จอร์แดนและอียิปต์ก็เป็นประเทศในฝันของใครหลายๆคน เป็นประเทศที่มีสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และโบราณสถานมากมายหลายสิ่ง ดูมีความลึกลับน่าค้นหา ซึ่งก็เป็นความฝันของพวกเราเช่นกันที่จะได้ไปเหยียบ 2 ประเทศนี้ และมันก็ไม่ได้น่ากลัวและไปยากอย่างที่คิดเลย
วีซ่า
ทั้งสองประเทศนี้ต้องใช้วีซ่า แต่ต้องทำแยกกัน
จอร์แดน - เป็น On Arrival Visa ถึงสนามบินที่นั่นแล้วค่อยทำได้เลย หรือถ้าใครอยู่ที่จอร์แดน 3 คืนขึ้นไป แนะนำให้ซื้อ Jordan Pass เลยนะ มันดีงามครอบจักรวาลมากสามารถใช้เป็นบัตรผ่านเข้า Petra และสถานที่เที่ยวอีกหลายๆที่ฟรี รวมถึงค่าวีซ่าด้วย คุ้มสุดๆ มีแต่ตั้งแต่ 1-3 Day Pass ยึดจากจำนวนวันที่เราจะเข้า Petra น้า อย่างเราซื้อแบบ 1 Day Pass ราคา 99 USD เพราะมีเวลาอยู่ Petra แค่วันเดียว แต่ Jordan Pass นี้ไม่รวมค่า Petra by night อีก 17 JOD นะ (วิธีจอง <a></a>
https://www.jordanpass.jo/)
อียิปต์ - ต้องขอวีซ่าอียิปต์มาจากไทยก่อนนะ ค่าวีซ่า 2,100 บาท ให้เตรียมเอกสารให้ครบแล้วไปที่สถานทูตอียิปต์ ตรงตึกสรชัย ชั้น31 ลง BTSเอกมัย แล้วเดินไปอีก 5 นาที ควรขอก่อนเดินทางสักเดือนนึงเพราะใช้เวลานานเหมือนกัน
เอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้
1. แบบคำร้องขอวีซ่า (Visa Application Form) Download และกรอกให้จบก่อนไปยื่น
2. Passport ฉบับจริง อายุเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
3. สำเนา passport 1 ฉบับ
4. รูปถ่ายสีพื้นหลังสีขาว ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 รูป
5. จดหมายรับรองการทำงานภาษาอังกฤษ
6. เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน
7. เอกสารการจองโรงแรมและที่พัก
8. หนังสือรับรองฐานะทางการเงิน ย้อนหลัง 6 เดือน
การแลกเงิน
ทั้งสองหน่วยเงินนี้ แนะนำให้แลกเป็น USD จากไทยมาก่อนแล้วค่อยนำเงิน USD มาแลกที่แต่ละประเทศอีกทีนะ อาจจะแลกที่สนามบินหรือร้านข้างนอกก็ได้ ค่าเงินของจอร์แดน คือ Jordan Dinar (JOD) 1 JOD จะอยู่ที่ประมาณ 47.5 บาท ส่วนอียิปต์ คือ Egyptian Pound (EGP) 1 EGP จะอยู่ที่ 1.84 บาท (เรทค่าเงินตอนตุลา’61)
ซิมมือถือ
จอร์แดน - ไปซื้อซิมที่สนามบินได้เลย ตอนนั้นเราใช้ของ Umniah ได้เนต 18 GB ราคา 14.80 JD (703 บาทไทย)
อียิปต์ - ใช้ AIS sim2fly ได้เลยสะดวกสุด
วิธีการเดินทาง
จอร์แดน - การเดินทางทั้งหมดใช้ Airport Shuttle จากโรงแรม, Taxi และ Private Tour (
https://www.classicwadirumtours.com/contact-us2/) ใน Wadi Rum มีคนขับให้ทั้งหมดสบายอยู่ รถไม่ติดด้วย หรืออยากเช่ารถขับเองก็ได้นะ
