เปลี่ยนที่ทัศคติคุณก่อนมั้ยครับ? ผมย้อนบ้างได้ไหมว่า เรียนจบปริญญาโทด้านวิศวะ แต่ตรรกะในการมองปัญหา และแก้ปัญหา ทำไมถึงดูแคบแบบนี้? เรียนก็เพราะหวังว่า ใบปริญญากระดาษหนึ่งใบจะทำให้คุณได้ตำแหน่งสูงขึ้น เงินเดือนมากขึ้นอัตโนมัติหรือครับ?  ลองคิดดูดีๆว่า ตรรกะนี่ของคุณมันสมเหตุสมผลแค่ไหน ผมบอกให้เลยว่า กฏนี้เรื่องปริญญาว่าจบโทแล้วจะเป็นหัวหน้า แม้แต่ประเทศที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีต่างๆก็ใช้ไม่ได้เสมอ สายอาชีพขึ้นมาเป็นหัวหน้าแผนก ผมก็เคยเจอมาแล้ว หัวหน้าจบตรี ลูกน้องจบโท จบเอกนี่ก็เยอะแยะจนนับไม่ถ้วน

แล้วเอาเข้าจริงๆ ปัญหาน่ะ มันอยู่ที่ตัวคุณ คุณมองปัญหายังไม่ถูกจุดเลยด้วยซ้ำ ในเมื่อคิดว่า ตัวเองมีคุณสมบัติสูงกว่าคนอื่น ก็ไปหางานที่อื่นสิครับ หาให้ได้ที่ตัวเองพอใจทั้งตำแหน่งและเงินเดือน แต่อย่าบ่นว่า ต้องมาเป็นลูกน้องปริญญาตรี ทั้งๆที่ตัวเองไม่แก้ปัญหาอะไร ไม่มีใครบังคับให้คุณทำงานนี้ แต่คำถามที่ถูกต้อง ที่คุณควรจะถามตัวเอง คือ จริงๆแล้วตัวคุณมีความสามารถสูงกว่าคนจบปริญญาตรีหรือเปล่า? ปริญญาไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกความสามารถของคนในการทำงานนะครับ แล้วที่สำคัญมากกว่านั้น โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หัดรู้จักโลกได้แล้วว่า ชีวิตนี้ไม่มีอะไรยุติธรรม แต่เราดิ้นรนที่จะทำให้สถานการณ์ของเรามันดีขึ้นได้ แต่เราต้องเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์และเข้าหาโอกาสเอง ไม่ใช่รอให้โอกาสลอยมา พอมันไม่มาแล้วมานั่งบ่น

สิ่งที่แย่ที่สุด คือ การที่คุณเรียนจบปริญญาโท แต่ไม่พูดถึงความรู้ที่ได้เพิ่มขึ้นซักคำ นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ปัญหาของคุณมันอยู่ตรงไหน คุณไม่รู้วิธีนำความรู้ที่เรียนมา ไปสร้างผลงาน สร้าง Profile ให้หางานดีๆได้เอง ความรู้ไม่มีเสียเปล่าหรอกครับ แต่มันอยู่ที่เฉพาะบุคคลเองว่า รู้จักจะใช้ความรู้นี้มาพัฒนาตัวเองหรือเปล่า รู้จักนำมันมาปรับใช้ให้ตัวเองเด่นกว่าคนมีปริญญาตรีให้สมกับปริญญาโทที่ได้หรือเปล่า ขึ้นชื่อว่าเป็นวิศวกร ก็คือ อาชีพที่ต้องรู้จักทำความรู้มาประยุกต์ใช้เป็นหลัก ถ้าทำไม่ได้ ก็นั่งบ่นต่อไปครับว่า ทำไมต้องมานั่งเป็นลูกน้องปริญญาตรี แต่ต้องโทษตัวเอง ไม่ใช่สิ่งรอบตัว