realme 3 pro นั้นเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดเมืองนอกและในไทยก็จะเข้ามาเร็วๆนี้แน่นอนว่าเป็นรุ่นที่หลายๆคนจับตามองเพราะมันมาพร้อมกับ Snapdragon 710 ที่ความแรงใช้งานได้ดีมากๆรวมถึงการใช้งานกล้องหลังที่เซนเซอร์ IMX519 ตัวเทพเลยแหละ realme นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่เปิดตัวและลุยตลาดราคาคุ้มค่าอย่างต่อเนื่องจริงๆทั้งในไทยและต่างประเทศและเติบโตอย่างเร็วมากๆและข้อดีคือศูนย์บริการที่เยอะและรองรับได้ทั่วประเทศ ทำให้ในไทยนั้นมันเป็นแบรนด์ที่หลายๆคนจะรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆและติดตามมากขึ้นเรื่อยๆด้วยนั้นเอง
ในส่วนของ realme 3 pro นั้นมีขนาดหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว Full HD+ และชิปเซต Snapdragon 710 อีกทั้งกล้องและอะไรหลายๆอย่างที่ดีกว่า realme 3 ตัวธรรมดา ทั้งในเรื่องของการใส่ฟีเจอร์ HyperBoost 2.0 ที่มาพร้อมทำงานให้ตัวเครื่องมีประสิทภาพในด้านต่างๆดีมากยิ่งขึ้นจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้งานต่างๆหรือในเรื่องของการเล่นเกม realme 3 Pro นั้นจะมีกล้องหลัง 2 ตัวที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล โดยใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX519 ซึ่งเหมือนกับที่ใช้ใน OnePlus 6T และกล้องหน้าจะมีความละเอียด 25 ล้านพิกเซล (เลนส์ f/2.0) ซึ่งมากกว่า realme 3 ที่มีกล้องหน้าเพียง 13 ล้านพิกเซล อยู่เกือบเท่าตัว และมีปุ่มสแกนนิ้วอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง แบตเตอรี่จะมีมาให้ถึง 4,045 mAh VOOC 3.0 20W แถมมากับตัวเครื่องด้วย
realme 3 Pro เปิดราคามาที่ 6,999 บาท ในความจุ RAM 4 GB STORAGE 64 GB และ 8,999 บาทในความจุ RAM 6 GB STORAGE 128GB มาพร้อมกับ 3 สีหลักๆคือ Nitro Blue น้ำเงินตัวที่รีวิว - Lighting Purple ดำม่วง- Carbon Gray สีเทา Promotion- Truemove h 4490 บาท ในตัว 6/128 GB ส่วน Lazada สั่งจอง ลดไป 400 บาทเหลือ 6,599 บาทเท่านั้น สำหรับ 4/64 GB
UNBOX
ตัวกล่อง realme 3 Pro นั้นยังมาในลักษณะสีเทาส้มตามการออกแบบในรุ่นใหม่ ตัวกล่องด้านหน้ายังเป็นการเขียนแต่ตัวเลขเท่านั้นว่าเป็นรุ่นะไรจริงๆการออกแบบกล่องชอบแบบนี้มากกว่าที่มีรูปตัวเครื่องนะ มันดูทันสมัยและเรียบๆดี
- ตัวเครื่อง realme 3 Pro
- เคสใสนิ่ม TPU
- ที่ชาร์จ VOOC 3.0 20W 5V/4A
- สายชาร์จรองรับ VOOC 3.0 Micro-USB
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
เคสใสนั้นยังคงแถมมาให้ในกล่องที่เป็นเคสใสแบบ TPU ที่ต้องบอกว่าค่อนข้างหนาและกันกระแทกได้ดีมากๆในด้านหน้า เพราะว่ามีการยกมุมขอบเครื่องทั้ง 4 มุมทำให้เวลาวางคว่ำนั้นสามารถกันกระแทกหน้าจอได้แบบสมบูรณ์และรอบๆยังคงยื่นสูงเหนือกระจกหน้าจอได้แบบพอดีและสามารถติดฟิลม์กระจกได้ทำให้มันพอดีกับเคสเลยทีเดียว ส่วนด้านหลังนั้นก็เป็นจุดๆที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เคานั้นติดกับฝาหลังและ เคสนั้นนูนพอดีกับเลนส์กล้องหลัง