อียิปต์ - การเดินทางทั้งหมดใช้ Private local tour ของ Aladin Tours (eman.ahmed@aladintour.com) วางแผนเที่ยวทั้งหมดส่งให้ทัวร์ จัดรถพร้อมคนขับและไกด์ให้เลย ราคาไม่แพง แนะนำ และก็ใช้ domestic flight เพราะมีเวลาจำกัด
รายละเอียดการเดินทาง
Day 1: BKK to Amman / Sleep at Dead Sea Spa Hotel
Day 2: Dead Sea Campaign / Bubble Hotel Campaign / Sleep at Petra Bubble Hotel
Day 3: Petra / Petra by night / Sleep at La Maison Hotel
Day 4: Wadi Rum Tours (4hrs) / Ride Camel to see sunset / Sleep at Suncity Camp
Day 5: Back to Amman Airport / Amman to Aswan / Sleep at Ashry Narty
Day 6: Travel to Abu Simbel / Abu Simbel Temple / Back to Aswan / Felucca boat / Sleep at Ashry Narty
Day 7: Nubian Village / Philae Temple / Travel to Luxor / Sleep at Nefertiti
Day 8: Valley of the Kings / Valley of the Queen / Hatshepsut Temple / Karnak Temple / Luxor Temple / Fly to Cairo / Sleep at Pyramid View Inn
Day 9: Great Pyramid of Giza & Sphinx / Sakkara / Pyramids Sound and Light Show / Sleep at Pyramid View Inn
Day 10: Egyptian Museum / Khan El Khalili market / Mosque of Muhammad Ali / Back to BKK
Day1
วันแรกบินมาถึงตอนค่ำก็แวะซื้อซิมมือถือ และแลกเงินที่สนามบินก่อน แล้วเข้าที่พักแถว Dead Sea ชื่อ Dead Sea Spa Hotel เดินทางจากสนามบินประมาณชั่วโมงครึ่ง โดยมีรถจากโรงแรมมารับ ค่าเสียหาย 45 JOD ต่อคัน ตรงที่พักสามารถเดินลงหาดแล้วก็ Dead Sea ได้เลย และราคาไม่แพงด้วย วิวโรงแรมและห้องพักจะเป็นแบบนี้เลย
Day2
จริงๆแล้ว Dead sea หรือทะเลมรณะ เป็นทะเลสาบที่มีความเข้นข้นของเกลือสูงมาก เค็มกว่าน้ำทะเลปกติถึง 6 เท่า ด้วยความเค็มขนาดนี้ จึงทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตในน้ำเลย หมดห่วงปัญหาปลาตอดตอนลงไปถ่ายรูป เนื่องจากที่พักเราสามารถเดินลงไปเล่นน้ำตรง Dead Sea ได้ พวกเราเลยตื่นแต่เช้าก่อนแดดลงและคนเยอะไปทำแคมเปญลอยตัว กับพะยูนเกยตื้นกันที่นี่ แนะนำให้เตรียมหนังสือพิมพ์เป็นพร็อพถ่ายรูปกันด้วยเพื่อความชิคกับคุณค่าที่คุณคู่ควร ทางนี้ปล้นมาจากบนเครื่อง และอย่าลืมพอกโคลนกันด้วยนะเพิ่มวิตามินให้ผิว อิอิ ปล.อย่าได้เผลอชิมเกลือเข้าไปละ เค็มจนแสบคอเลยทีเดียว
จากนั้นก็ทานอาหารเช้าและเดินทางไป Petra Bubble Hotel จากโรงแรมไป Petra Bubble Hotel เราให้โรงแรมหา Taxi ให้ นั่งยาวๆไป 3ชั่วโมง รอแดดบ่ายแก่ๆก็มาถ่ายรูปทำแคมเปญกันอีกรอบให้คนทั่วโลกต้องแห่มาตามรีวิว สิ่งนี้คือไฮไลท์ของทริปนี้เลย มีอ่างจากุซซี่หน้าห้องให้แช่ตัวดูพระอาทิตย์ตก แค่นี้ก็ได้รูปไปอวดเพื่อนๆว่าชีวิตดี๊ดี ตกดึกก็นอนดูดาวจากในห้องได้เลย แถมรร.นั้นรวมบุฟเฟ่ต์อาหารทั้งเช้าและเย็นเลย บอกก่อนว่าที่นี่ไม่ได้แพงอย่างที่คิด ทริปในฝัน ที่พักหลักพัน วิวหลักล้าน สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น (ราคาโรงแรมเฉลี่ยคืนละ 8,000 บาท นอนสองคนก็คืนละ 4,000 เอง) บารากุก็ถูกมากๆคือมาแล้วต้องดูด เฉลี่ยเตาละ 80-150 บาท ไม่ต้องแชร์กัน คนละเตาจัดไป แนะนำเลอ
