เวลาบอกใครๆว่าจะไปจีน ชอบมีคำถามตอบกลับมาว่า ไปทำไม? มีอะไร? จีนนี่นะ? ใช่จีนนี่แหละ!! ประเทศที่ใครๆก็นึกว่าความสกปรกของห้องน้ำ ล่ำลือกันมาก แต่หลายๆคนก็อาจจะมองข้ามไปว่า ประเทศนี้แหละมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆมากมายเลยเชียว
ทริปนี้เราไปตั้งแต่วันที่ 11-21 เมษายน 2019 ใช้เวลา 10 วันโดยรวม
Day 1 (11/04/2019) ✈️ Bangkok to Kunming
"ไม่มีอะไรมาก เดินทางล้วนๆ"
📌ออกจากกรุงเทพไฟลท์กลางคืน ไฟท์ DMK - KMG (21:40 - 01:00) ที่สนามบินดอนเมืองโดยสายการบินแอร์เอเชีย
เดินทางมาถึงตี 1 ที่สนามบินนานาชาติฉางสุ่ย ซึ่งเวลาที่จีนไวกว่าไทย 1 ชม. เราเลือกนอนที่สนามบินกันเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็เช้าแล้ว
Day 2 (12/04/2019) ✈️ Kunming to Lijiang
"เดินเที่ยวในเมืองเหมือนคนบ้าเดินลากกระเป๋าวนไป"
📌เที่ยวเมืองคุณหมิง จตุรัสม้าทอง (Jin Bi Square) , วัดหยวนทง (Yuantong Temple) บินต่อไปลี่เจียงไฟท์เย็น เข้าพักที่ Elegant Home Inn
เราตื่นกันแต่เช้ามืด ล้างหน้าล้างตา เอาจริงๆเลยคือนอนไม่หลับเลย ในสนามบินอากาศหนาวมาก เมื่อเราทำภารกิจเรียบร้อยแล้วเราก็เริ่มออกเดินทางเที่ยวในตัวเมืองคุณหมิงกันเลย อากาศเช้านี้อยากบอกว่า 10 องศานะจ๊ะ
กระเป๋าเดินทาง : ถ้าใครจะบินต่อไปลี่เจียงแนะนำให้ฝากกระเป๋าในสนามบินอยู่ชั้น 2 (ชั้นก่อนถึง F3 ที่เช็คอินกลับกรุงเทพฯบ้านเรา) แต่ถ้าใครจะเดินทางต่อด้วยรถไฟ ก็ตามมาค่ะ บอกก่อนว่าเราไม่ได้เดินทางด้วยรถไฟ แต่เราไม่รู้ว่ามีที่ฝากกระเป๋าที่สนามบินจึงลากกระเป๋าไปฝากกันที่สถานีรถไฟมาค่ะ 555
เราเลือกเดินทางเข้าเมืองคุณหมิงด้วย Subway Line 6 (昆明轨道交通6号线) แล้วไปต่อ Line 3 ราคา 5 หยวน
เลือกสถานีปลายทาง DONGFENG SQUARE
ได้บัตรแล้วเริ่มออกเดินทางกันเลย
ถ้าดูจาก Map แล้วเราต้องเลือกเปลี่ยนสถานีที่ Line 3 เพื่อไปลงยัง DONGFENG SQUARE
ดู map เต็ม
https://www.travelchinaguide.com/images/map/yunnan/kunming-subway.png
จากนั้นเราเดินมาเรื่อยๆตาม Google map มาที่จตุรัสม้าทอง ซึ่งแดดส่องร้อนนะ แต่อากาศก็เย็นมากเช่นกัน
หาข้าวเช้าทานกัน บริเวณนี้มีร้านอาหารหลายร้าน และออกเดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟ เพื่อฝากกระเป๋า โดยนั่งรถบัสสาย K12 ราคา 1 หยวน ตลอดสายไปลงที่สถานนีรถไฟ
ก่อนผ่านเข้าไปด้านในจะต้องผ่านด่าน Security ก่อน ตรวจความปลอดภัยค่อนข้างเข้มงวดเลยทีเดียว
เดินผ่านด่านตรวจเข้ามาจะเจอรูปปั้นวัวกระทิงนี้ ทีรับฝากกระเป๋าจะอยู่ซ้ายมือในภาพ
