สรุป Live Mind BNK48 30/4/2019
ที่มา https://www.facebook.com/YourSmileBNK48/posts/806528339733454?__tn__=K-R

1. เปิดไลฟ์ด้วย น้องเอาหน้ามาจ่อที่หน้าจอโทรศัพท์ แลัวทำท่าว่าจะเปลี่ยนฟิลเตอร์ App “อื้อออ อันนี้ไม่ดีเอาใหม่” พอเปลี่ยนไปได้ซะพักและได้อย่างที่ชอบแลัวน้องก็พูดว่า “อย่างงี้ก็ดีนะ สดใสๆ” แลัวพูดกับคนดูว่า ปากน้องแดงไปมั้ยวันนี้ พอดีลิปที่ใช้อยู่มันเป็นลิปเปลี่ยนสีอะ ต้องทาหลายๆรอบ สีมันจะเข้มขึ้นอะไรอย่างเงี้ย พอพูดไม่ทันจบ ก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จอโทรศัพท์แลัวบอกว่า “ ทุกคน !! ... “ แลัวน้องก็เรอใส่กล้อง !! และบอกว่า “ ทุกคน .. หนูตั้งใจ “

2. “ ฮึบ ๆ .. “ การจะดูไลฟ์น้องมายด์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเพราะต้องระวังเรื่องเน็ตอยู่ตลอด ซึ่งครั้งนี้น้องก็เหมือนเชคเน็ต ต้องลุ้นเป็นระยะเหมือนกัน 555 “ ทุกคนหนูขอแจ้งมา ณ ที่นี่เลยนะคะว่าที่พึ่งทาง Wifi ของเรานั้รก็คือคุณป้าของหนูนั้นเอง ซึ่งเค้าไม่อยู่นะคะ การไลฟ์เลยกระตุกบ้าง ค้างบ้างนะคะ ทุกคนได้โปรดอย่าโวยวายกันเลยนะคะ หนูจะพยายามจะทำให้ดีที่สุด หนูว่าไลฟ์นี้มันดีอยู่ละ ไม่ดีคือเน็ตอย่างเดียว สำหรับหนูนะ ต้อง .. สู้ไปด้วยกันกับหนู โอเคมั้ย?”

3. “ เอาหละค่ะทุกคน เนื่องจากหนูยังไม่ได้กินข้าวเย็นนะคะ เพราะฉะนั้นตอนนี้หนูจะกินแลัว เพราะว่าหนูหิวมากๆเลย ซึ่งไม่รอช้านะ เพราะน้ำลายไหลลล เพราะว่าอาหารที่หนูจะกินวันนี้เนี้ย เป็นอาหารที่ทุกคนๆ เอ๊ะ หรือบางคนอาจจะไม่รู้จัก มันคืออันนี้คะ มันคือน้องแหนมเนืองคะ มีเครื่องเยอะแยะเลย แต่หนูกินแค่แตงกวาอย่างเดียวนะ ซึ่งมันเรียกว่าแหนมเนือง มีใครไม่รู้จักแหนมเนืองมั้ยคะ?” โดยมายด์บอกว่า ถ้าใครกินไม่เป็นไรนะ เค้าจะกินให้ดู

4. “ วันนี้หนูจะมาเล่าในไลฟ์เกี่ยวกับที่หนูไปเที่ยวญี่ปุ่นมา หนูเดาว่ารุ่น 1 เล่าไปหลายคนละ ซึ่งในมุมมองของหนู ทุกคนคงอยากรู้ว่าหนูไปที่ไหนมาบ้างใช่มะ“ พูดจบประโยคน้องก็เปลี่ยนเรื่องโดยเอาแผ่นแป้งแหนมเนืองมาโชว์ และโชว์วิธีการกินให้ทุกคนดู น้องบอกว่า มันเหมือน เป็ดปักกิ่ง อยู่เหมือนกันนะ พูดจบก็ใส่น้ำจิ้ม ห่อแป้งเอาใส่ปาก กินยั่วคนดู อย่างที่เคยทำ “ เอ่ออ อร่อยยย “

