ถึงแม้ว่าจีนจะเป็นผู้ถือพันธบัตรของเมกามากที่สุดในโลก ตามด้วยญี่ปุ่น และรัสเซียยยย รวมประเทศอื่นๆทั่วโลก .....ซึ่งตามทฤษฎีแล้ว ถ้า 3 ชาตินั้นพร้อมใจทิ้งพันธบัตรของเมกา เมกาก็จะเจ้งทันทีเลย ซึ่งมันก็จะกลายเป็นผลกระทบแบบโดมิโน่ และแน่นอน เกิดสงครามโลกแน่ๆ เมกาไม่ยอมแน่ๆ ....
....ตามความเป็นจริง จีน ญี่ปุ่น และรัสเซีย ก็มีจรรยาบรรณมากพอที่จะไม่ทำแบบนั้นนนนนนน แน่นอนนน
...ตอนนนี้มี Trade War ระหว่าง เมกา vs จีน ซึ่งหลายๆคนเชียร์มวยรองงงงงงง ก็ต้องบอกว่า ถ้าเจรจากันให้ถอยคนละก้าว แน่นอนว่าเมกายอมถอยแน่ 1 แต่จีนจำเป็นต้องยอมถอยถึง 2-3 ก้าว เพราะการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว คือ EURO, US, AUS, Japan, Singapore อะไรพวกนี้ จะให้สิทธิไม่เสียภาษีนำเข้า หรือไม่มีกำแแพงภาษีนำเข้ากับประเทศด้อยพัฒนา ซึ่งแต่ก่อนไทยเคยได้สิทธินี้ แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว เลยทำให้นักลงทุนบ้านเราย้ายฐานการผลิตไปที่ประเทศด้อยพัฒนาอื่นๆที่ยังคงได้สิทธินั้นอยู่
...และแน่นอนว่าจีนก็ไม่ได้สิทธินี้เช่นกัน ...Trade War ครั้งนี้คนที่เชียร์มวยรองคงต้องคิดใหม่แล้วนะครับ เพราะตลาดใหญ่ๆมี 3 ที่ คือ เมกา, EU และจีน ....หลายคนบอกว่า แค่จีนขายในประเทศ ตลาดก็ใหญ่พออยู่รอดแล้ว ....เอาจริงๆ ไม่รอดหรอกจ้าาาา เพราะธุรกิจก็คือธุรกิจยังไงมันก็ต้องโตเรื่อยๆ ซึ่ง 2 ใน 3 ของตลาดใหญ่ เมกาคุมได้ทั้งหมด และดูท่าทีแล้ว จีนจะยอมเมกาซะมากกว่า เพราะไม่ว่าจะใหญ่ หรือเก่งขนาดไหนก็จำเป็นต้องเลี้ยงเมกาไว้ ถึงไม่เลี้ยงไว้ก็ fight กับเมกาไม่ไหว....
....ชัดๆเลยตอนนี้ คือ จีนก็ต้องหาที่ทำกินใหม่ เพราะไปหือกับเมกา จนเมกาต้องเพิ่มกำแพงภาษี และเพื่อนพ้องของเมกาก็ต้องเอาด้วยแน่ๆ และจีนก็รู้ดีว่า อะไรที่ Made in China จะโดนภาษีหนักแน่ๆ เลยหาฐานการผลิตใหม่ที่เป็นประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย แถวๆบ้านเราก็รู้ๆกันดีว่าจีนมาบุกลาว บุกแคมโบ และที่ไม่คาดคิด คือ จีนไปบุก และเข้าไปตั้งฐานผลิตในกลุ่มประเทศแอฟริกาเกือบจะทั้งหมด เพื่อเพิ่มฐานการผลิต ในกลุ่มประเทศที่ยังด้อยพัฒนาเพื่อที่จะได้ไม่โดนกำแพงภาษี เพื่อให้จีนได้ขายของกับกลุ่มประเทศใหญ่ๆได้ ....
...แบบนี้แน่นอนว่า จีนคงไม่ช่วยพัฒนาประเทศเหล่านั้นมากมายนัก เอาแค่มีโครงสร้างพื้นฐานพอที่จะผลิตสินค้าให้จีนได้ก็พอ ......
