แต่งนิยายเล่นๆ :ศึกชิงเจ้าสมุนไพร ตอนที่ 10 พลังของ อัศวิน คีโทน และ องค์หญิงตัวจริง ( อวสาน )

เรื่องราวแห่งอาณาจักรสมุนไพรขมวดปมเข้ามาทุกที สตาร์ไลท์หมอบหมดแรงอยู่หน้าวัง อาร์โต้ ยังคงปกปักเมืองทางทะเลใต้ ไทเฮา ก็ยังคอยดูเหตุการณ์อยู่ในวังตะวันออก

อีเกิ้ล หวางวิ่งหนีแฟนคลับ   สกอร์เปี้ยนชิ ไปชุดสมุนไพร มือปืน ชี สลบเพราะดอกมะลิ 

มาตามกันต่อกับตอนอวสานว่า เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป

ในห้องโถงหลัก จอมโจรชิ ร่ำร้องขอความช่วยเหลือให้แก่ พิชญ่า ที่โดนดอกมะลิดูดเลือด กำลังค่อยๆจะเปลียนสีเป็นแดงทั้งดอก 

จอมโจรจี : องค์หญิง ลิ อาวุธของท่าน ท่านสามารถช่วยได้หรือไม่

องค์หญิง ลิ ยืนมองและส่ายหัว ทำนองช่วยไม่ได้จริงๆ แต่ อัศวิน คีโทน ในเกราะสีขาว เดินเข้ามายืนตรงหน้า จอมโจรจี และกล่าวว่า

คีโทน : จอมโจรจี เรามีทางช่วยอัศวิน พิชญ่า แต่เจ้าต้องสัญญาก่อนว่า หากเราช่วย พิชญ่า แล้ว ท่านต้องจากดินแดนนี้ไป ไม่หวนกลับมา ตามที่ท่านได้ลั่นวาจาไว้ ส่วน พิชญ่า เราจะดูแลเอง ตกลงหรือไม่

จอมโจร จี มอง อัศวิน คีโทน อย่างเคืองใจ นึกว่าจะช่วยแล้ว ยก พิชญ่า ให้ไปอยู่ด้วยกันซะอีก แต่ จอมโจร จี ก็คิดไม่นาน และ พยักหน้า รับคำ

จากนั้น อัศวิน คีโทน จึงนั่ลงข้างกาย พิชญ่า และ วางมือขวาบนหน้าผาก พิชญ่า ทันใดนั้นก็เปล่งแสงสีนวล ทั่วร่าง พิชญ่า ดอกมะลิดูดเลือด ร่วงหล่นจากร่าง แผลตามร่างกาย พิชญ่า ค่อยๆหายไป หน้ามีเลือดฝาด แต่ยังคงไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ 

ทุกคนมอง อัศวิน คีโทน และ ประหลาดใจในพลังรักษาเยียวยา

จอมโจร จี เผลออุทาน : บร๊ะเจ้า 

อะไรกันนี่  อัศวินผู้นี้คือใครกันแน่  ทุกคนยกเว้น ซันไชน์ และ ซอนเคียว ทีกำลังต่อสู้กันอยู่ ต่างมองเห็น และ สงสัยประเด็นเดียวกัน

องค์หญิง ลิ เดินมาตรงหน้า จอมโจร จี และ พูดขึ้นว่า

องค์หญิง ลิ : จอมโจร จี แท้จริงแล้ว ข้าคือ อัศวินจัสมิน ผู้เป็นองค์รัก และ ส่วน อัศวิน คีโทนนั้น แท้จริงคือ เจ้าหญิง การบูร

เราสองคนถูกเลี้ยงมาด้วยกัน และเพื่อความปลอดภัยขององค์หญิง ข้าจึงเป็นเสมือน ผู้อยู่เบื้องหน้า แต่ความจริงแล้ว การตัดสินใจทุกอย่าง มาจาก องค์หญิง การบูร ผุ้มีพลังรักษาเยียวยา เนื่องจากนางเป็นธิดาแห่งตระกูลสมุนไพร

จอมโจร จี ฟังอย่างตั้งใจ พลางนึกในว่า  ไม่ได้ถามสักหน่อย เล่าซะยาว เลย แต่ก็ดี เพราะทุกคนในห้องโถง ได้ยินเช่นกัน  

