Avengers: Endgame น่าจะเป็นหนึ่งในบรรดาหนังของมาร์เวลที่สนุกน้อยที่สุด หลงทางมากที่สุด และน่าผิดหวังมากที่สุด ทั้งๆที่มันควรจะเป็นหนังที่ปิดฉากการเดินทางของหนังมาร์เวลจำนวน 22 เรื่อง ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา (ที่มีทั้งหนังที่สนุก และไม่สนุก) อย่างยิ่งใหญ่ แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือหนังที่เต็มไปด้วยมุกตลกฝืดๆ ยัดเยียดดราม่า แอคชันเตะต่อยปล่อยพลังแบบหนังราคาถูก และบทหนังแย่ๆ
หนังเริ่มต้นด้วยการเดินเรื่องนิ่งๆกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งก็แตกต่างจากหนังมาร์เวลทุกเรื่องที่เดินเรื่องฉับไว คงคิดว่าจะบิ้วอารมณ์โศกเศร้าเสียใจให้คนดู แต่กลายเป็นความเชื่องช้าน่าเบื่อแทน เพราะหนังมาร์เวลที่ผ่านมาสนุกเพราะฉากแอคชัน พอไม่มีฉากแอคชันเข้ามาปั๊ป มันน่าเบื่อทันที และก็ไม้ได้ทำให้คนดูอินกับความสูญเสียอะไรในหนังเลย
ชั่วโมงที่ 2 เข้าสู่การวางแผนและเดินทางย้อนเวลาเพื่อแย่งชิงอินฟินิตี้สโตน ก่อนที่ธานอสจะรวบรวมได้ครบ ซึ่งก็ทำออกมาได้น่าเบื่อและไม่มีอะไรให้ลุ้นเลย แผนการที่ควรจะซับซ้อนและดูน่าตื่นเต้น กลับเล่าได้ไร้ความสนุกแบบไม่น่าเชื่อ อย่างที่บอกว่าแผนการ จริงๆแล้ว มันซับซ้อนมาก แม้แต่คนเขียนบทก็คงงงๆ ว่ามันจะต้องทำอะไรกันบ้าง เลยเล่าเรื่องแบบมักง่าย เพื่อให้คนดูเข้าใจง่ายๆ แต่ก็ยังแกล้งพยายามทำว่าบทหนังฉลาด ทั้งที่บทหนังตรงนี้ มันมีช่องโหว่เต็มไปหมด แผนการที่ทำดูเหมือนว่าจะยิ่งใหญ่ แต่จริงๆแล้ว กลับเป็นแผนการง่อยๆ ที่ดูสิ้นคิด ไม่พอ การย้อนเวลา ทำให้ตัวละครหลายๆคน ได้กลับไปค้นพบเรื่องราวในอดีตของตัวเองมากขึ้น ซึ่งก็ทำให้หนังเสียเวลากับการรำลึก อาลัยอาวรณ์อดีตของตัวละครแต่ละคนกันอีก ยัดเยียดดราม่ากันเข้าไป แต่มันมาผิดที่ผิดทาง เลยดราม่าไม่ขึ้น กลายเป็นเพิ่มความเชื่องช้า น่าเบื่อ วนอยู่กับที่ เข้ามาแทน
ฉากแอคชันที่พบเห็นตลอดเรื่อง เอาจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่า การชกต่อย หรือปล่อยพลัง ที่เราเห็นกันจนชินตา หนังแอคชันงบกลางๆ งบน้อยๆ บางเรื่องยังทำฉากชกต่อยกันสนุกกว่านี้เลย ส่วนมุกตลก ใน Avengers: Endgame อาจจะเรียกได้ว่าแป้กที่สุดในบรรดาหนังมาร์เวลทั้งหมด เพราะหนังพยายามที่จะดราม่าและตลกไปด้วยกัน ซึ่งก็ไม่มีตรงไหนที่ทำได้ดีเลยสักอย่าง
ฉากแอคชันการรวมพลังสู้กับธานอสตอนท้ายเรื่อง คงจะเป็นฉากเดียวที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ และพอจะเรียกความสนุกกลับมาได้บ้าง ซึ่งถ้ามาร์เวลยอมรับว่าความสนุกของหนังมาร์เวล มันก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการได้มาดูเหล่าซูเปอร์ฮีโรรวมพลังปล่อยพลังสู้กับผู้ร้าย แล้วหยุดนอกลู่นอกทางไปเน้นดราม่า ซึ่งไม่ได้มีอะไรให้ดราม่าเลย แต่พยายามเค้นอยู่นั่น ทำหนังให้มันสั้นๆกระชับ หนัง Avengers: Endgame ก็คงจะไม่น่าเบื่อขนาดนี้ ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้มาร์เวลทำหนังเรื่องนี้ยาวออกมาตั้ง 3 ชั่วโมง
การที่ Avengers: Endgame เป็นบทสรุปของหนังมาร์เวล 22 เรื่องในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา ก็ทำให้บางช่วงในหนังมีความพิเศษอยู่บ้าง ส่วนบทสรุปก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือว่าซึ้งกินใจอะไรมาก คงเป็นเพราะความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นในเรื่องราวของหนังมาร์เวลที่แม้แต่ผู้สร้างก็คุมไม่อยู่ว่าจะให้ใครไปไหนยังไงต่อไป ก็จบๆแบบนี้ไปละกัน ง่ายๆ ไม่ต้องถามอะไรมาก ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าหนังมาร์เวลต่อจากนี้ไปจะยกเครื่องใหม่ ทำให้ดีขึ้น สนุกกว่าเดิมได้หรือไม่ เพราะใน Avengers: Endgame ต้องบอกว่ามาร์เวลหมดมุกที่จะทำให้คนดูรู้สึกตื่นตาตื่นใจได้อีกต่อไปแล้ว