ถึงแล้วร้านรับฝากกระเป๋า เราฝากกระเป๋า 6 คน 88 หยวน 4 ชั่วโมง หารกันแล้วตกคนละ 70 บาทไทยก็ถือว่าไม่แพง
ออกเดินทางไปวัดทวนหยง ขึ้น Subway Line 1 ไปเปลี่ยน Subway Line 2 ที่สถานี South Ring Road และลงที่สถานี Chuanxingulou ออกทางออก A เดินข้ามสะพานแขวนข้ามแม่น้ำไปแล้วเดินตรงยาวๆจะเจอวัด แต่พวกเราหรอ ดันออกทางออก D เดินไกลไปอีก
ถึงแล้ววัดหยวนทง (Yuantong Temple) เสียค่าเข้าวัดคนละ 6 หยวน ประมาณ 29 บาทไทย
เดินลงไปกันเลย
วัดหยวนทง เป็นวัดที่ผสมผสานทั้งวัดไทย พม่า และธิเบต วัดแห่งนี้เป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเมืองคุนหมิง สร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังมีอายุยาวนานประมาณ 1,200 กว่าปี
เดินเที่ยวชมไหว้พระข้างในวัดเสร็จเราก็เดินทางกลับมายังสถานีรถไฟที่เราฝากกระเป๋าไว้ และเลือกเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติฉางสุ่ย โดยรถบัสราคา 25 หยวน( 119 บาท) ส่งถึงหน้าสนามบิน
ใช้เวลานั่งรถประมาณ 40 นาทีถึงสนามบิน
เราออกเดินทางต่อมายังสนามบินลี่เจียง ไฟท์ Kunming (KMG) 18:20 to Lijiang (LJG) 19:25 บินมาถึงสนามบินที่ลี่เจียงเวลาประมาณ ทุ่ม 15 นาที ซึ่งท้องฟ้าดูสว่างอยู่เลย
จากนั้นซื้อตั๋วรถบัสเพื่อเข้ามายังที่พักซึ่งอยู่แถวเมืองเก่าลี่เจียง ราคา 20 หยวน (95 บาทไทย)
เมื่อถึงสถานีปลายทางที่เราจะลง เราก็เหมารถต่อคนละ 5 หยวน (24 บาทไทย)ไปยังที่พัก --> จุดเริ่มต้นของการพบพ่อ
ที่พักเราคืนนี้ Elegant Home Inn
Day 3 (13/04/2019) Lijiang
"สวิตเซอร์แลนด์ดินแดนภูเขาหิมะแห่งเมืองจีน"
📌เหมารถเที่ยวภูขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ,น้ำตกไป่สุยเหอ (Blue Moon Valley) กลับเข้าพักที่เดิม Elegant Home Inn
พ่อคือใคร? ใครคือพ่อ? เราขอเรียกคนขับรถเราว่าพ่อ เนื่องจากอะไรติดตามอ่านไปเรื่อยๆนะค่ะ เมื่อวานตอนเราเหมารถพ่อมายังที่พัก เราก็ได้คุยเรื่อยกับพ่อ ซึ่งวิธีการคุยกันคือใช้ Google แปลภาษา คุยไปคุยมาเราก็ตกลงเหมารถเขาเที่ยวในวันนี้ด้วยราคา 300 หยวนหาร 6 (ตกคนละ 238 บาท)
เรานัดพ่อ 8 โมงเช้า เพื่อเดินทางไปยังภูขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) และน้ำตกไป่สุยเหอ (Blue Moon Valley)
ระหว่างทางเราแวะซื้อออกซิเจนกระป๋องกันก่อนที่ร้านนี้
