เดือนสค 2561 เข้ารักษาในรพเอกชนแห่งหนึ่ง โดยในขณะที่แพทย์วินิจฉัยโรคในห้องตรวจดิฉันแจ้งแพทย์ว่าหากโรคที่ดิฉันป่วยไม่สามารถเคลมประกันได้ ขอชำระแค่ค่าตรวจและค่าบริการ รวมถึงค่าเครื่องมือทุกอย่าง ยกเว้นค่ายา ซึ่งแพทย์เข้าใจและได้วินิจฉัยว่าดิฉันป่วยด้วยโรคA ซึ่งตรงตามความคุ้มครองในกรมธรรม์ ดิฉันรับยาและกลับบ้านตามปกติ ต่อมาดิฉันมา รพ อีกหลายครั้งในหลายเดือนและแพทย์วินิจฉัยดิฉันว่าป่วยด้วยโรคA ทุกครั้ง (เอกสารทางการเงินของรพทุกครั้งจะระบุชื่อแพทย์ที่วินิจฉัย ชื่อโรค และมีลายเซ็นต์ของดิฉันเซ็นต์กำกับด้านล่างว่ารับทราบ)
แต่ 14 มิย 62 มีจดหมายจากรพ มาหาดิฉันให้กลับไปชำระเงินค่ารพ ทั้งหมดตั้งแต่ดิฉันเคยเข้ารักษามาเนื่องจากประกันแจ้งว่าดิฉันป่วยด้วยโรคB ไม่ใช่โรคA ดิฉันติดต่อรพ หลายครั้งว่าเอกสารที่ทางรพให้ดิฉันเซ็นต์รับทราบนั้นคือAทุกครั้ง แล้วทำไมถึงกลายเป็นBไปได้ คำตอบมีเพียงว่าจริงๆดิฉันเป็นโรคB แต่การเงินพิมพ์ผิดทุกครั้ง!!! รพมารู้ตอนที่ส่งเอกสารการเคลมแล้วไม่ได้ ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ ยอดสูงมากแทบลมจับเลยค่ะสำหรับดิฉัน ทางรพแจ้งว่าจะฟ้อง หากดิฉันไม่นำเงินไปชำระในเวลาที่กำหนด จะรอฟ้องแล้วขอผ่อน ขอลดหย่อน จะเป็นไอเดียที่ดีไหมคะ ส่วนบ.ประกันบอกได้แค่ว่าเคลมไม่ได้เพราะนอกเหนือกรมธรรม์และแจ้งว่าเอกสารทางการเงินที่มีลายเซ็นต์ดิฉันเซ็นต์รับทราบชื่อโรคนั้นไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานได้เนื่องจากทางประกันจะดูจากข้อมูลการรักษาโดยละเอียดของแพทย์เท่านั้น ตอนนี้เครียดมากค่ะ