เซย์ฮายทักทายทุกคนที่ผ่านมาอ่านบทความนี้ค่า เป็นการรีวิวศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิต เพราะปกติไม่ค่อยอยากแชร์อะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว แต่รอบนี้จะขอมาป้ายยาความดีงามของการทำคางครั้งล่าสุด เพราะประทับใจจนเกินกว่าจะแอบเก็บไว้คนเดียว อิอิ

          ก่อนหน้านี้เรามีการฉีดเมโสแฟตลดแก้มและเคยทำเทอร์มาจยกกระชับหน้าเรียวมาบ้าง แต่ด้วยความที่ระยะเวลาเห็นผลของมันจะไม่ถาวร แม้ว่าในการทำแต่ละครั้งจะค่อนข้างได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ก็ต้องคอยไปทำเรื่อยๆ เราเองก็ขี้เกียจไปเสียเงินและเจ็บหน้าบ่อยๆ ก็เลยตัดสินใจปรับรูปหน้าแบบถาวร ด้วยการเสริมคางไปเลยดีกว่า อย่างน้อยๆถ้าน้ำหนักขึ้น แก้มเริ่มป่อง แต่คางยังเรียวอยู่ ก็น่าจะช่วยคีพสัดส่วนหน้าให้คงรูปอยู่เหมือนเดิม

          การเสริมคางครั้งนี้เกิดจากที่เรา ดูจากที่นั่นที่นี่ ดูรีวิวติ๊กต็อกไรงี้ ใจคืออยากทำอยู่แล้ว พอยิ่งดูก็ยิ่งอยากทำ เพื่อนที่ไปทำมาก็ทำมาสวย แนะนำว่าทำที่ไหน หมอไหน ราคาดีไรงี้ จึงตัดสินใจทำ ชั้นรอไม่ไหว 555 (จริงๆใจไปตั้งแต่ 2 อาทิตย์แรกที่คิดละ hahah)

          เราเข้าไปปรึกษาคุณหมอเรื่องประเภทซิลิโคนแล้วก็ขั้นตอนการเสริม เพราะส่วนตัวทำการบ้านมาก่อนก็พอจะรู้อยู่บ้าง แต่ก็ต้องคุยเพื่อถามประวัติคร่าวๆคุยกันก่อนว่าเราชอบแบบไหน อยากได้แบบไหน ตัวซิลิโคนที่เสริมคางส่วนใหญ่จะเป็นของเกาหลีค่ะ ข้อดีคือนุ่ม ทำให้เวลาเสริมจะได้ออกมาเป็นธรรมชาติ แต่ข้อเสียคือหลังเสริมไปนานๆระยะยาวมีโอกาสยุบตัวได้ แบบที่สองคือ ซิลิโคนของ USA  เป็นซิลิโคนมีค่าความบริสุทธิ์ของซิลิโคนสูงมาก พูดง่ายๆว่าเป็นเกรดทางการแพทย์ที่นิยมกันในวงการศัลยกรรมความงาม เพราะว่ามีความปลอดภัยต่อร่างกาย ซึ่งคลินิกนี้เค้าก็ใช้เป็นของ USA ก็อ่ะ เข้าทางละ หมอบอกว่ามันมีความนิ่มอยู่ ไม่ได้แข็งอะไรมากขนาดนั้น ตัวผิวเนียน ละเอียด และมีความยืดหยุ่นสูงกว่าของเกาหลี

          ส่วนการผ่าตัดที่นี่เค้ามี 2 แบบอ่ะ แบบแผลนอกกับแผลใน แต่ละแบบหมอเค้าพิจารณาให้เหมาะกับความต้องการของเรา ง่ายๆก็คือหาจุดตรงกลางที่สุด 555 ตรงนี้ก็สำคัญ ตกลงกับหมอให้ดีๆ

- แบบแผลนอก จะเปิดแผลจากด้านนอก แถวใต้คางค่ะ แผลจะยาวประมาณ 1-2 เซน

- แบบแผลใน จะเปิดแผลในช่องปาก แถวซอกเหงือกกับริมฝีปากด้านล่าง แผลจะยาวประมาณ 1-2 เซนเหมือนกัน แต่เราจะไม่เห็นแผลเป็นที่ด้านนอก

ส่วนตัวเราเลือกทำแบบแผลใน เพราะไม่อยากให้เกิดรอยแผลเป็นหรือคีลอยด์ด้านนอกผิว จะได้ดูไม่มีรอย ผิวเนียนสวยเริ่ดๆ

          วิธีนี้ใช้เวลาผ่าตัดไม่น่าเกิน 1 ชั่วโมงนะ ถ้าจำไม่ผิด และดูแลก็ไม่ต่างกับแผลนอกเท่าไหร่ แค่ต้องระวังและอดทนช่วงก่อนไหมละลายให้ได้ ส่วนอาหารก็เราเน้นกินอ่อนๆเอาค่ะ ไม่อยากให้โดนแผล ล้างปากทำความสะอาดดีๆ หลังจากนั้นก็แค่ปรับวิถีชีวิตตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เวลาผ่านไปแป๊บๆ แผลก็สมานแห้งสนิทละ

          มาดูผลลัพธ์หลังทำแค่ 10 วัน คือเราไม่โม้เลยนะ เพราะดูไม่ออกจริงๆว่าทำคางมา แค่จะรู้สึกว่าได้รูปคางที่ดูเรียวแหลมกว่าเดิม มันไม่บวมไม่อักเสบ และไม่มีรอยแผลที่ด้านนอกเลย ตอนไปแต่งหน้าช่างแต่งหน้าคือชมไม่ขาดปากว่าหน้าได้มิติ สวยดี เราก็เล่าว่าไปทำคางมา ดีใจนะเอาจริง เพราะตั้งแต่ไปทำมาใช้ชีวิตสะดวกและส่งผลดีต่อเรื่องงานเรามากเลยค่ะ ทำให้เรามั่นใจในร่างกาย รูปร่างหน้าตาเรามากขึ้น เราไปทำแถวดินแดง ตรงข้ามกับตลาดเมืองไทยภัทรเลยค่ะ

 

          สุดท้ายเราอยากแชร์ให้คนที่อยากทำแต่ไม่กล้าทำ เพราะอาจจะเจอประสบการณ์ไม่ดีมาก่อน ส่วนตัวอยากให้ทำการบ้านเยอะๆ เพราะจริงๆแล้วมีปัจจัยหลายอย่างที่เอื้อให้การตัดสินใจของเราเป็นไปในทิศทางนั้น ส่วนตัวเราเลือกทำที่นี่ไม่ผิดหวัง ทั้งเรื่องราคา เกรดซิลิโคน เทคนิคแพทย์ รวมถึงประสบการณ์ในตัวของคุณหมอ เลยทำให้ได้คางที่ออกมาสวยสมใจ หน้าหวานกว่าบาร์บี้ก็หน้าเราคนนี้นี่แหละค่ะ อิอิ