DESIGN
ทางด้านการออกแบบในรุ่นนี้มีความคล้ายกับรุ่น realme 3 แบบชัดเจนในแง่ของการวางตำแหน่งกล้อง การไล่สีแต่เมื่อดูดีๆจะเห็นถึงความแตกต่างกันพอสมควรเลย เพราะการใช้วัสดุขอบเครื่องครั้งนี้เป็นโลหะ และมีความแข็งแรงมากขึ้นฝาหลังนั้นดูดีขึ้นและมีการเล่นลวดลายที่เป็นเส้นๆตามแนวSสวยงามและทดทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีกว่ารุ่นเดิมอีกด้วยครับ ส่วนตัวเครื่องหน้าจอเป็นหน้าจอแบบติ่งหยดน้ำเช่นเดิมและมาพร้อม Gorilla Glass 5 กันเลย ส่วนเครื่องมีการซีลยางทำให้กันฝุ่นละอองน้ำได้ดีขึ้น และ แผ่นระบายความร้อนกราไฟต์ตรงด้านหลังทำให้ระบายความร้อนได้ดีกว้าเดิม การออกแบบยังคงดีไซน์แบบเดิมแต่ปรับปรุงวัสดุรายละเอียดเล็กๆน้อยจากรุ่น 3 ที่ต้องบอกว่าสวยและดูดี
ด้านหน้าจอนั้นมาพร้อมกับดีไซน์จอไร้ขอบแบบติ่งทรงหยดน้ำคล้ายกับรุ่น realme 3 แต่หน้าจอให้กว้างกว่าเพราะมีขนาด 6.3 นิ้ว สัดส่วนต่อตัวเครื่อมากถึง 90.8% ความละเอียดที่ Full HD+ และใช้ กระจกกันรอยแบบ Gorilla Glass 5 ที่คุณภาพค่อนข้างสูง และมีฟิลม์กันรอยติดมาให้เรียบร้อยจากทางโรงงานครับ
ในส่วนขอบล่างหน้าจอนั้นต้องบอกว่ามีขนาดพอสมควรจริงๆมันเป็นเรื่องปกติของมือถือในเรทราคาพวกนี้ที่ยังคงมีขอบข้างล่างครับ ปุ่มควบคุมต่างๆนั้นไปอยู่บนหน้าจอและสามารถใช้งานแบบเต็มหน้าจอปัดไปมาๆได้ด้วย
หน้าจอส่วนบนนั้น จะเป็นพวกเซ็นเซอร์ และลำโพงสนทนาเอาไว้ตรงขอบเครื่องเหมือนเดิมครับ และมี กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล 1.8 ไมครอน และใช้เทคโนโลยี 4-in-1 Pixels สำหรับรวมเม็ดพิกเซล่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นเม็ดพิกเซลขนาดใหญ่ เพื่อช่วยถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย ส่วนขอบบนและขอบข้างนั้นทำได้บางขึ้นและดูไร้ขอบมากขึ้น
ขอบด้านล่างเครื่อง นั้นเป็นรูลำโพง ด้านซ้ายมือ พอร์ทแบบ Micro-USB ตรงกลาง รูไมค์ และ รู 3.5มม. แอบเสียดายที่ยังเป็น Micro-USB นะในยุคนี้และในเรทราคานี้ แต่ก็อาจจะเป็นข้อจำกัดของ VOOC 3.0 ก็เป็นได้
ส่วนขอบด้านบนนั้นเป็นที่อยู่ของ รูไมค์เท่านั้นไม่มีอะไรในด้านบนนี้แต่จะเห็นการออกแบบที่มีการเล่นความโค้งของตัวขอบเครื่องจะไม่ใช่เรียบๆแบบรุ่น 2 Pro แล้วและทำให้ดูขอบบางและจับง่ายขึ้นรวมถึงโค้งรับมือได้ดีขึ้นมากครับ เพราะในรุ่น 2Pro เคยบ่นไปว่าฝาหลังตัดตรงและดูหนาและจับยากนั้นเอง จะแอบเห็นเส้นๆลวดลายของฝาหลังที่เป็นการออกแบบเฉพาะรุ่นนี้เลยครับ
