Myanmar Trip with my 6 Friends Date: 4-5 May 2019
ก่อนไปเที่ยวพม่า หลายๆ คนต่างบอกว่าพม่าอันตรายนะ น่ากลัวด้วย
ทำไมถึงตัดสินใจไปหรอ ง่ายๆ เลย.. เพราะเพื่อนชวนไง >.<
ชีวิตนี้ขับเคลื่อนได้เพราะเพื่อน 5555
หัวข้อที่รีวิว
1. การเดินทาง/การแลกเงิน
2. สถานที่พัก
3. อาหาร
4. วัด/สถานที่ที่ไป
5. สิ่งที่ต้องพกติดตัวไป
การเดินทาง
จขกท. เลือกที่จะเดือนทางกับ Thai Lion Air ทั้งขาไป-กลับ + โหลดกระเป๋าไว้ด้วย
Dongmuang Airport to Yangon Airport (อ่านว่า ยาง-กูล)
ส่วนการเดินทางในประเทศพม่า จะใช้ GRAB ตลอดทั้งทริป
เนื่องจากจขกท.ไปพม่ากับเพื่อน 6 คน
เวลาไปไหนมาไหน จึงต้องเรียกรถครั้งละ 2 คันตลอด
เพราะ GRAB ที่นู้น มีแค่ 2 แบบเท่านั้น
คือ GRAB CAR และ GRAB PLUS
ซึ่งแกร๊บพลัสเนี่ย ก็รถโดยสาร 4 ที่นั่งปกติเนี่ยแหละ
ไม่ใช่รถตู้หรือรถ 7 ที่นั่งแต่อย่างใด - -"
พลาดมาละ ตอนเรียกรถจากสนามบินไปที่พัก
คิดดู๊... นั่งอัดกัน 6 คนในรถ พร้อมกระเป๋า อื้อหือออ~
คนขับหัวเราะใหญ่เลยจ้า
อัตราค่าโดยสายโดยประมาณ
สนามบิน > พี่พัก = 6,400 จั๊ด
ไปสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ = 2,000-3,000 จั๊ด/เที่ยว
การแลกเงิน
จขกท. แลกเงินไป 2,000 บาท หรือ 93,000 จั๊ด (รู้สึกรวย)
การไปกับเพื่อนหลายๆ คน เพื่อความสะดวก
จึงนำเงินส่วนตัวมารวมเป็นกองกลางประมาณ 40,000 จั๊ด/คน นะคะ
เวลามีค่ารถ ค่ากิน ก็จะใช้เงินส่วนนี้ออก
ในภาพคือมีเงินไม่ถึงเก้าหมื่นแล้วนะ เพราะให้เพื่อนไว้ และใช้ไปบ้างบางส่วน
*เงินมีรอยขาด ร้านที่พม่าไม่รับนะคะ
แต่ตอนนั้นคือ วันสุดท้ายแล้วไง เลยบอกทางร้านว่าถ้าไม่รับคือไม่มีแล้วนะ
เขาจึงจำเป็นต้องรับไป แบ้งค์หมื่นเชียวนะ!!
