นี่คือเหตุผลว่าต้องปิดฉากสงครามไนท์คิงให้จบในตอนเดียว เพราะเรื่องวุ่นๆและความหฤโหดสะเทือนหัวใจยังมีอีกมาก  ความสุดของ GOT ไม่ใช่สงคราม แต่ทั้งในหนังสือและซีรีย์ มันคือการเชือดเฉือนทางความคิดและการพูดคมๆ

Ep.4 The last of Starks


"เลือดสตาร์คกลุ่มสุดท้าย"

เริ่มต้นด้วยการยกย่องวีรชนคนที่ตายแล้ว ก็ทำพิธีเผาตามแบบของชาวเหนือ 




ทางเดนี่ก็มาอาลัยกับจอร่า ชายที่รักเธอข้างเดียวและมาสละชีวิตปกป้อง  ส่วนซานซ่าก็มาอาลัยธีออน เกรจอย ที่ถือว่าเป็นพี่น้องในครอบครัวสตาร์ค และเธอก็มอบเข็มสตาร์คให้ที่ศพ ทางด้านอาร์ยาก็มาอาลัยเบริค ที่ปกป้องเธอ เป็นหน้าที่สุดท้ายที่เทพแห่งแสงมอบบทบาทให้

ฉากต่อมา เมื่อมีการชนะสงครามก็ต้องมีงานเลี้ยง 
เดนี่ได้ประกาศยกย่องอาร์ยา สตาร์ค ว่าเป็นฮีโร่ เพื่อเอาใจชาวเหนือ ซึ่งผู้คนก็ไชโยให้อาร์ยากันใหญ่ แต่อาร์ยาไม่ชอบอยู่ในงานหรอกนะ เกรนดี้จะเดินไปหาอาร์ยาข้างนอก  


เดนี่เองที่ได้รู้แล้วว่า เกรนดี้เป็นลูกโรเบิร์ต บาราเทียน จึงแต่งตั้งให้เป็น ลอร์ด เกรนดี้ นามสกุลบาราเทียน ไม่ใช่ลูกนอกสมรสอีกต่อไป และให้ปกครอง สตอร์มสเอ็นด์ ที่ตระกูลบาราเทียนปกครองมาตลอด ซึ่งคนที่ตื่นเต้นคนแรกเมื่อรู้ว่าเป็นลูกโรเบิร์ตคือ เซอร์ดาวอส และแสดงความยินดีไชโยเป็นคนแรก เนื่องจาก ดาวอสภักดีต่อ บาราเทียนและเป็นผู้ติดตาม สแตนนิส บาราเทียน


ผู้คนต่างยินดีกับเกร็นดี้ ขณะที่ทีเรียนก็รู้ว่านี่คือความฉลาดในการเป็นนักปกครองของเดนี่ เลยซุบซิบชมเดนี่ว่า แหม้อย่างนี้ก็จะมีชาวสตอร์มเอนด์ที่ภักดีต่อราชินีสินะ  เดนี่จึงบอกว่าไม่ใช่มีแค่ท่านที่ฉลาดรู้ทันนะตัวเอง (หันไปดูสิ มีคนที่ไม่พอใจราชินีอยู่ ทีเรียนก็กลุ้มใจเมื่อเห็นสีหน้าซานซ่า)


ตอน 4 นี้มีคนถูกหักอกในความรัก 3 คนครับ เริ่มจากเกรนดี้ ออกมาบอกอาร์ยาว่า เขาได้เป็นลอร์ดของสตอร์มส์เอ็นด์ เลยมาขออาร์ยาแต่งงาน คุกเข่าโรแมนติกมาก  และขอให้อาร์ยาเป็น เลดี้แห่งสตอร์มส์เอ็นด์
 อาร์ยาก็ซึ้งใจแสดงความรัก แต่เธอปฏิเสธแล้วเทซะอย่างงั้น  โดยเธอบอกว่า "ฉันไม่ใช่เลดี้"