ทางด้าน ขุนแผน เห็น ซันไชน์ ต่อสู้กับ ซอนเคียว ยังไม่มีวี่แววผู้แพ้ชนะ แต่ ก็รู้แล้วว่าใครคือ องค์หญิงตัวจริง ขุนแผนจึงใช้วิชา หายตัว และไปโผล่ด้านหลังองค์หญิง การบูร  หมายจะจับเป็นตัวประกัน ขั้นสุดท้าย

แต่ทันใดนั้น มีอีกร่างหนึ่ง แทรกขึ้นมาระหว่าง ขุนแผน และองค์หญิง ก็คือ อัศวิน สตาร์ไลท์ 

ผู้มีความสามารถเคลื่อนย้ายได้ทันเทียมขุนแผน  การเผชิญหน้า ระหว่างคนจากดินแดนเดียวกัน  ขุนแผน มองใบหน้า อัศวิน สตาร์ไลท์ และ เอ่ยถามว่า  เป็นผู้ใดไฉนจึงมีพลัง เทเลพอท เช่นเดียวกับขุนแผน

อัศวินสตาร์ไลท์ มองหน้าขุนแผน และ พูดด้วยน้ำเสียงคล้ายลูกแมวที่เลี้ยงไว้ทีบ้าน 

สตาร์ไลท์ : ข้าคือ แคทตี้  ลูกของขุนผัง พี่ชายท่าน ที่ ได้รับความาช่วยเหลือจาก ไทเฮา ตอนที่รบกับ ขุนผัง และ พลัดพรากกัน และนำมาฝึกเป็นอัศวิน ตั้งชื่อว่า สตาร์ไลท์ ปกป้องดินแดนทางเหนือ และ ท่าน ขุนแผน ก็คือ น้องบิดาข้านี่เอง

ขุนแผนฟังความตามท้องเรื่อง ถึงกับน้ำตาไหล และขี้มูกไหลนิดหน่อย ฮือๆๆ มีนา เอ๊ย แคทตี้ หลานอา แล้ว ทั้งสองก็โผกอดกัน เหมือนละครตอนสองทุ่ม

สตาร์ไลท์ : ท่านอา เลิกคิดบุกดินแดนสมุนไพรเถิดหนา แล้ว หลานจะขอให้ ทาง องค์หญิง ปล่อยท่านไป และหากมีเวลาข้าจะไปเยี่ยมท่าน 

ขุนแผน เอาแขนเสื้อเช็ดน้ำตา ผงกหัว งึกงึก  เนื่องจากนี่คือ ญาติ คนสุดท้ายที่มี อะไรก็คงไม่สำคัญเท่าครอบครัว นี่คือ โดมินิค ทอเร็ตโต้ เอ๊ย คติประจำใจ พี่แผน

เมื่อฝั่งขุนแผน และ จอมโจร จี ไม่คิดจะบุก ดินแดน สมุนไพรต่อไป ทั้งสองจึง อำลา องค์หญิง 

โดย จอมโจร จี ฝากดูแล พิชญ่า และแบก มือปืน ชี กลับ ส่วน ขุนแผน ฝากดูแล สตาร์ไลท์  พร้อมกับ เดินจากไป แบบ มาทางไหน ไปทางนั้น  อา....ฟิน

โดยที่มิรู้เหตุการณ์รอบตัวใดๆ ซันไชน์ ยังคงควงขวานคู่ กระหน่ำ ซอนเคียว ที่มีเพียง คันธนู พลังแสงต้านไว้ ครั้งแล้วครั้งเล่า

จนกระทั่ง อัศวิน แอนฮาร์ท มาถึง จึงเข้าร่วมช่วย ซอนเคียว ขณะที่ องค์หญิง การบูร และ อัศวิน จัสมิน ยืนพนันกันว่า ใครจะชนะ อย่าง ชิลๆ

องค์หญิง การบูร : ข้าว่า ซันไชน์ ชนะ ต่อสองหนึ่งเลย
จัสมิน : ข้าว่า ซอนเคียวชนะ รองสองร้อย
( การพนันเป็นสิ่งไม่ดี แต่นานๆ แอบเล่นสักทีก็คงไม่มีใครจับได้ )

แล้วทั้งสองก็นั่งดูสบายใจเฉิบ

ซอนเคียว กับ แอนฮาร์ท เข้าโจมตี ซันไชน์ คนละด้าน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จนมองเห็นว่า องค์หญิง และ จัสมิน นั่งดูกันสบายใจ และ