5. “ โอเค .. หนูจะเล่าตั้งแต่วันแรก ก็คือวันเดินทางไปญี่ปุ่น ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างอะไรเงี้ยหละนะ หนูจำได้ว่าวันแรกที่หนูก่อนจะไปญี่ปุ่น หนูจะพยายามกินอาหารไทยให้เยอะที่สุด เพราะคิดว่าเมื่อไปถึงญี่ปุ่นแลัวอะ มันไม่มีอาหารไทยให้กินใช่ม้าาา หนูก็คงคิดถึงอะไรอย่างเงี้ย ก็เลยสั่งอาหารไทยที่หนูชอบกินงี้ ซึ่งหนูอะ สั่งผัดไทมา แลัวก็สั่งแหนมเนืองเหมือนกัน ซึ่งกลับมาจากญี่ปุ่น ก็เลยสั่งมากินอีก สั่งจากแกร๊ปน่ะคะ ก็นั้นแหละคะก็พยายามกินอาหารไทยให้เยอะที่สุดก่อนไปญี่ปุ่น แลัวก็เรื่องไปญี่ปุ่น หนูบินไปตอนกลางคืนและถึงที่นู้นก็ตอนเช้า แลัวปรากฏว่าหนูไปถึงญี่ปุ่นเร็วกว่าปกติ ไปติดตรง ตม นานมากเพราะว่ามีไฟลท์อื่นมาทับๆกันตรงนั้น คนเยอะเลย เสร็จก็ไปนั่งรอรถบัสที่จะพาเราไปเที่ยว ซึ่งที่สำคัญเลยคือกระเป๋าเดินทางของหนูน่ะ ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งก็ต้องลากไปมา เพราะหนูจะไปช็อปด้วย” พูดจบละก็เปลี่ยนเรื่องอีก โดยเอาแผ่นแป้งแหนมเนื่องมาโชว์ละบอกว่า เวลากินต้องเอาไปใส่แช่น้ำด้วยนะ มันจะได้นิ่มพร้อมกิน “แลัวก็ .. นั้นแหละคะ วันแรกไปพิพิธภัณฑ์เอโดะด้วยย เป็นพิพิธภัณฑ์แบบว่า .. เท่าที่หนูสังเกตได้ มันเป็นอารมณ์แบบว่า เล่าแบบยุคสมัยต่างๆ วันแรกก็ไม่มีไรมาก หาไรกิน พวกชาบู เป็นชาบูของนักซูโม่ เป็นหม้อของแต่ละคนเลย หนูค่อนข้างชอบน้ำซุปของที่นั้นเพราะมันอร่อยมาก และก็มีเรืองตลกเยอะแยะให้ทำกันเยอะเต็มไปหมด” ซึ่งวันแรกของการเที่ยว น้องบอกว่าก็ไม่มีอะไรมาก ด้วยที่ว่าเดินทางมาถึงตอนเช้าแลัว เหนื่อยมาก บางทีก็จำไม่ได้แลัว เลยไมไ่ด้จำรายละเอียดอะไรเยอะ ซึ่งวันนั้นก็มีไปไหว้พระด้วย ซึ่งน้องบอกว่า ภาพวิวที่น้องลงเฟสจะเป็นตอนที่น้องไปไหว้พระมาด้วยนะ ซึ่งน้องรู้ว่าเป็นวัดที่ดังมากที่ญี่ปุ่นและน้องก็ชื้อเครื่องรางมาหลายอันเลย ซึ่งน้องตั้งใจว่าจะชื้อฝากเพื่อนหลายๆคนเลย อย่างเช่น น้ำใส ซึ่งเครื่องรางนั้นจะเกี่ยวกับการขับรถ จะได้ขับไปไหนปลอดภัย แต่น้องน่ะตอนแรกจะชื้อให้ ก่อน ด้วยอีกคน แต่ก็คิดว่าไม่ชื้อให้ดีกว่า เพราะเหมือน ก่อน จะมีประสบกาณ์ขับรถที่ดีแลัว และที่ขาดไม่ได้คือ น้องมายด์ก็ชื้อให้ตัวเองด้วย เครื่องรางที่มายด์ชื้อจะเกี่ยวกับการ ขจัดสิ่งชั่วร้ายออกไปจากชีวิต มายด์บอกต่ออีกว่า ปีนี้ของมายด์เป็นปีชง เลยตั้งใจจะชื้อเครื่องรางพวกนี้ไว้เพื่อปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกไป รับแต่สิ่งดีๆเข้ามาพอ

6. ระหว่างที่น้องพูดไลฟ์ คอมเม้นแชทของคนที่ดูจะติเรื่องเสื้อของน้องมายด์ตลอด ซึ่งน้องก็สังเกตเห็น เลยบอกว่า รอแป๊ปนะ ไปจัดการเสื้อก่อน สิ่งที่เห็นคือ น้องบอกว่าจะมัดเสื้อด้วยหนังยาง และมายด์บอกอีกว่า วิธีนี้มันคล้ายๆกับตอนเด็กที่พ่อจะชอบเอาเงินมัดเสื้อน้องไว้ให้ตอนไปโรงเรียน

