ได้เห็น ข้อเขียนนี้ “ควรจัดบ้าน” ก่อนเจ็บหนัก หรือ ก่อนตาย ในห้อง Line น่าสนใจดีครับ เลยนำมาฝาก
Cr. ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ จากหนังสือชื่อThe Gentle Art of Swedish Death Cleaning (2018) เขียนโดย Margareta Magnusson
..............................................................................................
~ สถานการณ์ที่คนส่วนใหญ่ประสบก็คือ “ของล้นบ้าน” “ไม่รู้ว่า…ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับของที่สะสมไว้” “เบื่อหน่ายกับของที่มีอยู่เต็มไปหมด”
“ไม่กล้าย้ายบ้าน…เพราะกลัวต้องขนย้ายของ ที่มี” ฯลฯ ที่เลวร้ายสุด…หากคำนึงถึงของที่เก็บสะสมไว้ยาวนาน…ก็คือ…หากตายไปแล้ว…ของเหล่านี้…จะไปอยู่ที่ไหน …และจะทำอะไรกับมันดี…ก่อนที่จะถึงวันนั้น …มีหนังสือดังเล่มหนึ่ง…ที่ให้คำแนะนำที่น่าสนใจ
~ ทุกคน…ที่เป็นผู้สูงวัย…ล้วนมีสิ่งของที่รักและหวงแหน… ไม่ว่าจะเป็นของธรรมดา……เครื่องแก้ว …พระเครื่อง…ปืน…แสตมป์…นาฬิกา…แหวน…ตุ้มหู…กำไล…หนังสือ …อัลบั้มรูปภาพครอบครัว …มีด…ปากกา …ไฟเช็ค ฯลฯ ที่เก็บเอาไว้…หรือสะสม…มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก…หรือ…ตอนเป็นหนุ่มสาว
~ ความจริงที่โหดร้าย…ก็คือ …เมื่อท่านจากโลกนี้ไปแล้ว …ไม่มีอะไร…จะประกันได้ว่า…คนอื่นเขาจะรักใคร่ใยดี …ทะนุถนอม …และเห็นคุณค่า…ของสิ่งของเหล่านี้เหมือนตัวท่าน …เพราะเขาไม่ใช่ท่าน…และย่อมมีรสนิยมที่แตกต่างไป
~ รูปภาพบางรูป…เช่น…รูปที่ถ่ายกับพ่อ/แม่…ที่ท่านรักดังดวงใจ …อาจถูกโยนทิ้งลงถังขยะไปก็ได้…เพราะคนอื่น…เขาไม่เห็นว่ามีความหมาย …
~ หนังสือชื่อThe Gentle Art of Swedish Death Cleaning (2018) เขียนโดย Margareta Magnusson พยายามให้คำตอบ…แก่สถานการณ์ดังกล่าว…เพื่อความสุขของท่านและลูกหลาน …โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…เพื่อปิดบังสิ่งที่ท่านไม่ต้องการให้ลูกหลานรู้…หรืออาจทำให้ลูกหลานหมางใจกัน…หรือ…อาจทำให้เกิดความรู้สึกดูแคลนท่าน
~ เกือบทุกคน…ล้วนมีของติดตัวมาตั้งแต่เด็ก…ตั้งแต่เป็นหนุ่มสาว …ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า…เอกสาร…หนังสือ …เฟอร์นิเจอร์ …ถ้วยโถโอชาม… อัลบั้มรูปภาพ …ของสะสมเก่าใหม่…เก็บซ่อนสะสมในกล่อง…ในตู้…ในเซฟ…หรือ…กองไว้ที่ไหนสักแห่งในบ้าน …แค่คิดจะรื้อโยนทิ้งไปบ้าง…เพราะรกบ้าน…ก็อ่อนใจแล้ว …
~ ลองคิดดู…ถ้าท่านจากไป…ลูกหลานจะเหนื่อยเป็นภาระแค่ไหน…กับการที่ต้องรื้อสิ่งของเหล่านี้ …ต้องเสียเวลา…และแรงงาน…คัดเลือกของ…หรือไม่ก็โยนทิ้งไปเสียทั้งหมด