ในส่วนของ Lobby และ ห้องอาหาร ก็ยังเป็น bubble เหมือนกันสวยมากๆเลย
Day3
วันรุ่งขึ้นเราก็ไป Petra กัน โอ้โหหหหหห เป็นวันที่เดินขาลากมากทั้งทางลาดและปีนผาเป็นสิบโลเพื่อวิวที่สวยงามเราต้องสู้ เอาเป็นว่าแค่จากทางเข้าไปถึง The Treasury นี่คือมุมมหาชน มาถึงที่นี่กดชัตเตอร์วนจนคนที่รอคิวต้องเบะปาก ที่พีคกว่าคือเดินไปกลับก็ 4 โลกว่าแล้ว ซึ่งจริงๆมันก็มีรถม้าหรือขี่ม้านะ แต่เราเดินกันเพื่ออรรถรส ส่วนเส้นทางนั้นเราเลือกคือ เส้นทางที่ 2 Al-Khubtha Trail ไปกลับแล้วเกือบ 5 ชั่วโมง
ตกดึกก็เดินเข้าไปอีกรอบเพื่อดู Petra by night เอาจริงๆมันก็ไม่ได้มีอะไรขนาดนั้น เค้าจะจุดเทียนตั้งไว้แล้วก็มีคนมาเล่าเรื่องบลาๆพร้อมแจกชาคนละแก้ว เสร็จก็เปิดไฟตรง Petra นิดหน่อย ใครที่อยากไปถ่ายรูปไฟที่ยังไม่มีคนแนะนำให้รีบเข้าไปก่อนพิธีเริ่มน้า มีแค่คืนวันจันทร์ พุธและพฤหัส
Day4
ไฮไลท์ของวันนี้คือการนอนดูดาวกลางทะเลทรายที่ Wadi Rum ซึ่งเป็นทะเลทรายที่ใหญ่มากเต็มไปด้วยหุบเขาหินทรายและหินแกรนิต ที่ตื่นเต้นมากๆ คือเป็นสถานที่ถ่ายทำของหนังดังหลายๆเรื่อง เช่น Star Wars, Transformers เราซื้อ Half day tour ซึ่งทัวร์นี้จะเป็นการกระเตงพวกเราขึ้นบนรถกระบะที่มีหลังคา และพาแวะไปดูตามสถานที่ต่างๆ และเพื่อให้สะดวกมากขึ้นในการเดินทางแนะนำซื้อรถรับส่งเพิ่มจากโรงแรมก่อนหน้ามาที่นี่ด้วยเลย ก่อนเข้าที่พักพวกเราได้ไปขี่อูฐดูพระอาทิตย์ตกกัน สิ่งที่คิดคือต้องดีย์มากแน่ๆ แต่สิ่งที่เป็นคืออออ โดนอูฐกัด!!! ด้วยความที่นั่งอยู่บนหลังนาง และหัวของอูฐสูงพอๆกับที่ๆเรานั่ง น้องอูฐเลยหันมากัด โดนกัดแขนถึงสองรอบเลยจ้า คนบ้าอะไรโดนอูฐกัด กรีดร้องกันไป แขนเขียวช้ำก็มาโปรดระวังกันเน้อ #อูฐเป็นสัตว์โหดร้าย //กี๊สสมาก ร้องไห้ทรีไทมส์
ส่วนที่พักที่หลายคนไม่ควรพลาดคือ Martian Tent หรือ Bubble Hotel ที่ดังในหมู่คนไทย มงลงแน่นอนถ้าได้มานอนที่นี่ ซึ่งแนะนำว่าต้องจองล่วงหน้าแบบหลายเดือนหรือเกือบปีเลย พวกเราก็จองไม่ทันจ้า555 เลยได้ Luxury Tent กันไป ตอนกลางคืนอากาศจะหนาวซะหน่อยเตรียมเสื้อหนาวกันมาด้วยนะ
ในส่วนของที่นั่งชิวด้านนอก และโรงอาหารของโรงแรมก็จะเป็นโดมสวยมาก
วิวกลางคืนท่ามกลางหุบเขาและทะเลทรายจะเห็นดาวด้วยตาเปล่าชัดมาก เหมือนเราหลุดไปอยู่ในจักรวาลเลย ของดีไม่ต้องพูดเยอะ
กำเงิน 70,000 บาท แล้วไปเที่ยว Jordan - Egypt 10 วัน 9 คืนกัน!
