การเดินทางทำให้เราได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ ทุกครั้งที่ก้าวเท้าออกจากที่ที่เคยอยู่ เหมือนได้หลุดออกไปอยู่โลกอีกใบหนึ่ง ได้แบกเป้เดินทางท่องเที่ยว🎒 นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ออกเดินทางข้ามประเทศไปยังอีกฟ้าหนึ่ง
ในรายวิชาอาเซียนศึกษา ได้มอบหมายให้นิสิตศึกษาเรียนรู้ประเทศสมาชิกในอาเซียน กลุ่มของพวกเราได้เลือกไปที่หลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ เป็นเมืองที่องค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก
----------------------------------------------
ทริปนี้สำหรับคนที่มีเวลาน้อยเที่ยวหลวงพระบางใน1 วัน😂
-------------------------------------------------
การเดินทาง
เย็น 5 เม.ย.62 เดินทางจากกรุงเทพฯ
เช้า 6 เม.ย. 62 ถึงจ.เลย
เย็น 6 เม.ย. 62 ถึงหลวงพระบาง
วันที่ 7 เที่ยวทั้งวัน
เช้า 8 เม.ย. 62 เดินทางกลับ
ตารางเดินรถ
เลย- หลวงพระบาง รถออก 08.00 น.ทุกวัน วันละรอบ
สามารถจองตั๋วก่อนได้ที่เบอร์
042-811706
หลวงพระบาง-เลย รถออก 08.00น. วันละรอบเหมือนกัน
สามารถโทรจองตั๋วไว้ก่อนได้
020-29073036
--------------------------------------------------
สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริปนี้ต่อคน
ค่ารถ หมอชิต-เลย 440 บาท
ค่ารถ เลย-หลวงพระบาง 700 บาท
ที่พัก 2 คืน คืนละ 205 บาท
ค่าเหมารถจาก บขส. หลวงพระบาง มาที่พัก 300 บาท คนละ60 บาท
-เราแลกเงิน 2,000 บาท ได้ 546,000 กีบ
ลงขันกันคนละ1000 บาท ใช้สำหรับเป็นค่ารถ และค่าเข้าชมสถานที่
อีก 1000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่ารถจากหลวงพระบาง - เลย
(180,000 กีบ หรือประมาณ 6ุ60 บาท)
รวมค่าใช้จ่าย 3610 บาท
--------------------------------------------------
การเดินทางง่ายแสนง่าย ไม่มีรถส่วนตัวเราก็ไปได้ พร้อมแล้วไปดูกันเลยย
#เที่ยวหลวงพระบาง #onedaytrip #เวลาน้อย #หนีคนลวงไปหลวงพระบาง #เที่ยวลาว #เที่ยว1วัน #เที่ยวไหนดี #เที่ยวด้วยรถทัวร์
เย็นวันที่ 5 ม.ย.62 ประเดิมด่านแรกกันที่หมอชิตพวกเราขึ้นรถรอบ20.30 น.กรุงเทพฯ- เลย
ถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเลย เวลา06.00 น. ตรงเพล้ง
จากนั้นเราก็ไปติดต่อรับตั๋ว ซึ่งพวกเราได้จองล่วงหน้าไว้(แนะนำหากไปช่วงเทศกาลให้จองล่วงหน้าไว้เพราะตั๋วรถหมดเร็วมากก)
เช็คชื่อขึ้นรถ!!5555 กายพร้อม! ใจพร้อม! เงิน..!!.>//< พร้อมเดินทางแล้วค่าาา
พอถึงด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง อำเภอท่าลี่
เขาก็จะให้ลงรถเพื่อปั๊มพาสปอร์ตข้ามแดน รูปนี้จะเป็นด่านฝั่งไทยค่ะ
ถะแด๊มมม!! ข้ามแดนมาอย่างเป็นทางการ
