พวกชนเผ่า สมัยสามก๊กนี่อย่างกาก ทำไมพอเป็นสมัยราชวงจิ้น ถึงกลายเป็นแข็งแกร่งสุด ๆ ครับ

สมัยสามก๊ก พวกชนเผ่านี่กากสุด ๆ เจอกองทัพ หรืออุบายของพวกโจโฉ กุยแก ขงเบ้ง สุมาอี้ไปนี่ เรียกว่าสู้ไม่ได้เลย
ดูในเกมสามก๊ก พวกชนเผ่าแต่ละตัวก็ค่า INT ต่ำติดดิน ค่า WAR ถึงสูงก็ยังเทียบพวกขุนพลระดับเกรด B+ ขึ้นไปไม่ได้
แล้วทำไมพอเป็นสมัยราชวงศ์จิ้น ที่เวลาผ่านไปนิดเดียว ทั้ง ๆ ที่จิ้นรวมประเทศได้แล้ว พวกชนเผ่ากลับแข็งแกร่งสุด ๆ ชนิดที่ฮ่องเต้ต้องย้ายเมืองหลวงหนี
อารยธรรมของพวกชนเผ่าก้าวหน้าขึ้น หรือเทคโนโลยีอาวุธก้าวหน้าขึ้น หรือราชวงศ์จิ้นไม่มีคนเก่งเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
สาเหตุสำคัญมาจากนโยบายการปกครองในสมัยราชวงศ์จิ้นครับ พระเจ้าจิ้นอู่ตี้หรือสุมาเอี๋ยนเห็นว่าในสมัยฮั่นและเว่ย (วุย) จำกัดอำนาจเชื้อพระวงศ์มากเกินไป ในสมัยวุยเชื้อพระวงศ์ใกล้ชิดไม่มีสิทธิรับราชการ ได้ครองพื้นที่เล็กๆแทบไม่มีอำนาจ และถูกส่วนกลางสอดส่องตลอดเวลาจนไม่สามารถเกื้อหนุนฮ่องเต้ได้ จิ้นอู่ตี้จึงแต่งตั้งพระราชวงศ์จำนวนมากขึ้นเป็น หวัง/อ๋อง มีพื้นที่ศักดินาปกครองเป็นสิทธิขาด เรียกเก็บภาษีในดินแดนของตนได้

- เจ้าศักดินาขนาดใหญ่ มีประชากรสองหมื่นครัวเรือน มีกองทัพสามทัพคือทัพบน กลาง ล่าง บัญชาการทหารห้าพันนาย

- เจ้าศักดินาขนาดกลาง มีประชากรหนึ่งหมื่นครัวเรือน มีกองทัพบนและล่าง บัญชาการทหารสามพันนาย

- เจ้าศักดินาขนาดเล็ก มีประชากรห้าพันครัวเรือน มีกองทัพเดียว บัญชาการทหารห้าร้อยนาย

- เจ้าที่ไม่มีพื้นที่ศักดินา ให้รับราชการอยู่ในเขตราชธานี



แต่ผลเสียของการให้อำนาจของพระราชวงศ์มากเกินไปก็ทำให้เกิดการแย่งชิงอำนาจระหว่างพระราชวงศ์ด้วยกันเอง ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากจิ้นอู่ตี้สวรรคต จิ้นฮุ่ยตี้จักรพรรดิองค์ใหม่กล่าวกันว่าทรงมีสติไม่สมประกอบ ฮองเฮาเจี่ยหนานเฟิง (賈南風) ยึดครองอำนาจในราชสำนัก ส่งผลให้บรรดาอ๋องทั้งหลายเข้ามาแย่งชิงอำนาจเกิดเป็น จลาจลแปดอ๋อง (八王之亂) ทำให้แผ่นดินจีนภาคเหนือและจงหยวนอ่อนแอลงมาก จนเป็นช่องให้ชนเผ่านอกด่านทั้งห้า (五胡) เข้ามายึดครองอำนาจในแผ่นดินจีนภาคเหนือได้ และทำให้ราชวงศ์จิ้นตะวันตกล่มสลาย

ในจลาจลแปดอ๋อง อ๋องบางคนก็ไปดึงเอาชนเผ่านอกด่านมาเป็นกำลังของตนด้วย ทำให้ชนเผ่านอกด่านเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ชนเผ่าบางกลุ่มช่วยเหลือราชสำนักจิ้น ก็ได้รับการปูนบำเหน็จให้มีตำแหน่งและพื้นที่ศักดินา ส่งผลให้แยกตัวตั้งอาณาจักรได้ในเวลาต่อมา


