ตัวผมเองก็ยอมรับอย่างเต็มใจว่า เพิ่งได้ยินและทำความรู้จัก ฝุ่น PM 2.5 เมื่อมีวิกฤติฝุนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ยิ่งศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ก็ยิ่งรู้สึกกังวลกับปัญหานี้เป็นอย่างมาก เพราะ ฝุ่น PM2.5 ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ มากมาย ทั้ง โรคมะเร็งปอด, โรคปอดอุดตั้งเรื้อรัง รวมถึง โรคหลอดเลือดในสมอง ฯลฯ
นอกจากนั้น ยังไม่เห็นมาตราการการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังจากหน่วยงานไหนเลย สิ่งที่คนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ ทำได้นั่นคือการสวมใส่หน้ากากป้องกันเวลาเดินทางออกไปข้างนอก แต่เวลาเราอยู่ในบ้านละ ??
เวลาเราอยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะนั่งดูทีวี หรือกินข้าวเย็น เราก็กำลังสูดฝุ่นเล็กๆ เหล่านี้เข้าไปตลอดเวลา (ระดับความเข้มข้นของฝุ่นนอกบ้านกับในบ้านก็ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้มากอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจเลย)
ทีนี้เราจะทำอย่างไรดีละ จะให้ติดเครื่องฟอกอากาศทั้งบ้านก็คงไม่ไหว จะให้ใส่หน้ากากตลอดเวลาก็ทรมานสุดๆ
ต้นไม้ดูเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะจับฝุ่นแล้ว ต้นไม้ยังช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจน, ลดอุณหภูมิรอบตัวบ้าน รวมถึงลดเสียงรอบข้างอีกด้วย
ต้นไม้ลดฝุ่น PM 2.5 ได้ด้วย 2 วิธีการด้วยกัน 1) ทำให้ฝุ่นกระจายไปในทิศทางอื่น 2) ทำการดักจับฝุ่น
ส่วนที่ผมสนใจคือข้อที่ 2 เพราะดูเป็นการแก้ไขปัญหาจริงๆ (ทำให้ปริมาณฝุ่นในอากาศลดลง) มีการทดลองที่น่าสนใจ 2 ที่คือ การทดลองจากประเทศจีนที่ปักกิ่ง และฉงชิ่ง โดยสร้างกล่องทดสอบกับต้นไม้ 25 ชนิด เพื่อหาว่าต้นไม้ชนิดใดที่เหมาะสมนำมาปลูกในเมืองเพื่อทำการลดฝุ่น PM2.5
และการทดลองจาก Leicester University ที่ทำการสร้างแบบจำลองในเมืองและต้นไม้โดยคอมพิวเตอร์ และดูความสามารถในการลดฝุ่นของต้นไม้
ทั้ง 2 การทดลองต่างได้ผลการทดสอบไปในทางเดียวกัน คือ ต้นไม้สามารถลดฝุ่น PM 2.5 ได้จริง โดยความสามารถในการลดฝุ่นจะแตกต่างไปตามชนิดของต้นไม้ – ความต่างของส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ร่องใบ, ขนใบ รวมถึงลักษณะปากใบ จะส่งผลเป็นอย่างมาก
ในประเทศไทยต้นไม้ที่ดักจับฝุ่นได้ดีและหาได้ง่าย เช่น ต้นโมก, ต้นสร้อยอินทนิล และ ต้นสร้อยอินโด แต่เอาเข้าจริงๆ ต้นไม้ที่ผมเลือกปลุกที่บ้านก็ไม่ได้เลือกต้นไม้ที่ดักจับฝุ่นได้ดีที่สุด แต่เลือกต้นไม้ที่สวยและถูกใจ เพราะผมคิดว่าต้นไม้ทุกชนิดดักจับฝุ่นและฟอกอากาศได้อยู่แล้ว อยู่ที่จะมากหรือน้อยเท่านั้น และการได้เลือกต้นไม้ที่เราชอบจะเป็นแรงจูงใจอย่างดีที่จะทำให้เราลุกขึ้นมาดูแลต้นไม้เหล่านี้
และสิ่งสำคัญมากๆ อีกอย่างหนึ่งคือการรดน้ำต้นไม้ ให้พยายาม
รดไปที่ใบด้วยเพื่อเป็นการล้างฝุ่นที่เกาะอยู่ที่ใบให้ลงมาที่พื้นดิน เพราะถ้าเราไม่ทำอย่างนั้น ต้นไม้ของเราจะลดฝุ่นไม้ได้ – โดยจะเป็น
จุดสมดุล คือ ฝุ่นที่ไปเกาะพอๆ กับฝุ่นที่หลุดออกมา
ในปัจจุบันมีการที่แผนที่ที่ matching จำนวนประชากรกับปริมาณฝุ่น PM 2.5 เพื่อหาจุดที่จะได้ประโยชน์มากๆ เมื่อปลูกต้นไม้ เช่น Washington, DC
และนี่คือจุดที่ต่างๆ ทั่วโลก – ซึ่งกรุงเทพคือหนึ่งในนั้น
มาปลูกและดูแลต้นไม้กันเถอะครับ
"The best time to plant a tree is twenty years ago. The second best time is now"
ต้นไม้กับการลดฝุ่น PM2.5
นอกจากนั้น ยังไม่เห็นมาตราการการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังจากหน่วยงานไหนเลย สิ่งที่คนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ ทำได้นั่นคือการสวมใส่หน้ากากป้องกันเวลาเดินทางออกไปข้างนอก แต่เวลาเราอยู่ในบ้านละ ??
เวลาเราอยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะนั่งดูทีวี หรือกินข้าวเย็น เราก็กำลังสูดฝุ่นเล็กๆ เหล่านี้เข้าไปตลอดเวลา (ระดับความเข้มข้นของฝุ่นนอกบ้านกับในบ้านก็ต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้มากอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจเลย)
ทีนี้เราจะทำอย่างไรดีละ จะให้ติดเครื่องฟอกอากาศทั้งบ้านก็คงไม่ไหว จะให้ใส่หน้ากากตลอดเวลาก็ทรมานสุดๆ
ต้นไม้ดูเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะจับฝุ่นแล้ว ต้นไม้ยังช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจน, ลดอุณหภูมิรอบตัวบ้าน รวมถึงลดเสียงรอบข้างอีกด้วย
ต้นไม้ลดฝุ่น PM 2.5 ได้ด้วย 2 วิธีการด้วยกัน 1) ทำให้ฝุ่นกระจายไปในทิศทางอื่น 2) ทำการดักจับฝุ่น
ส่วนที่ผมสนใจคือข้อที่ 2 เพราะดูเป็นการแก้ไขปัญหาจริงๆ (ทำให้ปริมาณฝุ่นในอากาศลดลง) มีการทดลองที่น่าสนใจ 2 ที่คือ การทดลองจากประเทศจีนที่ปักกิ่ง และฉงชิ่ง โดยสร้างกล่องทดสอบกับต้นไม้ 25 ชนิด เพื่อหาว่าต้นไม้ชนิดใดที่เหมาะสมนำมาปลูกในเมืองเพื่อทำการลดฝุ่น PM2.5
และการทดลองจาก Leicester University ที่ทำการสร้างแบบจำลองในเมืองและต้นไม้โดยคอมพิวเตอร์ และดูความสามารถในการลดฝุ่นของต้นไม้
ทั้ง 2 การทดลองต่างได้ผลการทดสอบไปในทางเดียวกัน คือ ต้นไม้สามารถลดฝุ่น PM 2.5 ได้จริง โดยความสามารถในการลดฝุ่นจะแตกต่างไปตามชนิดของต้นไม้ – ความต่างของส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ร่องใบ, ขนใบ รวมถึงลักษณะปากใบ จะส่งผลเป็นอย่างมาก
ในประเทศไทยต้นไม้ที่ดักจับฝุ่นได้ดีและหาได้ง่าย เช่น ต้นโมก, ต้นสร้อยอินทนิล และ ต้นสร้อยอินโด แต่เอาเข้าจริงๆ ต้นไม้ที่ผมเลือกปลุกที่บ้านก็ไม่ได้เลือกต้นไม้ที่ดักจับฝุ่นได้ดีที่สุด แต่เลือกต้นไม้ที่สวยและถูกใจ เพราะผมคิดว่าต้นไม้ทุกชนิดดักจับฝุ่นและฟอกอากาศได้อยู่แล้ว อยู่ที่จะมากหรือน้อยเท่านั้น และการได้เลือกต้นไม้ที่เราชอบจะเป็นแรงจูงใจอย่างดีที่จะทำให้เราลุกขึ้นมาดูแลต้นไม้เหล่านี้
และสิ่งสำคัญมากๆ อีกอย่างหนึ่งคือการรดน้ำต้นไม้ ให้พยายามรดไปที่ใบด้วยเพื่อเป็นการล้างฝุ่นที่เกาะอยู่ที่ใบให้ลงมาที่พื้นดิน เพราะถ้าเราไม่ทำอย่างนั้น ต้นไม้ของเราจะลดฝุ่นไม้ได้ – โดยจะเป็นจุดสมดุล คือ ฝุ่นที่ไปเกาะพอๆ กับฝุ่นที่หลุดออกมา
ในปัจจุบันมีการที่แผนที่ที่ matching จำนวนประชากรกับปริมาณฝุ่น PM 2.5 เพื่อหาจุดที่จะได้ประโยชน์มากๆ เมื่อปลูกต้นไม้ เช่น Washington, DC