ส่วนด้านซ้ายนั้น เป็นที่อยู่ของปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และ ถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot รองรับ Dual Stanby จากที่ลองคือ เวลาโทรอีก ซิม 1 และ ซิม2 นั้นจะใช้ Data ไม่ได้นะครับ
ในด้านขวาของตัวเครื่องยังเป็นแค่ปุ่มเปิดปิดเครื่องปกติครับ แต่ขอบเครื่องนั้นใช้วัสดุที่แข็งแรงขึ้นแบบปัดด้านสีน้ำเงินไม่ได้ไล่สีตามฝาหลัง มีการเล่นการออกแบบที่เว้าเข้าไปทำให้ขอบเครื่องนั้นดูบางขึ้นอีกด้วยครับ
ด้านหลังตัวนี้จะเห็นการวางโลโก้แบบแนวนอนพร้อมการเล่นแสงสีฝาหลังแบบตัว S คล้ายเส้นบนสนามแข่งรถจริงๆถือว่าสวยงามเลยแหละเมื่อมองเห็นรายละเอียดของฝาหลังแต่ยังคงใช้พลาสติกในส่วนของฝาหลังนะครับ แน่นอนว่าสแกนนิ้วมือยังคงอยู่ข้างหลังพร้อมกล้องหลังคู่ที่วางไว้มุมซ้ายบนเหมือนรุ่นอื่นๆในแนวตั้งครับ พร้อมมี realme ring ล้อมรอบกล้องหลังตัวบนด้วยครับเป็นเอกลักษณ์เล็กๆน้อยในค่ายนี้
กล้องหลังนั้น มาให้ 2 ตัวนการจับระยะและถ่ายรูปปกติ ที่มีความละเอียด ตัวหลัก 16 + 5 ล้านพิกเซล f1.7 และ ตัวที่ 2 นั้นเป็น f 2.4 เและใช้เทคโนโลยีการโฟกัสแบบ Dual Pixel และสามารถถ่าย ถ่ายวิดีโอแบบ Slo-Mo ที่ระดับ 960fps รวมถึง Nightscape, ฟีเจอร์ Chroma Boost และ Portrait มาครบมากๆ
SPEC
- หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว FHD+ ดีไซน์แบบ Dewdrop ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล
- CPU Qualcomm Snapdragon 710 AIE 2.2 GHz
- GPU Adreno 616
- ความจุ 6+128GB และ 4+64GB รองรับเพิ่ม microSD ได้สูงสุด 256GB
- กล้องหน้า AI Selfie 25 ล้านพิกเซล F2.0
- กล้องหลังคู่ 16 F1.7 +5 F2,4 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ Super Slo-mo ได้ 960fps ถ่ายภาพโหมด Ultra HD 64MP และมีโหมดถ่ายภาพกลางคืน Nightscape
- แบตเตอรี่ 4045 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว VOOC 3.0
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Micro-USB 2.0
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 6.0 บน Android 9 Pie
- มี 2 สี, Nitro Blue และ Lightning Purple
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพตัวนี้ที่ใส่เข้ามาจะเป็น Snaodragon 710 AIE แต่มีความเร็วที่ลดลงจากทั่วไปเล็กน้อยเลยทำคะแนนทำไปได้ 1467 5737 เพราะถ้าเทียบ 710 ตัวอื่นๆจะแตะไป 1800 ครับ ส่วนตะแนน Antutu นั้นทำได้ 155067คะแนน มากกว่าตัว 3 ประมาณ 2 หมื่นคะแนน และน้อยกว่า 710 ทั่วไป 3 หมื่นคะแนนโดยประมาณนั้น ส่วนความปลอดภัยได้ L3 และ หน่วยความจำเป็น EMMC5.1 ปกติครับผม ถือว่าคล้ายๆกับรุ่นก่อนที่ 660 ลดสปีด และในครั้งนี้ก็เป็น 710 ที่อาจจะโดนลดความเร็วลงเล็กน้อยแต่ก็ยังใช้งานได้ดีเหมือนกันครับ
SOFTWARE