ซึ่งคำว่าเลดี้มันมี 2 ความหมายในคำเดียว นั่นก็คือ กุลสตรี กับ ท่านหญิง แล้ววรรณกรรม หรือหนังฝรั่งเนี่ย ชอบเล่นคำพวกนี้ แต่พอแปลไทยมันดึงอรรถรสตรงนั้นมาไม่ได้  
เช่น  no one  ในเรื่องนี้หมายถึง ไม่มีตัวตน กับ หมายถึง องค์กรนักฆ่า

ส่วนที่อาร์ยาพูดว่า ฉันไม่ใช่เลดี้ และไม่เคยเป็นเลดี้ มันมีความหมายว่า ฉันไม่ใช่ท่านหญิง และมีความหมายว่า ฉันไม่ใช่กุลสตรี ฉันไม่เคยเป็นกุลสตรี  ตั้งแต่เด็กเธอไม่เคยชอบความสวยงามเย็บปักถักร้อย เธอชอบการต่อสู้มาตลอด  และตอนนี้เธอเป็นนักฆ่า ไม่อยากเป็นท่านหญิง

คนที่ 2 ที่ถูกหักอกคือทอร์มุนด์ ในขณะที่เซอร์บรีแอนเลิกจากงานเลี้ยง ทอร์มุนด์จะตามไป แต่เจมี่มาขวางและทำท่าว่าของข้าเอง  ทอร์มุนด์เลยบ่นว่าถูกแย่งหญิงเฉยเลย แต่ก็เลยแก้ขัดด้วยสาวๆชาวเหนือแทน

ทางด้านเจมี่ที่เข้าห้องบรีแอน ก็บอกว่า ฉันไม่เคยมีอะไรกับอัศวินมาก่อน (เป็นมุก เพราะอัศวินมีแต่ผู้ชาย) ส่วนบรีแอนก็บอก ฉันไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน จากนั้นก็ได้กัน

มีฉากที่เจมี่เล่าทีเรียนว่าได้กับบรีแอนผู้ปกป้องสตาร์คแล้ว จะว่าไง ทีเรียนบอกยินดีด้วยที่มีความสุข แล้วแซวว่าชอบปีนเขาไหมล่ะ  คือบรีแอนตัวสูงกว่า ขณะนั้นเอง บรอนท์ก็ลอบเข้ามา แล้วก็มาขู่ฆ่า โดยบอกว่า เซอร์ซี่ใช้มาฆ่าโดยจะให้ปกครองริเวอรันเป็นการตอบแทน (ริเวอรันเป็นตระกูลแม่ของซานซ่า ที่เจมี่รบชนะและยึดให้เซอร์ซี่) ที่พูดแบบนี้เพื่อต่อรอง เพราะทีเรียนเคยบอกว่า ใครจ้างแกมาฆ่า ฉันจะให้มากกว่า 2 เท่า บรอนท์เลยถามว่าอะไรคือ 2 เท่าของริเวอรัน ? ทีเรียนบอกจะให้ ไฮการ์เดนตอบแทน (ไฮการ์เดน เจมี่รบยึดให้เซอร์ซี่เมื่อซีซั่น 7) บรอนท์ก็ตกลง ถ้าทีเรียนชนะสงคราม ต้องมอบไฮการ์เดนให้


ทางด้านคู่ของจอนกับเดนี่ จอนถูกบีบให้เก็บความลับและยอมให้เธอเป็นราชินีเหมือนเดิม จอนก็โอเค ด้วยทั้งคู่รักกันจริงๆ แต่ดูเหมือนปมและอีโก้เดนี่จะแข็งมาก ทำให้มุมนึงเธอเป็นคนกระหายอำนาจ แต่อีกมุมคือเป็นคนมีคุณธรรม มีเมตตา ซึ่งเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ดี

เมื่อมีการประชุมที่จะบุกคิงส์แลนดิ้งต่อ ซานซ่าขัดความคิดกับเดนี่ แต่จอนก็สรุปว่า ต้องเชื่อราชินี คือบุกเมืองหลวงต่อทันที เอาทหารไปหมด

จบประชุม ทางอาร์ยาเลยขอคุย 4 พี่น้อง ตรงนี้เอง ที่มีคำพูดจากอาร์ยาว่า เราคือสตาร์คที่เหลืออยู่ นี่ก็คือชื่อตอน "The last of Starks"