~ Magnusson นักเขียนมีชื่อของสวีเดนบอกว่า …ตนเอง…มีอายุอยู่ 80 แล้ว อยู่มาทั่วโลก …ย้ายบ้าน 17 หน…เธอมีลูก 5 คน …เมื่อสามีจากไป…เมื่อแต่งงานกันได้ 48 ปี …ก็ต้องย้ายจากบ้าน…มาอยู่อพาร์ทเม้นท์ …เหตุการณ์นี้ทำให้เธอนึกถึง…คำว่า “death cleaning” หมายถึง…กระบวนการจัดบ้านให้เรียบร้อย…เมื่อตระหนักว่า…ตนเองเป็น“ไม้ใกล้ฝั่ง” เธอให้คำแนะนำพอสรุปได้ดังนี้
(1) การจะสามารถเริ่ม “จัดบ้าน” ให้เรียบร้อยก่อนตายได้นั้น …ต้องยอมรับเสียก่อนว่า …ความตาย…เป็นเรื่องปกติ(มรณานุสติ) ที่เกิดขึ้นกับทุกคน…โดยผู้สูงวัยทุกคน…อยู่ในวัยที่มีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้น …อีกทั้ง…ไม่ต้องการให้ความตายของตนเองเป็นภาระแก่ผู้อื่น
(2) วัยที่ควรเริ่ม “จัดบ้าน” คือ 65 ปี…ซึ่งเป็นวัยที่ยังแข็งแรง…พอที่จะยังจัดการได้ …หรือ ในอายุเท่าไรก็ตาม…ถ้าท่านเป็นผู้สูงวัย…บ่อยครั้งที่แรงบันดาลใจ คือ …การจากไปของคนที่รัก…กำลังจะเลิก…หรือหย่ากับคู่ชีวิต …จะอยู่บ้านที่มีขนาดเล็กลง…หรือ…เตรียมตัวไปอยู่บ้านคนชรา
(3) death cleaning มิได้หมายถึง…การจัดให้เป็นระเบียบเท่านั้น …หากหมายถึง …พิจารณาสิ่งของที่มีทั้งหมดอย่างละเอียด ว่า…อะไรจะทิ้ง …อะไรจะมอบให้ใคร …อะไรจะขาย …และอะไรที่พอจะเก็บไว้…เพื่อการมีชีวิตอยู่จนถึงบั้นปลาย
(4) เริ่มต้น “จัดบ้าน” …โดยมุ่งไปที่ของใหญ่…ที่เก็บไว้โดยไม่ใช้ก่อน…เช่น ตู้เสื้อผ้า …เฟอร์นิเจอร์ …ตู้พลาสติค 4 ลิ้นชัก…อุปกรณ์กีฬา…ที่ไม่ใช้แล้วฯลฯ
~โดยมอบให้คนที่ต้องการไม่ว่า…จะเป็นลูกหลาน…หรือ…คนชอบพอกัน …อย่าเริ่มที่สิ่งเล็กๆ เช่น จดหมายเก่า …รูปเก่า …ภาพเก่า ฯลฯ…เพราะจะเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลานาน …การอ่าน…และการเลือกทิ้งของเหล่านี้…จะทำให้นึกถึงความหลัง …เกิดความรู้สึกเก่าๆ …ซึ่งมีทั้งอารมณ์ขัน …อารมณ์เศร้า …อารมณ์รักอาวรณ์…จนเหนื่อยอ่อนใจเสียก่อน…ที่จะ“จัดบ้าน”ได้สำเร็จ
(5) เมื่อจัดการของชิ้นใหญ่ได้…โดยต้องตัดใจ…ในเรื่องความผูกพันทางใจ…กับสิ่งของเหล่านี้ที่มีมาแต่อดีต …จงคิดเสียว่า…เมื่อตายไป…ก็ไม่พานพบมันอีก…และไม่รู้ชะตากรรมของมัน …จัดการกับมันตอนนี้…ยังกำหนดได้ว่า…ให้ใครเป็นเจ้าของ
(6) สิ่งสำคัญมาก…คือ…จงทำลายจดหมาย…บันทึกเอกสาร …สิ่งพิมพ์ …รูปถ่าย …ข้อเขียน…หรือสิ่งของ…ที่เป็นสิ่งที่เปิดเผยความลับส่วนตัว…เพราะอาจทำให้ตนเองดูไม่ดี …ดูไม่อยู่ในทำนองครองธรรม…ในสายตาของลูกหลาน…โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…จะสร้างความรู้สึกลบ…เกี่ยวกับตนเองโดยไม่จำเป็น
