เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ผมได้รับการชักชวนสมัครทำประกันชีวิตควบคู่ประกันสุขภาพ (Bancassurance)
ผ่านเจ้าหน้าที่ THE WISDOM ของบริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทย รับประกันโดยเมืองไทยประกันชีวิต
ด้วยความที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีประกันชีวิตและประกันสุขภาพคุ้มครองผมได้ตัดสินใจทำประกันฯดังกล่าวให้กับตนเอง
และคุณแม่ในวงเงินคุ้มครองสุขภาพ 75 ล้านบาทและ 40 ล้านบาท ในแบบที่ธนาคารเรียกว่า Elite Health
ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าเป็นตัวประกันที่ดีที่สุดของค่ายเมืองไทยประกันชีวิต คุ้มครองมากที่สุดในตลาดและ
ไม่ต้องสำรองเบิกจ่ายต่างๆนานา ค่าห้องวงเงิน 12,000-15,000/คืน รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลต่างๆในวงเงิน 40 และ 75 ล้านบาท
ผมและคุณแม่ได้แถลงข้อมูลสุขภาพต่างๆตามความเป็นจริงทุกประการ ต่อมาประมาณ 1-2 สัปดาห์ประกันอนุมัติและได้รับการคุ้มครอง
และได้รับเล่มกรมธรรม์จากธนาคารกสิกรไทย
ผ่านมาราว 4-5 เดือนคุณแม่ได้มีอาการนิ้วล็อคมือขวาเกิดขึ้น จึงได้ไปพบแพทย์และแพทย์ได้ลงความให้ทำการผ่าตัด
ด้วยวงเงินคุ้มครองด้านค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลของประกันที่มีในวงเงิน 40 ล้านบาท และตอนทำประกันเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า
ไม่ต้องสำรองจ่ายก่อนแต่เอาเข้าจริงกลับกลายเป็นคนละเรื่องด้วยการที่ตัดสินใจผิดไม่ได้ทำผ่านตัวแทนแต่ได้ทำประกันฯผ่านธนาคาร
เมื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ขายประกันผ่านทางสาขาธนาคารกสิกรไทยกลับถูกให้ไปติดต่อทาง call centre ของเมืองไทยประกันชีวิตเอง
และเจ้าหน้าที่ call centre เองก็ไม่สามารถให้คำตอบใดๆได้ โดยที่ปล่อยให้คุณแม่รออยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ โทรตามเรื่องทุกวันจึง
ได้รับคำตอบกลับมาจากทางบริษัทประกันว่าให้สำรองจ่ายไปก่อนและบริษัทจะพิจารณาประมาณ 90 วัน ทั้งนี้บริษัทอาจจะไม่คุ้มครอง
และบริษัทขอตรวจสอบประวัติการรักษาโรงพยาบาลต่างๆเพิ่มเติม ผมและคุณแม่เองก็ตั้งคำถามว่าในเมื่อตอนแรกที่
เราทั้งสองตัดสินใจทำประกัน ทำไมบริษัทถึงไม่ตรวจสอบประวัติการรักษาตั้งแต่ตอนแรก ผมโทรไปสอบถามความคืบหน้าทุกอาทิตย์
แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินไหมสุขภาพปฎิเสธและแจ้งกลับมาว่าให้รอไปเรื่อยๆ ทางบริษัทจะติดต่อกลับมาเอง
ในวันผ่าตัดผมได้ชำระค่าใช้จ่ายวันผ่าตัดที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ในยอดประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท จนถึงวันนี้เดือนกว่าๆแล้ว
ยังไม่มีวี่แววจากบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตตอบกลับมาเลย ผมและคุณแม่เองผิดหวังและคิดผิดมากที่ตัดสินใจไว้วางใจเลือกซื้อ
แผนประกันเมืองไทยประกันชีวิตผ่านธนาคารกสิกรไทย ทางเราไม่ติดที่จะสำรองจ่ายไปก่อน แต่คิดว่าการที่บริษัทเลือกที่จะปฎิบัติ
แบบี้กับลูกค้าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าการกระทำเช่นนี้ไม่เป็นธรรมกับลูกค้าเอาซะเลย ถ้าบริษัทมีนโยบายให้ลูกค้าสำรองจ่ายไปก่อนและขอตรวจ
สอบประวัติก่อนทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา ผมว่าอย่าเรียกตัวเองว่าบริษัทประกันเลยครับ
อยากจะเตือนให้ท่านที่เค้ามาอ่านเป็นอุทาหรณ์ เวลาพิจารณาเลือกทำประกันควรเลือกทำกับบริษัทที่มีธรรมภิบาลกว่านี้
ผมเองก็ได้เปลี่ยนใจไปใช้บริการบริษัทประกันอื่นแล้ว ผิดหวังกับเมืองไทยประกันชีวิตมากครับ
ระหว่างนี้ผมกำลังรวบรวมเอกสารต่างๆเพื่อจะยื่นร้องเรียนต่อ คปภ และคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคครับ
ผิดหวังกับประกันชีวิตของธนาคารกสิกรมากที่ไม่เป็นธรรม ขอคำแนะนำช่วยเหลือ
ผ่านเจ้าหน้าที่ THE WISDOM ของบริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทย รับประกันโดยเมืองไทยประกันชีวิต
ด้วยความที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีประกันชีวิตและประกันสุขภาพคุ้มครองผมได้ตัดสินใจทำประกันฯดังกล่าวให้กับตนเอง
และคุณแม่ในวงเงินคุ้มครองสุขภาพ 75 ล้านบาทและ 40 ล้านบาท ในแบบที่ธนาคารเรียกว่า Elite Health
ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าเป็นตัวประกันที่ดีที่สุดของค่ายเมืองไทยประกันชีวิต คุ้มครองมากที่สุดในตลาดและ
ไม่ต้องสำรองเบิกจ่ายต่างๆนานา ค่าห้องวงเงิน 12,000-15,000/คืน รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลต่างๆในวงเงิน 40 และ 75 ล้านบาท
ผมและคุณแม่ได้แถลงข้อมูลสุขภาพต่างๆตามความเป็นจริงทุกประการ ต่อมาประมาณ 1-2 สัปดาห์ประกันอนุมัติและได้รับการคุ้มครอง
และได้รับเล่มกรมธรรม์จากธนาคารกสิกรไทย
ผ่านมาราว 4-5 เดือนคุณแม่ได้มีอาการนิ้วล็อคมือขวาเกิดขึ้น จึงได้ไปพบแพทย์และแพทย์ได้ลงความให้ทำการผ่าตัด
ด้วยวงเงินคุ้มครองด้านค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลของประกันที่มีในวงเงิน 40 ล้านบาท และตอนทำประกันเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า
ไม่ต้องสำรองจ่ายก่อนแต่เอาเข้าจริงกลับกลายเป็นคนละเรื่องด้วยการที่ตัดสินใจผิดไม่ได้ทำผ่านตัวแทนแต่ได้ทำประกันฯผ่านธนาคาร
เมื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ขายประกันผ่านทางสาขาธนาคารกสิกรไทยกลับถูกให้ไปติดต่อทาง call centre ของเมืองไทยประกันชีวิตเอง
และเจ้าหน้าที่ call centre เองก็ไม่สามารถให้คำตอบใดๆได้ โดยที่ปล่อยให้คุณแม่รออยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ โทรตามเรื่องทุกวันจึง
ได้รับคำตอบกลับมาจากทางบริษัทประกันว่าให้สำรองจ่ายไปก่อนและบริษัทจะพิจารณาประมาณ 90 วัน ทั้งนี้บริษัทอาจจะไม่คุ้มครอง
และบริษัทขอตรวจสอบประวัติการรักษาโรงพยาบาลต่างๆเพิ่มเติม ผมและคุณแม่เองก็ตั้งคำถามว่าในเมื่อตอนแรกที่
เราทั้งสองตัดสินใจทำประกัน ทำไมบริษัทถึงไม่ตรวจสอบประวัติการรักษาตั้งแต่ตอนแรก ผมโทรไปสอบถามความคืบหน้าทุกอาทิตย์
แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินไหมสุขภาพปฎิเสธและแจ้งกลับมาว่าให้รอไปเรื่อยๆ ทางบริษัทจะติดต่อกลับมาเอง
ในวันผ่าตัดผมได้ชำระค่าใช้จ่ายวันผ่าตัดที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ในยอดประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท จนถึงวันนี้เดือนกว่าๆแล้ว
ยังไม่มีวี่แววจากบริษัทเมืองไทยประกันชีวิตตอบกลับมาเลย ผมและคุณแม่เองผิดหวังและคิดผิดมากที่ตัดสินใจไว้วางใจเลือกซื้อ
แผนประกันเมืองไทยประกันชีวิตผ่านธนาคารกสิกรไทย ทางเราไม่ติดที่จะสำรองจ่ายไปก่อน แต่คิดว่าการที่บริษัทเลือกที่จะปฎิบัติ
แบบี้กับลูกค้าเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง
ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าการกระทำเช่นนี้ไม่เป็นธรรมกับลูกค้าเอาซะเลย ถ้าบริษัทมีนโยบายให้ลูกค้าสำรองจ่ายไปก่อนและขอตรวจ
สอบประวัติก่อนทุกครั้งที่เข้ารับการรักษา ผมว่าอย่าเรียกตัวเองว่าบริษัทประกันเลยครับ
อยากจะเตือนให้ท่านที่เค้ามาอ่านเป็นอุทาหรณ์ เวลาพิจารณาเลือกทำประกันควรเลือกทำกับบริษัทที่มีธรรมภิบาลกว่านี้
ผมเองก็ได้เปลี่ยนใจไปใช้บริการบริษัทประกันอื่นแล้ว ผิดหวังกับเมืองไทยประกันชีวิตมากครับ
ระหว่างนี้ผมกำลังรวบรวมเอกสารต่างๆเพื่อจะยื่นร้องเรียนต่อ คปภ และคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคครับ