สืบเนื่องจากภรรยาผมได้คบชู้กับเพื่อนรุ่นน้องที่ผมสนิทมา 10 กว่าปี ซึ่ง ผช เองก็มีลูกเมียแล้ว โดนทั้ง 2 คนคบชู้กันมา 4 ปี และฝ่ายชายพึงเลิกกับภรรยามาได้ครึ่งปี
หลังจากทราบเรื่องเมื่อกลางปี ผมได้ทำการสืบจนได้หลักฐานเพียงพอและดำเนินการฟ้องร้องชู้
ระหว่างฟ้องผมไม่ได้บอกใคร เพราะใจจริงก็ยังไม่อยากฟ้องภรรยา เนื่องจากหากฟ้องภรรยา ลูกผมต้องไปให้การที่สถานพินิจ ผมสงสารลูก จึงรอดูว่าหลังได้รับหมายภรรยา ผมจะเข้ามาสารภาพและเจรจาต่อรองไหม เพื่อที่จะได้จบลงโดยไม่ต้องฟ้อง
ปรากฎว่า หลังได้รับหมาย ภรรยาผมยังคงใช้ชีวิตปกติ โกหกที่บ้านไปนอนกะชู้ ไปเที่ยวกับชู้ และพาลูกผมไปเล่นกับชู้เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จน 3 วันก่อนขึ้นศาล ทนายของภรรยาและชู้จึงโทรหาทนายผม และยอมรับว่าไปไหนมาไหนด้วยกันจริงแต่ไม่ได้เป็นชู้กัน ในวันขึ้นศาลนัดแรก ชู้ไม่มาขึ้นศาลและส่งเสมียนทนายมาให้การว่าไม่ได้คบชู้ แต่สนิทสนมกันเพราะเป็นหุ้นส่วน อีกทั้งไม่เคยทราบว่าภรรยาผมมีสามีแล้ว และไม่เคยเจอผมมาก่อน
ศาลจึงให้นัดไกล่เกลี่ย แต่ผมปฏิเสธ เพราะมันคบหากินเหล้ากับผมมาสิบกว่าปี เข้าออกบ้านผมยังกะบ้านตัวเอง มันยังกล้าให้การแบบนี้ ผมก็ไม่รุ้จะคุยอะไรกับมันแล้ว มันกับภรรยาผมทำเหมือนว่าโยนเศษเงินให้ผมแล้วจะรีบจบปิดเรื่องที่มันคบชู้กัน ให้เสมือนไม่เคยเกิดขึ้น เพื่อไปอยุ่กันอย่างชอบธรรม
ปรากฎว่าศาลยืนยันว่าผมต้องลงนามยอมไกล่เกลี่ย ไม่งั้นศาลก็พิจารณาให้ต่อไม่ได้ ทำให้ผมต้องยอมลงนามไกล่เกลี่ย
ผลก็คือผมต้องรอไกล่เกลี่ยอีก 2 เดือน และรออีก 5 เดือน จึงจะเริ่มการไต่สวนนัดแรก
ซึ่งผมนึกไม่ออกจริงๆว่าผมจะไกล่เกลี่ยกับมันไปทำไม ในเมื่อมันชัดเจนว่ามันไม่ยอมรับ และผมก็ชัดเจนว่าผมไม่ยอมไกล่เกลี่ยเหมือนกัน ถ้ามันไม่รับผิด
ตอนนี้ผมเหนื่อยใจจริงๆครับ ผมจับมันได้แต่กลางปี หลักฐานครบถ้วน แต่สุดท้ายนี่ผมต้องยื้อกับมันไปจนถึงปีหน้าเลยเหรอ? แล้วจบคดีมันเสร็จผมยังต้องมาจัดการภรรยาผมต่ออีก กว่าจะจบเรื่อง มันต้องใช้เวลานานแค่ไหน?