(7) รูปภาพทั้งหมด…แปรให้อยู่ในไฟล์ดิจิทัล…เพื่อความคงอยู่ต่อไป…หากลูกหลานสนใจ …หากเก็บไว้เป็นภาพอย่างเก่า…อาจผุพัง…และถูกโยนทิ้ง…เพราะไม่เห็นความสำคัญ
(8) คุยกับลูกหลานในเรื่องความตายอย่างเปิดเผยว่า …จะให้สิ่งใดแก่ใคร…เมื่อตายไปแล้ว …พร้อมสนับสนุน…ด้วยเอกสารแสดงเจตจำนง…เพื่อไม่ให้ลูกหลานทะเลาะกัน…และอิจฉาริษยากัน …ต้องใส่ใจประเด็นนี้…เพราะ…ไม่สมควรให้การตายของตน…เป็นสิ่งบั่นทอนความรักสามัคคี…ของลูกหลานต่อไปในภายภาคหน้า
~ Magnusson บอกว่า…ลูกหลานอยากได้ของดีๆ บางชิ้น…ที่ได้เลือกสรรมาแล้วแต่…ไม่ต้องการของทั้งหมด …เพราะในสายตาของเขานั้น…ส่วนหนึ่งเป็นขยะ
~ สำหรับผู้เขียนขอบอกว่า …ถ้าคิดว่า…เมื่อเกิดมา…ก็ไม่ได้มีอะไรติดมือมาเลยเช่นเดียวกัน…ตอนจากไป…สิ่งของที่เราสะสมมานั้น…เป็นสมบัติชั่วคราว…ที่เกิดขึ้น…ในช่วงเวลาที่เราอยู่บนโลกนี้ …เราไม่ควรทำให้มันตกเป็นภาระของลูกหลาน…มันควรเป็นสิ่งสร้างสรรค์สำหรับลูกหลานในชั่วคนต่อไป
.....................................................................
“ควรจัดบ้าน” ก่อนเจ็บหนัก หรือ ก่อนตาย ข้อเขียนดีๆ ที่สะดุดใจ นำมาฝากครับ
ได้เห็น ข้อเขียนนี้ “ควรจัดบ้าน” ก่อนเจ็บหนัก หรือ ก่อนตาย ในห้อง Line น่าสนใจดีครับ เลยนำมาฝาก
Cr. ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ จากหนังสือชื่อThe Gentle Art of Swedish Death Cleaning (2018) เขียนโดย Margareta Magnusson
..............................................................................................
~ สถานการณ์ที่คนส่วนใหญ่ประสบก็คือ “ของล้นบ้าน” “ไม่รู้ว่า…ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับของที่สะสมไว้” “เบื่อหน่ายกับของที่มีอยู่เต็มไปหมด”
“ไม่กล้าย้ายบ้าน…เพราะกลัวต้องขนย้ายของ ที่มี” ฯลฯ ที่เลวร้ายสุด…หากคำนึงถึงของที่เก็บสะสมไว้ยาวนาน…ก็คือ…หากตายไปแล้ว…ของเหล่านี้…จะไปอยู่ที่ไหน …และจะทำอะไรกับมันดี…ก่อนที่จะถึงวันนั้น …มีหนังสือดังเล่มหนึ่ง…ที่ให้คำแนะนำที่น่าสนใจ
~ ทุกคน…ที่เป็นผู้สูงวัย…ล้วนมีสิ่งของที่รักและหวงแหน… ไม่ว่าจะเป็นของธรรมดา……เครื่องแก้ว …พระเครื่อง…ปืน…แสตมป์…นาฬิกา…แหวน…ตุ้มหู…กำไล…หนังสือ …อัลบั้มรูปภาพครอบครัว …มีด…ปากกา …ไฟเช็ค ฯลฯ ที่เก็บเอาไว้…หรือสะสม…มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก…หรือ…ตอนเป็นหนุ่มสาว