วีซ่า
ทั้งสองประเทศนี้ต้องใช้วีซ่า แต่ต้องทำแยกกัน
จอร์แดน - เป็น On Arrival Visa ถึงสนามบินที่นั่นแล้วค่อยทำได้เลย หรือถ้าใครอยู่ที่จอร์แดน 3 คืนขึ้นไป แนะนำให้ซื้อ Jordan Pass เลยนะ มันดีงามครอบจักรวาลมากสามารถใช้เป็นบัตรผ่านเข้า Petra และสถานที่เที่ยวอีกหลายๆที่ฟรี รวมถึงค่าวีซ่าด้วย คุ้มสุดๆ มีแต่ตั้งแต่ 1-3 Day Pass ยึดจากจำนวนวันที่เราจะเข้า Petra น้า อย่างเราซื้อแบบ 1 Day Pass ราคา 99 USD เพราะมีเวลาอยู่ Petra แค่วันเดียว แต่ Jordan Pass นี้ไม่รวมค่า Petra by night อีก 17 JOD นะ (วิธีจอง <a></a>https://www.jordanpass.jo/)
อียิปต์ - ต้องขอวีซ่าอียิปต์มาจากไทยก่อนนะ ค่าวีซ่า 2,100 บาท ให้เตรียมเอกสารให้ครบแล้วไปที่สถานทูตอียิปต์ ตรงตึกสรชัย ชั้น31 ลง BTSเอกมัย แล้วเดินไปอีก 5 นาที ควรขอก่อนเดินทางสักเดือนนึงเพราะใช้เวลานานเหมือนกัน
เอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้
1. แบบคำร้องขอวีซ่า (Visa Application Form) Download และกรอกให้จบก่อนไปยื่น
2. Passport ฉบับจริง อายุเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
3. สำเนา passport 1 ฉบับ
4. รูปถ่ายสีพื้นหลังสีขาว ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 รูป
5. จดหมายรับรองการทำงานภาษาอังกฤษ
6. เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน
7. เอกสารการจองโรงแรมและที่พัก
8. หนังสือรับรองฐานะทางการเงิน ย้อนหลัง 6 เดือน
การแลกเงิน
ทั้งสองหน่วยเงินนี้ แนะนำให้แลกเป็น USD จากไทยมาก่อนแล้วค่อยนำเงิน USD มาแลกที่แต่ละประเทศอีกทีนะ อาจจะแลกที่สนามบินหรือร้านข้างนอกก็ได้ ค่าเงินของจอร์แดน คือ Jordan Dinar (JOD) 1 JOD จะอยู่ที่ประมาณ 47.5 บาท ส่วนอียิปต์ คือ Egyptian Pound (EGP) 1 EGP จะอยู่ที่ 1.84 บาท (เรทค่าเงินตอนตุลา’61)
ซิมมือถือ
จอร์แดน - ไปซื้อซิมที่สนามบินได้เลย ตอนนั้นเราใช้ของ Umniah ได้เนต 18 GB ราคา 14.80 JD (703 บาทไทย)
อียิปต์ - ใช้ AIS sim2fly ได้เลยสะดวกสุด
วิธีการเดินทาง
จอร์แดน - การเดินทางทั้งหมดใช้ Airport Shuttle จากโรงแรม, Taxi และ Private Tour (https://www.classicwadirumtours.com/contact-us2/) ใน Wadi Rum มีคนขับให้ทั้งหมดสบายอยู่ รถไม่ติดด้วย หรืออยากเช่ารถขับเองก็ได้นะ
อียิปต์ - การเดินทางทั้งหมดใช้ Private local tour ของ Aladin Tours (eman.ahmed@aladintour.com) วางแผนเที่ยวทั้งหมดส่งให้ทัวร์ จัดรถพร้อมคนขับและไกด์ให้เลย ราคาไม่แพง แนะนำ และก็ใช้ domestic flight เพราะมีเวลาจำกัด
รายละเอียดการเดินทาง