7. “ วันแรกก็ไม่มีไร ส่วนวันที่สอง เป็นวันที่เค้าปล่อยฟรีสไตล์ และหนูก็ไปดีสนีย์แลนด์มานะค่าทุกคนนน” ซึ่งมายด์บอกว่าดีสนีย์แลนด์เป็นที่ที่มายด์ชอบมาก และรู้สึกว่าทริปนี้คุ้มตรงที่มายด์ได้มาที่นี้ มายด์บอกว่า ดีสนีย์แลนด์น่ะ มายด์ไม่ได้เล่นเครื่องเล่นอะไรหรอกนะ มีเล่นรถไฟเหาะบ้าง(แต่ก็ไม่ได้สูงมาก) ก็ไปเล่นกับก่อนนั้นแหละ เพราะก่อนกลัวความสูง จริงๆดีสนีย์แลนด์น่ะ ก่อน เค้าชวนมายด์ไปเพราะคิดว่ามายด์ก็น่าจะชอบอะไรสวยๆน่ารักๆแบบนี้ ซึ่งมายด์ก็ชอบมากจริงๆ มายด์บอกมายด์ชอบมองอะไรที่น่ารักๆ แลัวก็ได้ชื้อของเล่นกลับมามาเยอะแยะเลย

8. ระหว่างที่มายด์ไลฟ์ มายด์สังเกตเห็นในแชทว่า จะมีเริ่มขอตัวไปนอนก่อนแลัว มายด์เลยอ่านละทำหน้ายิ้มๆละบอกว่า “ หืมม มีคนจะแอบไปนอนด้วย หนูขอบอกเลยว่า ห้ามนอนจนกว่าหนูจะไลฟ์เสร็จคะ หนูจะไม่บอกฝันดีใครทั้งนั้น .. “ ☺️

9. มายด์พูดถึงพี่เอก HRK ว่า “ ช่วงนี้ใครอาจจะดีใจที่พี่เอกยอมมาบอก ฝันดี กันแลัว แต่สำหรับมายด์รู้สึกว่ามันไม่ใช่เป็นการบอกฝันดีจริง เพราะว่าพี่เอกมาบอกตอนเช้า เพราะฉะนั้นนั้นไม่ใช่ฝันดีคะ .. หรืออาจจะใช่ก็ได้ หนูอาจจะคิดไปเอง “

10. มายด์พูดต่อเรื่องทริปญี่ปุ่นว่า “ ทริปวันที่สองสนุกกว่ามาก เพราะทริปแรกก็หนูตื่นตอนเช้ามากๆด้วย เดินทางก็เหนื่อย วันที่สองเลยตื่นก็เกือบเที่ยงแลัวกว่าจะออกจากโรงแรมที่พักและกว่าจะถึงดีสนีย์แลนด์บวกหลงอีกด้วย ตอนนั้นถึงดีสนีย์แลนด์ก็เย็นแลัว แต่ก็รู้สึกว่าเป็นปล่อยอิสระที่สนุกดี มีประสบการณ์หลงๆให้เจอ ” มายด์บอกว่า ตัวน้องก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษ แต่ก็ได้ใช้ชีวิตกับ ก่อน ซึ่งก่อนจะได้ภาษา มายด์เลยได้เรียนรู้ด้วย เพราะเวลามายด์อยากได้อะไร หรืออยากทำอะไร มายด์จะถามและให้ ก่อน ช่วยเสมอ ซึ่งมายด์ก็เรียนรู้จากที่สิ่งที่ก่อนช่วย มายด์เลยบอกว่า ถ้ามายด์ได้มาญี่ปุ่นอีกครั้งนะ มายด์ก็คิดว่าน่าจะมาได้ เพราะมายด์จำอะไรที่ ก่อน ช่วยได้เยอะมาก เป็น 6 วันที่คุ้มค่ามากๆ ที่ได้มาอยู่กับก่อน

11. มายด์พูดเสริมอีกว่า สิ่งที่ชอบที่มา ดีสนีย์แลนด์ ที่สุดนั้นก็คือการได้ไปดูขบวนพาเหรดโชว์ มราสวนสนุกซึ่งมายด์ชอบมาก มายด์อยู่ทั้งสองรอบเลย ทั้งช่วงเย็นและตอนกลางคืน อะไรๆก็ดูสดใสไปหมด โชว์ดีไปหมด ถ้าครั้งหน้าได้มาอีกก็จะมา เพราะน้องชอบจริงๆ

12. วันที่ 3 ของทริปญี่ปุ่น มายด์บอกว่า “ จริงๆแลัว วันที่ 3 โรงแรมที่หนูไปพัก เค้าก็รู้จัก BNK ด้วย เค้ามีพาเลี้ยงข้าว ซึ่งก็ใจดีมากๆเลย หนูเลยถ่ายรูปขอบคุณเค้าไป เป็นเมนูแบบฟูลคอสเลยนะ มีอาหาร เป็นพวกซุป จานหลัก จนไปถึงของหวานให้เลือก โห ดีมาก .. “