~ ความจริงที่โหดร้าย…ก็คือ …เมื่อท่านจากโลกนี้ไปแล้ว …ไม่มีอะไร…จะประกันได้ว่า…คนอื่นเขาจะรักใคร่ใยดี …ทะนุถนอม …และเห็นคุณค่า…ของสิ่งของเหล่านี้เหมือนตัวท่าน …เพราะเขาไม่ใช่ท่าน…และย่อมมีรสนิยมที่แตกต่างไป
~ รูปภาพบางรูป…เช่น…รูปที่ถ่ายกับพ่อ/แม่…ที่ท่านรักดังดวงใจ …อาจถูกโยนทิ้งลงถังขยะไปก็ได้…เพราะคนอื่น…เขาไม่เห็นว่ามีความหมาย …
~ หนังสือชื่อThe Gentle Art of Swedish Death Cleaning (2018) เขียนโดย Margareta Magnusson พยายามให้คำตอบ…แก่สถานการณ์ดังกล่าว…เพื่อความสุขของท่านและลูกหลาน …โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…เพื่อปิดบังสิ่งที่ท่านไม่ต้องการให้ลูกหลานรู้…หรืออาจทำให้ลูกหลานหมางใจกัน…หรือ…อาจทำให้เกิดความรู้สึกดูแคลนท่าน
~ เกือบทุกคน…ล้วนมีของติดตัวมาตั้งแต่เด็ก…ตั้งแต่เป็นหนุ่มสาว …ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า…เอกสาร…หนังสือ …เฟอร์นิเจอร์ …ถ้วยโถโอชาม… อัลบั้มรูปภาพ …ของสะสมเก่าใหม่…เก็บซ่อนสะสมในกล่อง…ในตู้…ในเซฟ…หรือ…กองไว้ที่ไหนสักแห่งในบ้าน …แค่คิดจะรื้อโยนทิ้งไปบ้าง…เพราะรกบ้าน…ก็อ่อนใจแล้ว …
~ ลองคิดดู…ถ้าท่านจากไป…ลูกหลานจะเหนื่อยเป็นภาระแค่ไหน…กับการที่ต้องรื้อสิ่งของเหล่านี้ …ต้องเสียเวลา…และแรงงาน…คัดเลือกของ…หรือไม่ก็โยนทิ้งไปเสียทั้งหมด
~ Magnusson นักเขียนมีชื่อของสวีเดนบอกว่า …ตนเอง…มีอายุอยู่ 80 แล้ว อยู่มาทั่วโลก …ย้ายบ้าน 17 หน…เธอมีลูก 5 คน …เมื่อสามีจากไป…เมื่อแต่งงานกันได้ 48 ปี …ก็ต้องย้ายจากบ้าน…มาอยู่อพาร์ทเม้นท์ …เหตุการณ์นี้ทำให้เธอนึกถึง…คำว่า “death cleaning” หมายถึง…กระบวนการจัดบ้านให้เรียบร้อย…เมื่อตระหนักว่า…ตนเองเป็น“ไม้ใกล้ฝั่ง” เธอให้คำแนะนำพอสรุปได้ดังนี้
(1) การจะสามารถเริ่ม “จัดบ้าน” ให้เรียบร้อยก่อนตายได้นั้น …ต้องยอมรับเสียก่อนว่า …ความตาย…เป็นเรื่องปกติ(มรณานุสติ) ที่เกิดขึ้นกับทุกคน…โดยผู้สูงวัยทุกคน…อยู่ในวัยที่มีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้น …อีกทั้ง…ไม่ต้องการให้ความตายของตนเองเป็นภาระแก่ผู้อื่น
(2) วัยที่ควรเริ่ม “จัดบ้าน” คือ 65 ปี…ซึ่งเป็นวัยที่ยังแข็งแรง…พอที่จะยังจัดการได้ …หรือ ในอายุเท่าไรก็ตาม…ถ้าท่านเป็นผู้สูงวัย…บ่อยครั้งที่แรงบันดาลใจ คือ …การจากไปของคนที่รัก…กำลังจะเลิก…หรือหย่ากับคู่ชีวิต …จะอยู่บ้านที่มีขนาดเล็กลง…หรือ…เตรียมตัวไปอยู่บ้านคนชรา