หน้าตาระบบรุ่นนี้มีการปรับปรุงอีกครั้งมาใช้ Colour OS 6 ร่วมกับ Android 9 เหมือนกับรุ่น 3 ทั้งหมดครับ ทั้ง การตั้งค่า การใช้งานทั่วไป แต่หน้าหลักๆนั้นยังคงมีมาคล้ายๆเดิมครับการแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอพอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับ
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมด รวมถึงเป็นการใช้สี่เหลี่ยมด้วยครับ การปรับแสง การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็มครับ รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่ายและเสถียรมากๆ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 128GB นั้นเหลือใช้งานได้ 110 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 2.6 จาก 6 GB ครับ
ส่วนการโคลนแอพ อะไรทั้งหลายก็มีมาให้ครับผม รวมถึงตัว Game Space มาใหม่อันนี้น่าสนใจยังไงไปดูในหัวข้อ Gaming ได้เลย และ ยังมีผู้ช่วยอัจฉริยะมาให้ในการปัดมาด้านขวาในจอหลักจะคอยช่วยในการจัดการแจ้งเตือนอะไรต่างๆ หรือ ดูการใช้งานของเราว่าเน้นอะไรยังไงก็จะเสนอมาให้ใช้งานกันเลย อีกทั้งยังมีโหมดช่วยขับรถมาให้จะดูแลการแจ้งเตือน ขณะขับขี่ ระบบจะทำ การปิดเสียงการแจ้งเตือน ระบบจะใช้ตัวอักษรและ ปุ่มขนาดใหญ่ที่สามารถรับหรือปฏิเสธได้เท่านั้น และส่ง SMS ตอบกลับให้เองเลย แต่เรื่องของติ่งหน้าจอไม่เจอให้ปิดนะครับผมในตัวนี้
[SR] รีวิว Realme 3 Pro จัดเต็ม Snapdragon 710AIE พร้อม VOOC 3.0 !
realme 3 pro นั้นเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดเมืองนอกและในไทยก็จะเข้ามาเร็วๆนี้แน่นอนว่าเป็นรุ่นที่หลายๆคนจับตามองเพราะมันมาพร้อมกับ Snapdragon 710 ที่ความแรงใช้งานได้ดีมากๆรวมถึงการใช้งานกล้องหลังที่เซนเซอร์ IMX519 ตัวเทพเลยแหละ realme นั้นถือว่าเป็นแบรนด์ที่เปิดตัวและลุยตลาดราคาคุ้มค่าอย่างต่อเนื่องจริงๆทั้งในไทยและต่างประเทศและเติบโตอย่างเร็วมากๆและข้อดีคือศูนย์บริการที่เยอะและรองรับได้ทั่วประเทศ ทำให้ในไทยนั้นมันเป็นแบรนด์ที่หลายๆคนจะรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆและติดตามมากขึ้นเรื่อยๆด้วยนั้นเอง
ในส่วนของ realme 3 pro นั้นมีขนาดหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว Full HD+ และชิปเซต Snapdragon 710 อีกทั้งกล้องและอะไรหลายๆอย่างที่ดีกว่า realme 3 ตัวธรรมดา ทั้งในเรื่องของการใส่ฟีเจอร์ HyperBoost 2.0 ที่มาพร้อมทำงานให้ตัวเครื่องมีประสิทภาพในด้านต่างๆดีมากยิ่งขึ้นจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้งานต่างๆหรือในเรื่องของการเล่นเกม realme 3 Pro นั้นจะมีกล้องหลัง 2 ตัวที่มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล + 5 ล้านพิกเซล โดยใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX519 ซึ่งเหมือนกับที่ใช้ใน OnePlus 6T และกล้องหน้าจะมีความละเอียด 25 ล้านพิกเซล (เลนส์ f/2.0) ซึ่งมากกว่า realme 3 ที่มีกล้องหน้าเพียง 13 ล้านพิกเซล อยู่เกือบเท่าตัว และมีปุ่มสแกนนิ้วอยู่ด้านหลังตัวเครื่อง แบตเตอรี่จะมีมาให้ถึง 4,045 mAh VOOC 3.0 20W แถมมากับตัวเครื่องด้วย
