ไทม์ไลน์ 'กรงกรรม' สู่ 'สุดแค้นแสนรัก'

พ.ศ. 2483

งานไหว้พระประจำปี วัดเขาจอมคีรีนาคพรต ย้อย ในวัยสาวแรกรุ่นพบกับ เซ้ง พ่อค้าชาวจีนที่ขายไอติมตัดครั้งแรกก่อนที่เซ้งจะหาวิธีไปพบหน้าโดยนำสินค้าไปค้าขายที่บ้านหนองนมวัวจนย้อยรับรักในที่สุด และได้แรงสนันสนุนของ แย้ม ผู้เป็นน้องสาว ซึ่งขณะนั้นแย้มก็ชอบพออยู่กับ ทิดเทือง-ลูกชายเศรษฐีใหญ่แห่งหนองนมวัว


พ.ศ. 2510

ณ ตลาดชุมแสง จ.นครสวรรค์ ตระกูลแบ้ของ หลักเซ้ง และ นางย้อย อัศวรุ่งเรืองกิจ เถ้าแก่ 2 ผัวเมียเจ้าของโรงสีและร้านชำที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ
ทั้งคู่แต่งงาน-อยู่กินกันมา 20 กว่าปี มีลูกชายสืบทอดวงศ์ตระกูลถึง 4 คน ได้แก่ ปฐม(ใช้), ประสงค์(ตง), กมล(ซา), มงคล(สี่)


ปฐม-ลูกชายคนโตไปรับราชการเป็นทหารอยู่ฐานทัพกองบินสี่ตาคลี ได้พาเรณู-หญิงสาวนั่งบาร์เข้าบ้าน เนื่องจากเรณูใช้สน่ห์คุณไสย์มัดใจปฐมจนเขาถอนหมั้นพิไล-คนรักเก่าเป็นถึงลูกสาวเถ้าแก่โรงสีแห่งต.ทับกฤช


ประสงค์-ลูกชายคนรอง เวลานั้นบวชพระจำต้องสึกออกมาแก้หน้าแต่งงานกับพิไลแทน เพราะแม่ย้อยต้องการสะใภ้อย่างพิไลมาไว้เยาะเย้ยเรณู เรณูจึงยอมทำเสน่ห์ใส่ย้อยอีกคนเพื่อให้แม่ผัวเมตตาจนถึงขั้นซื้อสร้อยทองให้ใส่ พิไลซึ่งตกเป็นสะใภ้รองสั่งให้นายเชิด-ลูกน้องพ่อไปทำร้ายเรณูแล้วกระชากสร้อย


กมล-ลูกชายคนที่สามถูกกำหนดให้แต่งงานกับเพียงเพ็ญ-ลูกสาวกำนันศรจากทุ่งฆะมัง แม้ว่าเขากำลังผูกใจสมัครรักกับจันตา-ลูกจ้างสาวร้านสังฆภัณฑ์ในละแวกใกล้บ้าน กมลมารู้ภายหลังว่าเพ็ญตั้งท้องกับก้าน-ชายคนรักที่ฆะมังก่อนมาอยู่กินกับเขา ทั้งคู่จึงแอบไปจดทะเบียนหย่ากัน แต่กมลก็ยังไม่สมหวังกับจันตาที่เพิ่งตกลงแต่งงานกับปลัดจินกร


ระหว่างนั้นหลักเซ๊ง สามีคู่ทุกข์คู่ยากของย้อยก็ล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็ง จากนั้นไม่นานก็เสียชีวิต สร้างความเสียใจให้กับย้อยและลูกๆเป็นอย่างมาก


ต่อมามงคล-ลูกชายคนเล็กของย้อย กำลังเรียนอยู่ปากน้ำโพก็ไปพัวพันกับมาลา-เด็กสาวในร้านเสริมสวยจนเธอตั้งท้อง มาลาไปแสดงตัวต่อหน้าแม่ย้อย แต่แม่ย้อยก็ยังไม่ยอมรับจนกว่ามงคลจะกลับมาพูดคุยเรื่องของมาลา กระทั่งวันที่ 31 ธ.ค. หลังเรียนจบ มงคลมีอันต้องจมน้ำเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 17 ปี ทำให้แม่ย้อยกลายเป็นเสาหลักที่ต้องเผชิญหน้ากับการสูญเสียทั้งสามีและลูก