*แบ้งค์พันสำคัญ เพราะใช้บ่อย แลกไปเยอะๆ
=================================================================================
สถานที่พัก
พวกเราเลือกพักที่ Merchant Art Boutique Hotel
เพราะอยู่ในเมือง และเดินทางสะดวก
พนักงานน่ารัก นิสัยดีม๊ากกก
ห้องพักโอเคเลย แถมอาหารเช้าเขาก็ดีนะะะแกร๊
ขอบคุณรูป: Booking.com
แต่เพื่อนเราบางคนเขาไม่ค่อยชอบห้องน้ำอะ นางบอกว่ามันยี้ๆ
แต่เราว่าก็โอเคนะ ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น
แต่ที่พม่าต้องทำใจกับไฟตกหน่อยนะคะ - -"
WELCOME DRINK คือน้ำแคนตาลูป หวานๆ จืดๆ
หวานเพราะมาจากผลไม้จริงๆ แต่จืดเพราะไม่ปรุงรสเลย
ธรรมชาติดีค่ะ ชอบๆ
ใส่น้ำแข็งมาให้ด้วย 1 ก้อน (ภาษาพม่า คือ เหย๋-เก)
=================================================================================
อาหาร
จขกท.เลือกทานอาหารเช้าวันที่ 5 พค. ของที่พักเลย
ส่วนมื้ออื่นๆ ก็หากินระหว่างทางบ้าง จำพวกพวกขนม
ส่วนมื้อใหญ่ๆ ก็รอกินควบมื้อ เพราะเดินๆ ไปก็ลืมกินด้วยแหละ เลยรอควบมื้อไปเลย
ส่วนร้านนั่งข้างทางคือไม่ได้กินอ่า เนื่องจากกังวลเรื่องความสะอาด
รสชาติอาหารที่นู้นไม่ได้กินยากเลยนะ เพื่อนเอามาม่าไปก็ไม่ได้กิน
รสชาติคล้ายกับอาหารไทยพอสมควร แต่ไม่ค่อยเผ็ดมาก
ขนมที่ไทยไปขายที่นู้นเยอะมากเลย แถมถูกด้วย
มื้อเช้า วันที่ 4 ก็หาทานก่อนเครื่องออกจากดอนเมือง
มื้อกลางวัน แว๊ะทานที่ Rainbow Food Center
ขอบคุณรูป: Google Map
อยู่ใกล้กับวัดพระพุทธไสยยาสน์เจาทัตยี
ร้านเล็กๆ มีเมนูอาหารให้เลือกหลายอย่าง และสะอาดค่ะ
อาจมีพนักงานใช้มือจับน้ำแข็งมาใส่แก้วให้โดยตรง
ทำเอาตกใจเล่นนิดหน่อยก็... ทำลืมๆ มันไป 55555
น่ากินปะหล่ะะะ
ตอนสั่งมีรูปให้จิ้มๆ ค่า ไม่ต้องกังวล
มือเย็น วันที่ 4 และมื้อก่อนกลับวันที่ 5
เงินเหลือๆ จัดไปค่ะ ร้าน MIN LAN Fresh Seafood & Rakhine Food (Shinsawpu Branch)
เรามาย่างกุ้ง ก็ต้องกินกุ้งย่าง! ให้สะใจกันไปเลย
ซึ่งอาหารทะเลที่นู้น ถูกม๊ากกกกกกกก
จริงๆ มีเมนูหมึกด้วย แต่ไม่มีรูปเสียดายจัง
ให้เน้นกุ้งนะคะ เพราะอร่อยสุด ตัวใหญ่ด้วย
เมื่อเทียบกับมือเพื่อนแล้วนั้นนน...... ฟินกันไปซิ๊!!!