ซันไชน์ ก็ไม่ได้รู้เรื่องว่า ขุนแผนได้กลับบ้านไปแล้วแบบไม่เรียกกันเลย ดังนั้น  แอนฮาร์ท จึงมองหน้า ซอนเคียว แล้วพยักหน้าให้ เป็นสัญญาณว่า เผ่นกันเหอะๆ 

จากนั้น ซอนเคียว และ แอนฮาร์ท กระโดดออกจากประตู ไปทางทิศตะวันออก แล้วโกยแน่บหายไปเลย

ซันไชน์ หยุดยืนมอง สองคนที่วิ่งเปิดแน่บไปอย่างดื้อๆ อ้าว  ... ซันไชน์ มองไปรอบตัว เห็นแต่ องค์หญิงการบูร และ อัศวินจัสมิน

พร้อมส่งสายตาให้ทั้งคู่ประมาณว่า ไปไหนกันหมดแล้วละ ?

อัศวิน จัสมิน : เอิ่ม เขากลับบ้านกันไปหมดแล้วจ้า ทั้งขุนแผน  จอมโจร จี เปิดตูดกลับบ้านหมดล้าว  จัสมิน บอกเสียงกวนๆ

ซันไชน์ มองซ๊าย มองขวา ยิ้มแห่ะๆ แล้ว เอามือเกาหัวแก้เขิน แล้ววิ่งกลับไปทางตะวันตก ( ซะงั้น )

จากวันนั้นเป็นต้นมา ชาวเมืองยังคงรู้เพียงว่า องค์หญิง คือ องค์หญิง ลิ และ คีโทน เป็นแค่อัศวิน  แต่มีสิ่งที่เปลียนแปลงคือ องค์หญิง บัญชาให้

สตาร์ไลท์ ได้ไปเฝ้าประตูตะวันตก เพื่อได้ ผูกมิตรกับ เหล่าตะวันตกทมิฬ ไม่ต้องระรานกันอีก

และ ฟินฝุดๆ ก็คือ อัศวิน พิชญ่า ได้ไปเฝ้าประตูดินแดนด้านเหนือ และได้พบ จอมโจร จี บ่อยขึ้น

ฝั่งตะวันออก แอนฮาร์ท ยังคงดูแลตลอดแนวแม่น้ำ และวังไทเฮา และ ฉากสุดท้าย แอนฮาร์ท ได้ฝึกต่อสู้กับ ซอนเคียว 

แอนฮาร์ท : รุ่นพี่ดูแลฝั่งตะวันออกมานาน ทำไมหลายปีหลังจึงให้ข้าดูแลแทน 
ซอนเคียว : ก็ด้วยทางด้านตะวันออก ปกติจะไม่มีศัตรู ให้เจ้าที่ฝีมือ่อนด้อยดู ก็ไม่น่าจะเสียหาย 555
แอนฮาร์ท ควงกระบองมังกร จิ้มเอว ซอนเคียว เบาๆ เป็นการหยอกแกมขู่ 
ซอนเคียว : ข้ามีภาระกิจ อื่นที่จะต้องไปทำ นอกอาณาจักรสมุนไพร ยังมีอีกหลายดินแดน เราต้องตามโลกให้ทัน อีกไม่นานจะเดินทางไกล ฝากเจ้าดูแลทางนี้ด้วย ว่าแต่หน้าเจ้าเลอะดินน่ะ 555  
แอนฮาร์ท : หน้าเลอะ แล้ว น่ารักด้วยมั้ยละ ฮิฮิ ( แอนฮาร์ ก็ อาโนเนะเป็นเหมือนกัลล์ ) 

เสียงทั้งสอง นั่งริมแม่น้ำ หัวเราะกันไป ท่ามกลางพระอาทิตย์อัง

อาณาจักรสมุนไพร รอดพ้นภัยไปอีกครั้ง แถมยังได้มิตรมาเพิ่ม  แต่การผจญภัยของเหล่าอัศวินยังไม่จบ แต่คงต้องเป็นเรื่องอื่นต่อไป

--------------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณ ทุกท่านที่ติดตาม ทั้ง พี่ซูซี่ ลุงแผน อาจารย์ จี คุณลิ คุณอ้อม  คุณแอน คุณช่างอาร์ท และ ทุกท่าน

ขออภัยกับการสะกดผิด เขียนผิด ต่างๆด้วยครับ โอกาสหน้า พบกันใหม่ครับ 

ตอนที่ 9 https://ppantip.com/topic/38815470
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่