realme 3 Pro เปิดราคามาที่ 6,999 บาท ในความจุ RAM 4 GB STORAGE 64 GB และ 8,999 บาทในความจุ RAM 6 GB STORAGE 128GB มาพร้อมกับ 3 สีหลักๆคือ Nitro Blue น้ำเงินตัวที่รีวิว - Lighting Purple ดำม่วง- Carbon Gray สีเทา Promotion- Truemove h 4490 บาท ในตัว 6/128 GB ส่วน Lazada สั่งจอง ลดไป 400 บาทเหลือ 6,599 บาทเท่านั้น สำหรับ 4/64 GB
UNBOX
ตัวกล่อง realme 3 Pro นั้นยังมาในลักษณะสีเทาส้มตามการออกแบบในรุ่นใหม่ ตัวกล่องด้านหน้ายังเป็นการเขียนแต่ตัวเลขเท่านั้นว่าเป็นรุ่นะไรจริงๆการออกแบบกล่องชอบแบบนี้มากกว่าที่มีรูปตัวเครื่องนะ มันดูทันสมัยและเรียบๆดี
- ตัวเครื่อง realme 3 Pro
- เคสใสนิ่ม TPU
- ที่ชาร์จ VOOC 3.0 20W 5V/4A
- สายชาร์จรองรับ VOOC 3.0 Micro-USB
- คู่มือ ที่จิ้มซิม
เคสใสนั้นยังคงแถมมาให้ในกล่องที่เป็นเคสใสแบบ TPU ที่ต้องบอกว่าค่อนข้างหนาและกันกระแทกได้ดีมากๆในด้านหน้า เพราะว่ามีการยกมุมขอบเครื่องทั้ง 4 มุมทำให้เวลาวางคว่ำนั้นสามารถกันกระแทกหน้าจอได้แบบสมบูรณ์และรอบๆยังคงยื่นสูงเหนือกระจกหน้าจอได้แบบพอดีและสามารถติดฟิลม์กระจกได้ทำให้มันพอดีกับเคสเลยทีเดียว ส่วนด้านหลังนั้นก็เป็นจุดๆที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เคานั้นติดกับฝาหลังและ เคสนั้นนูนพอดีกับเลนส์กล้องหลัง
DESIGN
ทางด้านการออกแบบในรุ่นนี้มีความคล้ายกับรุ่น realme 3 แบบชัดเจนในแง่ของการวางตำแหน่งกล้อง การไล่สีแต่เมื่อดูดีๆจะเห็นถึงความแตกต่างกันพอสมควรเลย เพราะการใช้วัสดุขอบเครื่องครั้งนี้เป็นโลหะ และมีความแข็งแรงมากขึ้นฝาหลังนั้นดูดีขึ้นและมีการเล่นลวดลายที่เป็นเส้นๆตามแนวSสวยงามและทดทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีกว่ารุ่นเดิมอีกด้วยครับ ส่วนตัวเครื่องหน้าจอเป็นหน้าจอแบบติ่งหยดน้ำเช่นเดิมและมาพร้อม Gorilla Glass 5 กันเลย ส่วนเครื่องมีการซีลยางทำให้กันฝุ่นละอองน้ำได้ดีขึ้น และ แผ่นระบายความร้อนกราไฟต์ตรงด้านหลังทำให้ระบายความร้อนได้ดีกว้าเดิม การออกแบบยังคงดีไซน์แบบเดิมแต่ปรับปรุงวัสดุรายละเอียดเล็กๆน้อยจากรุ่น 3 ที่ต้องบอกว่าสวยและดูดี
ด้านหน้าจอนั้นมาพร้อมกับดีไซน์จอไร้ขอบแบบติ่งทรงหยดน้ำคล้ายกับรุ่น realme 3 แต่หน้าจอให้กว้างกว่าเพราะมีขนาด 6.3 นิ้ว สัดส่วนต่อตัวเครื่อมากถึง 90.8% ความละเอียดที่ Full HD+ และใช้ กระจกกันรอยแบบ Gorilla Glass 5 ที่คุณภาพค่อนข้างสูง และมีฟิลม์กันรอยติดมาให้เรียบร้อยจากทางโรงงานครับ
ในส่วนขอบล่างหน้าจอนั้นต้องบอกว่ามีขนาดพอสมควรจริงๆมันเป็นเรื่องปกติของมือถือในเรทราคาพวกนี้ที่ยังคงมีขอบข้างล่างครับ ปุ่มควบคุมต่างๆนั้นไปอยู่บนหน้าจอและสามารถใช้งานแบบเต็มหน้าจอปัดไปมาๆได้ด้วย
