ขอเกริ่นก่อนว่าผมไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้หนังเจมส์ บอนด์ 007 พวกบอนด์ก่อนหน้า ลุงเหี่ยว เคร็ก ผมดูแล้วเฉยๆ ออกจะไม่ชอบด้วยซ้ำ มาชอบเป็นจริงเป็นจังของยุคเฮียเคร็ก ยุคก่อนหน้ามันอาจจะดูคลาสสิกของมัน แต่เนื้อเรื่อง บท ฉากแอ็คชั่น สำหรับผมมันดูไม่สมจริง ออก fake เยอะ บอนด์ยุคก่อนๆ จะออกแนวไปที่ไหนเจอหญิงคนไหน หุ่นดีๆ เซ็กซี่หน่อยเสร็จแกหมด ไหนจะมีอุปกรณ์พิเศษจาก Q มาช่วยอีกเยอะ
อารมณ์เรื่องบอนด์เหมือนในเรื่องแบทแมนผมดูแทบทุกเวอร์ชั่น ไม่มีใครเป็นแบทแมนได้เยี่ยมที่สุดเท่าคริสเตียน เบล บอนด์ก็เช่นกันไม่มีใครเยี่ยมเท่า แดเนียล เคร็กแล้วสำหรับผม
คือ หนังตระกูล MI ก็มีการใช้สิ่งของไฮเทคเยอะนะ แต่มันดูสมจริงกว่า การทำงานแบบทีม การปลอมตัวฉากแอ็คชั่นที่ตัวทีมงานผู้สร้างพยายามทำให้ดูเรียลขึ้นเรื่อยๆทุกภาค บวกกับการแสดงบทบาทแอ็คชั่นเองของทอม ครูซ และดูไม่เว่อร์เกินเท่าบอนด์ยุคก่อนหน้าลุงเคร็ก ทำให้หนังตระกูล MI ของลุงทอม ครูซ ดังเปรี้ยงแซงหน้าหนังแนวสายลับหลายเรื่อง สำหรับบอนด์ยุคพรียรซ์ ยุคมัวร์ พวกนี้ ผมดูได้แต่ไม่ได้ถูกใจนัก มันต้องยุคเฮียเหี่ยวโหดเท่านั้น ดิบเถื่อนได้ใจ
มาในยุคของ แดเนียล เคร็ก ที่มารับบทสายลับ 007 คนใหม่ ตอนแรกช่วงหนังภาค Casino Royale เข้าฉาย มีแต่กระแสคนแอนตี้ว่าลุงแกมามาดโหด เถื่อน เกินไป ไม่มีความเป็นสายลับเจ้าเสน่ห์เหมือนตามฉบับในหนังสือที่ เอน เฟลมมิ่ง เขียนไว้ และคนดูหลายคนทั่วโลกที่ติดตามหนังบอนด์มาทุกภาค ก็ยังคงติดภาพความหล่อสำอางค์ เพลย์บอย ของ 007 ของก่อนหน้า มาในยุคเคร็ก คือ การรีเมคใหม่ ทำให้หนังบอนด์มีความสมจริงขึ้นทั้งในตัวบท และฉากแอ็คชั่นดิบๆ ถึงลูกถึงคน ตอนแรกผมนึกว่าลุงแกคงได้แสดงภาคเดียว
เพราะกระแสคนไม่ชอบ บอนด์เวอร์ชั่นแกเยอะ แต่ท้ายที่สุดแกกลับกู้หน้าให้หนังชุดนี้ได้ดำรงอยู่ต่อไป อีกสามถึงสี่ภาค โดยผู้คนที่เคยแอนตี้แกก็หันกลับมาชอบแกกันทั้งนั้น ด้วยความที่หนังต้องดำเนินต่อไป ในภาค Skyfall คือ เครื่องมือยืนยันชั้นดีว่า เคร็กนี่แหละคือสุดยอด เจมส์ บอนด์แล้ว ด้วยการแสดงของแก ไม่ว่าจะบทดราม่าหรือแอ็คชั่นคือจัดหนักจัดเต็ม แถมแกก็ได้ค่าตัวสูงขึ้นแทบทุกภาคที่มาแสดงในหนังชุดนี้ด้วย
บอนด์ของเคร็กนั่น ที่มารีเมคใหม่เพราะช่วงนั้น มันเป็นยุคทองของหนังสายลับอย่าง Jason Bourne ด้วยแหละ ที่ทำออกมาดีทุกภาค ดูสมจริงไปหมด รวมถึงเทคนิคการใช้แสงและภาพในหนังมันดูหม่นๆ ดาร์กๆดี ทำให้ถ้าบอนด์มัวแต่ทำแนวเว่อร์ เกินจริงไป มีหวังหนังไม่ได้ไปต่อ แพ้หนังชุดเจสัน บอร์นแน่นอน ซึ่งเฮียเคร็กแกก็ทุ่มเทกับบทบาทนี้มากนะ ด้วยส่วนตัวเฮียเคร็กสมัยเด็กๆ แกชอบหนังชุด เจมส์ บอนด์ อยู่แล้ว แกมีโรเจอร์ มัวร์ เป็นไอดอลในบท 007 นี้ ทำให้เวลาแสดงบทนี้แกดูอินเป็นพิเศษ แต่มาคนละลุคกับพวกมัวร์ หรือ เพรียรซ์ ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป บอนด์เคร็ก มาดิบเถื่อน ไม่เน้นหญิงมากหรือใช้อุปกรณ์ไฮเทค หรือฉลาดรู้ทันตัวร้ายตลอด มีฉลาดบ้าง โง่บ้าง โดนผู้หญิงหลอกบ้าง เจ็บเป็น เสียใจเป็น ไม่ต้องใส่สูทหล่อตลอด มีความเป็นมนุษย์สูง ไม่ใช่สายลับในคราบฮีโร่ผู้ไม่เคยแพ้เหมือนแต่ก่อน มัน
