จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นมหาลัยที่ได้รับการยอมรับลำดับต้นๆของประเทศ และยังเป็น 1 ในสถานที่ศึกษาต่อในฝันของนักเรียนหลายๆคน
ด้วยหลักสูตรการศึกษาที่เข้มข้น รวมไปถึงศิษย์รุ่นพี่ชื่อดังที่จบจากรั้วแห่งนี้ไปจำนวนไม่น้อย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการดำเนินชีวิตในช่วงวัยทำงาน
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ทางมหาลัยแห่งนี้โดดเด่นนอกเหนือการศึกษาที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น นั่นก็คือ.......ร้านอาหารที่ไม่ใกล้จากรั้วมหาลัย
ซึ่งนิสิตที่ได้เรียนที่นี่สามารถออกไปทานได้ทุกวัน แม้แต่ จขกท. เอง ถึงแม้ไม่ได้เรียนที่สถานบันนี้ ถ้าหากมีเวลาก็จะชอบมาป้วนเปี้ยนอยู่เป็นประจำ
เพื่อหาของอร่อยเพิ่มน้ำหนัก
เกริ่นมาซะนานแจ้งผู้อ่านก่อนว่าวันนี้ร้านอาหารรอบจุฬาที่เราจะไปทานนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 6 ร้าน
เป็นของคาว 5 ร้าน และขนมหวาน 1 ร้าน ซึ่งร้านที่ลงจะเรียงลำดับจริงตามที่ไปกินวันนั้นเลย
บางร้านอาจจะได้รับรางวัลมิชลิน บางร้านอาจจะเป็นร้านยอดนิยมของนิสิต บางร้านก็เป็นร้านเก่าแก่
สำหรับการเดินทางมาได้ทั้งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยาม หรือ สนามกีฬาแห่งชาติ ถ้าเป็น MRT ก็ลงสถานีสามย่าน
ส่วนถ้าใครนิยมขับรถมาก็ขอแนะนำให้ไปจอดที่อาคารจอดรถจามจุรี 9 มีที่จอดให้เลือกแยะ
แต่ถ้าอยากประหยัดให้วนขึ้นไปจอดตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไปเพราะค่าจอดชั่วโมงละ 10 บาทเท่านั้น
(ถ้าจอดที่ชั้น 2 จะโดนค่าจอดชั่วโมงละ 20 บาท)
ร้านแรกเริ่มด้วยร้านขวัญใจสายแซ่ป นั่นก็คือร้านส้มตำเจ๊แดง ซึ่งในปีนี้ยังได้รับรางวัล micheline plate 2019
อีกด้วย เปิดด้วย 5 เมนูเบาๆ ได้แก่ ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน เห็ดออรินจิ (70บาท) , คอหมูย่าง (60 บาท) ,
ส้มตำไข่เค็ม (50 บาท) , ส้มตำปูปลาร้า (40 บาท) ,ปลาดุกทอด (60บาท) พร้อมกับของที่ต้องทานคู่กัน
คือข้าวเหนียว และขนมจีน (อย่างละ 10 บาทเท่ากัน)
รสชาติของตัวส้มตำทั้ง 2 รู้สึกธรรมดา โดยเฉพาะตำปูปลาร้า ถ้าไปเทียบตำหลวงพระบาง ของร้านบ้านส้มตำแล้วสู้ไม่ได้เลย
ส่วนต้มแซ่บ กับ ปลาดุกทอด อร่อยดีถ้ามาร้านเจ๊แดงก็ควรสั่ง แต่เมนูที่ห้ามพลาดเลยคือคอหมูย่าง
ที่อร่อยมากๆ อร่อยเป็นลำดับต้นๆของคอหมูย่างที่เคยทานมาเลย สำหรับลักษณะร้านเจ๊แดง ก็จะเป็นห้องแถวทั่วไป
มีอยู่ประมาณ 7-8 โต๊ะ เวลาในการเสริฟ์อาหารไม่นาน ขึ้นอยู่กับจำนวนคน ณ ตอนนั้นๆ
(ตอนที่ จขกท. ไปคนปานกลาง รอ 10 นาทีอาหารก็มาละครับ)