พักกินข้าวเที่ยง ในตั๋วรถก็จะมีบัตรอาหารให้พนักงานขับรถก็จะถามเราก่อนว่าเที่ยงนี้จะกินอะไร เมนูก็จะมี เฝอ ข้าวเปียก ข้าวผัด ผัดกระเพรา แล้วเราก็เลือกกินเฝอ เป็นเมนูที่มาลาวก็ต้องลอง (อารมณ์ก็จะเหมือนกับก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา) แต่เฝอจะใส่กะปิด้วย
รถก็จะแวะส่งคนไปเรื่อยๆค่ะ รูปนี้ถ่ายตอนรถจอดส่งคน
กว่าจะถึงหลวงพระบางก็ปาไปเกือบสามทุ่ม
เนื่องจากรถแวะรับ-ส่งคนไปเรื่อยๆ จึงทำให้มาถึงช้า
นี่คือที่พักของเราค่ะ หลังจากมาถึงเราก็เช็คอินเข้าที่พัก และเอาของไปเก็บ พวกเราจองที่พักไว้ล่วงหน้าก่อนมาแล้วค่ะ
หลังจากเก็บของเสร็จเราก็ไปแลกเงิน สถานที่แลกเงินมีเยอะแยะเลยค่ะ
เอาล่ะเมื่อมีเงินเราก็ไปต่อได้ เนื่องจากพวกเรามาถึงดึกตลาดมืดจึงวายหมดแล้ว เหลือร้านนี้เป็นร้านสุดท้ายที่เราจะฝากท้องก่อนกลับไปพักผ่อน
อรุณเบิกฟ้านกกาโบยบิน เริ่มต้นการใช้ชีวิตในหลวงพระบาง
สะสมบุญกันหน่อย^^
ตักบาตรข้าวเหนียว เป็นประเพณีท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อและเป็นเอกลักษณ์ สามารถหาซื้อข้าวเหนียวมาใส่บาตรได้ตามร้านข้างทาง ทางร้านก็จะมีผ้าเบี่ยงไว้ให้นักท่องเที่ยว ราคาข้าวเหนียวกระติบละ 20,000 กีบ ประมาณ 80 บาท
หลังจากตักบาตรเสร็จเราก็ไปต่อกันที่ตลาดเช้าค่ะ
ข้าวจี่ก็มา
น้ำผึ้งป่าก็มี
ร้านนี้ดูรีวิวเขามา ชื่อว่าร้านประชานิยม เเวะกันสักหน่อย...
หลังจากรองท้องเราก็จะไปต่อที่ถ้ำปากอู
ก่อนอื่นเราต้องหารถ แล้วเราก็มาเจอกับพ่อลุงต่อรองราคากันหน่อย ภาษาเดียวกันคุยกันได้ค่ะ ราคาย่อมเยา(คุยให้เคลียร์นะจ๊ะ)
นี่คือรถที่เราจะไปค่ะ เราเหมารถพ่อลุงยาวถึงวันกลับเลยค่ะ
ค่าเหมารถที่พ่อลุงคิด ทั้งหมด 403,000 กีบ ประมาณ 1477 บาท
-ค่าเหมารถไปถ้ำปากอู-วัดเชียงทอง 273,000 กีบ
-ค่าเหมารถไปจองตั๋วกลับเลย ที่บขส.หลวงพระบาง 80,000 กีบ
-เหมาค่ารถจากที่พัก ไป บขส. วันกลับ 50,000 กีบ
หมู่บ้านที่จะลงไปถ้ำปากอู
เรือข้ามฟากค่ะ
ถึงแล้วถ้ำปากอู หรือเรียกอีกชื่อว่าถ้ำติ่ง
ถ้ำแห่งนี้แสดงถึงยุคแห่งการปฏิวัติความเชื่อของชาวลาวในอดีตที่เคยนับถือผี พระเจ้าโพธิสารราชทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนาเป็นผู้นำพุทธศาสนาเข้ามา และทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา
มีการค้นพบพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในคริสศตวรรษที่ 18-19 กว่า 2,500 องค์ ส่วนใหญ่ทำขึ้นจากไม้ เมื่อตอนค้นพบใหม่มีพระพุทธรูปจำนวนหนึ่งที่ทำด้วยเงินและทองคำ แต่ถูกลอกออกไปหมด นับแต่นั้นมาถ้ำติ่งจึงเป็นถ้ำที่ศักดิ์สิทธิ์ เจ้ามหาชีวิตแห่งหลวงพระบางต้องไปสักการบูชาพระพุทธรูปในถ้ำ โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ลาวทั้งเจ้ามหาชีวิต ข้าราชบริพาร พระสงฆ์ ประชาชนทั่วไปจะเดินทางไปสรงน้ำพระพุทธรูปที่ถ้ำติ่งบนและถ้ำติ่งล่าง