เรียลพอๆกับ แบทแมนที่คริสเตียน เบลแสดง ฉากแอ็คชั่น สตั้นต่างๆ เฮียแกแสดงเองหมด ดูจากเบื้องหลังแต่ละภาค แกก็ระห่ำไม่แพ้ ทอม ครูซ หรือ แมตต์ เดม่อน ที่แสดงฉากแอ็คชั่นเองเหมือนกัน ทั้งกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางสูงๆ วิ่งไล่บนหลังคาบ้าน กระโดดจากตึกนึงไปอีกตึกนึง แสดงจริง เจ็บจริง ทุกภาคแกบาดเจ็บระหว่างแสดงจริงทั้งนั้น แกเคยให้สัมภาษณ์ช่วงโปรโมตหนังภาค Skyfall ว่า "ผมขอปิดหนังบอนด์ไตรภาคของผมลงเพียงเท่านี้ ผมแสดงฉากแอ็คชั่นระห่ำๆมามาก จนร่างกายจะไม่ไหวแล้ว ถ้าจะมาแสดงในหนังภาคต่ออีก เอามีดมาแทงผมเถอะ" แต่ด้วยแฟนหนังบอนด์เคร็กเรียกร้องกันมาเยอะ บวกกับสัญญาหนังกับทางค่ายที่แกต้องแสดงหนังชุดนี้ไปอีกสองภาค แกจึงต้องกลับมาแสดงจนครบหมดสัญญากับค่ายไป
Bond 25 (ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ) หลังภาค Spectre ผ่านมาห้าปี หนังภาคสุดท้ายของเฮียเคร็กก็ใกล้มาแล้ว ภาค Spectre ถึงหนังจะทำรายได้ดีถล่มทลายกับคำวิจารณ์ที่ถือว่าผ่าน เพราะ เป็นหนังแอ็คชั่นฟอร์มใหญ่ลงทุนเยอะที่คนดูทั่วโลกรอคอยไม่แพ้หนังตระกูล Fast & Furious หรือ MI ก็ไม่ต้องไปหาข้อมูลหนังอะไรมาก เสียเงินไปดูในโรงเลยจบ หลังออกจากโรง หลายคนก็วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา แต่คนดูส่วนใหญ่ไม่ให้ผ่าน (ผมล่ะคนนึง) กระแสมาเยอะ การที่ตัวผู้กำกับอย่าง Sam Mendes ทำภาค Skyfall ไว้ดีขึ้นหิ้ง แต่ภาค Spectre มีดีเพียงอย่างเดียว คือ ฉากเปิดเรื่อง long take ในเม็กซิโก นอกนั้นคืออะไร บทเดาทางได้หมด ฉากแอ็คชั่นยังพอทำได้สนุกอยู่แต่ไม่สุดแบบสองภาคแรก คือถ้าจะมาดราม่าก็ให้ดีแบบภาค Skyfall
ภาค Skyfall คือ ได้ขนานนามว่าหนังบอนด์ที่ดีที่สุดของดคร็กและดีที่สุดจากจำนวนหนังบอนด์ทั้ง 23 ภาค ณ ตอนนั้น คือ เน้นดราม่านะภาคนี้ หลายคนที่ชอบบู๊ดิบๆแบบสองภาคแรก ดูแล้วอาจไม่ชอบภาคนี้ แต่ผมชอบมากๆเลยนะ มันเป็นภาคที่บอนด์ได้รับบาดเจ็บระหว่างทำภารกิจ ไม่ได้ฟิตบู๊ได้ตลอดแบบสองภาคแรก เวลามีซีนบู๊เลยดูแกเนือยๆช้าๆไปเยอะ ภาคนี้เน้นบทสนทนาแฝงนัยยะตลอด เป็นภาคที่อำลา จูดี้ เดนซ์ ในบท M หัวหน้าบอนด์ได้ดีเยี่ยม ทั้งซึ้งกินใจมาก ด้วยการปูบทมาตั้งแต่ภาค Casino Royale ที่ M กับบอนด์ เป็นเหมือนแม่กับลูกมากกว่าหัวหน้ากับลูกน้อง มันเลยดูซึ้งในภาคนี้ บวกกับตัวร้ายนี่แหละ ปังมาก เฮีย จาเวียร์ บาเด็ม แสดงได้ดีมาก ดูเป็นตัวร้ายที่ฉลาด เจ้าเล่ห์ โรคจิตดี ไม่แพ้บทในเรื่อง No Country For Old Men ของแกเลย แถมภาคนี้ก็เริ่มเอาความเป็นบอนด์เก่าๆมาใส่นะ แบบมีการเปิดตัวของ Q และ Money Penny และมีมุขจิกกัดระหว่างบอนด์ คิว และ เพนนี บ้าง แต่ยังไม่ได้ยัดความเป็นบอนด์เก่าๆเชยๆมาขนาดภาค Spectre ที่ดูแล้วไม่ประทับใจอย่างแรง ภาคนี้ยังคงความดิบ สมจริงไว้อยู่
