เรื่องจริงจากการเสริมคาง ทั้งฉีดฟิลเลอร์และเสริมซิลิโคน

ครั้งที่สาม เราตัดสินใจไปปรึกษากับหมอเพื่อ เสริมคาง แต่ก่อนจะเสริมคาง หมอก็บอกว่า ด้วยความที่เราฉีดฟิลเลอร์มาก่อน จำเป็นต้องขูดออก หลังจากเสริมคางได้ไม่นาน ก็เกิดอาการนอยตัวเอง เหมือนยังไม่พอใจกับคางที่เสริมมา เลยคิดอยากเอาซิลิโคนออก แล้วไม่เสริมแล้ว แต่มันไม่ใช่แค่เอาออกแล้วจะกลับมาเป็นปกตินะทุกคน มันทำให้เราดูมีเหนียง มีเนื้อคางย้อย ไม่กระชับอ่า ตอนนั้นไม่กล้าออกไปที่ไหน ยิ่งส่องกระจกยิ่งนอยเพราะเห็นคางตัวเองเป็นแบบนั้น

ครั้งที่สี่ หลังเสริมซิลิโคนแล้วไม่ชอบ เลยกลับไปฉีดฟิลเลอร์อีกครั้ง เพื่ออยากให้เนื้อมันเต็ม ไม่ย้วย แต่ความจริงแล้ว ยิ่งฉีดมันก็ยิ่งไปสร้างผังผืดหนักมาก

สุดท้ายพอคางเริ่มเป็นพังผืดหนักมาก จนจะหมดปัญญาแก้แล้ว แต่เราก็ลองไปปรึกษาคุณหมอที่ รพ ดู คราวนี้คืองานใหญ่เลย คือต้องขูดคางและเนื้อก็จะหายไป จะเสริมคางยากขึ้น เพราะกลายเป็นคางเรรามีโพรง มีช่องโหว่ ใส่ซิลิโคนไปก็หลวมแน่นอน ตอนฟังที่คุณหมอพูดก็งงๆ ตกใจว่าเออจะเสริมซิลิโคนได้ไหมเนี้ย คือถ้าเสริมไม่ได้คางก็จะโหวงๆ ห้อยๆ ไปเลย รับสภาพแบบนั้นไม่ได้แน่ๆ

คุณหมอก็บอกว่า เสริมอีกครั้งเสริมได้นะ แต่ต้องขูดเพิ่มอีก ด้วยความที่ต้องขูด มันเลยทำให้เนื้อตรงคางหายไปเยอะมาก จนทำให้คางเรามีช่องโหว่ พื้นที่เยอะ ประเด็นคือใส่ซิลิโคนไม่เต็ม หมอเลยเสริมไปสองชั้น ข้างหน้าแล้วใต้คาง แล้วพอดีว่ามันยังมีหนังที่ย้อยนิดนึง คุณหมอเลยดึง แล้วตัดเย็บเข้า พีคมะ ไม่เคยได้ยินใครเสริมถึงสองชั้นเลย 555

และนี้คือการเสริมคางซิลิโคนครั้งสุดท้ายในชีวิตของเราค่ะ miniheart

หลังเสริมคาง โชคดีมาก เราไม่บวมไม่ช้ำ ไม่รู้ว่าเราทำมา 5 ครั้งไหม 555 ตอนนี้ก็โอเคละค่ะกับคางซิลิโคน 2 ชั้น ของตัวเอง ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วกันเนอะ ไม่อยากเจ็บตัวละจริงๆ ใครที่คิดจะฉีดฟิลเลอร์ หรือทำคางแบบเราก็ศึกษาดีๆก่อนทำนะคะ ไม่อยากให้มีคนพลาด+พังแบบเรา

.

.

.

{room_name}

[CR] เรื่องจริงจากการเสริมคาง ทั้งฉีดฟิลเลอร์และเสริมซิลิโคน

{room_name}

[CR] เรื่องจริงจากการเสริมคาง ทั้งฉีดฟิลเลอร์และเสริมซิลิโคน

กระทู้ที่คุณอาจสนใจ