พ.ศ. 2511

ช่วงต้นปี จันตาตกลงแต่งงานกับปลัดจินกร แต่ระหว่างพิธีได้เกิดเรื่อง พี่สาวของจินกรเข้างานมาแล้วประณามถึงจันตาว่าเคยตกเป็นเมียน้อยสามีหล่อน ทำให้พิธีต้องพังลง กมลขอแม่ย้อยเป็นคนรับผิดชอบจันตาย๊ายไปปักหลักด้วยกันจ.เชียงใหม่


สมาชิกบ้านแบ้เดินจากไปทีละคน พิไลได้จังหวะเปิดโปงเรื่องที่เรณูทำเสน่ห์แล้วพาหมอสมดีผู้มีอาคมมาทำพิธีเอาของออกจากแม่ย้อยต่อหน้าชาวบ้าน
เรณูจึงถูกคนในชุมแสงขับไล่แล้วย้ายหนีไปอยู่อ.พยุหะคีรีกับวรรณา-น้องสาวเรณู ด้วยความรู้สึกผิด เรณูจึงขอให้หมอก้อนผู้ทำเสน่ห์ที่อ.ตาคลี เอาคุณไสย์ออกจากปฐมด้วยอีกคน ขณะนั้นปฐมก็ได้เมียใหม่ชื่ออรพรรณี เป็นลูกสาวของเจ้านายเขา


พิไลเองก็หาได้สงบสุข เพราะกรรมเก่าจึงหวาดระแวงกลัวจะมีคนมาทำร้าย จนกระทั่ง ติ๋ม-เพื่อนอาชีพเก่าของเรณู มาปั่นหัวจนพิไลหลุดพูดความจริงว่าเป็นคนจ้างคนไปทำร้ายเรณู พิไลอับอายจึงขอโทษแม่ย้อยและเก็บข้าวของย๊ายกลับทับกฤช เรื่องยุ่งๆผ่านไปสักพัก แม่ย้อยตั้งสติได้จึงเดินทางไปเยี่ยมเรณูและปรับความเข้าใจกัน

พ.ศ. 2514

ผ่านไป 3-4 ปี ชีวิตลูกชายแต่ละคนไม่เป็นดังที่ย้อยเคยคาดหวังและจัดแจงไว้ เด็กหญิงกมลาที่อายุ 3 ชวบ เป็นลูกสาวของมงคลที่ถูกมาลานำมาทิ้งไว้
โดยกมลและจันตารับเป็นพ่อ-แม่ซึ่งได้ตึกที่อยู่ปากน้ำโพไว้ทำมาหากิน ประสงค์กับเด็กในร้านที่ชื่อบุญปลูกได้ตกลงอยู่กินเป็นผัวเมียและดูแลกิจการร้านชำกับโรงสีต่อไป


พ.ศ. 2515


ณ ทุ่งหนองนมวัว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ เรื่องราวของสองตระกูลระหว่างนายเทือง-นางแย้ม หมั่นกิจ ที่มีลูกชายคนโต ประยงค์แต่งงานกับอัมพร
ลูกสาวคนโตของนายขัน-นางอ่ำ ชื่นศรี คืนฝนตกน้ำท่วมนาของนายเทืองจนต้องขุดดินปล่อยน้ำเข้านานายขัน และนายขันบันดาลโทศะฆ่านายเทืองก่อนวิ่งหนีไปโดนฟ้าผ่าดับดิ้นตายตกตามกัน

 
นางแย้มหาทางจองเวรลูกเมียนายขันทุกครั้งที่มีโอกาส พออัมพรคลอดลูกชายก็ถูกนางแย้มหาวิธีไล่ออกจากบ้าน
แล้วเอาด.ช.ยงยุทธที่ยังแบเบาะไปฝากไว้ที่บ้านของนางย้อยผู้เป็นพี่สาวที่อยู่ปากน้ำโพ


วันที่ 2 ก.ค. ประยงค์ถูกหมาบ้ากัดจนเสียชีวิตในวัย 23 ปี อัมพรหาทางที่จะเอาลูกคืนโดยมีอุไร-น้องสาวช่วยหาวิธีแก้เกมกับความร้ายนางแย้ม
แต่อุไรก็เจอฤทธิ์นางแย้มเข้าอีกคน หลังจากที่อุไรได้เสียกับลือพงษ์-ชายคนรัก นางแย้มจึงให้ประยูร-ลูกชายคนที่สองของนางเข้ามาแทรกกลางจนลือพงษ์เข้าใจอุไรผิดและตีตัวออกห่าง เป็นช่องว่างให้พะยอม-ลูกสาวคนสุดท้องของนางแย้มได้ใกล้ชิดจนถูกจับให้ตบแต่งงานตัดหน้าอุไร


