เมื่อมีก้อนมะเร็งขนาดใหญ่มากกกกกก.....ในตับ

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ ขอแทนตัวเองว่า เรา นะคะ เนื่องจากว่าวันนี้มีคนมาถามเรื่องการรักษามะเร็งกับสิทธิอประกันสังคมเลยคิดว่า เราควรแชร์เรื่องราวให้คนอื่นๆ และให้เราไว้อ่านเองด้วยค่ะ

ใช่แล้วค่ะ เราเป็นมะเร็งตับ ตรวจพบด้วยความบังเอิญก็ว่าได้ เมื่อเดือนสิงหา ปี 60 เรามีอาการ อาเจียนไม่หยุด ออกมาเป็นน้ำย่อยใสๆ ทั้งวัน เลยไปหาหมอใกล้บ้าน คุณหมอให้แอดมิต เพื่อให้น้ำเกลือ งดน้ำ งดอาหารทำ Ultrasound เพราะคิดว่าน่าจะเป็นนิ่วในถุงน้ำดี แต่พอไปตรวจกลับไม่เจอนิ่ว แต่เจอก้อนเนื้อ ขนาดมากกว่า 10 เซนติเมตรที่ตับ คุณหมอวิ่งหน้าตาตื่นบอกว่า ต้องตรวจต่อให้ละเอียด แต่อย่าเพิ่งตกใจนะครับ(คือคุณหมอดูตกใจกว่าคนไข้อีก) เราเลยอยู่รพ. ต่อเพื่อตรวจเลือด และทำ CT Scan ผลเลือดออกมาว่าตับทำงานได้ปกติ ค่ามะเร็งตับ (AFP) ก็อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ผล CT Scan คือพบก้อนเนื้อขนาด 19x16 เซนติเมตร คุณหมอก็หน้าตาตื่น(เหมือนเดิม) บอกว่าค่ามะเร็งปกติ แต่ก้อนใหญ่มาก แต่เพิ่งตกใจไป แต่มันก็มีมะเร็งตับชนิดหนึ่งที่มีอาการแบบนี้ เอิ่ม...  คุณหมอเลยขอให้ทำ MRI ต่อ การทำ MRI ครั้งแรกในชวิตของเรา ใช้เวลาทำ 2 ชั่วโมง น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืม การถูกมัดให้นอนในอุโมงค์ที่พอดีตัวมากไป ขยับตัวไม่ได้ มันทรมานจริงๆ จำได้ว่าในขณะทำพยายามชวนคุณหมอคุยตลอดเพราะมองไม่เห็นอะไรเลย นอกจากน็อตของเครื่องที่อยู่ห่างจากหน้าไปคืบเดียว จนคุณหมอบอกว่าขอเซ็ต5 นาทีนะครับ น่าจะหมายถึงให้เราหยุดรบกวนสมาธิด้วย เราเลยเงียบ แต่เงียบไปได้แป๊บเดียวก็เรียกคุณหมออีก เพราะว่ามันไม่รู้เวลาจริงๆ จนเรียกคุณหมอครั้งที่3 คุณหมอถามเราว่า ฟังเพลงไหมครับ เราเลยยอมฟังเพลง คิดว่าน่าจะพอจะคำนวณเวลา จากความยาวของเพลงได้ พอทำ MRI เสร็จ เราขอกลับบ้านไปพักก่อน เพราะไม่ไหวจริงๆ อยู่บ้านได้ 2วัน ก็ไปรพ. เพื่อฟังผล ก่อนไปยังมีการแซวกันเล่นเลยว่า ไม่มีคนเป็นมะเร็งที่ไหน อ้วนท้วน น้ำหนักขึ้นแบบเรา แต่พอไปฟังผลจริงๆ คุณหมอบอกว่าเรามีก้อนเนื้อ 4 ก้อนในตับ ก้อนใหญ่สุดคือ 19x16 1ก้อน และ ขนาด 4 เซน1 ก้อนและ 2เซน อีก 2 ก้อน เราเป็นมะเร็งตับประเภท FLC (Fibrolamellar carcinoma) เป็นมะเร็งที่ไม่ได้เกิดจากไวรัสตับอักเสบ ไม่ได้เกิดจากการดื่มเหล้า เป็นมะเร็งที่จะมีก้อนเนื้อขนาดใหญ่ ในผู้ป่วยอายุน้อย ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร คุณหมอบอกแนวทางการรักษาว่า ต้องอุดเส้นเลือดในตับให้มันเล็กลง แล้วทำการผ่าตัด ตอนนั้นเรามึนๆ งงๆ หมองๆ ตึบๆ แค่บอกคุณหมอว่าคงไม่รักษาที่ รพ.นี้ เพราะรพ.เอกชล คงไม่ไหวจริงๆค่ะ เราขึ้นมานั่งบนรถกับพี่สาวร้องไห้โฮ ร้องดังมาก ภาพของคุณอาที่เสียชีวิตจากมะเร็งตับ ไหลเข้ามาตลอด เรากับพี่สาวคุยกันว่า ยังไงก็ต้องรักษานะ รักษาให้ถึงที่สุด แต่คงจะเข้ารพ.รัฐ และวันนั้นก็เป็นวันที่เราร้องไห้แรงที่สุดให้กับก้อนเนื้อในตับ

