เรื่องมีอยู่ว่า พี่คนที่รู้จักกันมาขายสิทธิ์บ้านเอื้ออาทร (บ้านเดียว 2ชั้น 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) ขายสิทธิ์ให้ในราคา 180,000.- (ราคาบ้าน 660,000.- ดาวน์ไปแล้ว 75,700.- คงเหลือ 584,300.- ) ซึ่งพี่เขาบอกว่าซื้อสิทธิ์ต่อมาอีกทีหนึ่งและอยู่ระหว่างยื่นขอกู้แบงก์ สาเหตุที่มาขายต่อเพราะว่าเดิมจะซื้อให้ลูกสาวต่อเติมทำธุระกิจส่วนตัว แล้วลูกสาวเปลี่ยนใจจะไปซื้อบ้านจัดสรรแทน เราก็เลยซื้อสิทธิ์ต่อ เนื่องจากเห็นว่าไม่ต้องจองคิวและรอคิวกับการเคหะ
ก่อนที่จะซื้อสิทธิ์ต่อจากพี่คนนี้ก็ถามรายละเอียดว่าผ่อนดาวน์ไปเท่าไหร่แล้ว ซึ่งพี่เขาก็ไม่ได้ให้รายละเอียดมากบอกว่าตามสัญญา ราคาบ้าน 6 แสนกว่า ดาวน์ไปแล้วตามสัญญา เหลือประมาณ 5 แสนกว่า (เรายังไม่ได้เห็นตัวสัญญาจริง) ด้วยความที่เราไว้ใจเพราะรู้จักกันทำงานบริษัทในเครือเดียวกัน และเราก็ซื้อประกันชีวิตกับพี่คนนี้ 2 กรมธรรม์ด้วยกัน ก็เลยรับปากซื้อต่อ วันไปยื่นเอกสารเปลี่ยนผู้ทำสัญญากับการเคหะ พี่เขาให้เราโอนเงินให้เขาก่อน 100,000.- เมื่อสัญญาผ่าน วันโอนสิทธิ์จ่ายส่วนที่เหลืออีก 80,000.- หลังจากสัญญาผ่านและไปโอนสิทธิ์ที่การเคหะมาเรียบร้อยแล้ว (จ่ายเงินพี่เขาครบเรียบร้อยแล้ว 180,000.-) เราก็ได้ตัวสัญญาซื้อขายมาถือไว้เพื่อไปยื่นกู้แบงก์ส่วนที่เหลือ (ค่าโอนจ่ายกันคนละครึ่ง คนละ 10,000.-) เราดูมานั่งดูสัญญาพบว่าบ้านจ่ายดาวน์มัดจำไปแค่ 75,700.- (20 งวด) ซึ่งราคาบ้าน 660,000.- เราต้องไปยื่นกู้แบงก์อีก 584,300.- เราก็เลยนึกดูว่าพี่เขาขายสิทธิ์เราแพงมากเกินไปไหม ก็เลยไลน์ไปถามพี่เขาว่าพี่ขายสิทธิ์ให้น้องมันแพงเกินไปไหม จากที่น้องจ่ายไปคือ 180,000.- แล้วต้องกู้แบงก์ส่วนที่เหลืออีก 584,300 = 764,300.- พี่เขาก็ยืนยันว่าเขาซื้อต่อมาเท่านี้จริงๆ ตอนที่ซื้อเขาบอกว่าเขาอยากได้มากจะเอาต่อเติมทำธุรกิจส่วนตัว เราเลยลองพูดว่าน้องซื้อจากพี่เอาไว้อยู่เองไม่ได้ทำธุระกิจอะไรพี่ไม่ลดให้หน่อยหรอ พี่เขาก็ยืนยันว่าเขาซื้อมาเท่านี้จริงๆ แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่ก็จ่ายเงินให้พี่เขาไปหมดแล้ว และอยู่ระหว่างยื่นกู้แบงก์ ธอส. อยู่ คือเราไม่ได้รีบอยากมีบ้าน เราอยู่บ้านพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัด ห่างจากที่ทำงาน 53 กิโล ที่ทำงานมีที่พักให้ฟรี พอพี่เขามาเสนอขายให้ก็เลยคิดว่าซื้อไว้ก็ดีเหมือนกันราคาบ้านเอื้ออาทรก็ไม่ได้แพงมาก จะได้มีบ้านในตัวจังหวัด ผ่อนต่อเดือนไม่กี่พัน ความรู้สึกคือแล้วทำไมเราต้องมาเสียส่วนต่างมากขนาดนี้ เพราะว่ายอดเงินส่วนต่างมันมากเกินไปจากเงินที่ดาวน์จริง 180,000-75,700=104,300.- ก็เคยเล่าสู่เพื่อนๆฟัง และอยากถามว่าซื้อสิทธิ์มาแพงเกินไปไหม เพื่อนๆคนอื่นซื้อมากันเท่าเรา เพราะจากที่ไปถาม เจ้าหน้าที่การเคหะ (ปกติเขาห้ามขายสิทธิ์กัน) เขาบอกว่าบางคนเขาก็ไม่ได้เอากำไรมาก หรือเอากำไรกันแค่นิดหน่อยไม่เกินหมื่น บางคนก็ขายเท่าที่เงินดาวน์ไป T_T ไว้ใจคนเกินไปไม่ถามรายละเอียดให้ดี ก็เสียความรู้สึกฟรี แบบนี้แหล่ะ เรื่องมันเศร้า...