ภาค Spectre เฮียแซมแกพยายามทำหนังบอนด์ให้กลับไปดูเหมือนยุคแต่ก่อน ทั้งการแต่งกาย มุขตลกหยอดกันตลอดระหว่างบอนด์กับคิว การงัดเอาอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆมาใช้ การที่บอนด์เคร็กไปแอ้มสาวมากขึ้นกว่าภาคก่อนๆ มันดูเชยๆไปแล้ว ถ้าทำในยุคบอนด์เพรียรซ์คงเวิร์ค และไม่เหมาะกับบอนด์เคร็กเอาเสียเลย และการแคสเอาดาราระดับออสการ์อย่าง คริส ต็อฟวอลซ์ มาแสดงในบทตัวร้าย ก็ดูเป็นตัวร้ายที่โง่งี่เง่าสิ้นดีบวกกับบทที่ดูธรรมดาเกินไป บทไม่ส่งแกเลย เสียดายมาก ทำให้ผู้กำกับ Sam Mendes โบกมือบ้ายบายไป
Bond 25 ตอนแรกมีข่าวลือว่าเฮีย คริสโตเฟอร์ โนแลนจะมากำกับ เป็นมาตั้งแค่ภาค Skyfall ยันภาคล่าสุดแล้วล่ะ มีแต่ข่าวว่าเฮียแกจะมากำกับหนังบอนด์สักที
แต่แฟนๆก็ผิดหวังเช่นเคยเพราะเฮียแกบอกว่า ยังก่อน แกยังมีอีกหลายโปรเจ็กต์ที่ต้องทำ ใจจริงแกอยากกำกับหนังเจมส์ บอนด์มาตั้งแต่สมัยแกทำหนังเรื่องแบทแมนแล้ว ตัวเฮียแกยังชม Sam Mendes เลยนะว่าภาค Skyfall ทำดีมาก และแกก็ชอบบอนด์เคร็กด้วยนะ แต่เฮียแกบอกในอนาคตได้เห็นแกกำกับหนังชุดนี้แน่นอน แกอยากสร้างบุคคลิกบอนด์ขึ้นใหม่และหานักแสดงนำในบทบอนด์ใหม่ด้วยตัวเอง คือ ประมาณแกจะสร้างจักรวาลหนังบอนด์เป็นแบบฉบับของตัวเองแบบที่แกทำในเรื่องแบทแมน อาจจะดูดาร์ก ดราม่า และสมจริงกว่าบอนด์เคร็กก็เป็นได้ มาแนว The Dark Knight ไรประมาณนี้ ฮ่าๆๆ
เป็นที่น่าเสียดายที่ Bond 25 ตอนแรกได้ตัวผกก.มากฝีมือสายดราม่าอย่าง Danny Boyle จากเรื่อง Steve Job มากำกับ รู้สึกว่าแกได้มาเริ่มวางแผนกับทีมงานแจกงานไปแล้วแล้วก็ถ่ายทำไปแล้วนิดนึงนะ แต่ด้วยบทหนังที่เขียนมาไม่เคลียร์กับแก องค์ประกอบต่างๆในหนังภาคใหม่มันไปไม่เหมาะกับแกบวกกับแกไม่ค่อยกินเส้นกับแดเนียล เคร็กและทีมงานผู้สร้างด้วยแหละ แกเลยต้องถอนตัวออกจากโปรเจ็กต์นี้แต่แกก็ยังทำหน้าที่ในหนังเรื่องนี้อยู่ไปร่วมเป็นคนหนึ่งในทีมเขียนบทแทน
ตอนนี้ได้ผกก.คนใหม่ซึ่งผมไม่เคยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามแกคนนี้มาก่อน แต่ดูแต่ละผลงานที่แกทำจะเป็นหนังแนวดราม่าซะมากกว่า ผกก.คนนี้คือ แครี่ โจจี้ ฟุคุนะงะ เป็นลูกครึ่งอเมริกัน ญี่ปุ่น ... เดี๋ยว ครั้งแรกในประวัติศาสตร์หนังบอนด์เลยรึเปล่า ที่ผกก.เป็นคนอเมริกา ที่ผ่านมามีแต่คนอังกฤษและมีเครือสหราชอาณาจักรบ้าง แต่แกคนนี้มาได้ไง งง อยู่ ทีมงานคงเล็งแกไว้หลังที่บอยด์ถอนตัว คงไม่มีผกก.ชาวอังกฤษแท้ๆว่างจริงๆ เลยเอาอเมริกันก็ได้