จำเป็นไหมที่ต้องใช้ ออกซิเจนกระป๋อง? ออกซิเจนกระป๋องจำเป็นสำหรับการขึ้นพื้นที่สูง บางคนก็ไม่ใช้ แล้วแต่สภาพร่างกายแต่ละคน ซึ่งออกซิเจนจะช่วยเติมอากาศให้เข้าสู่ร่างกายในกรณีที่พื้นที่นั้นมีออกซิเจนน้อย เมื่อสูดเข้าไปแล้วจะรู้สึกสดชื่น หายใจสะดวก สำหรับที่ภูเขาหิมะมังกรหยก เราแทบไม่ได้ใช้งานเลย ถือว่าไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่พกติดไปก็ดีค่ะ ที่นี่ขายกระป๋องละ 60 หยวน (285 บาทไทย) ราคาถูกกว่าไปซื้อที่อุทยาน
ก่อนทางเข้าจะต้องซื้อตั๋วก่อน ซึ่งเราอยู่บนรถเลย จะมีพนักงานเดินมาขายตั๋ว วันที่เราไปคนค่อนข้างเยอะ รถต่อคิวเพื่อขับเข้าด้านใน ตั๋วค่าเข้าคนละ 100 หยวน (475 บาทไทย)
เรามาถึงด้านในประมาณ 9 โมงกว่า ซึ่งตั๋วขายหมดแล้วจ้า พ่อก็คุยภาษาจีนกับพนักงานขายตั๋วใหญ่เลย ฟังไม่รู้เรื่องหรอกแต่ดูแล้วพนักงานขายตั๋วหน้าเหวี่ยงมากจ้า พ่อก็เดินไปเดินมา คุยแล้วคุยอีกพนักงานขายตั๋วก็ไม่ยอม ซึ่งพ่อใช้เวลาคุยประมาณครึ่งชั่วโมงได้ สุดท้ายแล้วพ่อก็โทรไปหาใครไม่รู้ ใช้เส้นใช้สาย สีหน้าเคร่งเครียด ส่วนพวกเราหรอยังคงถ่ายรูปเล่นต่อไปไม่รู้ชะตากรรม
หลังจากนั้นพ่อก็ทำสำเร็จ พวกเราก็ไม่ค่อยเข้าใจพ่อเท่าไหร่เลย เลยไปคุยกับพนักงานที่ดูแลอีกฝั่งนึงซึ่งเขาคุยภาษาอังกฤษได้ เขาก็ช่วยอธิบายให้เราเข้าใจ สรุปว่าเราได้ตั๋วขึ้นรอบบ่ายจ้า ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อ โทรหาใครจองให้เราก็ไม่รู้ โล่งอกไปที
ขอถ่ายรูปกับพนักงานใจดีทั้ง 2 ท่านหน่อย นอกจากช่วยสื่อสารกับพ่อให้เราแล้ว ยังช่วยในการต่อรองราคาสำหรับการเดินทางในวันต่อไปกับพ่อให้เราอีกน่ารักมาจริงๆ
ระหว่างที่เราต้องรอตั๋วออก เราก็ออกมาถ่ายรูปเล่นข้างนอกรอพ่อ
เมื่อได้เวลาก็ประมาณ 10 โมงกว่าแล้ว เราขึ้นรถบัสไปน้ำตกไป่สุยเหอ ตามจริงในแผนเราก็จะไปบ่าย แต่ต้องเปลี่ยนเพราะขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยกรอบเช้าไม่ทัน เราซื้อตั๋วขึ้นรถบัส 20หยวน (95บาทไทย)
ไปถึงต้องซื้อตั๋วรถกอล์ฟเพื่อนั่งเข้าไปยังแต่ละจุดอีก 50หยวน (238บาทไทย) พ่อก็ไปจัดการซื้อให้เราเรียบร้อย
เมื่อได้ตั๋วมา เหมือนตั๋วขาดไป1ใบ พ่อก็เดินกลับไปจุดขายตั๋วเพื่อเอาตั๋วมาให้ครบ ซึ่งในตั๋วจะ 3 จุดที่เราจะไปคือ E D C
ระหว่างนั้นเราก็เดินนำพ่อไปเพื่อต่อแถวรอขึ้นรถ
สักพักพ่อตะโกนเรียกเราพร้อมควักมือให้เราเดินตามพ่อมา พวกเราก็งงๆ ให้เดินไปไหนนี่ ที่ไหนได้ เดินมาทางที่ไม่ต้องต่อแถวเลย แอบว่าพ่อกันไปนิด โถ่วไอ้พ่อนี่ เกรงใจคนต่อแถวเขาจริงๆ แต่ด้วยความเร่งรีบพวกเราก็เลยเลยตามเลย ไปก็ไปว่ะ555
แล้วพ่อก็เดินไปคุยกับพนักงาน พร้อมบอกให้เราขึ้นรถเลย คือสายตาคนจีนที่มองพวกเราตอนนั้นก็ทำเอาเราแทบมุดหน้าลงดินเลย ไม่ได้ตั้งใจแซงนะ สถานการณ์บังคับจริงๆ