ซึ่งตอนนี้เองที่จอนเผยความจริงว่าไม่ใช่สตาร์ค โดยยืนยันว่าเป็นครอบครัวเดียวกันและต้องสาบานว่าจะไม่บอกใคร ซึ่งจอนให้แบรนเป็นคนเล่า

แต่ปรากฏว่า ทีเรียนก็รู้เรื่องนี้ ยังไม่มีเฉลยว่ารู้จากซานซ่าหรือแบรน และยังมีวาริสที่รู้ ซึ่งวาริสปกติเป็นสปาย และมีลูกน้องสปายมากมาย ฉะนั้นความลับของทุกคนวาริสมักจะรู้หมด

ก็มีการคุยกันระหว่างทีเรียนกับวาริส ทีเรียนจงรักภักดีต่อเดนี่ ส่วนวาริสจุดยืนของเขาที่มีมาตลอดคือ รับใช้อาณาจักร ไม่ใช่ยึดบุคคลฝ่ายไหน เขาเคยตอบกับเน็ต สตาร์คในซีซั่นแรก  และจุดยืนวาริสคือจะหาคนที่เหมาะสุดปกครองแผ่นดิน ทีเรียนอยากให้เดนี่ หรือไม่ก็จับแต่งงานซะจะได้จบ วาริสบอกจอนก็ไม่แต่งแน่ เดนี่ก็ชอบปกครองเดี่ยว ฉะนั้นวาริสเลือกจอน


จอนคือลูกผสม ทาแกเรียน สตาร์ค ที่ไม่มีใครรู้ นอกจาก 8 คน  แต่ผู้คนชาวเหนือหนุนจอน ขณะที่ฝ่ายเดนี่มีเพียงทหารไร้มลทินไม่กี่หยิบมือ และมีทีเรียนที่ใจอ่อนแอ กับมิสซานเด

คนที่ถูกหักอกคนที่ 3 คือ เซอร์บรีแอน เพราะเมื่อเจมี่รู้ข่าวว่า กองทัพเดนี่ถูกโจมตี เจมี่รู้ว่าเดนี่จัดหนักแน่ จึงต้องการไปปกป้องเซอร์ซี่  โดยบรีแอนก็รั้งไม่อยู่ เจมี่บอกทำทุกอย่างเพื่อเซอร์ซี่  เผยว่าเขาได้ผลักเด็กตกจนพิการ  ฆ่าคน ถล่มริเวอรัน เพื่อเซอร์ซี่หมด 


ในตอน 4 นี้เราได้รู้ว่า โกสยังอยู่ แต่ทางหนังต้องการตัดบทออกไป เพราะงบซีจีไม่ไหวล่ะ มันไม่ใช่หมาพิทบูลของจอห์น วิค แต่นี่คือหมาไดร์วูล์ฟ ซีจีเต็มๆ เลยต้องย้ายมันให้ติดตามทอร์มุนด์ ไปอยู่กับคนเถื่อน ที่กลับไปอยู่ทางเหนืออย่างแท้จริง ไม่มีผีดิบแล้ว คนเถื่อนที่เหลืออยู่ก็แฮปปี้เอ็นดิ้งไป

แซมเวลกับเมียก็มาลา โดยมีลูกในท้อง โดยบอกว่า ถ้ามีลูกชายจะให้ชื่อจอน จอนก็ถ่อมตัวว่าขอให้ได้ลูกหญิงนะ (อย่าเป็นเหมือนตูเลยว่าง่ายๆ)  อีกทั้งเป็นการรำลึกว่า เธอจะชอบมีลูกสาว เพราะลูกชายครอบครัวเธอจะยกให้เป็นไวท์วอล์คเกอร์ ส่วนลูกสาวจะรอดตาย


ทางด้านจอน กับดาวอสขี่ม้าไปตามหาพลพรรคพันธมิตร ส่วนเดอะฮาวน์ก็ขึ้นเมืองหลวงเพื่อสะสางกับเมาเท่น โดยมีอาร์ยาตามมาด้วยเพราะมีเป้าหมายสังหารแถวๆนั้นเหมือนกัน 




