่พี่น้อง
เรามีช่วงพักร้อนซึ่งเราจะไปเที่ยวคนเดียวทุกปี อันนี้แฟนจะรู้ว่าเราจะไปคนเดียวพักผ่อน หาประสบการณ์ แบบนี้ตลอดเค้าก็จะไม่ตามไม่งอแง แต่ปีนั้นเราไปไม่ไกลไม่ไปต่างประเทศคือจงใจจะไปใกล้จังหวัดที่พี่คนนั้นอยู่ จะดูว่าพี่เค้าจะอยากเจอเราตัวจริงไหม แล้วก็ตามคาดพี่เค้ามาเจอเรา เราใจเต้นแรงมากตอนเจอกันครั้งแรกคือเค้าสวยกว่าในรูป ดูดีกว่าในรูป เราไปเที่ยวหลายที่ด้วยกัน ถ่ายรูป ไหว้พระ ทานข้าว และ เมาด้วยกัน เป็นพักร้อนที่เรามีความสุขมากและดูว่าพี่เค้าก็มีความสุขเหมือนกัน (แววตาไม่เคยโกหก) เค้าเล่าว่าความสัมพันธุ์ระหว่างเค้ากับแฟนก็เหมือนเดิมคือลุ่มๆ ดอนๆ แฟนก็ยังเหมือนเดิมคือไม่ใส่ใจอะไร เรื่อยเปื่อย หายใจไปวันๆ เหมือนเดิม และที่สำคัญแฟนไม่เคยเปิดตัวว่าคบกันกับพี่เค้าแบบจริงจังสักที !!
เรากลับจากพักร้อนปีนั้นตั้งใจว่าคงต้องเลิกกับแฟนจริงๆละเพราะเราไม่ได้รักเค้า เราน่าจะปล่อยเค้าไป รั้งไว้ก็สงสารเค้า ประกอบกับเรารู้สึกผิดต่อเค้าที่เรานอกใจ ยังไม่ทันจะได้เลิกกัน พี่คนนั้นก็บอกจะมาหาเรา เราก็เอออ มาก็มา เค้ามาหาคราวนี้เราดูว่าเค้าไม่ค่อยมีความสุข อาจจะเหมือนเราทีรู้สึกผิด ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน สองวันเราดูออกว่าเค้ากังวล ไม่สบายใจ และก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์เลย จนวันก่อนเค้ากลับเราบอกว่ารับสายเถอะบางทีมันอาจจะดีและเป็นทางออกให้เราทุกคนก็ได้ เค้ารับสายเราก็เลยเดินออกไปทางอื่นเพื่อให้เค้าคุยได้สะดวกใจ เราไม่รู้ว่าเค้าคุยอะไรรู้แต่คนโทรมาคือแฟนพี่เค้า และเราก็ไม่ถามตอนไปส่งเค้ากลับเราบอกแค่ว่าเลือกถูกแล้วด้วยปัจจัยหลายๆอย่างแต่ขอร้องอย่างหนึ่งได้มั้ย ช่วยบล๊อกเราทีในทุกช่องทางติดต่อเราไม่อยากเป็นแบบนี้อีก เราเจ็บ พอพี่เค้ากลับไปได้สองวัน ทุกช่องทางติดต่อของเราก็ถูกบล็อก จากใจตอนนั้นมันโล่งมากแม้มันจะเจ็บนะแต่มันโล่ง ต่อมาอีกอาทิตย์หนึ่งเราก็เลิกกับแฟน บางทีเราก็ถามตัวเองนะว่าทำไมไม่คบกันต่อ คำตอบคือเราไม่ได้รักเค้า จะรั้งเค้าให้เสียโอกาสทำไม
รวมเวลาที่เราเริ่มคุยกับพี่คนนั้นจนกระทั้งถูกบล๊อกนั้นก็ ปีกว่าๆ เลยทีเดียวคุยกันเยอะมาก จากนั้นเราก็อยู่เป็นโสดค่ะ มีคนคุยบ้าง แต่ก็ไม่โดนใจส่วนใหญ่ก็เล่นเฮฮาไปแต่ไม่เคยมีคนไหนที่จะลึกซึ้งเลย จนกระทั้งเมื่อปลายปี 60 เรารวมกลุ่มกับเพื่อนๆที่รู้จักกันดีไปทำกิจกรรมเพื่อสังคมบำเพ็ญประโยชน์ เราถึงมีโอกาสได้รู้ว่ามีเพื่อนเราคนหนึ่งในกลุ่มเธอแอบชอบเราอยู่มานานแล้วทำให้เราได้เริ่มคุยกัน ถึงพบว่าเธอน่ารักนะ มีมุมน่ารักๆ เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ เรารู้สึกชอบนิสัยของเธอคนนี้จนตกลงเป็นแฟนกันตอน มิย.61 เรามีความสุขดีเวลาที่อยู่ด้วยกัน ถามเราว่ามีคิดถึงพี่คนนั้นมั้ย ตอบเลยว่ามีบ่อยๆ แต่ไม่เคยพยายามไปสือเสาะหรือติดต่ออะไรอยากปล่อยให้มันผ่านๆไป