หลังจากตั้งสติได้ก็กลับไปทำงาน ไปบอกกับหัวหน้าเพราะหลังจากนี้คงต้องลางานบ่อยเพื่อทำการรักษา โชคดีที่มีพี่ที่ทำงานแนะนำอาจารย์หมอคนนึง เก่งมากเรื่องมะเร็งตับ พอได้ชื่อมา ก็ค้นหาข้อมูลประวัติของคุณหมอท่านนี้ คุณหมอประจำอยู่ 2 โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชล เราเข้าไปพบคุณหมอที่ รพ.เอกชล เพราะคิวได้เร็วกว่า เอาผลเอ็กซ์เรย์ทั้ง MRI และ CT Scan ให้คุณหมอดู คุณหมอบอกว่าวิธีการรักษาด้วยเสียงเรียบๆ และหน้านิ่งๆ ว่า ก็ทำให้ก้อนมันเล็กลง ทำตับอีกข้างให้ใหญ่ขึ้น แล้วก็ตัดตับฝั่งที่มีก้อนออก ฟังดูง่ายเหมือนรักษาไข้หวัดใหญ่ คุณหมอยังแนะนำให้ใช้สิทธิประกันสังคม เพราะพอเริ่มรักษาแล้วเราต้องเข้าออกรพ. อีกหลายครั้ง ประกันสังคมจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้บ้าง เรายังถามหมอเรื่องอื่นๆอีก เรื่องการดูแลตัวเอง การเตรียมตัว อาหาร อะไรกินได้ กินไม่ได้ คุณหมอบอกว่า รู้อยู่แล้วว่าอะไรมีประโยชน์ อะไรไม่ดี ก็กินของที่มีประโยชน์ คนที่กินได้ ก็อยู่ได้นานกว่าคนกินไม่ได้ หลังจากนั้นก็ไปรพ. ที่ทำประกันสังคมเพื่อทำการรักษา เราไปแผนกทางเดินอาหารและตับ คุณหมอแจ้งว่าไม่สามารถรักษาที่รพ. นี้ได้ ต้องส่งตัวไปรพ.ใหญ่ คุณหมอพูดชื่อรพ. มาซึ่งมีชื่อรพ. ที่อาจารย์หมอคนนั้นประจำอยู่ด้วย เรารีบบอกคุณหมอว่าขอ รพ.นั้นได้ไหมค่ะ คุณหมอไม่รับปากว่าจะได้ตามที่ขอ เพราะการพิจาณาขึ้นอยู่กับหลายส่วน พอรู้แบบนี้ครอบครัวของเราเริ่มทำการบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทันที เพราะเป็นสิ่งเดี่ยวที่ทำได้ในระหว่างที่รอผล ผ่านไป 3 วันทำการโดยประมาณ ทางรพ. โทรมาแจ้งว่าได้ส่งตัวไปรพ.นั้นจริงๆ ให้มารับไปส่งตัวเพื่อไปเริ่มทำการรักษา หลังจากนี้ คือการรักษาจริง เจ็บจริง ทรมารจริง ตัวจริง ของจริง
to be continue...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่