แม่มังกรจับเล่นกับเรกัลมองลูกบินเล่นด้วยความเอ็นดู

ทีนี้ก็มาถึงการทิ้งท้ายด้วยการทำร้ายจิตใจ เมื่อกองทัพเดนี่บุกเข้าคิงส์แลนดิ้ง 



และแล้วหนังเรื่องนี้ไม่เคยสิ้นคนแบบจอฟฟรี มันต้องมีตลอด ในเวลานี้คือยูรอน เกรจอย แถมมีฝีมือการรบด้วย  ก็ได้ลอบโจมตีกองเรือของเดนี่จนกองทัพแตก และลอบยิงมังกรเรกัลขณะบินเล่น ตายไปตัวนึง  เดนี่โกรธจัดตั้งใจถล่มกองเรือ แต่ต้านธนูลูกใหญ่ไม่ไหว  โดรก้อนซึ่งมีทักษะหลบหลีกอาวุธ จึงหนีฝูงธนูออกมาได้  (แม้แต่ไนท์คิงเคยปาหอกฆ่ามังกรวิเซริสไปตัวนึง แต่ฆ่าโดรก้อนไม่ได้เพราะมีสกิลหลบหลีก)  ทำให้ฝ่ายแม่มังกรถูกตัดกำลังไปมาก






เรกัลตายร่วงทะเลไป ส่วนมิสซานเดถูกจับเป็นเชลย
กองทัพที่ร่อยหลอของนักรบไร้มลทิน มาถึงรั้วกำแพงคิงส์แลนดิ้ง  ฉากสุดยอดเมื่อมือขวามาเจรจาปะทะคารมณ์กับมือขวา  

ทีเรียนบอกไคล์เบิร์นว่า ราชินีสั่งให้เซอร์ซี่ยอมแพ้และปล่อยตัวมิสซานเด  ส่วนไคล์เบิร์นก็บอก ราชินีสั่งให้เดเนอริสยอมแพ้ จึงจะปล่อยตัวมิสซานเด 



ทีเรียนเป็นห่วงทั้งสองฝ่าย  เลยบอกให้เซอร์ซี่ทำเพื่อลูกในท้อง เซอร์ซี่สำนึกได้นิดเดียว แต่ก็ตัดสินใจ ให้มิสซานเดสั่งเสียก่อนตาย โดยมิสซานเดพูดกับราชินีของเธอว่า "ดราคาริส" (เผาซะ)




เดนี่เธอรักมิสซานเดมาก และเป็นคนติดตามที่เหลืออยู่ไม่กี่คน และแล้วก็ถูกเมาเท่นตัดคอ  หัวกับร่างหล่นลงมาคาตา




ทีเรียนกลุ้มใจในจุดจบแบบนี้มากคือ ไม่มีทางเลือก เดนี่เธอเผาล้างบางแน่นอน ขณะที่โกลเด้นคอมปานี เป็นหมื่นๆก็ต้องออกมาสู้กันแบบตายเละทั้งสองฝ่ายแน่


ใครว่า ผีดิบร้ายที่สุด ไม่ใช่ล่ะ บางทีผีดิบครองโลกยังจะดีซะกว่า คนนี่แหละร้ายที่สุด และเซอร์ซี่ที่บางคนมองว่าโง่ แต่วางแผนไว้หมดแล้ว  เมื่อซีซั่น 7 เธอถามว่าพวกผีดิบมีจำนวนเท่าไหร่ เดนี่บอกเป็นแสน แต่เธอรู้ว่า กองทัพเดนี่กับจอนชนะแน่ แล้วจะเหลือกำลังร่อยหลอมาบุกคิงส์แลนดิ้ง ที่เธอเตรียมรับมือไว้แล้ว


เดนี่ทั้งเสียใจทั้งแค้น ฉะนั้น ep. 5 คือสงครามล้างแค้นอย่างแน่นอน ใน IG เธอบอกว่าตอน 5 นี่คือพีคที่สุด ใหญ่ที่สุดของทีวีซีรีย์เลย