สำหรับถ้ำบนนั้นมีทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น สองข้างทางร่มรื่นด้วยเงาไม้ ลักษณะถ้ำติ่งบนเป็นปากถ้ำไม่ลึกมาก มีพระพุทธรูปอยู่ภายในถ้ำแต่ไม่เยอะเท่าถ้ำติ่งล่าง ที่ปากถ้ำมีไฟฉายให้เช่าสำหรับเข้าไปส่องดูภายในถ้ำ
ที่สุดของที่เที่ยวในหลวงพระบาง คือวัดเชียงทอง นั่นเอง ต้องบอกก่อนเลยว่ามาที่นี่ต้องห้ามพลาดมาเยือนวัดแห่งนี้เด็ดขาด เพราะเราจะได้สัมผัสสถานที่ที่นักโบราณคดีต่างก็ยกย่องว่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว มีอุโบสถตามแบบสถาปัตยกรรมหลวงพระบางแท้ สร้างเป็นหลังคาทรงเตี้ยโดยแอ่นโค้งซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น
ถ้ามาตอนเย็น ด้านหลังนี้จะสวยมาก แสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องสะท้อนกระจก ระยิบระยับงดงามมากเลยที่เดียวค่ะ
ภายในอุโบสถมีพระประธานสีทององค์ใหญ่
นอกจากจะมีวัดเก่าแก่มากมาย ยังมีบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ มีขนบธรรมเนียมและประเพณีที่ยังคงสืบเนื่องไว้เป็นอย่างดี
มาหลวงพระบางต้องกินตำหลวงพระบางค่ะ แซ่บมากก
หลังจากนั้นพวกเราได้ไปต่อที่ พระธาตุพูสีค่ะ
จุดฮอตฮิตในการถ่ายรูป
แสงของดวงอาทิตย์ทอดลงแม่น้ำโขงยามเย็น บรรยากาศดีมากค่ะ
เดินทางมาทั้งวันก็เริ่มหิวแล้วล่ะค่ะ เรามากันที่ตลาดมืด ซึ่งเราเดินลงมาจากเขาพูสีก็เจอตลาดเลยค่ะ
ร้านที่คนต่างชาตินิยมเข้าคงจะเป็นร้านไหนไม่ได้นอกจากร้านนี้ ราคาเหมาจ่ายแบบบุฟเฟ่ต์ ในราคาชามละ 15,000 กีบ หรือประมาณ 55 บาท เราสามารถตักได้ทุกอย่าง ทั้งของหวาน ของคาว และผลไม้ แต่สามารถตักได้ครั้งเดียว
จบแล้วสำหรับทริปนี้ ขอบคุณประสบการณ์ ขอบคุณผู้ร่วมทริป ไว้มีทริปหน้าพวกเราจะมารีวิวกันใหม่นะคะ
บ๊ายบายยค่าา^^
[CR] "หนีคนลวงไปหลวงพระบาง"
ในรายวิชาอาเซียนศึกษา ได้มอบหมายให้นิสิตศึกษาเรียนรู้ประเทศสมาชิกในอาเซียน กลุ่มของพวกเราได้เลือกไปที่หลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ เป็นเมืองที่องค์การยูเนสโกได้ยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลก
----------------------------------------------
ทริปนี้สำหรับคนที่มีเวลาน้อยเที่ยวหลวงพระบางใน1 วัน😂
-------------------------------------------------
การเดินทาง
เย็น 5 เม.ย.62 เดินทางจากกรุงเทพฯ
เช้า 6 เม.ย. 62 ถึงจ.เลย
เย็น 6 เม.ย. 62 ถึงหลวงพระบาง
วันที่ 7 เที่ยวทั้งวัน
เช้า 8 เม.ย. 62 เดินทางกลับ
ตารางเดินรถ
เลย- หลวงพระบาง รถออก 08.00 น.ทุกวัน วันละรอบ
สามารถจองตั๋วก่อนได้ที่เบอร์
042-811706
หลวงพระบาง-เลย รถออก 08.00น. วันละรอบเหมือนกัน
สามารถโทรจองตั๋วไว้ก่อนได้
020-29073036
--------------------------------------------------
สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริปนี้ต่อคน