ผมจะบอกพ่อตา แม่ยาย บอกลูก บอกแม่ผม ผมก็สงสารพวกเขา บอกไปเรื่องก็ยังไม่จบ ไม่รุ้ว่าบ้านจะเป็นของใคร ลูกผมจะไปอยุ่ที่ไหน ก็ได้แต่เงียบรอเวลา ใช้ชีวิต อยุ่บ้านเดียวกับภรรยา ผมต่อไปตามปกติ อย่างน้อยก็ยังได้ต่อเวลาที่สงบสุขให้พวกเขา
แต่บอกตามตรง ผมรังเกียจและขยะแขยงภรรยาผมมาก จากพฤติกรรมที่เขาทำ ล่าสุดก็ทราบมาว่า ไปโกหกบ้าน ผช. ว่าหย่ากับผมนานแล้วเพื่อคบกับ ชู้ อย่างเปิดเผย แต่ยังปิดที่บ้านตัวเองอยุ่
รวมทั้งพยายามจะชวนลูกผมและลูกของชายชู้ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันกับภรรยาผมและชายชู้ แต่ไม่ได้ผล เนื่องจากลูกของชายชู้ทราบเรื่องที่ภรรยาผมเป็นเมียน้อยของพ่อเขาแล้ว และรังเกียจภรรยาผมมาก ซึ่งอันนี้ผมทราบมาจากภรรยาเก่าของชายชู้ ซึ่งก็ทราบเรื่องทั้งหมดแล้วแต่ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้จดทะเบียน
แต่ผมก็คงจะยังโชคดีกว่าภรรยาของชายชู้อยุ่มาก เพราะอันนั้นเขาโดนชายชู้หลอกให้กู้เงินล้านกว่าบาท ก่อนที่ชายชู้จะเอาเงินไปเปย์ เมียน้อยคนที่ 2 และ 3 ต่อจนตอนนี้ชายชู้หมดตัวแล้วทิ้งหนี้ไว้ให้ภรรยาเก่ารับผิดชอบ ส่วนภรรยาผมที่เป็นเมียน้อยคนที่ 1 ชายชู้ไม่ต้องเปย์ เพราะเมียผมทำงานหาเลี้ยง เอาเงินให้ใช้ เอารถให้ขับ
ยิ่งสืบมากยิ่งรุ้มาก ผมยิ่งคลื้นไส้ ขยะแขยง แต่เรื่องมันก็ไม่จบสักที
สุดท้ายผมยังไม่รุ้เลยว่า ผมจะได้ลูกมาอยุ่ด้วยไหม เพราะถึงภรรยาผมจะเลวขนาดมีชู้ เป็นเมียน้อย เสพยา ติดการพนัน โกหกหลอกลวง คนรอบตัวสารพัด แต่ภรรยาผมมีเงิน และที่สำคัญคือเป็นผู้หญิง เขาได้เปรียบผมมากในส่วนของสิทการดูแลลูก แม้ว่าผมจะชนะคดีฟ้องชู้ก็ตาม
ทั้งหมดคือบ่นล้วนๆครับ ผมเหนื่อยใจจริงๆ ก็ได้แต่ทำตามขั้นตอนต่อไป
การฟ้องชู้มันเหนื่อยมากเลยครับ เหนื่อยจนอดสังสัยไม่ได้ว่าเราเป็นผู้ถูกกระทำไม่ใช่เหรอ?
หลังจากทราบเรื่องเมื่อกลางปี ผมได้ทำการสืบจนได้หลักฐานเพียงพอและดำเนินการฟ้องร้องชู้
ระหว่างฟ้องผมไม่ได้บอกใคร เพราะใจจริงก็ยังไม่อยากฟ้องภรรยา เนื่องจากหากฟ้องภรรยา ลูกผมต้องไปให้การที่สถานพินิจ ผมสงสารลูก จึงรอดูว่าหลังได้รับหมายภรรยา ผมจะเข้ามาสารภาพและเจรจาต่อรองไหม เพื่อที่จะได้จบลงโดยไม่ต้องฟ้อง
ปรากฎว่า หลังได้รับหมาย ภรรยาผมยังคงใช้ชีวิตปกติ โกหกที่บ้านไปนอนกะชู้ ไปเที่ยวกับชู้ และพาลูกผมไปเล่นกับชู้เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จน 3 วันก่อนขึ้นศาล ทนายของภรรยาและชู้จึงโทรหาทนายผม และยอมรับว่าไปไหนมาไหนด้วยกันจริงแต่ไม่ได้เป็นชู้กัน ในวันขึ้นศาลนัดแรก ชู้ไม่มาขึ้นศาลและส่งเสมียนทนายมาให้การว่าไม่ได้คบชู้ แต่สนิทสนมกันเพราะเป็นหุ้นส่วน อีกทั้งไม่เคยทราบว่าภรรยาผมมีสามีแล้ว และไม่เคยเจอผมมาก่อน