[CR] เที่ยวจีน 2019 10 Days in China ~ คุณหมิง-ลี่เจียง-แชงกรีล่า-ย่าติง ~ ออกเดินทางตามหาเขา
ทริปนี้เราไปตั้งแต่วันที่ 11-21 เมษายน 2019 ใช้เวลา 10 วันโดยรวม
Day 1 (11/04/2019) ✈️ Bangkok to Kunming
"ไม่มีอะไรมาก เดินทางล้วนๆ"
📌ออกจากกรุงเทพไฟลท์กลางคืน ไฟท์ DMK - KMG (21:40 - 01:00) ที่สนามบินดอนเมืองโดยสายการบินแอร์เอเชีย
เดินทางมาถึงตี 1 ที่สนามบินนานาชาติฉางสุ่ย ซึ่งเวลาที่จีนไวกว่าไทย 1 ชม. เราเลือกนอนที่สนามบินกันเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็เช้าแล้ว
Day 2 (12/04/2019) ✈️ Kunming to Lijiang
"เดินเที่ยวในเมืองเหมือนคนบ้าเดินลากกระเป๋าวนไป"
📌เที่ยวเมืองคุณหมิง จตุรัสม้าทอง (Jin Bi Square) , วัดหยวนทง (Yuantong Temple) บินต่อไปลี่เจียงไฟท์เย็น เข้าพักที่ Elegant Home Inn
เราตื่นกันแต่เช้ามืด ล้างหน้าล้างตา เอาจริงๆเลยคือนอนไม่หลับเลย ในสนามบินอากาศหนาวมาก เมื่อเราทำภารกิจเรียบร้อยแล้วเราก็เริ่มออกเดินทางเที่ยวในตัวเมืองคุณหมิงกันเลย อากาศเช้านี้อยากบอกว่า 10 องศานะจ๊ะ
กระเป๋าเดินทาง : ถ้าใครจะบินต่อไปลี่เจียงแนะนำให้ฝากกระเป๋าในสนามบินอยู่ชั้น 2 (ชั้นก่อนถึง F3 ที่เช็คอินกลับกรุงเทพฯบ้านเรา) แต่ถ้าใครจะเดินทางต่อด้วยรถไฟ ก็ตามมาค่ะ บอกก่อนว่าเราไม่ได้เดินทางด้วยรถไฟ แต่เราไม่รู้ว่ามีที่ฝากกระเป๋าที่สนามบินจึงลากกระเป๋าไปฝากกันที่สถานีรถไฟมาค่ะ 555
เราเลือกเดินทางเข้าเมืองคุณหมิงด้วย Subway Line 6 (昆明轨道交通6号线) แล้วไปต่อ Line 3 ราคา 5 หยวน
เลือกสถานีปลายทาง DONGFENG SQUARE
ได้บัตรแล้วเริ่มออกเดินทางกันเลย
ถ้าดูจาก Map แล้วเราต้องเลือกเปลี่ยนสถานีที่ Line 3 เพื่อไปลงยัง DONGFENG SQUARE
ดู map เต็ม https://www.travelchinaguide.com/images/map/yunnan/kunming-subway.png
จากนั้นเราเดินมาเรื่อยๆตาม Google map มาที่จตุรัสม้าทอง ซึ่งแดดส่องร้อนนะ แต่อากาศก็เย็นมากเช่นกัน
หาข้าวเช้าทานกัน บริเวณนี้มีร้านอาหารหลายร้าน และออกเดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟ เพื่อฝากกระเป๋า โดยนั่งรถบัสสาย K12 ราคา 1 หยวน ตลอดสายไปลงที่สถานนีรถไฟ
ก่อนผ่านเข้าไปด้านในจะต้องผ่านด่าน Security ก่อน ตรวจความปลอดภัยค่อนข้างเข้มงวดเลยทีเดียว
เดินผ่านด่านตรวจเข้ามาจะเจอรูปปั้นวัวกระทิงนี้ ทีรับฝากกระเป๋าจะอยู่ซ้ายมือในภาพ
ถึงแล้วร้านรับฝากกระเป๋า เราฝากกระเป๋า 6 คน 88 หยวน 4 ชั่วโมง หารกันแล้วตกคนละ 70 บาทไทยก็ถือว่าไม่แพง