ค่ารถ หมอชิต-เลย 440 บาท
ค่ารถ เลย-หลวงพระบาง 700 บาท
ที่พัก 2 คืน คืนละ 205 บาท
ค่าเหมารถจาก บขส. หลวงพระบาง มาที่พัก 300 บาท คนละ60 บาท
-เราแลกเงิน 2,000 บาท ได้ 546,000 กีบ
ลงขันกันคนละ1000 บาท ใช้สำหรับเป็นค่ารถ และค่าเข้าชมสถานที่
อีก 1000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่ารถจากหลวงพระบาง - เลย
(180,000 กีบ หรือประมาณ 6ุ60 บาท)
รวมค่าใช้จ่าย 3610 บาท
--------------------------------------------------
การเดินทางง่ายแสนง่าย ไม่มีรถส่วนตัวเราก็ไปได้ พร้อมแล้วไปดูกันเลยย
#เที่ยวหลวงพระบาง #onedaytrip #เวลาน้อย #หนีคนลวงไปหลวงพระบาง #เที่ยวลาว #เที่ยว1วัน #เที่ยวไหนดี #เที่ยวด้วยรถทัวร์
เย็นวันที่ 5 ม.ย.62 ประเดิมด่านแรกกันที่หมอชิตพวกเราขึ้นรถรอบ20.30 น.กรุงเทพฯ- เลย
ถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเลย เวลา06.00 น. ตรงเพล้ง
จากนั้นเราก็ไปติดต่อรับตั๋ว ซึ่งพวกเราได้จองล่วงหน้าไว้(แนะนำหากไปช่วงเทศกาลให้จองล่วงหน้าไว้เพราะตั๋วรถหมดเร็วมากก)
เช็คชื่อขึ้นรถ!!5555 กายพร้อม! ใจพร้อม! เงิน..!!.>//< พร้อมเดินทางแล้วค่าาา
พอถึงด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง อำเภอท่าลี่
เขาก็จะให้ลงรถเพื่อปั๊มพาสปอร์ตข้ามแดน รูปนี้จะเป็นด่านฝั่งไทยค่ะ
ถะแด๊มมม!! ข้ามแดนมาอย่างเป็นทางการ
พักกินข้าวเที่ยง ในตั๋วรถก็จะมีบัตรอาหารให้พนักงานขับรถก็จะถามเราก่อนว่าเที่ยงนี้จะกินอะไร เมนูก็จะมี เฝอ ข้าวเปียก ข้าวผัด ผัดกระเพรา แล้วเราก็เลือกกินเฝอ เป็นเมนูที่มาลาวก็ต้องลอง (อารมณ์ก็จะเหมือนกับก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา) แต่เฝอจะใส่กะปิด้วย
รถก็จะแวะส่งคนไปเรื่อยๆค่ะ รูปนี้ถ่ายตอนรถจอดส่งคน
กว่าจะถึงหลวงพระบางก็ปาไปเกือบสามทุ่ม
เนื่องจากรถแวะรับ-ส่งคนไปเรื่อยๆ จึงทำให้มาถึงช้า
นี่คือที่พักของเราค่ะ หลังจากมาถึงเราก็เช็คอินเข้าที่พัก และเอาของไปเก็บ พวกเราจองที่พักไว้ล่วงหน้าก่อนมาแล้วค่ะ
หลังจากเก็บของเสร็จเราก็ไปแลกเงิน สถานที่แลกเงินมีเยอะแยะเลยค่ะ
เอาล่ะเมื่อมีเงินเราก็ไปต่อได้ เนื่องจากพวกเรามาถึงดึกตลาดมืดจึงวายหมดแล้ว เหลือร้านนี้เป็นร้านสุดท้ายที่เราจะฝากท้องก่อนกลับไปพักผ่อน
อรุณเบิกฟ้านกกาโบยบิน เริ่มต้นการใช้ชีวิตในหลวงพระบาง
สะสมบุญกันหน่อย^^
ตักบาตรข้าวเหนียว เป็นประเพณีท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อและเป็นเอกลักษณ์ สามารถหาซื้อข้าวเหนียวมาใส่บาตรได้ตามร้านข้างทาง ทางร้านก็จะมีผ้าเบี่ยงไว้ให้นักท่องเที่ยว ราคาข้าวเหนียวกระติบละ 20,000 กีบ ประมาณ 80 บาท
หลังจากตักบาตรเสร็จเราก็ไปต่อกันที่ตลาดเช้าค่ะ
ข้าวจี่ก็มา
น้ำผึ้งป่าก็มี
ร้านนี้ดูรีวิวเขามา ชื่อว่าร้านประชานิยม เเวะกันสักหน่อย...