หน้าจอส่วนบนนั้น จะเป็นพวกเซ็นเซอร์ และลำโพงสนทนาเอาไว้ตรงขอบเครื่องเหมือนเดิมครับ และมี กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล 1.8 ไมครอน และใช้เทคโนโลยี 4-in-1 Pixels สำหรับรวมเม็ดพิกเซล่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นเม็ดพิกเซลขนาดใหญ่ เพื่อช่วยถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย ส่วนขอบบนและขอบข้างนั้นทำได้บางขึ้นและดูไร้ขอบมากขึ้น
ขอบด้านล่างเครื่อง นั้นเป็นรูลำโพง ด้านซ้ายมือ พอร์ทแบบ Micro-USB ตรงกลาง รูไมค์ และ รู 3.5มม. แอบเสียดายที่ยังเป็น Micro-USB นะในยุคนี้และในเรทราคานี้ แต่ก็อาจจะเป็นข้อจำกัดของ VOOC 3.0 ก็เป็นได้
ส่วนขอบด้านบนนั้นเป็นที่อยู่ของ รูไมค์เท่านั้นไม่มีอะไรในด้านบนนี้แต่จะเห็นการออกแบบที่มีการเล่นความโค้งของตัวขอบเครื่องจะไม่ใช่เรียบๆแบบรุ่น 2 Pro แล้วและทำให้ดูขอบบางและจับง่ายขึ้นรวมถึงโค้งรับมือได้ดีขึ้นมากครับ เพราะในรุ่น 2Pro เคยบ่นไปว่าฝาหลังตัดตรงและดูหนาและจับยากนั้นเอง จะแอบเห็นเส้นๆลวดลายของฝาหลังที่เป็นการออกแบบเฉพาะรุ่นนี้เลยครับ
ส่วนด้านซ้ายนั้น เป็นที่อยู่ของปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง และ ถาดใส่ซิมแบบ Triple Slot รองรับ Dual Stanby จากที่ลองคือ เวลาโทรอีก ซิม 1 และ ซิม2 นั้นจะใช้ Data ไม่ได้นะครับ
ในด้านขวาของตัวเครื่องยังเป็นแค่ปุ่มเปิดปิดเครื่องปกติครับ แต่ขอบเครื่องนั้นใช้วัสดุที่แข็งแรงขึ้นแบบปัดด้านสีน้ำเงินไม่ได้ไล่สีตามฝาหลัง มีการเล่นการออกแบบที่เว้าเข้าไปทำให้ขอบเครื่องนั้นดูบางขึ้นอีกด้วยครับ
ด้านหลังตัวนี้จะเห็นการวางโลโก้แบบแนวนอนพร้อมการเล่นแสงสีฝาหลังแบบตัว S คล้ายเส้นบนสนามแข่งรถจริงๆถือว่าสวยงามเลยแหละเมื่อมองเห็นรายละเอียดของฝาหลังแต่ยังคงใช้พลาสติกในส่วนของฝาหลังนะครับ แน่นอนว่าสแกนนิ้วมือยังคงอยู่ข้างหลังพร้อมกล้องหลังคู่ที่วางไว้มุมซ้ายบนเหมือนรุ่นอื่นๆในแนวตั้งครับ พร้อมมี realme ring ล้อมรอบกล้องหลังตัวบนด้วยครับเป็นเอกลักษณ์เล็กๆน้อยในค่ายนี้
กล้องหลังนั้น มาให้ 2 ตัวนการจับระยะและถ่ายรูปปกติ ที่มีความละเอียด ตัวหลัก 16 + 5 ล้านพิกเซล f1.7 และ ตัวที่ 2 นั้นเป็น f 2.4 เและใช้เทคโนโลยีการโฟกัสแบบ Dual Pixel และสามารถถ่าย ถ่ายวิดีโอแบบ Slo-Mo ที่ระดับ 960fps รวมถึง Nightscape, ฟีเจอร์ Chroma Boost และ Portrait มาครบมากๆ
SPEC
- หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว FHD+ ดีไซน์แบบ Dewdrop ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล
- CPU Qualcomm Snapdragon 710 AIE 2.2 GHz
- GPU Adreno 616
- ความจุ 6+128GB และ 4+64GB รองรับเพิ่ม microSD ได้สูงสุด 256GB
- กล้องหน้า AI Selfie 25 ล้านพิกเซล F2.0