ออกเดินทางไปวัดทวนหยง ขึ้น Subway Line 1 ไปเปลี่ยน Subway Line 2 ที่สถานี South Ring Road และลงที่สถานี Chuanxingulou ออกทางออก A เดินข้ามสะพานแขวนข้ามแม่น้ำไปแล้วเดินตรงยาวๆจะเจอวัด แต่พวกเราหรอ ดันออกทางออก D เดินไกลไปอีก
ถึงแล้ววัดหยวนทง (Yuantong Temple) เสียค่าเข้าวัดคนละ 6 หยวน ประมาณ 29 บาทไทย
เดินลงไปกันเลย
วัดหยวนทง เป็นวัดที่ผสมผสานทั้งวัดไทย พม่า และธิเบต วัดแห่งนี้เป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเมืองคุนหมิง สร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังมีอายุยาวนานประมาณ 1,200 กว่าปี
เดินเที่ยวชมไหว้พระข้างในวัดเสร็จเราก็เดินทางกลับมายังสถานีรถไฟที่เราฝากกระเป๋าไว้ และเลือกเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติฉางสุ่ย โดยรถบัสราคา 25 หยวน( 119 บาท) ส่งถึงหน้าสนามบิน
ใช้เวลานั่งรถประมาณ 40 นาทีถึงสนามบิน
เราออกเดินทางต่อมายังสนามบินลี่เจียง ไฟท์ Kunming (KMG) 18:20 to Lijiang (LJG) 19:25 บินมาถึงสนามบินที่ลี่เจียงเวลาประมาณ ทุ่ม 15 นาที ซึ่งท้องฟ้าดูสว่างอยู่เลย
จากนั้นซื้อตั๋วรถบัสเพื่อเข้ามายังที่พักซึ่งอยู่แถวเมืองเก่าลี่เจียง ราคา 20 หยวน (95 บาทไทย)
เมื่อถึงสถานีปลายทางที่เราจะลง เราก็เหมารถต่อคนละ 5 หยวน (24 บาทไทย)ไปยังที่พัก --> จุดเริ่มต้นของการพบพ่อ
ที่พักเราคืนนี้ Elegant Home Inn
Day 3 (13/04/2019) Lijiang
"สวิตเซอร์แลนด์ดินแดนภูเขาหิมะแห่งเมืองจีน"
📌เหมารถเที่ยวภูขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ,น้ำตกไป่สุยเหอ (Blue Moon Valley) กลับเข้าพักที่เดิม Elegant Home Inn
พ่อคือใคร? ใครคือพ่อ? เราขอเรียกคนขับรถเราว่าพ่อ เนื่องจากอะไรติดตามอ่านไปเรื่อยๆนะค่ะ เมื่อวานตอนเราเหมารถพ่อมายังที่พัก เราก็ได้คุยเรื่อยกับพ่อ ซึ่งวิธีการคุยกันคือใช้ Google แปลภาษา คุยไปคุยมาเราก็ตกลงเหมารถเขาเที่ยวในวันนี้ด้วยราคา 300 หยวนหาร 6 (ตกคนละ 238 บาท)
เรานัดพ่อ 8 โมงเช้า เพื่อเดินทางไปยังภูขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) และน้ำตกไป่สุยเหอ (Blue Moon Valley)
ระหว่างทางเราแวะซื้อออกซิเจนกระป๋องกันก่อนที่ร้านนี้
จำเป็นไหมที่ต้องใช้ ออกซิเจนกระป๋อง? ออกซิเจนกระป๋องจำเป็นสำหรับการขึ้นพื้นที่สูง บางคนก็ไม่ใช้ แล้วแต่สภาพร่างกายแต่ละคน ซึ่งออกซิเจนจะช่วยเติมอากาศให้เข้าสู่ร่างกายในกรณีที่พื้นที่นั้นมีออกซิเจนน้อย เมื่อสูดเข้าไปแล้วจะรู้สึกสดชื่น หายใจสะดวก สำหรับที่ภูเขาหิมะมังกรหยก เราแทบไม่ได้ใช้งานเลย ถือว่าไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่พกติดไปก็ดีค่ะ ที่นี่ขายกระป๋องละ 60 หยวน (285 บาทไทย) ราคาถูกกว่าไปซื้อที่อุทยาน