แล้วแบบนี้ก็แสดงว่า จีนอาจไม่ได้ขยายอิทธิพลสู้กับเมกาแบบที่ทุกคนเข้าใจก็ได้ แต่เพราะสู้ไม่ไหวเลยต้องหาที่ทำกินเพิ่ม
______________________________________________________________
*****.....แก้ไขข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ:
เผื่อมีบางคนที่เชียร์มวยรองอย่างจีนจะหาว่าผมมโนเขียนขึ้นมา ....ข้างล่างคือข้อมูลการเติบโตของการส่งออกทางเรือ ซึ่งเป็นการขนส่งระหว่างประเทศที่มีมากที่สุด และนิยมมากที่สุด ...
จะเห็นว่า Trans-Pacific (คือการขนส่งข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก) และ Euro-Asia-Euro นั้น เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมากขึ้นเรื่อยๆ แกนตั้งมีหน่วยgxHo ล้าน TEUs หรือ ล้านตู้คอนเทนเนอร์ .....ซึ่งจากตรงนี้ กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (EU-USA) เขาให้สิทธิ Non - Tariff barrier หรือกำแพงภาษี หรือมาตรการต่างๆเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าของประเทศเขา กับประเทศที่ด้อยพัฒนาเท่านั้น ...ซึ่งจีนก็ไม่อยู่ในสิทธินั้นอยู่แล้ว แถมไปหือกับขาใหญ่ และไม่เต็มใจอยากจะเจรจากับเมกาตามที่พี่ คห. 4 ว่ามา ....
..ซึ่งทำให้จีนซึ่งเคยส่งออกไปประเทศเหล่านั้นเยอะ ก็เริ่มสะดุดเมื่อเจอมาตรการอะไรแบบนี้ จึงต้องหาฐานผลิตใหม่ๆ ที่เป็นกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา เพื่อให้สินค้าตัวเองส่งออกได้เยอะๆเหมือนเดิม .....ซึ่งนักลงทุกประเทศเราก็ทำแบบนั้นเหมือนกันหรือหาการผลิตใหม่ เพราะไทยเองก็ไม่ได้สิทธิแบบนั้น ไทยเองก็มีการเจรจาการค้าอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ส่งออกสินค้าบางอย่างไปประเทศนั้นๆได้โดยที่ไม่มีกำแพงทางภาษี ....
....ซึ่งที่ว่ามานี้ USA - China มีการเจรจากันบ้างรึยัง แต่ดูๆท่าแล้ว เมกาอยากเจรจา แต่จีนไม่อยากเพราะต้องยอมถอยหลายก้าววว
จีนอาจไม่ได้ขยายอิทธิพลสู้กับเมกาแบบที่ทุกคนเข้าใจก็ได้ แต่เพราะสู้ไม่ไหวเลยต้องหาที่ทำกินเพิ่ม
....ตามความเป็นจริง จีน ญี่ปุ่น และรัสเซีย ก็มีจรรยาบรรณมากพอที่จะไม่ทำแบบนั้นนนนนนน แน่นอนนน
...ตอนนนี้มี Trade War ระหว่าง เมกา vs จีน ซึ่งหลายๆคนเชียร์มวยรองงงงงงง ก็ต้องบอกว่า ถ้าเจรจากันให้ถอยคนละก้าว แน่นอนว่าเมกายอมถอยแน่ 1 แต่จีนจำเป็นต้องยอมถอยถึง 2-3 ก้าว เพราะการค้าระหว่างประเทศ กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว คือ EURO, US, AUS, Japan, Singapore อะไรพวกนี้ จะให้สิทธิไม่เสียภาษีนำเข้า หรือไม่มีกำแแพงภาษีนำเข้ากับประเทศด้อยพัฒนา ซึ่งแต่ก่อนไทยเคยได้สิทธินี้ แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว เลยทำให้นักลงทุนบ้านเราย้ายฐานการผลิตไปที่ประเทศด้อยพัฒนาอื่นๆที่ยังคงได้สิทธินั้นอยู่
...และแน่นอนว่าจีนก็ไม่ได้สิทธินี้เช่นกัน ...Trade War ครั้งนี้คนที่เชียร์มวยรองคงต้องคิดใหม่แล้วนะครับ เพราะตลาดใหญ่ๆมี 3 ที่ คือ เมกา, EU และจีน ....หลายคนบอกว่า แค่จีนขายในประเทศ ตลาดก็ใหญ่พออยู่รอดแล้ว ....เอาจริงๆ ไม่รอดหรอกจ้าาาา เพราะธุรกิจก็คือธุรกิจยังไงมันก็ต้องโตเรื่อยๆ ซึ่ง 2 ใน 3 ของตลาดใหญ่ เมกาคุมได้ทั้งหมด และดูท่าทีแล้ว จีนจะยอมเมกาซะมากกว่า เพราะไม่ว่าจะใหญ่ หรือเก่งขนาดไหนก็จำเป็นต้องเลี้ยงเมกาไว้ ถึงไม่เลี้ยงไว้ก็ fight กับเมกาไม่ไหว....