จบจากเจ๊แดง ความอร่อยของคอหมูย่างยังค้างคาอยู่ เลยขอไปต่อที่ร้านข้าวหมูแดงเลิศรส
จัดไปเบาๆ 2 จาน นั่นก็คือข้าวหมูกรอบ (40 บาท) และข้าวหมูแดง กรอบ กุนเชียง (40 บาทอีกเช่นกัน)
พอมาเสิร์ฟก็ประทับใจในความเป็นตานีของไข่แล้ว ส่วนรสชาติดีงามมากๆ เมื่อก่อนให้ หมูกรอบนายไซเป็น อันดับ 1
พอมากินเจ้านี้เข้าไปยอมให้เป็นที่ 1 แทนเลย เพราะว่ามันไม่ได้ดีแค่รสชาติ หรือ รสสัมผัสเท่านั้น
แต่ยังมีความหอมกลิ่นถ่านรมควันอ่อนๆอยู่ในหมูกรอบ หมูแดงและกุนเชียงเลย
มาทราบภายหลังว่าที่ร้านนำทั้ง 3 อย่างไปย่างไฟอ่อนๆหลังจากทำให้สุกแล้ว
ใครที่มาร้านนี้ และอยากสั่งหมูแดง หมูกรอบเปล่าๆบอกได้เลยว่าอดนะจ๊ะ
เพราะที่ร้านทำหมูออกมาพอดีกับข้าวที่จะขายในแต่ละวัน
ฉะนั้นถ้าอยากกินเพิ่มให้สั่งเบิ้ลไปอีกจานแทนนะ
ถ้าใครอยากดูเป็นคลิปผ่าน channel YouTube หรือติดตาม Facebook เพื่อเป็นกำลังใจให้เราได้นะครับ
YouTube :
https://www.youtube.com/channel/UCg2ho0wZOzHBEerZwB2DcOw?sub_confirmation=1
Facebook :
https://www.facebook.com/JakDongThong/
# ปล. การประเมินร้านในคลิป กับที่เขียนจะใช้คำพูดที่ไม่เหมือนกันนะครับ
(แต่ขั้นของระดับยังเป็น ทอง , เงิน และทองแดง เหมือนกัน ต่างกันที่คำข้างหน้าครับ 555)
## สำหรับร้านอื่นๆอีก 4 ร้านจะทยอยลงนะครับ
[CR] One Day Eating Trip @ จุฬา (ร้านรอบมหาลัยที่ไม่ธรรมดา)
ด้วยหลักสูตรการศึกษาที่เข้มข้น รวมไปถึงศิษย์รุ่นพี่ชื่อดังที่จบจากรั้วแห่งนี้ไปจำนวนไม่น้อย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการดำเนินชีวิตในช่วงวัยทำงาน
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ทางมหาลัยแห่งนี้โดดเด่นนอกเหนือการศึกษาที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น นั่นก็คือ.......ร้านอาหารที่ไม่ใกล้จากรั้วมหาลัย
ซึ่งนิสิตที่ได้เรียนที่นี่สามารถออกไปทานได้ทุกวัน แม้แต่ จขกท. เอง ถึงแม้ไม่ได้เรียนที่สถานบันนี้ ถ้าหากมีเวลาก็จะชอบมาป้วนเปี้ยนอยู่เป็นประจำ
เพื่อหาของอร่อยเพิ่มน้ำหนัก
เกริ่นมาซะนานแจ้งผู้อ่านก่อนว่าวันนี้ร้านอาหารรอบจุฬาที่เราจะไปทานนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 6 ร้าน
เป็นของคาว 5 ร้าน และขนมหวาน 1 ร้าน ซึ่งร้านที่ลงจะเรียงลำดับจริงตามที่ไปกินวันนั้นเลย
บางร้านอาจจะได้รับรางวัลมิชลิน บางร้านอาจจะเป็นร้านยอดนิยมของนิสิต บางร้านก็เป็นร้านเก่าแก่
สำหรับการเดินทางมาได้ทั้งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยาม หรือ สนามกีฬาแห่งชาติ ถ้าเป็น MRT ก็ลงสถานีสามย่าน