นางแย้มประกาศให้ชาวบ้านหนองนมวัวรับรู้ว่าอัมพรขายลูกกิน ส่วนอุไรท้องไม่มีพ่อ จนนางอ่ำต้องตัดสินใจปล่อยเซ้งที่นาแล้วพาลูกสาวทั้ง 2 คน ทิ้งทุกอย่างแล้วหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในตัวเมือง

 
พ.ศ. 2518

เรณูเปิดร้านขายขนมควบคู่ไปกับการเลี้ยงดูลูกชาย 2 คน คือเรวัต(ป๊อก)-ลูกติดที่เกิดจากพี่เขย และประณต-ลูกติดจากปฐม แต่บ่อยครั้งเธอยังพาลูกไปเยี่ยมแม่ย้อยที่ตอนนี้ย๊ายไปอยู่ปากน้ำโพได้พักนึงแล้ว ย้อยได้ข่าวปฐมประสบอุบัติจากหนังสือพิมพ์ จนถึงขั้นช็อคหัวใจวาย ขาดใจตายวันที่ 10 ก.พ. ในวัย 51 ปี ประสงค์และกมลยังต้องวุ่นกับการแบ่งขายที่ดินเอามาเป็นค่ารักษาปฐม ซึ่งอรพรรณีไม่สนใจไยดีและทิ้งไปในที่สุด


หลายปีต่อมา

ปฐมรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บสาหัสจนหายเป็นปกติ โดยมีเรณูอยู่เคียงข้าง และในทุกปีลูก-หลานบ้านแบ้ ปฐม-เรณู, ประสงค์-บุญปลูก, กมล-จันตา ฯลฯ ทุกคนจะมารวมตัวกันทำบุญเพื่อระลึกถึงเตี่ยกับม้า รวมถึงอาสี่.

พ.ศ. 2534

ยงยุทธในวัย 19 ปี เติบโตขึ้นภายใต้การปกครองของนางแย้ม ขณะที่อัมพรไม่มีสิทธิ์ได้พบหน้าลูก แต่เธอก็ได้แต่งงานกับรตอ.ทวี และมีลูก 2 คนคือ ธนากับมยุรีย์ ทางด้านอุไรก็เลี้ยงดูระพีพรรณที่เกิดจากเธอกับลือพงษ์จนสอบเข้าแพทย์ได้ และพะยอมที่ได้แต่งงานกับลือพงษ์ก็มีลูกชายคือลือชัยซึ่งไม่สนใจการเรียน


ประยูรได้แต่งงานกับสุดา มีลูกด้วยกัน 2 คนคือปวริศที่หลงรักระพี-ลูกสาวอุไร และลลดาที่หลงรักธนา-ลูกชายอัมพร สร้างความกังวลให้สุดาและกลัวลูกๆของเธอจะไม่ได้สมบัติจากย่าแย้ม ส่วนยงยุทธกับธนา ซึ่งเป็นพี่น้องต่างพ่อก็หลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน คือหทัยรัตน์ แม้ว่าความแค้นแยกผู้ใหญ่สองตระกูลห่างจากกัน แต่ความรักก็ยังต้องนำพาลูกหลานจากพวกเขาให้กลับมาเกี่ยวข้องกันอยู่ดี

พ.ศ. 2544


อัมพรตรอมใจจนเสียชีวิตลง ก่อนที่นางแย้มล้มป่วยเป็นโรคมะเร็ง ซ้ำยังถูกสุดาแอบเร่งสายร้ำเกลือทำให้หัวใจวายตาย ณ วันที่ 3 มี.ค. สิริอายุ 75 ปี ประยูรและพะยอมเข้ามาขอขมาต่อแม่อ่ำและอุไร เพื่อขออโหสิเพื่อให้ปวริศและระพีได้แต่งงานกัน ยงยุทธตัดสินใจบวชให้กับแม่อัมพรและย่าแย้ม และเปิดใจให้ธนาเข้ามาดูแลหทัยรัตน์แทนที่เขาตลอดไป


จากปฐมบทของ "แม่ย้อย" กรงกรรม และ "แม่แย้ม" สุดแค้นแสนรัก
แม้สิ้นวาระ แต่หนทางของลูกหลานยังดำเนินต่อไป



ขอบคุณผู้ประพันธ์....จุฬามณี.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่