ศาลจึงให้นัดไกล่เกลี่ย แต่ผมปฏิเสธ เพราะมันคบหากินเหล้ากับผมมาสิบกว่าปี เข้าออกบ้านผมยังกะบ้านตัวเอง มันยังกล้าให้การแบบนี้ ผมก็ไม่รุ้จะคุยอะไรกับมันแล้ว มันกับภรรยาผมทำเหมือนว่าโยนเศษเงินให้ผมแล้วจะรีบจบปิดเรื่องที่มันคบชู้กัน ให้เสมือนไม่เคยเกิดขึ้น เพื่อไปอยุ่กันอย่างชอบธรรม
ปรากฎว่าศาลยืนยันว่าผมต้องลงนามยอมไกล่เกลี่ย ไม่งั้นศาลก็พิจารณาให้ต่อไม่ได้ ทำให้ผมต้องยอมลงนามไกล่เกลี่ย
ผลก็คือผมต้องรอไกล่เกลี่ยอีก 2 เดือน และรออีก 5 เดือน จึงจะเริ่มการไต่สวนนัดแรก
ซึ่งผมนึกไม่ออกจริงๆว่าผมจะไกล่เกลี่ยกับมันไปทำไม ในเมื่อมันชัดเจนว่ามันไม่ยอมรับ และผมก็ชัดเจนว่าผมไม่ยอมไกล่เกลี่ยเหมือนกัน ถ้ามันไม่รับผิด
ตอนนี้ผมเหนื่อยใจจริงๆครับ ผมจับมันได้แต่กลางปี หลักฐานครบถ้วน แต่สุดท้ายนี่ผมต้องยื้อกับมันไปจนถึงปีหน้าเลยเหรอ? แล้วจบคดีมันเสร็จผมยังต้องมาจัดการภรรยาผมต่ออีก กว่าจะจบเรื่อง มันต้องใช้เวลานานแค่ไหน?
ผมจะบอกพ่อตา แม่ยาย บอกลูก บอกแม่ผม ผมก็สงสารพวกเขา บอกไปเรื่องก็ยังไม่จบ ไม่รุ้ว่าบ้านจะเป็นของใคร ลูกผมจะไปอยุ่ที่ไหน ก็ได้แต่เงียบรอเวลา ใช้ชีวิต อยุ่บ้านเดียวกับภรรยา ผมต่อไปตามปกติ อย่างน้อยก็ยังได้ต่อเวลาที่สงบสุขให้พวกเขา
แต่บอกตามตรง ผมรังเกียจและขยะแขยงภรรยาผมมาก จากพฤติกรรมที่เขาทำ ล่าสุดก็ทราบมาว่า ไปโกหกบ้าน ผช. ว่าหย่ากับผมนานแล้วเพื่อคบกับ ชู้ อย่างเปิดเผย แต่ยังปิดที่บ้านตัวเองอยุ่
รวมทั้งพยายามจะชวนลูกผมและลูกของชายชู้ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันกับภรรยาผมและชายชู้ แต่ไม่ได้ผล เนื่องจากลูกของชายชู้ทราบเรื่องที่ภรรยาผมเป็นเมียน้อยของพ่อเขาแล้ว และรังเกียจภรรยาผมมาก ซึ่งอันนี้ผมทราบมาจากภรรยาเก่าของชายชู้ ซึ่งก็ทราบเรื่องทั้งหมดแล้วแต่ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้จดทะเบียน
แต่ผมก็คงจะยังโชคดีกว่าภรรยาของชายชู้อยุ่มาก เพราะอันนั้นเขาโดนชายชู้หลอกให้กู้เงินล้านกว่าบาท ก่อนที่ชายชู้จะเอาเงินไปเปย์ เมียน้อยคนที่ 2 และ 3 ต่อจนตอนนี้ชายชู้หมดตัวแล้วทิ้งหนี้ไว้ให้ภรรยาเก่ารับผิดชอบ ส่วนภรรยาผมที่เป็นเมียน้อยคนที่ 1 ชายชู้ไม่ต้องเปย์ เพราะเมียผมทำงานหาเลี้ยง เอาเงินให้ใช้ เอารถให้ขับ
ยิ่งสืบมากยิ่งรุ้มาก ผมยิ่งคลื้นไส้ ขยะแขยง แต่เรื่องมันก็ไม่จบสักที
สุดท้ายผมยังไม่รุ้เลยว่า ผมจะได้ลูกมาอยุ่ด้วยไหม เพราะถึงภรรยาผมจะเลวขนาดมีชู้ เป็นเมียน้อย เสพยา ติดการพนัน โกหกหลอกลวง คนรอบตัวสารพัด แต่ภรรยาผมมีเงิน และที่สำคัญคือเป็นผู้หญิง เขาได้เปรียบผมมากในส่วนของสิทการดูแลลูก แม้ว่าผมจะชนะคดีฟ้องชู้ก็ตาม
ทั้งหมดคือบ่นล้วนๆครับ ผมเหนื่อยใจจริงๆ ก็ได้แต่ทำตามขั้นตอนต่อไป