ซื้อสิทธิ์บ้านเอื้ออาทรการเคะต่อจากคนรู้จักมา
ก่อนที่จะซื้อสิทธิ์ต่อจากพี่คนนี้ก็ถามรายละเอียดว่าผ่อนดาวน์ไปเท่าไหร่แล้ว ซึ่งพี่เขาก็ไม่ได้ให้รายละเอียดมากบอกว่าตามสัญญา ราคาบ้าน 6 แสนกว่า ดาวน์ไปแล้วตามสัญญา เหลือประมาณ 5 แสนกว่า (เรายังไม่ได้เห็นตัวสัญญาจริง) ด้วยความที่เราไว้ใจเพราะรู้จักกันทำงานบริษัทในเครือเดียวกัน และเราก็ซื้อประกันชีวิตกับพี่คนนี้ 2 กรมธรรม์ด้วยกัน ก็เลยรับปากซื้อต่อ วันไปยื่นเอกสารเปลี่ยนผู้ทำสัญญากับการเคหะ พี่เขาให้เราโอนเงินให้เขาก่อน 100,000.- เมื่อสัญญาผ่าน วันโอนสิทธิ์จ่ายส่วนที่เหลืออีก 80,000.- หลังจากสัญญาผ่านและไปโอนสิทธิ์ที่การเคหะมาเรียบร้อยแล้ว (จ่ายเงินพี่เขาครบเรียบร้อยแล้ว 180,000.-) เราก็ได้ตัวสัญญาซื้อขายมาถือไว้เพื่อไปยื่นกู้แบงก์ส่วนที่เหลือ (ค่าโอนจ่ายกันคนละครึ่ง คนละ 10,000.-) เราดูมานั่งดูสัญญาพบว่าบ้านจ่ายดาวน์มัดจำไปแค่ 75,700.- (20 งวด) ซึ่งราคาบ้าน 660,000.- เราต้องไปยื่นกู้แบงก์อีก 584,300.- เราก็เลยนึกดูว่าพี่เขาขายสิทธิ์เราแพงมากเกินไปไหม ก็เลยไลน์ไปถามพี่เขาว่าพี่ขายสิทธิ์ให้น้องมันแพงเกินไปไหม จากที่น้องจ่ายไปคือ 180,000.- แล้วต้องกู้แบงก์ส่วนที่เหลืออีก 584,300 = 764,300.- พี่เขาก็ยืนยันว่าเขาซื้อต่อมาเท่านี้จริงๆ ตอนที่ซื้อเขาบอกว่าเขาอยากได้มากจะเอาต่อเติมทำธุรกิจส่วนตัว เราเลยลองพูดว่าน้องซื้อจากพี่เอาไว้อยู่เองไม่ได้ทำธุระกิจอะไรพี่ไม่ลดให้หน่อยหรอ พี่เขาก็ยืนยันว่าเขาซื้อมาเท่านี้จริงๆ แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่ก็จ่ายเงินให้พี่เขาไปหมดแล้ว และอยู่ระหว่างยื่นกู้แบงก์ ธอส. อยู่ คือเราไม่ได้รีบอยากมีบ้าน เราอยู่บ้านพ่อแม่อยู่ต่างจังหวัด ห่างจากที่ทำงาน 53 กิโล ที่ทำงานมีที่พักให้ฟรี พอพี่เขามาเสนอขายให้ก็เลยคิดว่าซื้อไว้ก็ดีเหมือนกันราคาบ้านเอื้ออาทรก็ไม่ได้แพงมาก จะได้มีบ้านในตัวจังหวัด ผ่อนต่อเดือนไม่กี่พัน ความรู้สึกคือแล้วทำไมเราต้องมาเสียส่วนต่างมากขนาดนี้ เพราะว่ายอดเงินส่วนต่างมันมากเกินไปจากเงินที่ดาวน์จริง 180,000-75,700=104,300.- ก็เคยเล่าสู่เพื่อนๆฟัง และอยากถามว่าซื้อสิทธิ์มาแพงเกินไปไหม เพื่อนๆคนอื่นซื้อมากันเท่าเรา เพราะจากที่ไปถาม เจ้าหน้าที่การเคหะ (ปกติเขาห้ามขายสิทธิ์กัน) เขาบอกว่าบางคนเขาก็ไม่ได้เอากำไรมาก หรือเอากำไรกันแค่นิดหน่อยไม่เกินหมื่น บางคนก็ขายเท่าที่เงินดาวน์ไป T_T ไว้ใจคนเกินไปไม่ถามรายละเอียดให้ดี ก็เสียความรู้สึกฟรี แบบนี้แหล่ะ เรื่องมันเศร้า...