ดูผิดคอนเซ็ปต์แต่แรกของหนังชุดนี้ไปนะ ต้องรอดูว่าคนอเมริกันอาจจะทำหนังสายลับอังกฤษออกมาดีกว่าคนในชาติตัวเองทำก็ไเด้นะ ฮ่าๆๆ
นักแสดงนำหลักๆก็มาจากภาคก่อนๆกันทั้งนั้น แดเนียล เคร็ก ป๋าบอนด์ของเรา, เลอา แซดู นักแสดงสาวชาวฝรั่งเศส สาวบอนด์จากภาคก่อน ที่ได้แสดงต่อกันสองภาคเลยนะเนี่ย ปกติสาวบอนด์จะโผล่มาภาคเดียว ไม่โดนผู้ร้ายฆ่าตายก็หายไปดื้อๆ, เบน วิชอว์ พี่แว่นเนิร์ด Q นั่นเอง, นาโอมิ แฮร์ริส ในบท มันนี่ เพนนี และตัวหัวหน้าบอนด์ M คนปัจจุบัน (เรล์ฟ ไฟนส์) ก็กลับมาแสดงนะ ยังมีตัวร้ายใหม่ที่โผล่ออกมาไปแคสเอานักแสดงมากฝีมือที่เพื่อคว้ารางวัลออสการ์มาหมาดๆจากเรื่อง Bohemian Rhapsody (2019) อย่าง รามี มาเลค นักแสดงชาวอเมริกัน มาแสดงเป็นคู่ปรับบอนด์คนใหม่
เรื่องย่อคร่าวๆ หลังเหตุการณ์ภาค Spectre บอนด์ได้ลาออกจาก MI6 ไปใช้ชีวิตอยู่กับแฟนสาวของเขาในประเทศจาไมก้า แต่ฟินิกซ์ (ใครจำพี่มืดคนนี้ได้บ้าง สายลับ CIA ที่โผล่มาสองภาคแรก เขากลับมาแล้ว นักแสดงก็คนเดิมนะ) ได้มาขอร้องให้เขาช่วยทำภารกิจ ยับยั้งแผนการก่อการร้ายของผู้ร้ายไอทีที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทค คราวนี้บอนด์ต้องมาเผชิญศึกใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้ทำเพราะเพื่อนเก่าขอร้อง ดิบๆไม่พึ่งเทคโนโลยีแบบบอนด์เคร็กต้องมาเจอกับผู้ร้ายไอที งานนี้มันแน่นอนครับผม ได้ดกันจริงๆ เดือนเมษายนปีหน้าครับ
แอบแปลกนะ ปกติหนังบอนด์หลายภาคที่ผ่านมาชอบเข้าฉายเดือนพฤศจิกายน ภาคนี้มาฉายเดือนเมษายน ปกติเดือนนี้ หนังเรื่องฟาส ชอบจองไว้กินเงินจุอยู่เรื่องเดียว ว่าแต่...หนังมันเข้าชนกันเลยนี่หว่า ปีหน้า ต้องรีบเก็บเงินจองตั๋วทั้งสองเรื่อง คนแน่นโรงทั้งสองเรื่องแน่นอน ระดับหนังแอ็คชั่นสายลับฟอร์มบิ๊กทั้งสองเรื่อง เรื่องหนึ่งเป็นหนังสายลับอังกฤษ อีกเรื่องเป็นหนังทีมสายลับรถซิ่งอเมริกัน เดือดๆๆ ผมรับรองได้ว่ารายได้ดีทั้งสองเรื่อง แต่ต้องรอมาดูคำวิจารณ์หนังกับรายได้อีกที ว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน เล่นมาเข้าเดือนเดียวกันแบบนี้
โลเคชั่นหลักๆที่ทีมงานเผยออกมาในการถ่ายทำมีทั้ง จาไมก้า, นิวซีแลนด์, สวิตเซอร์แลนด์ และขาดไม่ได้ ลอนดอน อังกฤษ
ส่วนตอนนี้ทางทีมงานและผู้สร้างก็เล็งนักแสดงสัญชาติอังกฤษหลายคนนะ ที่จะมารับบทเจมส์ บอนด์ต่อจากเฮียเหี่ยวเคร็ก ทั้ง เฮนรี่ คาวิลล์, ไมเคิล ฟาสเบนเตอร์, ไฮดริส อิสบ้า, ทอม อิวดิสตัน ตัวเต็งบอนด์คนใหม่แต่ละคนล้วนดังมาจากหนังฮีโร่ทั้งนั้น ฮ่าๆ ในใจผมเชียร์พี่ซุปเปอร์แมนใจจะขาด แกก็แสดงหนังแนวสายลับมาสองสามเรื่องแล้วนะ มาดความเป็นสายลับ 007 มาเต็ม แกเหมือนลุคพวกมัวร์ กับ เพรียรซ์ นะ ก็รอดูเลยว่าเฮียเฮนรี่จะได้มาแสดงในบทนี้รึเปล่า
ถ้ามีอะไรอัพเดตเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังบอนด์ 25 เดี๋ยวผมจะมาบอกกันภายหลังนะครับ .... บทความโดย เจสัน
แฟนหนังสายลับ 007 เตรียมตัวเฮกันได้ Bond 25 (2020) เผยชื่อนักแสดง ตัวร้าย โลเคชั่น เรื่องย่อ
อารมณ์เรื่องบอนด์เหมือนในเรื่องแบทแมนผมดูแทบทุกเวอร์ชั่น ไม่มีใครเป็นแบทแมนได้เยี่ยมที่สุดเท่าคริสเตียน เบล บอนด์ก็เช่นกันไม่มีใครเยี่ยมเท่า แดเนียล เคร็กแล้วสำหรับผม
คือ หนังตระกูล MI ก็มีการใช้สิ่งของไฮเทคเยอะนะ แต่มันดูสมจริงกว่า การทำงานแบบทีม การปลอมตัวฉากแอ็คชั่นที่ตัวทีมงานผู้สร้างพยายามทำให้ดูเรียลขึ้นเรื่อยๆทุกภาค บวกกับการแสดงบทบาทแอ็คชั่นเองของทอม ครูซ และดูไม่เว่อร์เกินเท่าบอนด์ยุคก่อนหน้าลุงเคร็ก ทำให้หนังตระกูล MI ของลุงทอม ครูซ ดังเปรี้ยงแซงหน้าหนังแนวสายลับหลายเรื่อง สำหรับบอนด์ยุคพรียรซ์ ยุคมัวร์ พวกนี้ ผมดูได้แต่ไม่ได้ถูกใจนัก มันต้องยุคเฮียเหี่ยวโหดเท่านั้น ดิบเถื่อนได้ใจ
มาในยุคของ แดเนียล เคร็ก ที่มารับบทสายลับ 007 คนใหม่ ตอนแรกช่วงหนังภาค Casino Royale เข้าฉาย มีแต่กระแสคนแอนตี้ว่าลุงแกมามาดโหด เถื่อน เกินไป ไม่มีความเป็นสายลับเจ้าเสน่ห์เหมือนตามฉบับในหนังสือที่ เอน เฟลมมิ่ง เขียนไว้ และคนดูหลายคนทั่วโลกที่ติดตามหนังบอนด์มาทุกภาค ก็ยังคงติดภาพความหล่อสำอางค์ เพลย์บอย ของ 007 ของก่อนหน้า มาในยุคเคร็ก คือ การรีเมคใหม่ ทำให้หนังบอนด์มีความสมจริงขึ้นทั้งในตัวบท และฉากแอ็คชั่นดิบๆ ถึงลูกถึงคน ตอนแรกผมนึกว่าลุงแกคงได้แสดงภาคเดียว
เพราะกระแสคนไม่ชอบ บอนด์เวอร์ชั่นแกเยอะ แต่ท้ายที่สุดแกกลับกู้หน้าให้หนังชุดนี้ได้ดำรงอยู่ต่อไป อีกสามถึงสี่ภาค โดยผู้คนที่เคยแอนตี้แกก็หันกลับมาชอบแกกันทั้งนั้น ด้วยความที่หนังต้องดำเนินต่อไป ในภาค Skyfall คือ เครื่องมือยืนยันชั้นดีว่า เคร็กนี่แหละคือสุดยอด เจมส์ บอนด์แล้ว ด้วยการแสดงของแก ไม่ว่าจะบทดราม่าหรือแอ็คชั่นคือจัดหนักจัดเต็ม แถมแกก็ได้ค่าตัวสูงขึ้นแทบทุกภาคที่มาแสดงในหนังชุดนี้ด้วย
บอนด์ของเคร็กนั่น ที่มารีเมคใหม่เพราะช่วงนั้น มันเป็นยุคทองของหนังสายลับอย่าง Jason Bourne ด้วยแหละ ที่ทำออกมาดีทุกภาค ดูสมจริงไปหมด รวมถึงเทคนิคการใช้แสงและภาพในหนังมันดูหม่นๆ ดาร์กๆดี ทำให้ถ้าบอนด์มัวแต่ทำแนวเว่อร์ เกินจริงไป มีหวังหนังไม่ได้ไปต่อ แพ้หนังชุดเจสัน บอร์นแน่นอน ซึ่งเฮียเคร็กแกก็ทุ่มเทกับบทบาทนี้มากนะ ด้วยส่วนตัวเฮียเคร็กสมัยเด็กๆ แกชอบหนังชุด เจมส์ บอนด์ อยู่แล้ว แกมีโรเจอร์ มัวร์ เป็นไอดอลในบท 007 นี้ ทำให้เวลาแสดงบทนี้แกดูอินเป็นพิเศษ แต่มาคนละลุคกับพวกมัวร์ หรือ เพรียรซ์ ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป บอนด์เคร็ก มาดิบเถื่อน ไม่เน้นหญิงมากหรือใช้อุปกรณ์ไฮเทค หรือฉลาดรู้ทันตัวร้ายตลอด มีฉลาดบ้าง โง่บ้าง โดนผู้หญิงหลอกบ้าง เจ็บเป็น เสียใจเป็น ไม่ต้องใส่สูทหล่อตลอด มีความเป็นมนุษย์สูง ไม่ใช่สายลับในคราบฮีโร่ผู้ไม่เคยแพ้เหมือนแต่ก่อน มัน