อีกปัจจัยหนึ่งคือ หลังจากจิ้นอู่ตี้พิชิตง่อก๊กรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งสำเร็จ ทรงเห็นว่าในสมัยปลายราชวงศ์ฮั่นผู้ว่าราชการมณฑลต่างๆ มีอำนาจเด็ดขาดทั้งทหารและพลเรือน มีกองทัพของตนเอง ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายจากขุนศึกชิงอำนาจ จึงมีพระราชโองการให้ริบอำนาจทหารหัวเมือง ให้เมืองใหญ่มีข้าราชการได้ร้อยคน เมืองเล็กห้าสิบคน  

ครั้งนั้นเถาหวง (陶璜) ผู้ว่าราชการมณฑลเจียวโจว (交州 ทางใต้ของจีนดินถึงเวียดนามตอนบน) ถวายฎีกาคัดค้านว่า เจียวโจวและกว่างโจวจากตะวันออกตะวันตกห่างกันหลายพันลี้ มีราษฎรมากกว่าหกหมื่นครัวเรือน ครอบครัวที่รับราชการมากถึงห้าพันครัวเรือน ทั้งสองมณฑลเหมือนลิ้นกับฟันต้องมีทหารไว้ป้องกันราษฎร นอกจากนี้มีพวกอี๋ (夷) หรือคนเถื่อนในหนิงโจว (寧州) อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำซึ่งอาจจะเข้ามาก่อความวุ่นวายได้ จึงไม่ควรลดกำลังทหารลง ซานเทา (山濤) ขุนนางคนสำคัญก็คัดค้าน แต่จิ้นอู่ตี้ไม่สนใจ  ภายหลังจึงปรากฏว่าในช่วงรัชศกหย่งหนิง (ค.ศ. 301-303) สมัยจิ้นฮุ่ยตี้ เกิดโจรผู้ร้ายชุกชุมไปทั่ว ทางการไม่มีกำลังมากพอจะปราบปรามทำให้บ้านเมืองวุ่นวายไปทั่ว ภายหลังจึงต้องคืนอำนาจทหารให้หัวเมือง



สำหรับชนเผ่านอกด่านที่เป็นผู้โค่นล้มราชวงศ์จิ้นตะวันตกคือซฺยงหนู (匈奴)  ตั้งแต่สมัยฮั่นตะวันออกก็เริ่มมีชนเผ่านอกด่านเข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณแม่น้ำหวงเหอแล้ว พอถึงสมัยสามก๊กการอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานก็มีมากขึ้น  

ในสมัยโจโฉจีนรบชนะฮูฉูเฉวียน (呼廚泉) ฉานอวี๋หรือประมุขของอาณาจักรซฺยงหนูใต้ จึงให้ฮูฉูเฉวียนยงมาอยู่ที่เมืองเย่เฉิง (鄴城 เงียบกุ๋น) ในเหอเป่ยซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองของโจโฉ แบ่งการปกครองของชนเผ่าซฺยงหนูในมณฑลซานซีออกเป็นห้าส่วน (部) ให้ประจำอยู่ในไท่หยวน (太原) เพื่อป้องกันไม่ให้ก่อกบฏ โดยมีหลิวเป้า (劉豹) เชื้อพระวงศ์ซฺยงหนูเป็นผู้ดูแลเผ่าซ้าย (左部)   โจโฉยังดึงชาวซฺยงหนูมาเป็นทหารม้าในกองทัพของตนด้วย  

หลิวเป้าใช้แซ่หลิวเหมือนฮ่องเต้ราชวงศ์ฮั่น เพราะถือว่าเผ่าซฺยงหนูเคยเกี่ยวดองกับราชวงศ์ฮั่นอยู่หลายครั้ง จึงถือว่าตนเป็นเชื้อพระวงศ์ฮั่น หลังจากฮูฉูเฉวียนตาย หลิวเป้าจึงได้เป็นฉานอวี๋ต่อมาและยังคงยอมขึ้นกับจีนมาถึงสมัยเว่ยและจิ้น