จนเมื่อต้นปี กุมภา 62 หลานสาว (ลูกของลูกพี่ลูกน้องเรา) จะแต่งงานพี่สาวเราเลยขอให้ไปช่วยถ่ายรูปให้หน่อยที่บ้านเค้าอีกจังหวัดหนึ่ง เป็นงานเล็กๆ ไม่จัดใหญ่โตอะไรมีแค่ญาติๆของบ่าวสาว เราก็โอเคไปกะค้างบ้านพี่สาว 2 คืน พอเช้าวันแต่งหลาน เรานี่ยืนช้อคนิ่งอึ้ง มึน แม่เจ้าบ่าวคือ พี่คนนั้น และพี่เค้าสวยมาก.... เรานิ่งไปเกือบนาทีจนญาติมาถามว่าเป็นอะไรมั้ย เราถึงดึงสติกลับมาตั้งใจถ่ายรูปในงานให้ได้ ดีที่เรามีหน้าที่ถ่ายรูปถ้าไม่อย่างนั้นเราก็ไม่รู้เราจะมีสติอยู่ตรงนั้นมั้ยหรือเราจะเดินหนีไป คือหัวใจเราเต้นแรงมาก และเหมือนพี่เค้าจะอึ้งอยู่เหมือนกันแต่เค้าเก็บอาการได้เก่ง หลายรูปพี่เค้าตั้งใจมองกล้อง ตั้งใจยิ้มให้กล้อง บอกตามตรงเราสั่นไปหมด เสร็จงานพิธีการมาจนถึงช่วงเลี้ยง เราถึงได้พักไปแอบดื่มน้ำหลังครัว พี่เค้าเดินตามเข้ามาตอนไหนเราไม่รู้ มากระซิบเบาๆว่าคิดถึง ... มันเป็นคำเดียวที่ทำให้หัวใจเราแทบระเบิดออกมา ดีใจจนบอกไม่ถูก แต่ก็ได้แค่เดินเลี่ยงออกมา ในหัวเราสับสนไปหมด แฟนพี่เค้าไปไหน ทำไมมีแต่ญาติๆ จนกระทั่งงานเลี้ยงเลิกแขกกลับหมดเหลือกันแค่ไม่กี่คน พี่เค้าบอกพี่สาวเราว่าเหนื่อย ขอให้เราขับรถไปส่งที่ โรงแรมที่พัก เราก็เลยมีโอกาสได้คุยกัน
พี่เค้าเล่าว่าหลังจากที่บล็อกเราแล้ว แฟนพี่เค้าทำตัวดีขึ้น เปิดตัวให้ใครต่อใครรู้ว่านี่คือแฟน คือเอาใจใส่มากปรับปรุงตัว (อาจเพราะกลัวจะเสียพี่เค้าไป) แต่มันก็เป็นแค่ ปีเดียวหลังจากนั้นมาก็เหมือนเดิม แบบเดิม นิสัยเดิมๆ จนพี่เค้าบอกเลิกไป จบแยกย้ายกันไป ตอนนี้อยู่กับลูกๆ ก็สบายใจดี พี่เค้าบอกว่าปลดบล็กเราตั้งนานแล้วแต่ไม่ได้ขอเป็นเพื่อนใหม่ ไม่กล้าโทร แต่ก็แอบส่องเราเห็นเรามีแฟนใหม่ ใช่สติเราที่หลุดลอยไปกับพี่เค้ากลับเข้ามาหน้าแฟนคนปัจจุบันไหลเข้ามาในหัวทันที แล้วเราบอกตัวเองว่า เราจะไม่ทำผิดอีก ส่งพี่เค้าที่หน้าโรงแรมเสร็จ เราบอกพี่เค้าว่า เราจะขอเป็นคนบล๊อกนะ เราไม่อยากให้อะไรๆมันยุ่งยากอีก พี่เค้าแค่ยิ้มบางๆและพยักหน้า
มันคือความเข้าใจนะเราว่า ถ้าจะถามว่ายังรักเค้าอยู่ไหม ตอบเลยว่ารัก แต่ชีวิตไม่ได้มีแค่คนสองคน
กลับไปบ้านพี่สาว เราถอดเมมโมรี่จากกล้องให้หลานสาวไปเลยจ้าาา บอกหลานแค่ว่าไปหาทางแต่งรูปเอาเอง เราทำงานไม่มีเวลาทำ คือจริงๆกลัวตัวเองใจอ่อนถ้าต้องไปนั่งดูรูปอีก
ตอนนี้เราสบายใจนะคบกับแฟนคนปัจจุบัน เค้าอาจไม่ตรงสเปกเราทั้งหมดหรอกแต่อยู่ด้วยแล้วสบายใจแบบ ญ รัก ญ แบบนี้ก็ดีแล้ว
นี่เป็นกะทู้แรกของเราที่อยากแชร์ประสบการณ์หลังจากสิงอ่านของคนอื่นมาหลายปี และคงเป็นกะทู้เดียวด้วย เพราะปกติชอบอ่านมากกว่าเขียนอะไร
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะ