EAโชว์แกร่ง! Q1 กำไร1.2พันลบ.

https://www.share2trade.com/index.php?mod=news&file=view&id=1408

EA เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/62 ทุบสถิติ ด้วยกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ 1,210.72 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 37.81 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวม 1,946.75 ล้านบาท ทั้งนี้หากพิจารณา เฉพาะกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจตามปกติโดยไม่รวมกำไรทางบัญชีจากการรวม Amita ที่เกิดขึ้นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 894.58 ล้านบาท บริษัทฯจะมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.07 ในขณะที่รายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นจนแตะ 3,086.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.36 เนื่องจากรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น หนุนกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น ช่วยสนับสนุนโอกาสขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง หลังโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหนุมาน จ่ายไฟฟ้าครบ 260 เมกะวัตต์ ส่งผลให้กำลังผลิตไฟฟ้ารวมเป็น 664 เมกะวัตต์ ด้านทริส เชื่อมั่น ยกระดับเครดิตขึ้นเป็น “A” ทันที หนุนต้นทุนทางการเงินลดฮวบ เตรียมเดินหน้าโครงการใหม่เต็มที่

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/62 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจ 1,210.72 ล้านบาท แม้จะลดลงร้อยละ 37.81 จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่หากไม่รวมกำไรทางบัญชีและผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนอื่นๆ แล้ว จะทำให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,145.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.71 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 3,086.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.36 จากงวดเดียวกันของปีก่อน (ไม่นับรายได้และกำไรทางบัญชีจากการรวมกิจการ Amita ในปี 2561 จำนวน 894.58  ล้านบาท) โดยมีปัจจัยที่สำคัญมาจากการเริ่มผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน 1, 5, 8 และ 9 ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกัน 180 เมกะวัตต์ ประกอบกับการมีพายุกระแสลมแรงในช่วงเดือนมกราคมปีนี้ ส่งผลให้จำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่มขึ้นร้อยละ 45.37 ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/62 บริษัทฯมีกำลังผลิตไฟฟ้าที่มาจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และลมรวมกันเท่ากับ 584 เมกะวัตต์ ส่วนโครงการหนุมาน 10 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมสุดท้าย ขนาดกำลังผลิต 80 เมกะวัตต์ ได้เริ่มมีรายได้เมื่อวันที่ 13 เมษายน เป็นต้นมา โดยภาพรวมของผลประกอบการในปีนี้ จึงมีการเติบโตอย่างโดดเด่นจากผลสำเร็จของโครงการหนุมาน จังหวัดชัยภูมิ เป็นสำคัญ ส่งผลให้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเข้ามาไม่ต่ำกว่า 8 พันล้านบาท ซึ่งจะนำไปใช้จ่ายและลงทุนในโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง 

“การที่ธุรกิจไฟฟ้าของบริษัทสามารถสร้างรายได้ได้อย่างมั่นคงจากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับกฟผ.-กฟภ. ตลอดจนการดำเนินโครงการได้ตามเป้าหมาย จนฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้ทริสได้เพิ่มอันดับเครดิตองค์กรเป็นระดับ "A" แนวโน้ม "Stable" จากเดิมที่เป็นระดับ "A-" ถือเป็นการตอกย้ำถึงปัจจัยพื้นฐานธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในลดต้นทุนทางการเงินที่จะใช้สำหรับลงทุนในโครงการต่างๆ ต่อไปอย่างเป็นสาระสำคัญ” นายอมรกล่าว 

สำหรับแผนการลงทุนในปี 2562 ถึง 2563 นั้น บริษัทยังคงมุ่งเน้นไปที่โครงการผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนทั้งอุตสาหกรรมไฟฟ้าพ่วงแบตเตอรี่ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และอื่นๆ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 9,200 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากทั้งกระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และเงินกู้ยืมระยะยาวหรือการออกหุ้นกู้ตามที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติไว้ด้วยวงเงินไม่เกิน 15,000 ล้านบาท เพื่อเป็นทางเลือกในการใช้บริหารต้นทุนทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่