ส่วนถ้าใครนิยมขับรถมาก็ขอแนะนำให้ไปจอดที่อาคารจอดรถจามจุรี 9 มีที่จอดให้เลือกแยะ
แต่ถ้าอยากประหยัดให้วนขึ้นไปจอดตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไปเพราะค่าจอดชั่วโมงละ 10 บาทเท่านั้น
(ถ้าจอดที่ชั้น 2 จะโดนค่าจอดชั่วโมงละ 20 บาท)
ร้านแรกเริ่มด้วยร้านขวัญใจสายแซ่ป นั่นก็คือร้านส้มตำเจ๊แดง ซึ่งในปีนี้ยังได้รับรางวัล micheline plate 2019
อีกด้วย เปิดด้วย 5 เมนูเบาๆ ได้แก่ ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน เห็ดออรินจิ (70บาท) , คอหมูย่าง (60 บาท) ,
ส้มตำไข่เค็ม (50 บาท) , ส้มตำปูปลาร้า (40 บาท) ,ปลาดุกทอด (60บาท) พร้อมกับของที่ต้องทานคู่กัน
คือข้าวเหนียว และขนมจีน (อย่างละ 10 บาทเท่ากัน)
รสชาติของตัวส้มตำทั้ง 2 รู้สึกธรรมดา โดยเฉพาะตำปูปลาร้า ถ้าไปเทียบตำหลวงพระบาง ของร้านบ้านส้มตำแล้วสู้ไม่ได้เลย
ส่วนต้มแซ่บ กับ ปลาดุกทอด อร่อยดีถ้ามาร้านเจ๊แดงก็ควรสั่ง แต่เมนูที่ห้ามพลาดเลยคือคอหมูย่าง
ที่อร่อยมากๆ อร่อยเป็นลำดับต้นๆของคอหมูย่างที่เคยทานมาเลย สำหรับลักษณะร้านเจ๊แดง ก็จะเป็นห้องแถวทั่วไป
มีอยู่ประมาณ 7-8 โต๊ะ เวลาในการเสริฟ์อาหารไม่นาน ขึ้นอยู่กับจำนวนคน ณ ตอนนั้นๆ
(ตอนที่ จขกท. ไปคนปานกลาง รอ 10 นาทีอาหารก็มาละครับ)
จบจากเจ๊แดง ความอร่อยของคอหมูย่างยังค้างคาอยู่ เลยขอไปต่อที่ร้านข้าวหมูแดงเลิศรส
จัดไปเบาๆ 2 จาน นั่นก็คือข้าวหมูกรอบ (40 บาท) และข้าวหมูแดง กรอบ กุนเชียง (40 บาทอีกเช่นกัน)
พอมาเสิร์ฟก็ประทับใจในความเป็นตานีของไข่แล้ว ส่วนรสชาติดีงามมากๆ เมื่อก่อนให้ หมูกรอบนายไซเป็น อันดับ 1
พอมากินเจ้านี้เข้าไปยอมให้เป็นที่ 1 แทนเลย เพราะว่ามันไม่ได้ดีแค่รสชาติ หรือ รสสัมผัสเท่านั้น
แต่ยังมีความหอมกลิ่นถ่านรมควันอ่อนๆอยู่ในหมูกรอบ หมูแดงและกุนเชียงเลย
มาทราบภายหลังว่าที่ร้านนำทั้ง 3 อย่างไปย่างไฟอ่อนๆหลังจากทำให้สุกแล้ว
ใครที่มาร้านนี้ และอยากสั่งหมูแดง หมูกรอบเปล่าๆบอกได้เลยว่าอดนะจ๊ะ
เพราะที่ร้านทำหมูออกมาพอดีกับข้าวที่จะขายในแต่ละวัน
ฉะนั้นถ้าอยากกินเพิ่มให้สั่งเบิ้ลไปอีกจานแทนนะ
ถ้าใครอยากดูเป็นคลิปผ่าน channel YouTube หรือติดตาม Facebook เพื่อเป็นกำลังใจให้เราได้นะครับ
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCg2ho0wZOzHBEerZwB2DcOw?sub_confirmation=1
Facebook : https://www.facebook.com/JakDongThong/
# ปล. การประเมินร้านในคลิป กับที่เขียนจะใช้คำพูดที่ไม่เหมือนกันนะครับ
(แต่ขั้นของระดับยังเป็น ทอง , เงิน และทองแดง เหมือนกัน ต่างกันที่คำข้างหน้าครับ 555)
## สำหรับร้านอื่นๆอีก 4 ร้านจะทยอยลงนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้