ตอนที่ 1: ขอ VISA https://ppantip.com/topic/38817531
ตอนที่ 2: Rome and Vatican https://ppantip.com/topic/38817985
ตอนที่ 3: MSC Meraviglia https://ppantip.com/topic/38818468
ตอนที่ 4: Palermo https://ppantip.com/topic/38821626

ประมาณ 8 โมงเช้าเมืองท่าหน้าตาโบราณก็ปรากฏตัวให้เราเห็นที่ระเบียงห้อง...ใช่แล้ว วันนี้เรือจะจอดที่ Valletta เราจะเที่ยว Malta กัน
เนื่องจากเราใช้ sim2Fly ยุโรป ซึ่งไม่ครอบคลุม Malta ดังนั้นวันนี้ไม่มีสัญญาณ internet ใช้นะจ๊ะ ต้องตามผู้นำให้ดีเดี๋ยวหลง (โชคดีที่หัวหน้าทีมวันนี้ใช้ sim google เลยเป็นคนเดียวที่มีเนทใช้ เปิด google map นำทางได้)
วันนี้เราแพลนเที่ยวแค่ 2 ที่ค่ะคือเช้านั่งรถไปเที่ยว Mdina แล้วบ่ายย้อนกลับมาเที่ยว Valletta...ไปกันเล้ย

เดินออกจากท่าเรือเพื่อไปขึ้นรถเมล์
ตรงป้ายรถเมล์...รถเมล์ที่นี่ไม่ต้องหาซื้อตั๋วนะคะ ขึ้นประตูหน้าไปจ่ายที่คนขับได้เลย
ผ่านไปประมาณ 30 นาที ถึง Mdina แล้วค่ะ ลงตรงนี้แล้วเดินไปเขตเมืองเก่า
Mdina เป็นเมืองป้อมปราการบนภูเขา เป็นเมืองหลวงเก่าตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงยุคกลาง แต่ปัจจุบันมีบทบาทคือเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของ Malta ซึ่งนอกจากจะได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกแล้ว ยังเป็น location ถ่ายทำ Game of Thrones อีกด้วย สิ่งก่อสร้างในเมืองเป็นสถาปัตยกรรมผสมระหว่าง Norman กับ Baroque ซึ่งมีทั้งวัง โบสถ์ และอาคารส่วนใหญ่ก็คือบ้านเรือนที่มีคนอาศัยอยู่จริงๆ (ประชากรประมาณ 300 คน) ในเมืองไม่ให้เราขับรถเข้าไปนะคะ ยกเว้นรถของคนในเมือง รถฉุกเฉินทั้งหลาย รถแต่งงาน และรถม้า ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เมืองนี้ได้ฉายาว่า 'the Silent City'

ก้าวแรกก่อนจะเข้าสู่เขตเมืองต้องผ่าน Mdina gate หรือ Main gate ก่อนค่ะ หน้าตาคุ้นๆมั้ย
ใช่แล้วค่ะมันอยู่ใน Game of Thrones นั่นเอง (ภาพจาก https://www.thetraveltester.com/game-thrones-locations-malta-gozo/)

เพื่ออรรถรส ขอขึ้นรถม้าชมรอบเมืองกันก่อน แยกกันบ้านละคัน ตกลงราคาไว้ว่าวนรอบเมือง 1 รอบ คิด 40ยูโร ขึ้นจากหน้า Main gate นี่แหละ

ครบรอบ คนขี่ม้าถามว่าจะวนดูเมืองด้วยมั้ย (เมืองนอกเขตกำแพง) ถ้าเอาคิดเพิ่ม 15ยูโร เอาไปก็ไป (รวม 55ยูโร) พอลงมาจ่ายเงิน คว้าโทรศัพท์จากมือเราไปแล้วก็ถ่ายรูปคู่กับรถม้าให้รัวๆ แล้วบอกว่าค่าถ่ายรูป 5 ยูโร สรุปต้องจ่ายไป 60ยูโร (อันนี้โดนกันอย่างน้อย 2 บ้าน ไม่ได้ถามอีก 2บ้านว่าโดนด้วยมั้ย) จ่ายเงินเสร็จป๊าถือแบ๊งค์ 5 ยูโรอีกใบอยู่ในมือ มาดึงแบ๊งค์ไปเฉยเลยบอกว่าใบนี้ให้ม้า (ม้าบ้านแกใช้เงินเป็นด้วยหรา) เบ็ดเสร็จโดนรีดไป 65ยูโร