(3) death cleaning มิได้หมายถึง…การจัดให้เป็นระเบียบเท่านั้น …หากหมายถึง …พิจารณาสิ่งของที่มีทั้งหมดอย่างละเอียด ว่า…อะไรจะทิ้ง …อะไรจะมอบให้ใคร …อะไรจะขาย …และอะไรที่พอจะเก็บไว้…เพื่อการมีชีวิตอยู่จนถึงบั้นปลาย
(4) เริ่มต้น “จัดบ้าน” …โดยมุ่งไปที่ของใหญ่…ที่เก็บไว้โดยไม่ใช้ก่อน…เช่น ตู้เสื้อผ้า …เฟอร์นิเจอร์ …ตู้พลาสติค 4 ลิ้นชัก…อุปกรณ์กีฬา…ที่ไม่ใช้แล้วฯลฯ
~โดยมอบให้คนที่ต้องการไม่ว่า…จะเป็นลูกหลาน…หรือ…คนชอบพอกัน …อย่าเริ่มที่สิ่งเล็กๆ เช่น จดหมายเก่า …รูปเก่า …ภาพเก่า ฯลฯ…เพราะจะเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลานาน …การอ่าน…และการเลือกทิ้งของเหล่านี้…จะทำให้นึกถึงความหลัง …เกิดความรู้สึกเก่าๆ …ซึ่งมีทั้งอารมณ์ขัน …อารมณ์เศร้า …อารมณ์รักอาวรณ์…จนเหนื่อยอ่อนใจเสียก่อน…ที่จะ“จัดบ้าน”ได้สำเร็จ
(5) เมื่อจัดการของชิ้นใหญ่ได้…โดยต้องตัดใจ…ในเรื่องความผูกพันทางใจ…กับสิ่งของเหล่านี้ที่มีมาแต่อดีต …จงคิดเสียว่า…เมื่อตายไป…ก็ไม่พานพบมันอีก…และไม่รู้ชะตากรรมของมัน …จัดการกับมันตอนนี้…ยังกำหนดได้ว่า…ให้ใครเป็นเจ้าของ
(6) สิ่งสำคัญมาก…คือ…จงทำลายจดหมาย…บันทึกเอกสาร …สิ่งพิมพ์ …รูปถ่าย …ข้อเขียน…หรือสิ่งของ…ที่เป็นสิ่งที่เปิดเผยความลับส่วนตัว…เพราะอาจทำให้ตนเองดูไม่ดี …ดูไม่อยู่ในทำนองครองธรรม…ในสายตาของลูกหลาน…โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…จะสร้างความรู้สึกลบ…เกี่ยวกับตนเองโดยไม่จำเป็น
(7) รูปภาพทั้งหมด…แปรให้อยู่ในไฟล์ดิจิทัล…เพื่อความคงอยู่ต่อไป…หากลูกหลานสนใจ …หากเก็บไว้เป็นภาพอย่างเก่า…อาจผุพัง…และถูกโยนทิ้ง…เพราะไม่เห็นความสำคัญ
(8) คุยกับลูกหลานในเรื่องความตายอย่างเปิดเผยว่า …จะให้สิ่งใดแก่ใคร…เมื่อตายไปแล้ว …พร้อมสนับสนุน…ด้วยเอกสารแสดงเจตจำนง…เพื่อไม่ให้ลูกหลานทะเลาะกัน…และอิจฉาริษยากัน …ต้องใส่ใจประเด็นนี้…เพราะ…ไม่สมควรให้การตายของตน…เป็นสิ่งบั่นทอนความรักสามัคคี…ของลูกหลานต่อไปในภายภาคหน้า
~ Magnusson บอกว่า…ลูกหลานอยากได้ของดีๆ บางชิ้น…ที่ได้เลือกสรรมาแล้วแต่…ไม่ต้องการของทั้งหมด …เพราะในสายตาของเขานั้น…ส่วนหนึ่งเป็นขยะ
~ สำหรับผู้เขียนขอบอกว่า …ถ้าคิดว่า…เมื่อเกิดมา…ก็ไม่ได้มีอะไรติดมือมาเลยเช่นเดียวกัน…ตอนจากไป…สิ่งของที่เราสะสมมานั้น…เป็นสมบัติชั่วคราว…ที่เกิดขึ้น…ในช่วงเวลาที่เราอยู่บนโลกนี้ …เราไม่ควรทำให้มันตกเป็นภาระของลูกหลาน…มันควรเป็นสิ่งสร้างสรรค์สำหรับลูกหลานในชั่วคนต่อไป
.....................................................................