เรียลพอๆกับ แบทแมนที่คริสเตียน เบลแสดง ฉากแอ็คชั่น สตั้นต่างๆ เฮียแกแสดงเองหมด ดูจากเบื้องหลังแต่ละภาค แกก็ระห่ำไม่แพ้ ทอม ครูซ หรือ แมตต์ เดม่อน ที่แสดงฉากแอ็คชั่นเองเหมือนกัน ทั้งกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางสูงๆ วิ่งไล่บนหลังคาบ้าน กระโดดจากตึกนึงไปอีกตึกนึง แสดงจริง เจ็บจริง ทุกภาคแกบาดเจ็บระหว่างแสดงจริงทั้งนั้น แกเคยให้สัมภาษณ์ช่วงโปรโมตหนังภาค Skyfall ว่า "ผมขอปิดหนังบอนด์ไตรภาคของผมลงเพียงเท่านี้ ผมแสดงฉากแอ็คชั่นระห่ำๆมามาก จนร่างกายจะไม่ไหวแล้ว ถ้าจะมาแสดงในหนังภาคต่ออีก เอามีดมาแทงผมเถอะ" แต่ด้วยแฟนหนังบอนด์เคร็กเรียกร้องกันมาเยอะ บวกกับสัญญาหนังกับทางค่ายที่แกต้องแสดงหนังชุดนี้ไปอีกสองภาค แกจึงต้องกลับมาแสดงจนครบหมดสัญญากับค่ายไป
Bond 25 (ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ) หลังภาค Spectre ผ่านมาห้าปี หนังภาคสุดท้ายของเฮียเคร็กก็ใกล้มาแล้ว ภาค Spectre ถึงหนังจะทำรายได้ดีถล่มทลายกับคำวิจารณ์ที่ถือว่าผ่าน เพราะ เป็นหนังแอ็คชั่นฟอร์มใหญ่ลงทุนเยอะที่คนดูทั่วโลกรอคอยไม่แพ้หนังตระกูล Fast & Furious หรือ MI ก็ไม่ต้องไปหาข้อมูลหนังอะไรมาก เสียเงินไปดูในโรงเลยจบ หลังออกจากโรง หลายคนก็วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา แต่คนดูส่วนใหญ่ไม่ให้ผ่าน (ผมล่ะคนนึง) กระแสมาเยอะ การที่ตัวผู้กำกับอย่าง Sam Mendes ทำภาค Skyfall ไว้ดีขึ้นหิ้ง แต่ภาค Spectre มีดีเพียงอย่างเดียว คือ ฉากเปิดเรื่อง long take ในเม็กซิโก นอกนั้นคืออะไร บทเดาทางได้หมด ฉากแอ็คชั่นยังพอทำได้สนุกอยู่แต่ไม่สุดแบบสองภาคแรก คือถ้าจะมาดราม่าก็ให้ดีแบบภาค Skyfall
ภาค Skyfall คือ ได้ขนานนามว่าหนังบอนด์ที่ดีที่สุดของดคร็กและดีที่สุดจากจำนวนหนังบอนด์ทั้ง 23 ภาค ณ ตอนนั้น คือ เน้นดราม่านะภาคนี้ หลายคนที่ชอบบู๊ดิบๆแบบสองภาคแรก ดูแล้วอาจไม่ชอบภาคนี้ แต่ผมชอบมากๆเลยนะ มันเป็นภาคที่บอนด์ได้รับบาดเจ็บระหว่างทำภารกิจ ไม่ได้ฟิตบู๊ได้ตลอดแบบสองภาคแรก เวลามีซีนบู๊เลยดูแกเนือยๆช้าๆไปเยอะ ภาคนี้เน้นบทสนทนาแฝงนัยยะตลอด เป็นภาคที่อำลา จูดี้ เดนซ์ ในบท M หัวหน้าบอนด์ได้ดีเยี่ยม ทั้งซึ้งกินใจมาก ด้วยการปูบทมาตั้งแต่ภาค Casino Royale ที่ M กับบอนด์ เป็นเหมือนแม่กับลูกมากกว่าหัวหน้ากับลูกน้อง มันเลยดูซึ้งในภาคนี้ บวกกับตัวร้ายนี่แหละ ปังมาก เฮีย จาเวียร์ บาเด็ม แสดงได้ดีมาก ดูเป็นตัวร้ายที่ฉลาด เจ้าเล่ห์ โรคจิตดี ไม่แพ้บทในเรื่อง No Country For Old Men ของแกเลย แถมภาคนี้ก็เริ่มเอาความเป็นบอนด์เก่าๆมาใส่นะ แบบมีการเปิดตัวของ Q และ Money Penny และมีมุขจิกกัดระหว่างบอนด์ คิว และ เพนนี บ้าง แต่ยังไม่ได้ยัดความเป็นบอนด์เก่าๆเชยๆมาขนาดภาค Spectre ที่ดูแล้วไม่ประทับใจอย่างแรง ภาคนี้ยังคงความดิบ สมจริงไว้อยู่