สาบานได้ว่ารูปนี้คือรูปที่ดีที่สุดใน 4 รูปที่ลุงแกรัวมาให้...ถ่ายแบบนี้ลุงปล้นเงินหนูไปเปล่าๆดีกว่า ไม่ต้องเปลืองเมมโทรศัพท์หนูด้วย



ลงรถม้าเสร็จก็ไปหาอาหารท้องถิ่นกินเป็นมื้อเที่ยง แล้วมาเดินถ่ายรูปในเขตกำแพงกันอีกรอบ ... ซึ่งวันนี้หัวหน้าทีมนำเสนอ Pastizzi ตัวแป้งจะสไตล์พาย S&P บ้านเรา มีหลายไส้ให้เลือก เช่นชีส ไก่ ผักโขม (ยืมรูปมาจาก https://seashellsresortmalta.com/things-to-do-malta/history-culture/traditional-maltese-food/ ...มัวแต่ไปยืนซื้อกาแฟกลับมาถ่ายของเราไม่ทัน) ซึ่งพวกร้านอาหารจะอยู่เขตนอกกำแพงนะคะ

อิ่มแล้วก็รีบเดินเที่ยว เหลือเวลากันอีก ประมาณครึ่งชั่วโมง

St.Paul's cathedral หรือ Mdina cathedral
ชัยภูมิที่ดีมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ข้าศึกบุกมาเห็นหมด
ในเขตกำแพงเมืองนี่ขนาดไม่ใหญ่ค่ะ มีพิพิธภัณฑ์ ร้านขายของ โบสถ์ โรงแรม 4-5 ดาว ถ้าเดินดูเต็มที่ไม่น่าจะเกินครึ่งวัน แต่ถ้าแค่เดินผ่านๆถ่ายรูปเฉยๆก็ไม่น่าเกิน 2 ชั่วโมง... ฟ้าใสๆ ตัดกับตัวอาคารสีทรายเหลืองๆที่มีเอกลักษณ์ในตัวเอง มันสวยจนอยากพักที่นี่ซักคืน สวยจนลืมความโกรธที่โดนโกงค่ารถม้าไปเลย...ถึงตอนนี้บ่ายโมงกว่าแล้วต้องออกจาก Mdina แล้วเพราะเดี๋ยวไม่เหลือเวลาเที่ยวใน Valletta

รถเมล์ที่นั่งกลับเป็นรถคันเดียวกับที่เรานั่งมา ที่จำได้เพราะหัวหน้าทีมของเราชวนคุณลุงคนขับรถคุยตลอดทางทั้งขาไป-ขากลับ

กลับมาถึง Valletta แล้วค่ะ .... Valletta เป็นเมืองหลวงของ Malta .... แดดแรงๆ (17 องศา) แบบนี้ขอกินไอติมให้ชื่นใจหน่อย
เอามันฝรั่งทอดมาเลี้ยงนกพิราบ
จริงๆแล้วสีสันอาคาร บ้านเรือนใน Valletta ก็คล้ายๆ Mdina นะ แต่เป็น Mdina สมัยใหม่ที่มีร้านค้ามากมายให้ชอปปิ้ง...จากตอนนี้ยังมีเวลานะ แต่ไม่มากพอที่จะไปเที่ยวจุดอื่นนอกจากแถวๆนี้เพราะต้องเผื่อเวลาเดินกลับเรือด้วยอีกประมาณ 600 เมตร เลยกลับเรือดีกว่า
Valletta จากบนเรือ
อำลา Malta ด้วยภาพนี้ กับความประทับใจที่เต็มเปี่ยม ปักธงไว้ว่าจะมาซ้ำ Grand Malta


ตอนที่ 6: https://ppantip.com/topic/38825317