คือ ว่าคนเรา สังเกตดูว่า ช่วงที่แอบชอบกันจะเป็นช่วงที่หัวใจพองโต หัวใจเต้นตึกๆตัก ดีใจมากๆที่ได้เจอกัน แค่วนๆเวียนๆอยู่ใกล้ๆก็มีความสุข แค่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน ปรึกษากัน ตลก เฮฮา ได้มองตา ได้ยิ้ม ได้เขิน ได้หวั่นไหว ก็ทำให้รู้สึกมีแรงผลักดันให้ทำสิ่งดีๆในชีวิตตัวเอง และชักชวนเขาทำสิ่งดีๆ เราว่ามันเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุดแล้วในการมีชีวิตคู่ แต่เมื่อใด เราได้มันมาครอบครองเป็นของของเรา ความสัมพันธุ์มันเปลี่ยน เป็นคำว่าแฟน คู่สมรส พ่อของลูก ความสดใสความสุขจริงๆ มันเริ่มจะแปลเปลี่ยน ไปเป็น เรื่องของ หน้าที่ความรับผิดชอบ หึงหวง คาดหวัง การงาน การเงิน เรื่องอย่างว่า จนถึงกลายเป็นเบื่อหน่ายรำคาน แล้วแต่คู่นะ....จะเป็นไปได้ไหม ว่าผู้หญิงกับผู้ชายจะใช้ชีวิตในช่วงหัวใจพองโตนั้นตลอดไป รักกันมากกว่า เพื่อน พี่น้อง โดยไม่ต้องทำให้ชีวิตที่แต่ละคนควรจะมีเปลี่ยนไป คือตลอดเวลา เราสองคนเปนกันแบบนั้น ต่างคนต่างไม่อยากครอบครองกัน แต่ก็หวั่นไหวทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน แต่เพราะเราไม่อยากให้ความรู้สึกแบบนี้หายไป แต่แต่ละคนก็ไม่ได้พูดว่าชอบกันหรือมาคบกันเถอะ เพราะกลัว จึงเลือกที่จะต่างคนต่างมีแฟน เขาไปมีแฟน เราเองก็มีแฟน แต่ในใจลึกๆเรารู้ว่าจริงๆเขาคือคนที่ใช่ที่สุดสำหรับเรา แต่ไม่อยากให้เราจบไม่สวยเพราะจากประสบการณ์เท่าที่เคยมีแฟนมา เราต่างรู้ดีต่อให้รักปานจะกลืนกิน สุดท้ายความรู้สึกดีๆที่บอกมาข้างบนมันก็ต้องหายไปอยู่ดี อารมณ์ เหมือนหนัง เรื่อง Love , Rosie ถ้าใครเคยดู
คนรักที่ไม่ใช่แฟน ไม่ได้ครอบครองกัน เป็นไปได้ไหม?