หลังจากรองท้องเราก็จะไปต่อที่ถ้ำปากอู
ก่อนอื่นเราต้องหารถ แล้วเราก็มาเจอกับพ่อลุงต่อรองราคากันหน่อย ภาษาเดียวกันคุยกันได้ค่ะ ราคาย่อมเยา(คุยให้เคลียร์นะจ๊ะ)
นี่คือรถที่เราจะไปค่ะ เราเหมารถพ่อลุงยาวถึงวันกลับเลยค่ะ
ค่าเหมารถที่พ่อลุงคิด ทั้งหมด 403,000 กีบ ประมาณ 1477 บาท
-ค่าเหมารถไปถ้ำปากอู-วัดเชียงทอง 273,000 กีบ
-ค่าเหมารถไปจองตั๋วกลับเลย ที่บขส.หลวงพระบาง 80,000 กีบ
-เหมาค่ารถจากที่พัก ไป บขส. วันกลับ 50,000 กีบ
หมู่บ้านที่จะลงไปถ้ำปากอู
เรือข้ามฟากค่ะ
ถึงแล้วถ้ำปากอู หรือเรียกอีกชื่อว่าถ้ำติ่ง
ถ้ำแห่งนี้แสดงถึงยุคแห่งการปฏิวัติความเชื่อของชาวลาวในอดีตที่เคยนับถือผี พระเจ้าโพธิสารราชทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนาเป็นผู้นำพุทธศาสนาเข้ามา และทรงใช้ถ้ำติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา
มีการค้นพบพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในคริสศตวรรษที่ 18-19 กว่า 2,500 องค์ ส่วนใหญ่ทำขึ้นจากไม้ เมื่อตอนค้นพบใหม่มีพระพุทธรูปจำนวนหนึ่งที่ทำด้วยเงินและทองคำ แต่ถูกลอกออกไปหมด นับแต่นั้นมาถ้ำติ่งจึงเป็นถ้ำที่ศักดิ์สิทธิ์ เจ้ามหาชีวิตแห่งหลวงพระบางต้องไปสักการบูชาพระพุทธรูปในถ้ำ โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ลาวทั้งเจ้ามหาชีวิต ข้าราชบริพาร พระสงฆ์ ประชาชนทั่วไปจะเดินทางไปสรงน้ำพระพุทธรูปที่ถ้ำติ่งบนและถ้ำติ่งล่าง
สำหรับถ้ำบนนั้นมีทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น สองข้างทางร่มรื่นด้วยเงาไม้ ลักษณะถ้ำติ่งบนเป็นปากถ้ำไม่ลึกมาก มีพระพุทธรูปอยู่ภายในถ้ำแต่ไม่เยอะเท่าถ้ำติ่งล่าง ที่ปากถ้ำมีไฟฉายให้เช่าสำหรับเข้าไปส่องดูภายในถ้ำ
ที่สุดของที่เที่ยวในหลวงพระบาง คือวัดเชียงทอง นั่นเอง ต้องบอกก่อนเลยว่ามาที่นี่ต้องห้ามพลาดมาเยือนวัดแห่งนี้เด็ดขาด เพราะเราจะได้สัมผัสสถานที่ที่นักโบราณคดีต่างก็ยกย่องว่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว มีอุโบสถตามแบบสถาปัตยกรรมหลวงพระบางแท้ สร้างเป็นหลังคาทรงเตี้ยโดยแอ่นโค้งซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น
ถ้ามาตอนเย็น ด้านหลังนี้จะสวยมาก แสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องสะท้อนกระจก ระยิบระยับงดงามมากเลยที่เดียวค่ะ
ภายในอุโบสถมีพระประธานสีทององค์ใหญ่
นอกจากจะมีวัดเก่าแก่มากมาย ยังมีบ้านเรือนที่เป็นเอกลักษณ์ มีขนบธรรมเนียมและประเพณีที่ยังคงสืบเนื่องไว้เป็นอย่างดี
มาหลวงพระบางต้องกินตำหลวงพระบางค่ะ แซ่บมากก
หลังจากนั้นพวกเราได้ไปต่อที่ พระธาตุพูสีค่ะ
จุดฮอตฮิตในการถ่ายรูป
แสงของดวงอาทิตย์ทอดลงแม่น้ำโขงยามเย็น บรรยากาศดีมากค่ะ
เดินทางมาทั้งวันก็เริ่มหิวแล้วล่ะค่ะ เรามากันที่ตลาดมืด ซึ่งเราเดินลงมาจากเขาพูสีก็เจอตลาดเลยค่ะ
ร้านที่คนต่างชาตินิยมเข้าคงจะเป็นร้านไหนไม่ได้นอกจากร้านนี้ ราคาเหมาจ่ายแบบบุฟเฟ่ต์ ในราคาชามละ 15,000 กีบ หรือประมาณ 55 บาท เราสามารถตักได้ทุกอย่าง ทั้งของหวาน ของคาว และผลไม้ แต่สามารถตักได้ครั้งเดียว
จบแล้วสำหรับทริปนี้ ขอบคุณประสบการณ์ ขอบคุณผู้ร่วมทริป ไว้มีทริปหน้าพวกเราจะมารีวิวกันใหม่นะคะ
บ๊ายบายยค่าา^^
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้