ภาค Spectre เฮียแซมแกพยายามทำหนังบอนด์ให้กลับไปดูเหมือนยุคแต่ก่อน ทั้งการแต่งกาย มุขตลกหยอดกันตลอดระหว่างบอนด์กับคิว การงัดเอาอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆมาใช้ การที่บอนด์เคร็กไปแอ้มสาวมากขึ้นกว่าภาคก่อนๆ มันดูเชยๆไปแล้ว ถ้าทำในยุคบอนด์เพรียรซ์คงเวิร์ค และไม่เหมาะกับบอนด์เคร็กเอาเสียเลย และการแคสเอาดาราระดับออสการ์อย่าง คริส ต็อฟวอลซ์ มาแสดงในบทตัวร้าย ก็ดูเป็นตัวร้ายที่โง่งี่เง่าสิ้นดีบวกกับบทที่ดูธรรมดาเกินไป บทไม่ส่งแกเลย เสียดายมาก ทำให้ผู้กำกับ Sam Mendes โบกมือบ้ายบายไป
Bond 25 ตอนแรกมีข่าวลือว่าเฮีย คริสโตเฟอร์ โนแลนจะมากำกับ เป็นมาตั้งแค่ภาค Skyfall ยันภาคล่าสุดแล้วล่ะ มีแต่ข่าวว่าเฮียแกจะมากำกับหนังบอนด์สักที
แต่แฟนๆก็ผิดหวังเช่นเคยเพราะเฮียแกบอกว่า ยังก่อน แกยังมีอีกหลายโปรเจ็กต์ที่ต้องทำ ใจจริงแกอยากกำกับหนังเจมส์ บอนด์มาตั้งแต่สมัยแกทำหนังเรื่องแบทแมนแล้ว ตัวเฮียแกยังชม Sam Mendes เลยนะว่าภาค Skyfall ทำดีมาก และแกก็ชอบบอนด์เคร็กด้วยนะ แต่เฮียแกบอกในอนาคตได้เห็นแกกำกับหนังชุดนี้แน่นอน แกอยากสร้างบุคคลิกบอนด์ขึ้นใหม่และหานักแสดงนำในบทบอนด์ใหม่ด้วยตัวเอง คือ ประมาณแกจะสร้างจักรวาลหนังบอนด์เป็นแบบฉบับของตัวเองแบบที่แกทำในเรื่องแบทแมน อาจจะดูดาร์ก ดราม่า และสมจริงกว่าบอนด์เคร็กก็เป็นได้ มาแนว The Dark Knight ไรประมาณนี้ ฮ่าๆๆ
เป็นที่น่าเสียดายที่ Bond 25 ตอนแรกได้ตัวผกก.มากฝีมือสายดราม่าอย่าง Danny Boyle จากเรื่อง Steve Job มากำกับ รู้สึกว่าแกได้มาเริ่มวางแผนกับทีมงานแจกงานไปแล้วแล้วก็ถ่ายทำไปแล้วนิดนึงนะ แต่ด้วยบทหนังที่เขียนมาไม่เคลียร์กับแก องค์ประกอบต่างๆในหนังภาคใหม่มันไปไม่เหมาะกับแกบวกกับแกไม่ค่อยกินเส้นกับแดเนียล เคร็กและทีมงานผู้สร้างด้วยแหละ แกเลยต้องถอนตัวออกจากโปรเจ็กต์นี้แต่แกก็ยังทำหน้าที่ในหนังเรื่องนี้อยู่ไปร่วมเป็นคนหนึ่งในทีมเขียนบทแทน
ตอนนี้ได้ผกก.คนใหม่ซึ่งผมไม่เคยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามแกคนนี้มาก่อน แต่ดูแต่ละผลงานที่แกทำจะเป็นหนังแนวดราม่าซะมากกว่า ผกก.คนนี้คือ แครี่ โจจี้ ฟุคุนะงะ เป็นลูกครึ่งอเมริกัน ญี่ปุ่น ... เดี๋ยว ครั้งแรกในประวัติศาสตร์หนังบอนด์เลยรึเปล่า ที่ผกก.เป็นคนอเมริกา ที่ผ่านมามีแต่คนอังกฤษและมีเครือสหราชอาณาจักรบ้าง แต่แกคนนี้มาได้ไง งง อยู่ ทีมงานคงเล็งแกไว้หลังที่บอยด์ถอนตัว คงไม่มีผกก.ชาวอังกฤษแท้ๆว่างจริงๆ เลยเอาอเมริกันก็ได้