ขนมหวาน
เมนูขนมของร้านนี้เขาก็อร่อยนะ
เมนูแรก: กล้วยบวชชีดีๆ นี่เองจ้า แต่ใส่งา มะพร้าว และก็สาคู หวานกำลังดี
เมนูที่สอง: อารมณ์เหมือนลอดช่องในน้ำตาลปี๊บละลายอะ หวานกำลังดีเช่นกัน
=================================================================================
วัดและสถานที่ที่ไป
วันที่ 4 ออกจากดอนเมืองดอน 07:35 น. พอถึง Yangon ก็นำกระเป๋าไปเก็บที่รร.ก่อน
จากนั้นก็นั่งแท็กซี่ไปที่แรกกันค่ะ
1. ที่วัดพระพุทธไสยยาสน์เจาทัตยี (Chauk Htat Kyi Pagoda)
หรือพระนอนตาหวาน
(ไม่มีค่าเข้าชม)
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสูง 16 เมตร และยาวถึง 65 เมตร
จริงๆ ภายในวัดมีอะไรให้ชมเยอะกว่านี้ค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายมา
หลังจากไหว้วัดนี้เสร็จก็ไปทานอาหารที่ Rainbow Food Center
จากนั้นไปวัดต่อไปเลยค่ะ
2. วัดหงาทัตยี (Nga Htat Gyi Pagoda)
วัดแห่งนี้ห่างจากวัดแรก 2.6 กิโลเมตร เองค่ะ แต่เราก็เรียกแท็กซี่ไปนะ แฮะๆ
(ไม่มีค่าเข้าชม)
เมื่อพบกับเนินอันสูงชันแล้วนั้น... ไปค่ะ เราสู้ตายย -_-\/
ภายในวัดมีพัดลมให้ค่ะ นั่งตากพัดลมไปยาวๆ
ต่อจากวันนี้เราก็ไปนั่งพักที่รร. แล้วก็ฝึกคิดเลขกันนิดหน่อย อิอิ
จากนั้นก็ไปทานข้าวที่ร้าน MIN LAN
พอทานข้าวเสร็จตั้งใจจะไปต่อกันที่เจดีย์ชเวดากอง
เพื่อถ่ายภาพบรรยากาศยามค่ำคืน กับแสงไฟสวยๆ
แต่ว่าฝนตกค่ะ หนักเลย
เลยต้องกลับไปโรงแรมเลย แต่แท็กซี่นี่ก็เรียกย๊ากกยาก grab ไม่มีเลย
มีแต่แท็กซี่ปกติ ซึ่งก็แพงกว่า grab เป็นธรรมดา ซึ่งก็ถูกกว่าของไทยแหละนะ
3. เจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda)
วันที่ 5 เริ่มต้นกันด้วยช่วงเช้าที่สดใส นัดกันตื่นตีสี่ เพื่อที่จะเดินไปวัดตอนตีห้า
(ค่าเข้าชม 10,000 จั๊ด)
บรรยากาศตอนเดินจากรร.ไปเจดีย์ชเวดากอง
คนพม่านิสัยดีนะคะ ไม่มีแซว ไม่มีละลาบละล้วงอะไรเลย
อาจจะมองนิดหน่อยเพราะเป็นต่างชาติ
เจอบันไดอีกแล้ว ไม่เป็นไรค่ะ สู้ตาย -_-
สวยยยมากกกก
เหมือนหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกนึงเลย
ถึแม้ว่าจะคนเยอะ แต่ก็รู้สึกถึงความสงบ
ไหว้เจดีย์ชเวดากองเสร็จ จากนั้นก็กลับไปทานข้าวที่โรงแรมค่ะ
นั่งพักสักแปปก็เช็คเอ้าท์ เตรียมตัวไปที่ต่อไป
4. พระเจดีย์โบตาทาวน์ (เทพทันใจ-เทพกระซิบ)
(ค่าเข้าชม 6,000 จั๊ด)
จบจากการไหว้เทพทันใจ ก็ได้ไปชมเทพกระซิบนะคะ แต่ส่วนตัวเองไม่ได้ขออะไร
จากนั้นก็กลับไปทานอาหารที่ร้าน MIN LAN ทานเสร็จก็ตรงไปสนามบินเลย
เพราะไฟล์ออก 20:30 น.
=================================================================================
สิ่งที่ต้องพกติดตัวไปจากไทย
1. น้ำเปล่าค่ะ
2. ทิชชู่เปียก เพราะต้องถอดทั้งรองเท้าและถุงเท้าเข้าวัดทุกที่
=================================================================================
ขอขอบคุณเพื่อนกลุ่ม Wink Wink Girl Group
และขอบคุณที่อ่านทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ
ติดตามต่อกันได้ที่ เพจ...
NAD TRAVEL:: Myanmar พม่า 2 วัน 1 คืน ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด