คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
อธิบายแบบง่ายๆ บ้านๆ
เราต้องเข้าใจโรคก่อนจ้ะ ปรกติเราชินกับ กินยาแก้ไข้ แก้ปวด แก้หวัด ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์ต้านเชื้อ ไวรัส แบคทีเรีย ในเวลา 4-6 ชม. และกินต่อเนื่องจน เชื้อนั้นหายไป โดยปรกติก็ 2-3 วัน เป็นอันจบ การบรรเทาปวดก็ออกฤทธิ์ ในช่วงเวลาที่ว่าเช่นกัน เหมือนสาเหตุหายไป ผลอาการเจ็บปวดก็จบไปด้วย
ส่วน โรคจิตเวช เป็น อาการทางสมอง เกิดจาก ฮอโมนด์ หรือสารสื่อประสาท เสียสมดุลย์ ไม่ได้เกิดจากโรค หรือเชื้ออะไรแบบปัจุบันทันด่วน พูดง่ายๆไม่ได้ติดเชื้อทางสมอง แต่เป็นโรคที่เกิดจากพันธุกรรม หรือ พฤติกรรม สะสมของคนๆนั้น เช่น ความเครียด ความคิดต่างๆที่บั่นทอน กระทบใจ และสมองสั่งงาน ชินต่อการสร้างภาวะอารมณ์นั้นๆ บ่อยๆมากๆ เหมือน เราดัดต้นไม้ให้โตและงอกเป็นรูปทรงผิดไปจากทรงปรกติ...
ยา จะค่อยๆไป ปรับสมดุลย์ ของเคมี สารสื่อประสาท ด้วยขบวนการต่างๆกัน ขึ้นอยู่กับเราเสียสมดุลย์กับตัวไหน และเกิดสภาวะอารมณ์ควมรู้สึกยังไง อยู่กับการพูดคุยและวินิจฉัยของแพทย์
ฉนั้น...ตัวยาจึงต้องค่อยๆ ทำงานอย่างช้าๆ ซ้ำๆ เป็นระยะเวลานานๆ เพื่อปรับให้สมองคุ้นชิน และผู้ป่วยควรจะต้องปรับวิธีคิดช่วยไปอีกทางเช่นกัน
เหมือนการดัดต้นไม้ กลับเข้ารูปแบบตามธรรมชาติทั่วๆไป อย่างช้าๆ จะดัดกลับทันทีไม่ได้ มันไม่มาแน่นอน และการหยุดยาหรือกินยาไม่สม่ำเสมอ ก็ทำให้ผลของการทำงานไม่ได้ผลที่เต็มประสิทธิภาพด้วย เหมือนเอาไม้ค้ำต้นไม้ แล้วเอาออก บ่อยๆ มันก็ล้ม เพราะรากมันยังไม่ยึดกับน้ำหนักและยังไม่ทรงตัวดีพอ....สมองเรามันก็แบบนั้นแหละการทำงานของต่อมไร้ท่อ การหลั่งสารสื่อประสาทต่างๆมันซับซ้อนและละเอียดอ่อนมาก เพราะมันคืออาการเชื่อมโยงกับความรู้สึกนึกคิดล้วนๆ...
เปรียบเทียบง่ายๆพอเข้าใจ.... คงจินตนาการนึกภาพตามออกนะจ้ะ....
เราต้องเข้าใจโรคก่อนจ้ะ ปรกติเราชินกับ กินยาแก้ไข้ แก้ปวด แก้หวัด ยากลุ่มนี้ออกฤทธิ์ต้านเชื้อ ไวรัส แบคทีเรีย ในเวลา 4-6 ชม. และกินต่อเนื่องจน เชื้อนั้นหายไป โดยปรกติก็ 2-3 วัน เป็นอันจบ การบรรเทาปวดก็ออกฤทธิ์ ในช่วงเวลาที่ว่าเช่นกัน เหมือนสาเหตุหายไป ผลอาการเจ็บปวดก็จบไปด้วย
ส่วน โรคจิตเวช เป็น อาการทางสมอง เกิดจาก ฮอโมนด์ หรือสารสื่อประสาท เสียสมดุลย์ ไม่ได้เกิดจากโรค หรือเชื้ออะไรแบบปัจุบันทันด่วน พูดง่ายๆไม่ได้ติดเชื้อทางสมอง แต่เป็นโรคที่เกิดจากพันธุกรรม หรือ พฤติกรรม สะสมของคนๆนั้น เช่น ความเครียด ความคิดต่างๆที่บั่นทอน กระทบใจ และสมองสั่งงาน ชินต่อการสร้างภาวะอารมณ์นั้นๆ บ่อยๆมากๆ เหมือน เราดัดต้นไม้ให้โตและงอกเป็นรูปทรงผิดไปจากทรงปรกติ...
ยา จะค่อยๆไป ปรับสมดุลย์ ของเคมี สารสื่อประสาท ด้วยขบวนการต่างๆกัน ขึ้นอยู่กับเราเสียสมดุลย์กับตัวไหน และเกิดสภาวะอารมณ์ควมรู้สึกยังไง อยู่กับการพูดคุยและวินิจฉัยของแพทย์
ฉนั้น...ตัวยาจึงต้องค่อยๆ ทำงานอย่างช้าๆ ซ้ำๆ เป็นระยะเวลานานๆ เพื่อปรับให้สมองคุ้นชิน และผู้ป่วยควรจะต้องปรับวิธีคิดช่วยไปอีกทางเช่นกัน
เหมือนการดัดต้นไม้ กลับเข้ารูปแบบตามธรรมชาติทั่วๆไป อย่างช้าๆ จะดัดกลับทันทีไม่ได้ มันไม่มาแน่นอน และการหยุดยาหรือกินยาไม่สม่ำเสมอ ก็ทำให้ผลของการทำงานไม่ได้ผลที่เต็มประสิทธิภาพด้วย เหมือนเอาไม้ค้ำต้นไม้ แล้วเอาออก บ่อยๆ มันก็ล้ม เพราะรากมันยังไม่ยึดกับน้ำหนักและยังไม่ทรงตัวดีพอ....สมองเรามันก็แบบนั้นแหละการทำงานของต่อมไร้ท่อ การหลั่งสารสื่อประสาทต่างๆมันซับซ้อนและละเอียดอ่อนมาก เพราะมันคืออาการเชื่อมโยงกับความรู้สึกนึกคิดล้วนๆ...
เปรียบเทียบง่ายๆพอเข้าใจ.... คงจินตนาการนึกภาพตามออกนะจ้ะ....
แสดงความคิดเห็น
เป็นโรควิตกกังวล+ย้ำคิดย้ำทำ ต้องกินยานานกว่า 6 เดือนเลยหรอ