Day 1: BKK to Amman / Sleep at Dead Sea Spa Hotel
Day 2: Dead Sea Campaign / Bubble Hotel Campaign / Sleep at Petra Bubble Hotel
Day 3: Petra / Petra by night / Sleep at La Maison Hotel
Day 4: Wadi Rum Tours (4hrs) / Ride Camel to see sunset / Sleep at Suncity Camp
Day 5: Back to Amman Airport / Amman to Aswan / Sleep at Ashry Narty
Day 6: Travel to Abu Simbel / Abu Simbel Temple / Back to Aswan / Felucca boat / Sleep at Ashry Narty
Day 7: Nubian Village / Philae Temple / Travel to Luxor / Sleep at Nefertiti
Day 8: Valley of the Kings / Valley of the Queen / Hatshepsut Temple / Karnak Temple / Luxor Temple / Fly to Cairo / Sleep at Pyramid View Inn
Day 9: Great Pyramid of Giza & Sphinx / Sakkara / Pyramids Sound and Light Show / Sleep at Pyramid View Inn
Day 10: Egyptian Museum / Khan El Khalili market / Mosque of Muhammad Ali / Back to BKK
Day1
วันแรกบินมาถึงตอนค่ำก็แวะซื้อซิมมือถือ และแลกเงินที่สนามบินก่อน แล้วเข้าที่พักแถว Dead Sea ชื่อ Dead Sea Spa Hotel เดินทางจากสนามบินประมาณชั่วโมงครึ่ง โดยมีรถจากโรงแรมมารับ ค่าเสียหาย 45 JOD ต่อคัน ตรงที่พักสามารถเดินลงหาดแล้วก็ Dead Sea ได้เลย และราคาไม่แพงด้วย วิวโรงแรมและห้องพักจะเป็นแบบนี้เลย
Day2
จริงๆแล้ว Dead sea หรือทะเลมรณะ เป็นทะเลสาบที่มีความเข้นข้นของเกลือสูงมาก เค็มกว่าน้ำทะเลปกติถึง 6 เท่า ด้วยความเค็มขนาดนี้ จึงทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตในน้ำเลย หมดห่วงปัญหาปลาตอดตอนลงไปถ่ายรูป เนื่องจากที่พักเราสามารถเดินลงไปเล่นน้ำตรง Dead Sea ได้ พวกเราเลยตื่นแต่เช้าก่อนแดดลงและคนเยอะไปทำแคมเปญลอยตัว กับพะยูนเกยตื้นกันที่นี่ แนะนำให้เตรียมหนังสือพิมพ์เป็นพร็อพถ่ายรูปกันด้วยเพื่อความชิคกับคุณค่าที่คุณคู่ควร ทางนี้ปล้นมาจากบนเครื่อง และอย่าลืมพอกโคลนกันด้วยนะเพิ่มวิตามินให้ผิว อิอิ ปล.อย่าได้เผลอชิมเกลือเข้าไปละ เค็มจนแสบคอเลยทีเดียว
จากนั้นก็ทานอาหารเช้าและเดินทางไป Petra Bubble Hotel จากโรงแรมไป Petra Bubble Hotel เราให้โรงแรมหา Taxi ให้ นั่งยาวๆไป 3ชั่วโมง รอแดดบ่ายแก่ๆก็มาถ่ายรูปทำแคมเปญกันอีกรอบให้คนทั่วโลกต้องแห่มาตามรีวิว สิ่งนี้คือไฮไลท์ของทริปนี้เลย มีอ่างจากุซซี่หน้าห้องให้แช่ตัวดูพระอาทิตย์ตก แค่นี้ก็ได้รูปไปอวดเพื่อนๆว่าชีวิตดี๊ดี ตกดึกก็นอนดูดาวจากในห้องได้เลย แถมรร.นั้นรวมบุฟเฟ่ต์อาหารทั้งเช้าและเย็นเลย บอกก่อนว่าที่นี่ไม่ได้แพงอย่างที่คิด ทริปในฝัน ที่พักหลักพัน วิวหลักล้าน สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น (ราคาโรงแรมเฉลี่ยคืนละ 8,000 บาท นอนสองคนก็คืนละ 4,000 เอง) บารากุก็ถูกมากๆคือมาแล้วต้องดูด เฉลี่ยเตาละ 80-150 บาท ไม่ต้องแชร์กัน คนละเตาจัดไป แนะนำเลอ