13. มายด์พูดต่อว่าได้ไปดูฟูจิ (Lake Kawaguchi) มายด์บอกว่า เค้าน่ะเตรียมเสื้อโค้ทไปใส่ด้วย เพราะที่นั้นหนาว แต่ก็รู้สึกว่าของน้องน่าจะเวอร์ที่สุดในกลุ่มแลัว เพราะเสื้อของมีพวกขนเฟอร์ จนทำให้คิดว่าเหมือนกับน้องจะไปเล่นหิมะอะไรอย่างนั้น และมายด์บอกว่า “ จริงๆอยากบอกทุกคนว่า หนูน่ะไปญี่ปุ่นมาแลัวสองครั้ง ใช่มั้ยคะ ญี่ปุ่นครั้งแรกของหนูน่ะ หนูรู้สึกว่า เป็นทริปที่ไม่ดีเลย คือ อาหารน่ะดีมากเลยนะ แต่ว่า .. ที่ไม่ดีคือ การเตรียมเสื้อผ้าของหนู คือมันไม่เวิร์คสุดๆ ตั้งแต่ขาไปจนขากลับ มันเลยฝังใจ หนูเลยคิดว่าทริปนี้ต้องเตรียมให้ดี อย่างวันนี้ต้องชุดนี้นะ ต้องมีหมวก มีต่างหู มีกำไล บลาๆ มีเตรียมไว้หมดจริงๆ ยันถุงเท้าเลยก็ว่าได้ คือมันต้องเข้ากันหมดกับชุดน่ะ” มายด์บอกว่าครั้งนี้เลยคิดว่า น้องถ่ายมุมไหนก็ต้องสวยแน่นอน เพราะเตรียมตัวมาดีแลัว พูดจบเรื่องนี้ด้วยใบหน้าที่ดูมั่นใจสุดๆ

14. มายด์พูดถึงอีกวันของทริป เป็นวันที่มายด์และเพื่อนๆไป Fuji Q มายด์บอกว่าวันนั้นน่ะ คิดว่ามันต้องหนาวแน่เลยที่นั้น มายด์เลยใส่เสื้อสีขาวคอเต่า มีขนฟูรอบคอ และเครื่องประดับเพรชล้อมตัวเสื้อกับเสื้อโค๊ทสีน้ำตาล ซึ่งจริงๆแลัววันนั้นก็ไม่ได้หนาวไรเลย แต่น้องนี่แต่งตัวจัดเต็มมากกกก อย่างกับคิดว่าหิมะจะตก มายด์ก็เลยรู้สึกว่า ตลกตัวเองดีเหมือนกัน ซึ่งวันนั้นก็มีคนในทริปทักว่า ร้อนมั่งมั้ยเนี้ย มายด์ก็เลยบอกกับคนดูว่า เออ มันต้องเตรียมตัวสิ เพราะฝังใจกับครั้งก่อน ก็ต้องเต็มที่สิ ให้สวยๆเข้าไว้ มายด์เลยพูดตบท้ายว่า ครั้งต่อไป มายด์จะจัดเต็มกว่านี้ ต้องสวย ต้องเป๊ะกว่านี้แน่นอน

15. ที่ต่อมาน้องพูดถึงย่าน นัมบะ (Namba) ซึ่งเป็นที่ที่น้องชอบไปช็อปปิ้งมาก อย่างห้างดองกี้ มายด์บอกว่าไปทุกคืนเลย น้องบอกว่าชื้อของเยอะมากที่นั้นไม่ว่าจะเป็น เยลลี่องุ่นกับลูกพริช และพวกมาร์ชเมลโล่ มายด์จะชอบชื้อมากกกก มายด์บอกมันอร่อยจริงๆ นอกนั้นก็เป็นพวก แผ่นแปะแก้ป่วยหลัง ปวดตัว น้ำยาคอนแทคเลนส์ น้ำยาหยอดตา บ๊วย หรือพวกขนมช็อกโกแลตต่างๆ นอกจากพวกของกินก็มีพวกชื้อ เครื่องที่ม้วนผม เพราะมายด์บอกว่าที่ญี่ปุ่นมีขายเยอะมาก เลยชื้อมา 2 อัน ซึ่งราคาก็ตั้งหมื่นกว่าเยน แต่มายด์บอกว่า มันก็เป็นของที่ใช้อยู่แลัว ก็เลยอยากใช้ของดีๆบ้าง เลยลงทุนซะหน่อย

มีต่อ