ก่อนทางเข้าจะต้องซื้อตั๋วก่อน ซึ่งเราอยู่บนรถเลย จะมีพนักงานเดินมาขายตั๋ว วันที่เราไปคนค่อนข้างเยอะ รถต่อคิวเพื่อขับเข้าด้านใน ตั๋วค่าเข้าคนละ 100 หยวน (475 บาทไทย)
เรามาถึงด้านในประมาณ 9 โมงกว่า ซึ่งตั๋วขายหมดแล้วจ้า พ่อก็คุยภาษาจีนกับพนักงานขายตั๋วใหญ่เลย ฟังไม่รู้เรื่องหรอกแต่ดูแล้วพนักงานขายตั๋วหน้าเหวี่ยงมากจ้า พ่อก็เดินไปเดินมา คุยแล้วคุยอีกพนักงานขายตั๋วก็ไม่ยอม ซึ่งพ่อใช้เวลาคุยประมาณครึ่งชั่วโมงได้ สุดท้ายแล้วพ่อก็โทรไปหาใครไม่รู้ ใช้เส้นใช้สาย สีหน้าเคร่งเครียด ส่วนพวกเราหรอยังคงถ่ายรูปเล่นต่อไปไม่รู้ชะตากรรม
หลังจากนั้นพ่อก็ทำสำเร็จ พวกเราก็ไม่ค่อยเข้าใจพ่อเท่าไหร่เลย เลยไปคุยกับพนักงานที่ดูแลอีกฝั่งนึงซึ่งเขาคุยภาษาอังกฤษได้ เขาก็ช่วยอธิบายให้เราเข้าใจ สรุปว่าเราได้ตั๋วขึ้นรอบบ่ายจ้า ด้วยความช่วยเหลือจากพ่อ โทรหาใครจองให้เราก็ไม่รู้ โล่งอกไปที
ขอถ่ายรูปกับพนักงานใจดีทั้ง 2 ท่านหน่อย นอกจากช่วยสื่อสารกับพ่อให้เราแล้ว ยังช่วยในการต่อรองราคาสำหรับการเดินทางในวันต่อไปกับพ่อให้เราอีกน่ารักมาจริงๆ
ระหว่างที่เราต้องรอตั๋วออก เราก็ออกมาถ่ายรูปเล่นข้างนอกรอพ่อ
เมื่อได้เวลาก็ประมาณ 10 โมงกว่าแล้ว เราขึ้นรถบัสไปน้ำตกไป่สุยเหอ ตามจริงในแผนเราก็จะไปบ่าย แต่ต้องเปลี่ยนเพราะขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยกรอบเช้าไม่ทัน เราซื้อตั๋วขึ้นรถบัส 20หยวน (95บาทไทย)
ไปถึงต้องซื้อตั๋วรถกอล์ฟเพื่อนั่งเข้าไปยังแต่ละจุดอีก 50หยวน (238บาทไทย) พ่อก็ไปจัดการซื้อให้เราเรียบร้อย
เมื่อได้ตั๋วมา เหมือนตั๋วขาดไป1ใบ พ่อก็เดินกลับไปจุดขายตั๋วเพื่อเอาตั๋วมาให้ครบ ซึ่งในตั๋วจะ 3 จุดที่เราจะไปคือ E D C
ระหว่างนั้นเราก็เดินนำพ่อไปเพื่อต่อแถวรอขึ้นรถ
สักพักพ่อตะโกนเรียกเราพร้อมควักมือให้เราเดินตามพ่อมา พวกเราก็งงๆ ให้เดินไปไหนนี่ ที่ไหนได้ เดินมาทางที่ไม่ต้องต่อแถวเลย แอบว่าพ่อกันไปนิด โถ่วไอ้พ่อนี่ เกรงใจคนต่อแถวเขาจริงๆ แต่ด้วยความเร่งรีบพวกเราก็เลยเลยตามเลย ไปก็ไปว่ะ555
แล้วพ่อก็เดินไปคุยกับพนักงาน พร้อมบอกให้เราขึ้นรถเลย คือสายตาคนจีนที่มองพวกเราตอนนั้นก็ทำเอาเราแทบมุดหน้าลงดินเลย ไม่ได้ตั้งใจแซงนะ สถานการณ์บังคับจริงๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น