ในส่วนของ Lobby และ ห้องอาหาร ก็ยังเป็น bubble เหมือนกันสวยมากๆเลย
Day3
วันรุ่งขึ้นเราก็ไป Petra กัน โอ้โหหหหหห เป็นวันที่เดินขาลากมากทั้งทางลาดและปีนผาเป็นสิบโลเพื่อวิวที่สวยงามเราต้องสู้ เอาเป็นว่าแค่จากทางเข้าไปถึง The Treasury นี่คือมุมมหาชน มาถึงที่นี่กดชัตเตอร์วนจนคนที่รอคิวต้องเบะปาก ที่พีคกว่าคือเดินไปกลับก็ 4 โลกว่าแล้ว ซึ่งจริงๆมันก็มีรถม้าหรือขี่ม้านะ แต่เราเดินกันเพื่ออรรถรส ส่วนเส้นทางนั้นเราเลือกคือ เส้นทางที่ 2 Al-Khubtha Trail ไปกลับแล้วเกือบ 5 ชั่วโมง
ตกดึกก็เดินเข้าไปอีกรอบเพื่อดู Petra by night เอาจริงๆมันก็ไม่ได้มีอะไรขนาดนั้น เค้าจะจุดเทียนตั้งไว้แล้วก็มีคนมาเล่าเรื่องบลาๆพร้อมแจกชาคนละแก้ว เสร็จก็เปิดไฟตรง Petra นิดหน่อย ใครที่อยากไปถ่ายรูปไฟที่ยังไม่มีคนแนะนำให้รีบเข้าไปก่อนพิธีเริ่มน้า มีแค่คืนวันจันทร์ พุธและพฤหัส
Day4
ไฮไลท์ของวันนี้คือการนอนดูดาวกลางทะเลทรายที่ Wadi Rum ซึ่งเป็นทะเลทรายที่ใหญ่มากเต็มไปด้วยหุบเขาหินทรายและหินแกรนิต ที่ตื่นเต้นมากๆ คือเป็นสถานที่ถ่ายทำของหนังดังหลายๆเรื่อง เช่น Star Wars, Transformers เราซื้อ Half day tour ซึ่งทัวร์นี้จะเป็นการกระเตงพวกเราขึ้นบนรถกระบะที่มีหลังคา และพาแวะไปดูตามสถานที่ต่างๆ และเพื่อให้สะดวกมากขึ้นในการเดินทางแนะนำซื้อรถรับส่งเพิ่มจากโรงแรมก่อนหน้ามาที่นี่ด้วยเลย ก่อนเข้าที่พักพวกเราได้ไปขี่อูฐดูพระอาทิตย์ตกกัน สิ่งที่คิดคือต้องดีย์มากแน่ๆ แต่สิ่งที่เป็นคืออออ โดนอูฐกัด!!! ด้วยความที่นั่งอยู่บนหลังนาง และหัวของอูฐสูงพอๆกับที่ๆเรานั่ง น้องอูฐเลยหันมากัด โดนกัดแขนถึงสองรอบเลยจ้า คนบ้าอะไรโดนอูฐกัด กรีดร้องกันไป แขนเขียวช้ำก็มาโปรดระวังกันเน้อ #อูฐเป็นสัตว์โหดร้าย //กี๊สสมาก ร้องไห้ทรีไทมส์
ส่วนที่พักที่หลายคนไม่ควรพลาดคือ Martian Tent หรือ Bubble Hotel ที่ดังในหมู่คนไทย มงลงแน่นอนถ้าได้มานอนที่นี่ ซึ่งแนะนำว่าต้องจองล่วงหน้าแบบหลายเดือนหรือเกือบปีเลย พวกเราก็จองไม่ทันจ้า555 เลยได้ Luxury Tent กันไป ตอนกลางคืนอากาศจะหนาวซะหน่อยเตรียมเสื้อหนาวกันมาด้วยนะ
ในส่วนของที่นั่งชิวด้านนอก และโรงอาหารของโรงแรมก็จะเป็นโดมสวยมาก
วิวกลางคืนท่ามกลางหุบเขาและทะเลทรายจะเห็นดาวด้วยตาเปล่าชัดมาก เหมือนเราหลุดไปอยู่ในจักรวาลเลย ของดีไม่ต้องพูดเยอะ