ดูผิดคอนเซ็ปต์แต่แรกของหนังชุดนี้ไปนะ ต้องรอดูว่าคนอเมริกันอาจจะทำหนังสายลับอังกฤษออกมาดีกว่าคนในชาติตัวเองทำก็ไเด้นะ ฮ่าๆๆ
นักแสดงนำหลักๆก็มาจากภาคก่อนๆกันทั้งนั้น แดเนียล เคร็ก ป๋าบอนด์ของเรา, เลอา แซดู นักแสดงสาวชาวฝรั่งเศส สาวบอนด์จากภาคก่อน ที่ได้แสดงต่อกันสองภาคเลยนะเนี่ย ปกติสาวบอนด์จะโผล่มาภาคเดียว ไม่โดนผู้ร้ายฆ่าตายก็หายไปดื้อๆ, เบน วิชอว์ พี่แว่นเนิร์ด Q นั่นเอง, นาโอมิ แฮร์ริส ในบท มันนี่ เพนนี และตัวหัวหน้าบอนด์ M คนปัจจุบัน (เรล์ฟ ไฟนส์) ก็กลับมาแสดงนะ ยังมีตัวร้ายใหม่ที่โผล่ออกมาไปแคสเอานักแสดงมากฝีมือที่เพื่อคว้ารางวัลออสการ์มาหมาดๆจากเรื่อง Bohemian Rhapsody (2019) อย่าง รามี มาเลค นักแสดงชาวอเมริกัน มาแสดงเป็นคู่ปรับบอนด์คนใหม่
เรื่องย่อคร่าวๆ หลังเหตุการณ์ภาค Spectre บอนด์ได้ลาออกจาก MI6 ไปใช้ชีวิตอยู่กับแฟนสาวของเขาในประเทศจาไมก้า แต่ฟินิกซ์ (ใครจำพี่มืดคนนี้ได้บ้าง สายลับ CIA ที่โผล่มาสองภาคแรก เขากลับมาแล้ว นักแสดงก็คนเดิมนะ) ได้มาขอร้องให้เขาช่วยทำภารกิจ ยับยั้งแผนการก่อการร้ายของผู้ร้ายไอทีที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทค คราวนี้บอนด์ต้องมาเผชิญศึกใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้ทำเพราะเพื่อนเก่าขอร้อง ดิบๆไม่พึ่งเทคโนโลยีแบบบอนด์เคร็กต้องมาเจอกับผู้ร้ายไอที งานนี้มันแน่นอนครับผม ได้ดกันจริงๆ เดือนเมษายนปีหน้าครับ
แอบแปลกนะ ปกติหนังบอนด์หลายภาคที่ผ่านมาชอบเข้าฉายเดือนพฤศจิกายน ภาคนี้มาฉายเดือนเมษายน ปกติเดือนนี้ หนังเรื่องฟาส ชอบจองไว้กินเงินจุอยู่เรื่องเดียว ว่าแต่...หนังมันเข้าชนกันเลยนี่หว่า ปีหน้า ต้องรีบเก็บเงินจองตั๋วทั้งสองเรื่อง คนแน่นโรงทั้งสองเรื่องแน่นอน ระดับหนังแอ็คชั่นสายลับฟอร์มบิ๊กทั้งสองเรื่อง เรื่องหนึ่งเป็นหนังสายลับอังกฤษ อีกเรื่องเป็นหนังทีมสายลับรถซิ่งอเมริกัน เดือดๆๆ ผมรับรองได้ว่ารายได้ดีทั้งสองเรื่อง แต่ต้องรอมาดูคำวิจารณ์หนังกับรายได้อีกที ว่าใครจะทำได้ดีกว่ากัน เล่นมาเข้าเดือนเดียวกันแบบนี้
โลเคชั่นหลักๆที่ทีมงานเผยออกมาในการถ่ายทำมีทั้ง จาไมก้า, นิวซีแลนด์, สวิตเซอร์แลนด์ และขาดไม่ได้ ลอนดอน อังกฤษ
ส่วนตอนนี้ทางทีมงานและผู้สร้างก็เล็งนักแสดงสัญชาติอังกฤษหลายคนนะ ที่จะมารับบทเจมส์ บอนด์ต่อจากเฮียเหี่ยวเคร็ก ทั้ง เฮนรี่ คาวิลล์, ไมเคิล ฟาสเบนเตอร์, ไฮดริส อิสบ้า, ทอม อิวดิสตัน ตัวเต็งบอนด์คนใหม่แต่ละคนล้วนดังมาจากหนังฮีโร่ทั้งนั้น ฮ่าๆ ในใจผมเชียร์พี่ซุปเปอร์แมนใจจะขาด แกก็แสดงหนังแนวสายลับมาสองสามเรื่องแล้วนะ มาดความเป็นสายลับ 007 มาเต็ม แกเหมือนลุคพวกมัวร์ กับ เพรียรซ์ นะ ก็รอดูเลยว่าเฮียเฮนรี่จะได้มาแสดงในบทนี้รึเปล่า
ถ้ามีอะไรอัพเดตเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังบอนด์ 25 เดี๋ยวผมจะมาบอกกันภายหลังนะครับ .... บทความโดย เจสัน