2 ดาวครึ่ง
สารวัตรโรงหนังไปดูมาแล้ว Avengers: Endgame มาร์เวลคิดอะไร ทำหนังน่าเบื่อออกมายาวตั้ง 3 ชั่วโมง (ไม่ Spoil)
หนังเริ่มต้นด้วยการเดินเรื่องนิ่งๆกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งก็แตกต่างจากหนังมาร์เวลทุกเรื่องที่เดินเรื่องฉับไว คงคิดว่าจะบิ้วอารมณ์โศกเศร้าเสียใจให้คนดู แต่กลายเป็นความเชื่องช้าน่าเบื่อแทน เพราะหนังมาร์เวลที่ผ่านมาสนุกเพราะฉากแอคชัน พอไม่มีฉากแอคชันเข้ามาปั๊ป มันน่าเบื่อทันที และก็ไม้ได้ทำให้คนดูอินกับความสูญเสียอะไรในหนังเลย
ชั่วโมงที่ 2 เข้าสู่การวางแผนและเดินทางย้อนเวลาเพื่อแย่งชิงอินฟินิตี้สโตน ก่อนที่ธานอสจะรวบรวมได้ครบ ซึ่งก็ทำออกมาได้น่าเบื่อและไม่มีอะไรให้ลุ้นเลย แผนการที่ควรจะซับซ้อนและดูน่าตื่นเต้น กลับเล่าได้ไร้ความสนุกแบบไม่น่าเชื่อ อย่างที่บอกว่าแผนการ จริงๆแล้ว มันซับซ้อนมาก แม้แต่คนเขียนบทก็คงงงๆ ว่ามันจะต้องทำอะไรกันบ้าง เลยเล่าเรื่องแบบมักง่าย เพื่อให้คนดูเข้าใจง่ายๆ แต่ก็ยังแกล้งพยายามทำว่าบทหนังฉลาด ทั้งที่บทหนังตรงนี้ มันมีช่องโหว่เต็มไปหมด แผนการที่ทำดูเหมือนว่าจะยิ่งใหญ่ แต่จริงๆแล้ว กลับเป็นแผนการง่อยๆ ที่ดูสิ้นคิด ไม่พอ การย้อนเวลา ทำให้ตัวละครหลายๆคน ได้กลับไปค้นพบเรื่องราวในอดีตของตัวเองมากขึ้น ซึ่งก็ทำให้หนังเสียเวลากับการรำลึก อาลัยอาวรณ์อดีตของตัวละครแต่ละคนกันอีก ยัดเยียดดราม่ากันเข้าไป แต่มันมาผิดที่ผิดทาง เลยดราม่าไม่ขึ้น กลายเป็นเพิ่มความเชื่องช้า น่าเบื่อ วนอยู่กับที่ เข้ามาแทน
ฉากแอคชันที่พบเห็นตลอดเรื่อง เอาจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่า การชกต่อย หรือปล่อยพลัง ที่เราเห็นกันจนชินตา หนังแอคชันงบกลางๆ งบน้อยๆ บางเรื่องยังทำฉากชกต่อยกันสนุกกว่านี้เลย ส่วนมุกตลก ใน Avengers: Endgame อาจจะเรียกได้ว่าแป้กที่สุดในบรรดาหนังมาร์เวลทั้งหมด เพราะหนังพยายามที่จะดราม่าและตลกไปด้วยกัน ซึ่งก็ไม่มีตรงไหนที่ทำได้ดีเลยสักอย่าง
ฉากแอคชันการรวมพลังสู้กับธานอสตอนท้ายเรื่อง คงจะเป็นฉากเดียวที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ และพอจะเรียกความสนุกกลับมาได้บ้าง ซึ่งถ้ามาร์เวลยอมรับว่าความสนุกของหนังมาร์เวล มันก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการได้มาดูเหล่าซูเปอร์ฮีโรรวมพลังปล่อยพลังสู้กับผู้ร้าย แล้วหยุดนอกลู่นอกทางไปเน้นดราม่า ซึ่งไม่ได้มีอะไรให้ดราม่าเลย แต่พยายามเค้นอยู่นั่น ทำหนังให้มันสั้นๆกระชับ หนัง Avengers: Endgame ก็คงจะไม่น่าเบื่อขนาดนี้ ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้มาร์เวลทำหนังเรื่องนี้ยาวออกมาตั้ง 3 ชั่วโมง
การที่ Avengers: Endgame เป็นบทสรุปของหนังมาร์เวล 22 เรื่องในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา ก็ทำให้บางช่วงในหนังมีความพิเศษอยู่บ้าง ส่วนบทสรุปก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือว่าซึ้งกินใจอะไรมาก คงเป็นเพราะความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นในเรื่องราวของหนังมาร์เวลที่แม้แต่ผู้สร้างก็คุมไม่อยู่ว่าจะให้ใครไปไหนยังไงต่อไป ก็จบๆแบบนี้ไปละกัน ง่ายๆ ไม่ต้องถามอะไรมาก ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าหนังมาร์เวลต่อจากนี้ไปจะยกเครื่องใหม่ ทำให้ดีขึ้น สนุกกว่าเดิมได้หรือไม่ เพราะใน Avengers: Endgame ต้องบอกว่ามาร์เวลหมดมุกที่จะทำให้คนดูรู้สึกตื่นตาตื่นใจได้อีกต่อไปแล้ว
2 ดาวครึ่ง