คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
1.ฟ้องชู้คดีมีทุนทรัพย์ แค่ 300,000 บาท ผมว่ามันน้อยไปนะ มันต้องดูหลายๆอย่าง อะไรที่ทำให้เราได้รับความเสียหาย จาการถูกชู้ละเมิด ส่วนกรณีทรัพย์สินที่ได้โอนมาเป็นชื่อผู้หญิง หรือให้ผู้หญิงเป็นผู้กรรมสิทธิ์หรือครอบ มันไม่เกี่ยวกันครับคนละเรื่อง แล้วที่ว่าป้องกันบริษัทตรวจสอบ ผมไม่เข้าใจว่า บริษัท จะตรวจสอบทำไม สามีคุณเอาทรัพย์สินของ บริษัทมาเป็นของตัวเองหรือ ?
2.ฟ้องแล้วใช้ระยะเวลาพอสมควร เป็นหลายเดือน หรืออาจเป็นปี ครับ จากที่คุณเล่ามา สามารถฟ้องได้ครับเพราะคุณเป็นคู่สมรสถูกต้องตามกฎหมาย
3.อันนี้ ผมไม่เข้าใจว่าสามีคุณเกี่ยวข้องกับ ทรัพย์สินที่มีว่า ได้มาอย่างไร หรือของบริษัทกันแน่
4.ลูกของคุณอาจจะได้ผมกระทบทางจิตใจไม่มากก็น้อยอยู่กับตัวเด็ก ก็คืออาจจะไม่ได้เจอพ่อ หรืออาจรู้ความจริงว่าพ่อมีแม่คนใหม่ ส่วนเด็กของชู้ไม่ต้องพูดถึงครับ ห่วงลูกตัวเองดีกว่า
5.กำหนดตายตัวไม่ได้ครับว่าต้องขึ้นกี่ครั้ง ถ้าฟ้องแล้ว คุณก็ต้องไปศาล กับชู้ กรณี ฟ้องชู้นะ หากฟ้องหย่าสามีคุณเอง สามีคุณต้องไป
นอกจากนนี้ อาจจะมีคนอื่นด้วยที่ต้องมาขึ้นศาลเพื่อเบิกความต่อศาลในฐานะ พยานนะครับ
6.ค่าทนาย ค่าธรรมเนียมศาล ว่าความในต่างจังหวัด ถ้าฐานะไม่ค่อยมีก็ถือว่าแพงนะ แต่ทั่วไปก็ประมาณนี้ คุณต้องถามทนายด้วยว่า 20,000 นี้ทนายทำอะไรให้บ้าง มันมีหลายขั้นตอนนะครับ ต้องตกลงกับทนายให้ดีนะครับ อาจจะมากกว่า 20,000+
7.ก็ต้องใช้อำนาจศาลในการบังคับคดีนะครับ ดังนั้นเอกสารอะไรก็ตามแต่ที่คุณจะต้องเซ็น กรุณาอ่านให้เข้าใจช้าๆ ไม่ต้องรีบนะครับ ถึงค่อยเซ็น เพราะมันจะมีข้อกำนหด ตกลง เงื่อนไขต่างๆ นาๆ หากเราเซ็นไปแล้ว แล้วเค้าผิดเบี้ยวขึ้นมา แต่คุณเซ็นชื่อยินยอมไป คุณจบเลยนะ
8.ทรัพย์สินที่สามีคุณโอนเป็นชื่อของฝ่ายหญิง เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ หรือผู้ครอบครอง เพื่เลี่ยงอย่างที่คุณว่า ผมไม่เข้าใจนะว่า ทรัพย์สินมันเกี่ยวข้องยังไงกับบริษัท ทนายรู้ครับว่าทำอย่างไร
หากเป็นทรัพย์สินของสามีคุณแต่ผู้เดียวแล้วโอนมาเป็นของฝ่ายหญิง สามารถฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนกรรมสิทธื์กลับมาเป็นชื่อของสามีแล้วทำการแบ่งขายทอดตลาด หรือแบ่งเป็นสินสมรส มาเป็นชื่อคุณ หรือตามตกลงที่แบ่งสินสมรส กรณีคุณฟ้องหย่ากับสามีครับ
2.ฟ้องแล้วใช้ระยะเวลาพอสมควร เป็นหลายเดือน หรืออาจเป็นปี ครับ จากที่คุณเล่ามา สามารถฟ้องได้ครับเพราะคุณเป็นคู่สมรสถูกต้องตามกฎหมาย
3.อันนี้ ผมไม่เข้าใจว่าสามีคุณเกี่ยวข้องกับ ทรัพย์สินที่มีว่า ได้มาอย่างไร หรือของบริษัทกันแน่
4.ลูกของคุณอาจจะได้ผมกระทบทางจิตใจไม่มากก็น้อยอยู่กับตัวเด็ก ก็คืออาจจะไม่ได้เจอพ่อ หรืออาจรู้ความจริงว่าพ่อมีแม่คนใหม่ ส่วนเด็กของชู้ไม่ต้องพูดถึงครับ ห่วงลูกตัวเองดีกว่า
5.กำหนดตายตัวไม่ได้ครับว่าต้องขึ้นกี่ครั้ง ถ้าฟ้องแล้ว คุณก็ต้องไปศาล กับชู้ กรณี ฟ้องชู้นะ หากฟ้องหย่าสามีคุณเอง สามีคุณต้องไป
นอกจากนนี้ อาจจะมีคนอื่นด้วยที่ต้องมาขึ้นศาลเพื่อเบิกความต่อศาลในฐานะ พยานนะครับ
6.ค่าทนาย ค่าธรรมเนียมศาล ว่าความในต่างจังหวัด ถ้าฐานะไม่ค่อยมีก็ถือว่าแพงนะ แต่ทั่วไปก็ประมาณนี้ คุณต้องถามทนายด้วยว่า 20,000 นี้ทนายทำอะไรให้บ้าง มันมีหลายขั้นตอนนะครับ ต้องตกลงกับทนายให้ดีนะครับ อาจจะมากกว่า 20,000+
7.ก็ต้องใช้อำนาจศาลในการบังคับคดีนะครับ ดังนั้นเอกสารอะไรก็ตามแต่ที่คุณจะต้องเซ็น กรุณาอ่านให้เข้าใจช้าๆ ไม่ต้องรีบนะครับ ถึงค่อยเซ็น เพราะมันจะมีข้อกำนหด ตกลง เงื่อนไขต่างๆ นาๆ หากเราเซ็นไปแล้ว แล้วเค้าผิดเบี้ยวขึ้นมา แต่คุณเซ็นชื่อยินยอมไป คุณจบเลยนะ
8.ทรัพย์สินที่สามีคุณโอนเป็นชื่อของฝ่ายหญิง เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ หรือผู้ครอบครอง เพื่เลี่ยงอย่างที่คุณว่า ผมไม่เข้าใจนะว่า ทรัพย์สินมันเกี่ยวข้องยังไงกับบริษัท ทนายรู้ครับว่าทำอย่างไร
หากเป็นทรัพย์สินของสามีคุณแต่ผู้เดียวแล้วโอนมาเป็นของฝ่ายหญิง สามารถฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนกรรมสิทธื์กลับมาเป็นชื่อของสามีแล้วทำการแบ่งขายทอดตลาด หรือแบ่งเป็นสินสมรส มาเป็นชื่อคุณ หรือตามตกลงที่แบ่งสินสมรส กรณีคุณฟ้องหย่ากับสามีครับ
แสดงความคิดเห็น
การฟ้องชู้ของสามี?