รักตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปรักใคร จนปิดกั้นทุกคนที่เข้ามาหา

            เพราะเราเป็นซึมเศร้าเพราะเราเป็นไบโพล่าร์มาตั้งแต่ปี 1997 จนปัจจุบันก็อยู่สถานะรักษาอยู่ แรก ๆ ก็อยากมีแฟนล่ะนะ จนมาพบสัจธรรมที่รักเขาข้างเดียวแล้วเขาทิ้งไป จุดเปลี่ยนตรงนี้ล่ะ ที่ทำให้เรามาลดความอ้วน มาเล่นกล้าม และเข้ารับการรักษาอีกครั้งหลังจากทิ้งการรักษาไป 4 ปี เพราะท้อแท้ที่รักษาหลายปีอาการไม่ดีขึ้น กินยาเหมือนกินขนม M&M 
           พอกลับเข้าไปรักษาเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาล อาการเริ่มดีขึ้น รูปร่างเริ่มเข้าที่ เวลาเริ่มเยียวยาจิตใจได้ ก็มีความมั่นใจมากขึ้น เลยโพสยั่ว ๆ คนก็เข้ามามากขึ้น แต่เขาก็แค่ต้องการร่างกายเราแค่คืนเดียวเท่านั้น เราเลยไม่ต้องการ พอเริ่มมีคนมาจีบ เพราะเราถือว่าต้องใช้เวลาศึกษาดูใจกัน ไม่มีแม้แต่หลับนอนเด็ดขาด อีกฝ่ายก็ไม่อดทน เราเลยคิดว่า เฮ้อ อายุจะเข้า 40 แล้วนะ ไม่มีก็ไม่มี อยู่อย่างนี้เรื่อย ๆ ล่ะ จนตอนนี้ชอบสันโดษ ชอบอยู่คนเดียว ไปไหนมาไหนก็ไม่มีสังคม ไม่คุยกับผู้เล่นกีฬาทุกคนในยิมเลย 5 ปี ยกเว้นแม่บ้านกับเคาท์เตอร์ ไม่ชอบการที่ต้องมาคอยตอบแชท อยากทำอะไรที่สบายใจ ตามอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แบบไบโพล่าร์ แต่ต้องไม่เอาอาการของจิตไปรบกวนเบียดเบียนใคร เลยหาวิธีปล่อยอารมณ์ไบโพล่าร์ด้วยตัวเองก่อน เพื่อนก็ปล่อยเขาอยู่กับครอบครัวไป ไม่ต้องรบกวน แม้บางคราวมีความอยากต้องการใครสักคน จนอยากจะนัดฟัน แต่ก็ยั้งใจไว้ เพราะเราต้องการมีชีวิตเพื่อดูอนาคตหลานเรา
            คิดดูแล้วเราก็เหมือนคนอื่น ไม่ได้แย่สุดเลวร้ายสุด พื้น ๆ พอไปวัดไปวาได้ แต่ตอนนี้กลัวทุกคนที่เข้ามาหาเพื่อเปิดสัมพันธ์ เราไม่เปิดใจ และไม่ต้องการ แม้จะต้องการแค่ตอนมีอารมณ์ทางเพศก็เถอะ ตอนนี้ก็ต้องรักษาโรคทางจิตเวชของตัวเองก่อน ไม่อยากสร้างปัญหาให้คนที่เข้ามา พอคิดแบบนี้ได้ สบายใจที่สุดเลย แต่คนอื่นที่พอรู้จักเราบ้างทางโซเชี่ยลก็เตือนว่า มันเป็นระเบิดเวลา อย่ากอดไว้ อยากอะไร ต้องการอะไร ปลดปล่อยมาเลย เดินทางมาครึ่งชีวิตแล้วไม่รู้ว่าจะถึงคราวตอนไหน ก็ได้แต่ เฮ้อ ไปดูซองยา แกะตามแพทย์สั่ง กินตามเวลาต่อไป เราเชื่อว่า พอถึงเวลาที่ฤทธิ์ยาให้สงบมาก เราจะตกผลึกทางความคิดได้ เราต้องก้าวข้ามมันไปได้
                                                                                 **อ้อ ฉันเป็นเกย์นะสู**                                                
                                                                  "ฉันรู้สึกดี ที่ฉันได้ระบาย พูดเรื่องในใจกับเธอ"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่