....ชัดๆเลยตอนนี้ คือ จีนก็ต้องหาที่ทำกินใหม่ เพราะไปหือกับเมกา จนเมกาต้องเพิ่มกำแพงภาษี และเพื่อนพ้องของเมกาก็ต้องเอาด้วยแน่ๆ และจีนก็รู้ดีว่า อะไรที่ Made in China จะโดนภาษีหนักแน่ๆ เลยหาฐานการผลิตใหม่ที่เป็นประเทศด้อยพัฒนาทั้งหลาย แถวๆบ้านเราก็รู้ๆกันดีว่าจีนมาบุกลาว บุกแคมโบ และที่ไม่คาดคิด คือ จีนไปบุก และเข้าไปตั้งฐานผลิตในกลุ่มประเทศแอฟริกาเกือบจะทั้งหมด เพื่อเพิ่มฐานการผลิต ในกลุ่มประเทศที่ยังด้อยพัฒนาเพื่อที่จะได้ไม่โดนกำแพงภาษี เพื่อให้จีนได้ขายของกับกลุ่มประเทศใหญ่ๆได้ ....
...แบบนี้แน่นอนว่า จีนคงไม่ช่วยพัฒนาประเทศเหล่านั้นมากมายนัก เอาแค่มีโครงสร้างพื้นฐานพอที่จะผลิตสินค้าให้จีนได้ก็พอ ......
แล้วแบบนี้ก็แสดงว่า จีนอาจไม่ได้ขยายอิทธิพลสู้กับเมกาแบบที่ทุกคนเข้าใจก็ได้ แต่เพราะสู้ไม่ไหวเลยต้องหาที่ทำกินเพิ่ม
______________________________________________________________
*****.....แก้ไขข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ:
เผื่อมีบางคนที่เชียร์มวยรองอย่างจีนจะหาว่าผมมโนเขียนขึ้นมา ....ข้างล่างคือข้อมูลการเติบโตของการส่งออกทางเรือ ซึ่งเป็นการขนส่งระหว่างประเทศที่มีมากที่สุด และนิยมมากที่สุด ...
จะเห็นว่า Trans-Pacific (คือการขนส่งข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก) และ Euro-Asia-Euro นั้น เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมากขึ้นเรื่อยๆ แกนตั้งมีหน่วยgxHo ล้าน TEUs หรือ ล้านตู้คอนเทนเนอร์ .....ซึ่งจากตรงนี้ กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว (EU-USA) เขาให้สิทธิ Non - Tariff barrier หรือกำแพงภาษี หรือมาตรการต่างๆเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าของประเทศเขา กับประเทศที่ด้อยพัฒนาเท่านั้น ...ซึ่งจีนก็ไม่อยู่ในสิทธินั้นอยู่แล้ว แถมไปหือกับขาใหญ่ และไม่เต็มใจอยากจะเจรจากับเมกาตามที่พี่ คห. 4 ว่ามา ....
..ซึ่งทำให้จีนซึ่งเคยส่งออกไปประเทศเหล่านั้นเยอะ ก็เริ่มสะดุดเมื่อเจอมาตรการอะไรแบบนี้ จึงต้องหาฐานผลิตใหม่ๆ ที่เป็นกลุ่มประเทศด้อยพัฒนา เพื่อให้สินค้าตัวเองส่งออกได้เยอะๆเหมือนเดิม .....ซึ่งนักลงทุกประเทศเราก็ทำแบบนั้นเหมือนกันหรือหาการผลิตใหม่ เพราะไทยเองก็ไม่ได้สิทธิแบบนั้น ไทยเองก็มีการเจรจาการค้าอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ส่งออกสินค้าบางอย่างไปประเทศนั้นๆได้โดยที่ไม่มีกำแพงทางภาษี ....
....ซึ่งที่ว่ามานี้ USA - China มีการเจรจากันบ้างรึยัง แต่ดูๆท่าแล้ว เมกาอยากเจรจา แต่จีนไม่อยากเพราะต้องยอมถอยหลายก้าววว