- กล้องหลังคู่ 16 F1.7 +5 F2,4 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ Super Slo-mo ได้ 960fps ถ่ายภาพโหมด Ultra HD 64MP และมีโหมดถ่ายภาพกลางคืน Nightscape
- แบตเตอรี่ 4045 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว VOOC 3.0
- พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Micro-USB 2.0
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 6.0 บน Android 9 Pie
- มี 2 สี, Nitro Blue และ Lightning Purple
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพตัวนี้ที่ใส่เข้ามาจะเป็น Snaodragon 710 AIE แต่มีความเร็วที่ลดลงจากทั่วไปเล็กน้อยเลยทำคะแนนทำไปได้ 1467 5737 เพราะถ้าเทียบ 710 ตัวอื่นๆจะแตะไป 1800 ครับ ส่วนตะแนน Antutu นั้นทำได้ 155067คะแนน มากกว่าตัว 3 ประมาณ 2 หมื่นคะแนน และน้อยกว่า 710 ทั่วไป 3 หมื่นคะแนนโดยประมาณนั้น ส่วนความปลอดภัยได้ L3 และ หน่วยความจำเป็น EMMC5.1 ปกติครับผม ถือว่าคล้ายๆกับรุ่นก่อนที่ 660 ลดสปีด และในครั้งนี้ก็เป็น 710 ที่อาจจะโดนลดความเร็วลงเล็กน้อยแต่ก็ยังใช้งานได้ดีเหมือนกันครับ
SOFTWARE
หน้าตาระบบรุ่นนี้มีการปรับปรุงอีกครั้งมาใช้ Colour OS 6 ร่วมกับ Android 9 เหมือนกับรุ่น 3 ทั้งหมดครับ ทั้ง การตั้งค่า การใช้งานทั่วไป แต่หน้าหลักๆนั้นยังคงมีมาคล้ายๆเดิมครับการแจ้งเตือนใช้ได้ มีเลขมุมแอพอะไรปกติครับไอคอนเป็นทรงกลมซะส่วนใหญ่ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปลงตัวกับขนาดหน้าจอของตัวเครื่องครับ
หน้าการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นเป็นอีกจุดที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ไอคอนการตั้งค่าอะไรเปลี่ยนไปทั้งหมด รวมถึงเป็นการใช้สี่เหลี่ยมด้วยครับ การปรับแสง การกดเข้าอะไรต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปทั้งหมดรวมถึงไอคอนรูปเฟืองก็เปลี่ยนไปด้วย เมื่อลากลงมาก็เป็นการตั้งค่าแบบเต็มครับ รวมถึงแบ่งหน้าจออะไรนั้นยังมีมาให้ปกติ
ทางด้านแป้นพิมพ์นั้นเป็นของ Google ที่คุ้นเคยกันดีครับใช้ง่ายและเสถียรมากๆ ส่วนหน่วยความจำพื้นที่ตัวเครื่อง มาให้ 128GB นั้นเหลือใช้งานได้ 110 หลังจากหักระบบออกไป และ RAM นั้นใช้งานเหลือ 2.6 จาก 6 GB ครับ
ส่วนการโคลนแอพ อะไรทั้งหลายก็มีมาให้ครับผม รวมถึงตัว Game Space มาใหม่อันนี้น่าสนใจยังไงไปดูในหัวข้อ Gaming ได้เลย และ ยังมีผู้ช่วยอัจฉริยะมาให้ในการปัดมาด้านขวาในจอหลักจะคอยช่วยในการจัดการแจ้งเตือนอะไรต่างๆ หรือ ดูการใช้งานของเราว่าเน้นอะไรยังไงก็จะเสนอมาให้ใช้งานกันเลย อีกทั้งยังมีโหมดช่วยขับรถมาให้จะดูแลการแจ้งเตือน ขณะขับขี่ ระบบจะทำ การปิดเสียงการแจ้งเตือน ระบบจะใช้ตัวอักษรและ ปุ่มขนาดใหญ่ที่สามารถรับหรือปฏิเสธได้เท่านั้น และส่ง SMS ตอบกลับให้เองเลย แต่เรื่องของติ่งหน้าจอไม่เจอให้ปิดนะครับผมในตัวนี้
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้