ถึงกระนั้นเผ่าซฺยงหนูก็ยังมีกำลังอยู่ ราชสำนักเว่ยและจิ้นจึงให้ส่งลูกหลานลงมาเป็นตัวประกัน หลิวหยวน (劉淵) ลูกชายหลิวเป้าถูกส่งไปอยู่ที่ราชธานีลั่วหยาง ได้ศึกษาขนบธรรมเนียมและวรรณกรรมจีนจำนวนมาก จนเป็นที่ชื่นชมของขุนนางในราชสำนักจิ้นหลายคน สุมาฮิว (司馬攸 ซือมาโยว) อนุชาพระเจ้าจิ้นอู่ตี้ เห็นความสามารถของหลิวหยวนเลยเกรงกลัว เสนอให้จิ้นอู่ตี้กำจัดหลิวหยวน แต่จิ้นอู่ตี้ไม่ทำตาม ต่อมาเมื่อหลิวเป้าตาย จึงทรงตั้งให้หลิวหยวนปกครองซฺยงหนูเผ่าซ้ายแทนบิดา  หลิวหยวนปกครองดินแดนของตนอย่างเข้มแข็งเป็นระบบระเบียบ ทำให้มีคนเข้าหาจำนวนมากทั้งชาวซฺยงหนูและฮั่น จนถึงสมัยจิ้นฮุ่ยตี้จึงได้รับแต่งตั้งเป็นประมุขของซฺยงหนูทั้งห้าเผ่า

ในช่วงที่เกิดจลาจลแปดอ๋อง หลิวหยวนถูกปลดจากตำแหน่ง จึงไปเข้ากับเฉิงตูหวัง (成都王) ซือหม่าอิ่ง (司馬穎) หนึ่งในแปดอ๋องซึ่งครองเมืองเย่เฉิงอยู่ แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับการสนับสนุนจากชาวซฺยงหยูให้ขึ้นเป็นฉานอวี๋ใหญ่ พอซือหม่าอิงแพ้ในศึกชิงอำนาจ หลิวหยวนจึงประกาศตนเป็นอิสระจากราชวงศ์จิ้นใน ค.ศ. 304 สถาปนาราชวงศ์ฮั่นขึ้นใหม่ (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นจ้าว จึงเรียกว่า 'ฮั่นจ้าว' ให้แตกต่างจากฮั่นในอดีต) ต่อมาโอรสคือ หลิวชง (劉聰) สามารถยึดครองราชธานีลั่วหยางได้สำเร็จใน ค.ศ. 311 และยึดฉางอานได้ใน ค.ศ. 316 ราชวงศ์จิ้นต้องหนีลงใต้ไปตั้งราชธานีใหม่ที่เจี้ยนคัง เริ่มต้นสมัยจิ้นตะวันออกครับ


นอกจากนี้ชนเผ่าอื่นๆ ก็สามารถตั้งรัฐอิสระได้จำนวนมาก

ในปีเดียวกับที่หลิวหยวนสถาปนาราชวงศ์ฮั่น  ชนเผ่าตี (氐) ในเมืองปา (巴) ของเสฉวนสามารถยึดเมืองเฉิงตูได้สำเร็จ สถาปนาอาณาจักรเฉิง (成) ขึ้น (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นฮั่น จึงนิยมเรียกว่า 'เฉิงฮั่น')


ชนเผ่าเซียนเปย (鮮卑) เคยต่อต้านราชวงศ์ฮั่นหลายครั้ง แต่ถูกโจโฉปราบปรามได้ เลยขึ้นกับจีนเรื่อยมา แต่ในช่วงที่สุมาอี้ยกทัพไปปราบปรามกองซุนเอี๋ยนแห่งเหลียวตงได้สำเร็จ ได้กวาดต้อนประชากรชาวฮั่นกลับไปจีนจำนวนมาก ทำให้ชาวเซียนเปยเข้ามาตั้งถิ่นฐานบริเวณคาบสมุทรเหลียวตงและเกาหลีตอนบนมากขึ้น โดยมีสกุลมู่หรง (慕容) เป็นผู้นำขยายอำนาจรุกรานราชวงศ์จิ้นอยู่เนืองๆ ภายหลังยอมสวามิภักดิ์ต่อจิ้นก็อยู่ใต้อำนาจแบบหลวมๆ เท่านั้น จนภายหลังจิ้นล่มสลายก็ขยายอำนาจ สถาปนาอาณาจักรเยียน (燕)

เซียนเปยอีกกลุ่มนำโดยสกุลทั่วป๋า (拓拔) มาตั้งรกรากที่เหยียนเหมิน (雁門郡) ยอมสวามิภักดิ์ต่อจิ้น และเริ่มขยายอำนาจทางตอนเหนือ  ในสมัยทั่วป๋าอีหลู (拓跋猗盧) ได้ช่วยจิ้นรบกับฮั่นของซฺยงหนู จึงได้รับบรรดาศักดิ์เป็น ไต้กง (代公) ต่อมาได้ขึ้นเป็น ไต้หวัง (代王) ครองอาณาจักรไต้เป็นอิสระอีกแห่งหนึ่ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่